ใกล้เวลาที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาวาระถอดถอนนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตวุฒิสภา บรรดาลูกสมุนพรรคเพื่อไทยและขี้ข้าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรก็เรียงหน้าออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านกันอย่างคึกคัก
ทั้งขู่และทั้งเห่า ยกข้อกฎหมาย หยิบเหตุผลมากมายมาแก้ต่าง สร้างแรงกดดันเพื่อล้มการถอดถอนนักการเมืองที่ถูกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด
กลุ่มบุคคลที่ออกมาทั้งขู่ทั้งเห่าและทั้งหอน ล้วนเป็นคนหน้าเดิม ล้วนเป็นคนที่ไม่มีราคา หรือถูกสังคมเอาปูนหมายหัวไว้แล้วว่า เป็นพวกสมุนขี้ข้าพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งมีทั้งนักตะแบงทางกฎหมายเพื่อช่วยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ให้พ้นผิด มีทั้งอดีตรัฐมนตรีที่ได้ตำแหน่งเพราะก้มหัวรับใช้พ.ต.ท.ทักษิณอย่างข้าทาส
ความเคลื่อนไหวของบรรดาขี้ข้าลูกสมุนรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่ออกมาปกป้องนายตัวเองนั้น ไม่มีความสำคัญอะไรกับการพิจารณาของ สนช. และประชาชนไม่ใส่ใจในบทบาทของคนเหล่านี้ นอกจากสะอิดสะเอียน เบื่อและรำคาญเท่านั้น
การพิจารณาถอดถอนเป็นเพียงกระบวนการหนึ่งในการเอาผิดกับนักการเมืองเลวๆ ไม่กี่คนเท่านั้น โดยหากไม่สามารถถอดถอนใน สนช.ได้ ก็ยังมีขั้นตอนอื่นที่สามารถลงโทษได้
ไม่มีความจำเป็นใดที่ สนช.จะต้องลงไปเกลือกกลั้วกับลูกสมุนขี้ข้าพ.ต.ท.ทักษิณ และไม่มีความจำเป็นใดที่ สนช.ต้องลงไปโต้เถียงประเด็นในแง่กฎหมายกับทนายโจรๆ
เพราะโตๆ กันจนสุนัขเลียนก้นไม่ถึงแล้ว ยังแยกแยะผิดชอบชั่วดีไม่ได้ ก็ไม่ควรเกิดมาเป็นคนไทย
นายสมศักดิ์ นายนิคม ถูกตัดสินความผิดในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนนางสาวยิ่งลักษณ์ เจอคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียประเมินกันเบื้องต้นประมาณ 7 แสนล้านบาท
ความผิดของนายสมศักดิ์ นายนิคม และนางสาวยิ่งลักษณ์ ป.ป.ช.ชี้มูลมาแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การพิจารณาบทลงโทษของหน่วยงานอื่น ทั้งสนช. ทั้งอัยการ ก่อนจะจบลงชั้นสุดท้ายที่คำตัดสินของศาล
กรรมการ ป.ป.ช.ทุกคนจะมีคุณสมบัติครบถ้วนในการพิจารณาถอดถอนหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นแล้ว การตีความอำนาจของ สนช.ในการพิจารณาถอดถอน ก็ไม่ใช่ประเด็นหลักเหมือนกัน
เพราะสาระสำคัญอยู่ที่อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร อดีตประธานวุฒิสภา และอดีตนายกฯ ร่วมทำความผิดจริงหรือไม่มากกว่า
ความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มาของ ส.ว.นั้น นายนิคม นายสมศักดิ์ไม่รู้เชียวหรือว่ากำลังทำอะไรอยู่ จะแกล้งโง่ไม่รู้เชียวหรือว่า กำลังแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่ตระกูลชินวัตรจะเข้ามากินรวบอำนาจ
จะหน้าด้านปฏิเสธหรือว่า ไม่ได้ทำหน้าที่ตามใบสั่งใคร จิตใจยังด้านพอที่จะโกหกตัวเองอยู่หรือว่า ระหว่างทำหน้าที่ประธานวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร ได้มีสำนึกในการทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่หรือไม่
