ช้างป่าเขาใหญ่เปลี่ยนเป้าหมาย บุกทำลายร้านค้าสวัสดิการใกล้ที่ทำการอุทยานกลางดึก ชุดเคลื่อนที่เร็วไล่กลับเข้าป่า รุ่งเช้าโผล่ลานจอดรถอีก ด้านหน.อุทยานชี้คนละตัวกับพังรถนักท่องเที่ยว ระบุป่าเขาใหญ่เป็นบ้านช้าง เป็นเรื่องปกติออกหากินได้ทุกจุด การดูแลเน้นช้างเป็นศูนย์กลาง เพราะทรัพย์สินซ่อมได้ ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำเมื่อเจอช้างป่า ย้ำห้ามเลียนแบบคลิปจนท.ไล่ช้าง แต่ให้ยึดคัมภีร์ 8 ข้อเมื่อเผชิญหน้า
จากเหตุช้างป่าเขาใหญ่ยืนขวางถนน 3077 เขาใหญ่-ปราจีนบุรี ที่ตัดผ่านอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กม. 20 บริเวณน้ำตกเหวนรก และตกใจเสียงแตรรถ ตรงเข้าทำลายรถนักท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 1 ม.ค. และ กม. 30 ต.ปากพลี อ.ปากพลี จ.นครนายก วันที่ 10 ม.ค. แต่โชคดีที่ที่ 2 เหตุการณ์มีชุดสายตรวจของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ช่วยเหลือได้ทัน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งนายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยาน ระบุว่าน่าจะเป็นช้างพลาย อายุประมาณ 8 ปีที่ก่อเหตุทั้ง 2 ครั้งนั้น
วานนี้(12 ม.ค.) นายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 03.00 น. ช้างป่า 1 ตัว รื้อทำลายร้านอาหารของเจ้าหน้าที่อุทยาน บริเวณคอสะพานตรงข้ามที่ทำการอุทยาน โดยทำลายประตูร้านเพื่อจะใช้งวงหยิบเกลือและน้ำปลา ชุดเคลื่อนที่เร็วที่มีความเชี่ยวชาญและคุ้นเคยกับช้าง ได้เข้าควบคุมสถานการณ์ โดยไม่ทำให้ช้างได้รับบาดเจ็บหรือเครียด เนื่องจากผืนป่าเขาใหญ่เป็นที่อยู่ของช้าง ซึ่งใช้เวลานานหลายชั่วโมง จนเวลาประมาณ 07.00 น. ช้างได้กลับเข้าป่าไป ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ส่วนทรัพย์สินเสียหายเล็กน้อย
ล่าสุด เวลาประมาณ 09.00 น. ช้างตัวดังกล่าวออกจากป่ามาบริเวณลานจอดรถ ข้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ใกล้ที่ทำการอุทยาน แต่เจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ โดยมีรถยนต์นักท่องเที่ยวจอดอยู่ 2 คัน แต่ช้างไม่ได้เข้าไปทำลายรถแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามผลักดันให้กลับเข้าป่า พร้อมกันไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าใกล้หรือถ่ายรูป เพราะอาจทำให้ช้างเครียดได้ จากการตรวจสอบพบว่า ไม่ใช่ช้างตัวเดียวกับที่ทำลายรถนักท่องเที่ยวบนถนนเขาใหญ่-ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา
นายครรชิต กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่ช้างจะออกมาหากินได้ทุกจุดในพื้นที่อุทยาน เพราะที่นี่เป็นบ้านของช้างและสัตว์ป่า ที่ผ่านมาก็ออกมาบ่อยในจุดนี้ โดยมาทำลายประตูร้านอาหาร เราก็ซ่อมแซมใหม่ เพราะเรายึดช้างเป็นศูนย์กลาง ไม่ทำร้ายช้าง อีกทั้งการทำลายทรัพย์สินเนื่องจากช้างมองว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม และอาจต้องการหาอาหารกินเท่านั้น
