xs
xsm
sm
md
lg

หวั่นปัญหาจำกัดสิทธิเสรีภาพสื่อฯ กมธ.ตัด"Hate Speech"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (22ม.ค.) นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ แถลงผลการประชุมของ กมธ.ยกร่างฯ ในวันที่ 22 ม.ค.ว่า กมธ.ยกร่างฯ มีวาระพิจารณา ร่าง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่...) พ.ศ..... ซึ่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้สอบถามมายัง นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธาน กมธ.ยกร่างฯ และนายบวรศักดิ์ ได้มอบหมายให้ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ประธานอนุฯ กมธ. พิจารณา การจัดทำรัฐธรรมนูญ คณะ 8 เป็นผู้พิจารณาในเบื้องต้น โดยเห็นว่า ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต จำนวน 7 มาตรา ยังมีปัญหาบางประการที่ขัดแย้งกับแนวทางหลักของการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ กมธ.ยกร่างฯ จึงทำหนังสือขอให้สนช.ชะลอการพิจารณาในส่วนนี้ไว้ก่อน
ส่วนอีกเรื่องที่ กมธ.ยกร่างฯ พิจารณาคือ การเขียนถ้อยคำที่ว่า “เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเกลียดชังกันระหว่างคนในชาติ หรือศาสนา หรือการใช้ความรุนแรงระหว่างกัน”(Hate Speech) เมื่อได้สำรวจดูร่างรัฐธรรมนูญที่กำลังร่างอยู่ในขณะนี้แล้ว ปรากฏว่า มีคำ Hate Speech อยู่ใน มาตรา (1/2/1)1 และ มาตรา (1/2/2)14 ซึ่งอยู่ในบททั่วไป ครอบคลุมถึงพลเมืองทุกคนอยู่แล้ว ดังนั้นใน มาตรา (1/2/2)20 ว่าด้วยสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน จึงไม่จำเป็นต้องมีอีก เพราะสื่อมวลชนเอง ก็ถือว่าเป็นพลเมืองเช่นกัน กมธ.ยกร่างฯ จึงเสนอให้ตัดส่วนนี้ในมาตรา (1/2/2)20 ออก เพื่อป้องกันการนำบทบัญญัติดังกล่าวไปอ้างเพื่อจำกัด หรือลิดรอนสิทธิสื่อมวลชน ในการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะครอบคลุมถึงกรณีที่มีสื่อมวลชนต่างประเทศได้ใช้สิทธินำเสนอข้อมูลข่าวสารซึ่งเข้าข่าย Hate Speech หรือไม่ นายคำนูณ กล่าวว่า ในส่วนดังกล่าวจะอยู่ในส่วนของบทบัญญัติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน มาตรา (1/2/2)14 วรรคสอง กล่าวถึงหลักเกณฑ์ของการใช้สิทธิเสรีภาพ โดยบทบัญญัติดังกล่าวจะครอบคลุมถึงการใช้สิทธิบุคคลทุกคนที่อาศัยในแผ่นดินไทย คือ คนไทยและคนต่างชาติ

**นัด 26 ม.ค. ถกกฎหมายป.ป.ช.

ในวันเดียวกันนี้ นายอลงกรณ์ พลบุตร เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิปสปช.) ได้แถลงถึง กำหนดการทำงานของสปช.ว่า ในวันที่ 26 ม.ค.นี้ สปช.จะมีวาระการประชุมเพื่อพิจารณารายงานของกมธ.วิสามัญที่ได้แสดงวิสัยทัศน์ออกแบบอนาคตประเทศไทย จาก"เวทีวิสัยทัศน์สู่แผนปฏิบัติการปฏิรูปประเทศ" เมื่อวันที่ 19-20 ม.ค. ที่ผ่าน โดยหลังจากที่ได้มีการแสดงวิสัยทัศน์นั้น วิปสปช. สามารถสรุปแนวทางในการปฏิรูปได้ 34 วาระ ซึ่งจะนำเสนอเข้าที่ประชุมสปช. ในวันที่ 26 ม.ค.นี้ เพื่อมอบหมายให้คณะกมธ.ทั้ง 18 ด้าน และกมธ.ที่จะมีการตั้งขึ้นมาใหม่ หากวาระการปฏิรูปไปเกี่ยวข้องกมธ.มากกว่า 2 ด้านขึ้นไป เพื่อเริ่มดำเนินการปฏิรูปประเทศ และให้การทำงานเป็นไปด้วยความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม วิปสปช. ยังมีมติให้สปช.มีการประชุมทุกวันจันทร์ และอังคาร โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือน ก.พ.นี้เป็นต้นไป นอกจากนี้ วิปสปช.ยังได้กำหนดกรอบการทำงาน กมธ. 18 ด้าน และกมธ.ร่วมต้องดำเนินการเสนอวาระแนวทางการปฏิรูปให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน และภายใน 3 เดือน ต้องเสนอแผนปฏิรูป จากนั้นภายใน 6 เดือน ต้องเสนอแผนปฏิรูปและโครงสร้างรวมถึงระบบที่ต้องมีกฎหมายจัดทำให้แล้วเสร็จ
นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 26 ม.ค.นี้ ที่ประชุมสปช. จะมีวาระการพิจารณา ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ที่ทางสำนักงาน ป.ป.ช. เสนอข้อแก้ไขมายังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อเดือน พ.ย. 57 แต่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. เห็นว่า ร่างพ.ร.ป.ดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการปฏิรูป จึงส่งเรื่องมาให้สปช. ซึ่ง นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. ได้มอบหมายให้ กมธ.ปฏิรูปการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบนำไปพิจารณา ซึ่งมีมติว่า ให้สนช. นำร่าง พ.ร.ป.ดังกล่าวไปพิจารณาเพื่อแก้ไขกฎหมายให้สอดคล้องกับอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต (ยูเอ็นซีเอซี)
กำลังโหลดความคิดเห็น