การทุจริตโครงการรับจำนำข้าว เกิดความเสียหายที่ประเมินกันเบื้องต้นประมาณ 7 แสนล้านบาท จนต้องออกพันธบัตร กู้เงินนับแสนล้านบาท ทิ้งภาระให้ลูกหลานต้องร่วมกันชดใช้ นางสาวยิ่งลักษณ์ยังจะทำหน้าสวย ยังทำเป็นสาวไร้เดียงสา ไม่รับรู้การโกงอันมโหระทึกอย่างนั้นหรือ
ตอนเริ่มต้นโครงการ แม้จะมีเสียงทักท้วงจากหลายฝ่าย ในความเสียหายที่จะตามมา แม้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างแหลกรานถึงการทุจริต แต่นางสาวยิ่งลักษณ์คนนี้ไม่ใช่หรือที่เถียงฉอดๆ ตลอดเวลา ตอนนี้จะมาโอดครวญแก้ตัวทำไม
ไม่ว่า สนช.จะลงมติถอดถอน 3 นักการเมืองตัวดีนี้หรือไม่ ก็ไม่สำคัญเท่ากับประชาชนจะมีความรู้สึกอย่างไรกับพฤติกรรมเลวๆ ของนักการเมืองที่พยายามหาข้อตะแบงทางด้านกฎหมาย
แม้ สนช.บางส่วนจะใจปลาซิว รู้สึกธุระไม่ใช่ ไม่เดือดเนื้อร้อนใจกับนักการเมืองเลวๆ ที่เกือบนำประเทศไปสู่ความพินาศ ไม่กล้าลงมติถอดถอน แต่ประชาชนส่วนใหญ่สามารถร่วมกันสร้างบทลงโทษทางสังคมกลุ่มนักการเมืองเลวๆ และบรรดาสมุนขี้ข้าที่ออกมาเห่าหอนปกป้องเจ้านายได้
อย่าปล่อยให้นักการเมืองที่รอคิวถูกถอดถอนดำรงชีวิตอย่างเป็นสุข ต้องร่วมกันประณามไม่ร่วมสังฆกรรมใดๆ กับนักการเมืองเลวๆ อย่าให้ราคากับสมุนขี้ข้าที่ออกมาเห่าหอนเพื่อเอาใจเจ้านาย แต่ต้องร่วมกันต่อต้านจนไม่มีที่ให้ยืนในสังคม
ความผิดที่นางสาวยิ่งลักษณ์ก่อไว้ ความผิดที่ 2 ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติทำไว้ใหญ่หลวงนักถึงขั้นนำประเทศหายนะได้ นักการเมืองเลวๆ เหล่านี้ สนช.ยังจะทำตัวหัวหด บ้ากันไปแล้วหรือ
ทั้งขู่และทั้งเห่า ยกข้อกฎหมาย หยิบเหตุผลมากมายมาแก้ต่าง สร้างแรงกดดันเพื่อล้มการถอดถอนนักการเมืองที่ถูกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด
กลุ่มบุคคลที่ออกมาทั้งขู่ทั้งเห่าและทั้งหอน ล้วนเป็นคนหน้าเดิม ล้วนเป็นคนที่ไม่มีราคา หรือถูกสังคมเอาปูนหมายหัวไว้แล้วว่า เป็นพวกสมุนขี้ข้าพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งมีทั้งนักตะแบงทางกฎหมายเพื่อช่วยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ให้พ้นผิด มีทั้งอดีตรัฐมนตรีที่ได้ตำแหน่งเพราะก้มหัวรับใช้พ.ต.ท.ทักษิณอย่างข้าทาส
ความเคลื่อนไหวของบรรดาขี้ข้าลูกสมุนรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่ออกมาปกป้องนายตัวเองนั้น ไม่มีความสำคัญอะไรกับการพิจารณาของ สนช. และประชาชนไม่ใส่ใจในบทบาทของคนเหล่านี้ นอกจากสะอิดสะเอียน เบื่อและรำคาญเท่านั้น
การพิจารณาถอดถอนเป็นเพียงกระบวนการหนึ่งในการเอาผิดกับนักการเมืองเลวๆ ไม่กี่คนเท่านั้น โดยหากไม่สามารถถอดถอนใน สนช.ได้ ก็ยังมีขั้นตอนอื่นที่สามารถลงโทษได้
ไม่มีความจำเป็นใดที่ สนช.จะต้องลงไปเกลือกกลั้วกับลูกสมุนขี้ข้าพ.ต.ท.ทักษิณ และไม่มีความจำเป็นใดที่ สนช.ต้องลงไปโต้เถียงประเด็นในแง่กฎหมายกับทนายโจรๆ
เพราะโตๆ กันจนสุนัขเลียนก้นไม่ถึงแล้ว ยังแยกแยะผิดชอบชั่วดีไม่ได้ ก็ไม่ควรเกิดมาเป็นคนไทย