"จากการสำรวจอย่างไม่เป็นทางการ คาดว่าประชากรช้างป่าในเขาใหญ่มีอยู่กว่า 300 ตัว กระจายตัวอยู่เต็มพื้นที่ เดินทางหาอาหารผ่านไปมาเป็นปกติของช้างป่า ที่พบเป็นประจำแทบทุกวันอยู่ในโซนอ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตั้งแต่หนองผักชี ถนน 3077 กม. 29-30 ขึ้นมา ส่วนโซนจ.ปราจีนบุรี ที่พบบ่อยอยู่ใกล้น้ำตกเหวนรก ซึ่งเป็นด่านช้าง มีช้างผ่านเป็นประจำในกม.ที่ 20-30 ทั้งในลักษณะช้างโทนที่หากินลำพัง และช้างโขลงครั้งละ 15-20 ตัว ช่วงเวลาที่พบช้างป่ามากที่สุด คือ กลางคืนที่ช้างส่วนใหญ่มักออกหากิน ดังนั้นทางอุทยานจึงปิดประตูไม่ให้รถยนต์สัญจรบนถนนเขาใหญ่-ปราจีนบุรี ตั้งแต่ 21.00-06.00 น.ของทุกวัน"
นายครรชิต กล่าวว่า สำหรับจุดที่พบช้างอยู่เป็นประจำ จะติดป้ายเตือนไว้ และจะเห็นมูลช้างอยู่ตามโป่ง แต่บางจุดป้ายถูกช้างทำลายทิ้งหมด แม้จะไปเปลี่ยนใหม่ก็ถูกทำลายทิ้งเช่นเดิม เพราะช้างคิดว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม เช่นเดียวกับผู้คน และรถยนต์ที่รุกล้ำเข้ามาในป่าซึ่งเป็นบ้านของพวกเขา ล้วนเป็นสิ่งแปลกปลอมสำหรับช้างป่าและสัตว์ป่าทั้งนั้น ส่วนกรณีที่ช้างทำลายทรัพย์สิน รถยนต์ รถจักรยานมีให้เห็นเป็นประจำ เพราะนักท่องเที่ยวและประชาชนอาจใช้เส้นทางช่วงที่ช้างป่ากำลังออกหากินริมถนน หรือเดินข้ามถนนพอดี และไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ หรือในเอกสารแผ่นพับ ซึ่งแจกจ่ายให้ทุกคนที่ขึ้นเขาใหญ่ก็เป็นได้
"เช่น อาจบีบแตรรถยนต์เสียงดัง ลงไปถ่ายภาพช้าง ทำให้เกิดปัญหาสะสมรถติดยาว กดดันช้างจนเกิดเครียด จึงเข้าทำลายรถยนต์ ทรัพย์สินตามสัญชาติญาณของสัตว์ป่า ทั้งเพื่อการป้องกันตัว ปกป้องถิ่น หรือขับไล่ผู้รุกราน ประกอบกับช่วงนี้เป็นฤดูผสมพันธุ์ ซึ่งช้างเพศผู้มักตกมัน มีนิสัยดุร้าย"
นายครรชิต กล่าวว่า ทางอุทยานไม่ได้นิ่งนอนใจ ส่งชุดเคลื่อนที่เร็วทั้งรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ 2 ชุด ชุดละ 4 คนคอยออกลาดตระเวนดูแลรถยนต์ที่วิ่งในเส้นทางดังกล่าวตลอด โดยเจ้าหน้าที่ไม่มีอาวุธใ มีเพียงความเชี่ยวชาญ การใช้ท่าทาง คำพูด และส่งสัญญาณกับช้างป่า เท่านั้น ดังนั้น สิ่งสำคัญที่อยากฝากถึงนักท่องเที่ยว คือ ให้ศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนเข้าท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อย่าได้ทำตามหรือลอกเลียบแบบคลิปวิดีโอเจ้าหน้าที่ออกคำสั่งไล่ช้างป่าให้ออกจากถนน เพื่อให้รถยนต์นักท่องเที่ยวผ่านไปก่อนโดยเด็ดขาด เพราะเจ้าหน้าที่มีความเชี่ยวชาญและคุ้นเคยกับช้าง รู้วิธีในการปฏิบัติกับช้างป่า หากนักท่องเที่ยวไปทำตาม อาจเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้
สำหรับวิธีปฏิบัติเมื่อเผชิญหน้ากับช้างป่า ให้ปฏิบัติตาม 8 ข่้อดังนี้ คือ 1.หยุดรถห่างจากช้างอย่างน้อย 300 เมตร หากช้างเดินเข้าหาให้เคลื่อนรถหนี รอจนกว่าช้างจะออกจากถน จึงเคลื่อนรถผ่านไป 2.อย่าใช้แตรรถหรือส่งเสียงดังรบกวนช้างหรือไล่ช้าง เพราะอาจทำให้ช้างโกรธและตรงเข้าหาได้ 3.งดใช้แฟลซถ่ายรูป เพราะอาจทำให้ช้างตกใจและตรงเข้ามาทำร้าย 4.ให้ติดเครื่องรถยนต์ไว้เสมอ เพื่อเคลื่อนรถหนีได้ทันท่วงที
5.หากพบช้างเวลากลางคืนให้เปิดไฟรถไว้เสมอ เพื่อสังเกตอาการของช้าง และระยะห่างระหว่างรถกับช้างได้สะดวก 6.เมื่อตกอยู่ในวงล้อมของช้าง ตั้งสติให้มั่น หากเป็นเวลากลางคืนให้ใช้ไฟสูงแล้วเลือกเคลื่อนรถไปในทางที่มีช้างอยู่น้อย แม้บางครั้งจำเป็นต้องเข้าใกล้หรือเบียดโขลงช้างก็ตาม อย่าดับเครื่องยนต์หรือปิดไฟรถเป็นอันขาด ค่อยๆเคลื่อนรถให้เสียงเครื่องยนต์นิ่งที่สุด 7.ปกติช้างจะวิ่งไล่ผู้รบกวนเป็นระยะทางสั้นๆเพียง 2-3 ครั้ง หากตามไม่ทันก็จะเลิกวิ่งไล่ไปเอง และ 8. เมื่อช้างอารมณ์ดีจะไม่ทำร้าย แม้รถจะวิ่งเข้าใกล้ก็ตาม แต่หากช้างโกรธหรือไม่ไว้วางใจสิ่งใด เช่น ช้างแม่ลูกอ่อน อาจตรงเข้าทำร้ายผู้รบกวนได้ในระยะไกล จึงให้สังเกตอารมณ์และอาการของช้างไว้ประกอบการตัดสินใจด้วยเสมอ
นายครรชิต กล่าวว่า วิธีสังเกตอารมณ์ของช้าง คือ 1.เมื่อช้างอารมณ์ดีหูจะสะบัดไปมา หางแกว่ง ใช้งวงสะบัดไปมา หรือเกี่ยวดึงต้นไม้กิน ไม่สนใจเรา 2.เมื่อช้างอารมณ์ไม่ดี หูจะตั้งกาง ไม่สะบัด งวงจะนิ่งแข็ง และอยู่นิ่ง จ้องมาที่เรา อย่างไรก็ตามหากเกิดเหตุฉุกเฉิน โทร. 089-155-3965 , 089-092-6529 และ 086-092-6531
ทั้งนี้ ในปี 2557 มีนักท่องเที่ยวขึ้นสู่เขาใหญ่ 1,186,175 คน เป็นชาวไทย 1,141,581 คน ต่างชาติ 44,594 คน วันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดยาวเทศกาลวันละ 15,000-20,000 คน ล่าสุดเทศกาลปีใหม่ วันที่ 31 ธ.ค. 2557 มี 23,000 คน
จากเหตุช้างป่าเขาใหญ่ยืนขวางถนน 3077 เขาใหญ่-ปราจีนบุรี ที่ตัดผ่านอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กม. 20 บริเวณน้ำตกเหวนรก และตกใจเสียงแตรรถ ตรงเข้าทำลายรถนักท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 1 ม.ค. และ กม. 30 ต.ปากพลี อ.ปากพลี จ.นครนายก วันที่ 10 ม.ค. แต่โชคดีที่ที่ 2 เหตุการณ์มีชุดสายตรวจของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ช่วยเหลือได้ทัน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งนายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยาน ระบุว่าน่าจะเป็นช้างพลาย อายุประมาณ 8 ปีที่ก่อเหตุทั้ง 2 ครั้งนั้น
วานนี้(12 ม.ค.) นายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 03.00 น. ช้างป่า 1 ตัว รื้อทำลายร้านอาหารของเจ้าหน้าที่อุทยาน บริเวณคอสะพานตรงข้ามที่ทำการอุทยาน โดยทำลายประตูร้านเพื่อจะใช้งวงหยิบเกลือและน้ำปลา ชุดเคลื่อนที่เร็วที่มีความเชี่ยวชาญและคุ้นเคยกับช้าง ได้เข้าควบคุมสถานการณ์ โดยไม่ทำให้ช้างได้รับบาดเจ็บหรือเครียด เนื่องจากผืนป่าเขาใหญ่เป็นที่อยู่ของช้าง ซึ่งใช้เวลานานหลายชั่วโมง จนเวลาประมาณ 07.00 น. ช้างได้กลับเข้าป่าไป ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ส่วนทรัพย์สินเสียหายเล็กน้อย