นายสมศักดิ์ นายนิคม ถูกตัดสินความผิดในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนนางสาวยิ่งลักษณ์ เจอคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียประเมินกันเบื้องต้นประมาณ 7 แสนล้านบาท
ความผิดของนายสมศักดิ์ นายนิคม และนางสาวยิ่งลักษณ์ ป.ป.ช.ชี้มูลมาแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การพิจารณาบทลงโทษของหน่วยงานอื่น ทั้งสนช. ทั้งอัยการ ก่อนจะจบลงชั้นสุดท้ายที่คำตัดสินของศาล
กรรมการ ป.ป.ช.ทุกคนจะมีคุณสมบัติครบถ้วนในการพิจารณาถอดถอนหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็นแล้ว การตีความอำนาจของ สนช.ในการพิจารณาถอดถอน ก็ไม่ใช่ประเด็นหลักเหมือนกัน
เพราะสาระสำคัญอยู่ที่อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร อดีตประธานวุฒิสภา และอดีตนายกฯ ร่วมทำความผิดจริงหรือไม่มากกว่า
ความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มาของ ส.ว.นั้น นายนิคม นายสมศักดิ์ไม่รู้เชียวหรือว่ากำลังทำอะไรอยู่ จะแกล้งโง่ไม่รู้เชียวหรือว่า กำลังแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปสู่ระบอบประชาธิปไตยที่ตระกูลชินวัตรจะเข้ามากินรวบอำนาจ
จะหน้าด้านปฏิเสธหรือว่า ไม่ได้ทำหน้าที่ตามใบสั่งใคร จิตใจยังด้านพอที่จะโกหกตัวเองอยู่หรือว่า ระหว่างทำหน้าที่ประธานวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร ได้มีสำนึกในการทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่หรือไม่
การทุจริตโครงการรับจำนำข้าว เกิดความเสียหายที่ประเมินกันเบื้องต้นประมาณ 7 แสนล้านบาท จนต้องออกพันธบัตร กู้เงินนับแสนล้านบาท ทิ้งภาระให้ลูกหลานต้องร่วมกันชดใช้ นางสาวยิ่งลักษณ์ยังจะทำหน้าสวย ยังทำเป็นสาวไร้เดียงสา ไม่รับรู้การโกงอันมโหระทึกอย่างนั้นหรือ
ตอนเริ่มต้นโครงการ แม้จะมีเสียงทักท้วงจากหลายฝ่าย ในความเสียหายที่จะตามมา แม้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างแหลกรานถึงการทุจริต แต่นางสาวยิ่งลักษณ์คนนี้ไม่ใช่หรือที่เถียงฉอดๆ ตลอดเวลา ตอนนี้จะมาโอดครวญแก้ตัวทำไม
ไม่ว่า สนช.จะลงมติถอดถอน 3 นักการเมืองตัวดีนี้หรือไม่ ก็ไม่สำคัญเท่ากับประชาชนจะมีความรู้สึกอย่างไรกับพฤติกรรมเลวๆ ของนักการเมืองที่พยายามหาข้อตะแบงทางด้านกฎหมาย
แม้ สนช.บางส่วนจะใจปลาซิว รู้สึกธุระไม่ใช่ ไม่เดือดเนื้อร้อนใจกับนักการเมืองเลวๆ ที่เกือบนำประเทศไปสู่ความพินาศ ไม่กล้าลงมติถอดถอน แต่ประชาชนส่วนใหญ่สามารถร่วมกันสร้างบทลงโทษทางสังคมกลุ่มนักการเมืองเลวๆ และบรรดาสมุนขี้ข้าที่ออกมาเห่าหอนปกป้องเจ้านายได้
อย่าปล่อยให้นักการเมืองที่รอคิวถูกถอดถอนดำรงชีวิตอย่างเป็นสุข ต้องร่วมกันประณามไม่ร่วมสังฆกรรมใดๆ กับนักการเมืองเลวๆ อย่าให้ราคากับสมุนขี้ข้าที่ออกมาเห่าหอนเพื่อเอาใจเจ้านาย แต่ต้องร่วมกันต่อต้านจนไม่มีที่ให้ยืนในสังคม
ความผิดที่นางสาวยิ่งลักษณ์ก่อไว้ ความผิดที่ 2 ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติทำไว้ใหญ่หลวงนักถึงขั้นนำประเทศหายนะได้ นักการเมืองเลวๆ เหล่านี้ สนช.ยังจะทำตัวหัวหด บ้ากันไปแล้วหรือ