ล่าสุด เวลาประมาณ 09.00 น. ช้างตัวดังกล่าวออกจากป่ามาบริเวณลานจอดรถ ข้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ใกล้ที่ทำการอุทยาน แต่เจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ โดยมีรถยนต์นักท่องเที่ยวจอดอยู่ 2 คัน แต่ช้างไม่ได้เข้าไปทำลายรถแต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามผลักดันให้กลับเข้าป่า พร้อมกันไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าใกล้หรือถ่ายรูป เพราะอาจทำให้ช้างเครียดได้ จากการตรวจสอบพบว่า ไม่ใช่ช้างตัวเดียวกับที่ทำลายรถนักท่องเที่ยวบนถนนเขาใหญ่-ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา
นายครรชิต กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่ช้างจะออกมาหากินได้ทุกจุดในพื้นที่อุทยาน เพราะที่นี่เป็นบ้านของช้างและสัตว์ป่า ที่ผ่านมาก็ออกมาบ่อยในจุดนี้ โดยมาทำลายประตูร้านอาหาร เราก็ซ่อมแซมใหม่ เพราะเรายึดช้างเป็นศูนย์กลาง ไม่ทำร้ายช้าง อีกทั้งการทำลายทรัพย์สินเนื่องจากช้างมองว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม และอาจต้องการหาอาหารกินเท่านั้น
"จากการสำรวจอย่างไม่เป็นทางการ คาดว่าประชากรช้างป่าในเขาใหญ่มีอยู่กว่า 300 ตัว กระจายตัวอยู่เต็มพื้นที่ เดินทางหาอาหารผ่านไปมาเป็นปกติของช้างป่า ที่พบเป็นประจำแทบทุกวันอยู่ในโซนอ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตั้งแต่หนองผักชี ถนน 3077 กม. 29-30 ขึ้นมา ส่วนโซนจ.ปราจีนบุรี ที่พบบ่อยอยู่ใกล้น้ำตกเหวนรก ซึ่งเป็นด่านช้าง มีช้างผ่านเป็นประจำในกม.ที่ 20-30 ทั้งในลักษณะช้างโทนที่หากินลำพัง และช้างโขลงครั้งละ 15-20 ตัว ช่วงเวลาที่พบช้างป่ามากที่สุด คือ กลางคืนที่ช้างส่วนใหญ่มักออกหากิน ดังนั้นทางอุทยานจึงปิดประตูไม่ให้รถยนต์สัญจรบนถนนเขาใหญ่-ปราจีนบุรี ตั้งแต่ 21.00-06.00 น.ของทุกวัน"
นายครรชิต กล่าวว่า สำหรับจุดที่พบช้างอยู่เป็นประจำ จะติดป้ายเตือนไว้ และจะเห็นมูลช้างอยู่ตามโป่ง แต่บางจุดป้ายถูกช้างทำลายทิ้งหมด แม้จะไปเปลี่ยนใหม่ก็ถูกทำลายทิ้งเช่นเดิม เพราะช้างคิดว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม เช่นเดียวกับผู้คน และรถยนต์ที่รุกล้ำเข้ามาในป่าซึ่งเป็นบ้านของพวกเขา ล้วนเป็นสิ่งแปลกปลอมสำหรับช้างป่าและสัตว์ป่าทั้งนั้น ส่วนกรณีที่ช้างทำลายทรัพย์สิน รถยนต์ รถจักรยานมีให้เห็นเป็นประจำ เพราะนักท่องเที่ยวและประชาชนอาจใช้เส้นทางช่วงที่ช้างป่ากำลังออกหากินริมถนน หรือเดินข้ามถนนพอดี และไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ หรือในเอกสารแผ่นพับ ซึ่งแจกจ่ายให้ทุกคนที่ขึ้นเขาใหญ่ก็เป็นได้
"เช่น อาจบีบแตรรถยนต์เสียงดัง ลงไปถ่ายภาพช้าง ทำให้เกิดปัญหาสะสมรถติดยาว กดดันช้างจนเกิดเครียด จึงเข้าทำลายรถยนต์ ทรัพย์สินตามสัญชาติญาณของสัตว์ป่า ทั้งเพื่อการป้องกันตัว ปกป้องถิ่น หรือขับไล่ผู้รุกราน ประกอบกับช่วงนี้เป็นฤดูผสมพันธุ์ ซึ่งช้างเพศผู้มักตกมัน มีนิสัยดุร้าย"
นายครรชิต กล่าวว่า ทางอุทยานไม่ได้นิ่งนอนใจ ส่งชุดเคลื่อนที่เร็วทั้งรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ 2 ชุด ชุดละ 4 คนคอยออกลาดตระเวนดูแลรถยนต์ที่วิ่งในเส้นทางดังกล่าวตลอด โดยเจ้าหน้าที่ไม่มีอาวุธใ มีเพียงความเชี่ยวชาญ การใช้ท่าทาง คำพูด และส่งสัญญาณกับช้างป่า เท่านั้น ดังนั้น สิ่งสำคัญที่อยากฝากถึงนักท่องเที่ยว คือ ให้ศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนเข้าท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อย่าได้ทำตามหรือลอกเลียบแบบคลิปวิดีโอเจ้าหน้าที่ออกคำสั่งไล่ช้างป่าให้ออกจากถนน เพื่อให้รถยนต์นักท่องเที่ยวผ่านไปก่อนโดยเด็ดขาด เพราะเจ้าหน้าที่มีความเชี่ยวชาญและคุ้นเคยกับช้าง รู้วิธีในการปฏิบัติกับช้างป่า หากนักท่องเที่ยวไปทำตาม อาจเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้
สำหรับวิธีปฏิบัติเมื่อเผชิญหน้ากับช้างป่า ให้ปฏิบัติตาม 8 ข่้อดังนี้ คือ 1.หยุดรถห่างจากช้างอย่างน้อย 300 เมตร หากช้างเดินเข้าหาให้เคลื่อนรถหนี รอจนกว่าช้างจะออกจากถน จึงเคลื่อนรถผ่านไป 2.อย่าใช้แตรรถหรือส่งเสียงดังรบกวนช้างหรือไล่ช้าง เพราะอาจทำให้ช้างโกรธและตรงเข้าหาได้ 3.งดใช้แฟลซถ่ายรูป เพราะอาจทำให้ช้างตกใจและตรงเข้ามาทำร้าย 4.ให้ติดเครื่องรถยนต์ไว้เสมอ เพื่อเคลื่อนรถหนีได้ทันท่วงที
5.หากพบช้างเวลากลางคืนให้เปิดไฟรถไว้เสมอ เพื่อสังเกตอาการของช้าง และระยะห่างระหว่างรถกับช้างได้สะดวก 6.เมื่อตกอยู่ในวงล้อมของช้าง ตั้งสติให้มั่น หากเป็นเวลากลางคืนให้ใช้ไฟสูงแล้วเลือกเคลื่อนรถไปในทางที่มีช้างอยู่น้อย แม้บางครั้งจำเป็นต้องเข้าใกล้หรือเบียดโขลงช้างก็ตาม อย่าดับเครื่องยนต์หรือปิดไฟรถเป็นอันขาด ค่อยๆเคลื่อนรถให้เสียงเครื่องยนต์นิ่งที่สุด 7.ปกติช้างจะวิ่งไล่ผู้รบกวนเป็นระยะทางสั้นๆเพียง 2-3 ครั้ง หากตามไม่ทันก็จะเลิกวิ่งไล่ไปเอง และ 8. เมื่อช้างอารมณ์ดีจะไม่ทำร้าย แม้รถจะวิ่งเข้าใกล้ก็ตาม แต่หากช้างโกรธหรือไม่ไว้วางใจสิ่งใด เช่น ช้างแม่ลูกอ่อน อาจตรงเข้าทำร้ายผู้รบกวนได้ในระยะไกล จึงให้สังเกตอารมณ์และอาการของช้างไว้ประกอบการตัดสินใจด้วยเสมอ
นายครรชิต กล่าวว่า วิธีสังเกตอารมณ์ของช้าง คือ 1.เมื่อช้างอารมณ์ดีหูจะสะบัดไปมา หางแกว่ง ใช้งวงสะบัดไปมา หรือเกี่ยวดึงต้นไม้กิน ไม่สนใจเรา 2.เมื่อช้างอารมณ์ไม่ดี หูจะตั้งกาง ไม่สะบัด งวงจะนิ่งแข็ง และอยู่นิ่ง จ้องมาที่เรา อย่างไรก็ตามหากเกิดเหตุฉุกเฉิน โทร. 089-155-3965 , 089-092-6529 และ 086-092-6531
ทั้งนี้ ในปี 2557 มีนักท่องเที่ยวขึ้นสู่เขาใหญ่ 1,186,175 คน เป็นชาวไทย 1,141,581 คน ต่างชาติ 44,594 คน วันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดยาวเทศกาลวันละ 15,000-20,000 คน ล่าสุดเทศกาลปีใหม่ วันที่ 31 ธ.ค. 2557 มี 23,000 คน
