ASTVผู้จัดการรายวัน - กองปราบจ่อออกหมายเรียก "โอ๊ต ภาดา บัวขาว" นักธุรกิจดัง หลังสอบพบดูแลทรัพย์สินทั้งรถยนต์ บ้าน แทน"กิตติศักดิ์" ผู้ต้องหารายสำคัญในคดีลักเงินสจล. สอบปากคำรวมทั้ง “พิ้งกี้-สาวิกา” นางเอกสาวชื่อดัง ในวันพรุ่งนี้ ประสานปปง.เร่งทำยึดอายัดทรัพย์ไว้ตรวจสอบทั้งหมด กองปราบตามรวบสองแม่ลูกตระกูลโสประดิษฐ์ ร่วมก๊วนลักเงินสจล.ตามหมายจับ
วานนี้ ( 6 ม.ค.) ที่ กองปราบปราม น.ส.วรวรรณ สุวรรณกูฎ ผอ.ฝ่ายนิติกร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) พร้อมด้วย น.ส.ลำดวน ทินราช รักษาการ ผอ.ส่วนการคลัง สถาบันเดียวกัน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ป.โดยนำเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการเรื่องเงินคงคลังของสถาบันเทคโนโลยีฯ ลาดกระบัง รวมทั้งระเบียบข้อบังคับการเบิกถอนและนำฝากเงิน เพื่อใช้ประกอบการพิจารณา
ด้าน พ.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบก.ป.กล่าวว่า บุคคลที่ยังต้องออกหมายเรียก ไม่ว่าจะเป็น นายภาดา บัวขาว หรือ "โอ๊ต ภาดา" ซึ่งเป็นคนสนิทของนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด หนึ่งในผู้ต้องหารายสำคัญในคดี ก็ต้องเชิญตัวเข้าพบพนักงานสอบสวน
" จากการตรวจสอบพบว่า นายภาดา ได้รับทรัพย์สินไปหลายส่วน และมีหน้าที่ดูแลทรัพย์สินแทนนายกิตติศักดิ์ ส่วน น.ส.สาวิกา ไชยเดช หรือ “พิ้งกี้-สาวิกา” นางเอกสาวชื่อดัง นั้น ทราบว่า เดินทางกลับประเทศไทยแล้ว คิดว่าถึงอย่างไรก็คงต้องเชิญตัวมาสอบปากคำอย่างแน่นอน ได้พิจารณากันว่าจะนัดหมายในวันที่ 7 มกราคมนี้ " พ.ต.อ.กรไชย กล่าว
นอกจากนี้ พ.ต.อ.กรไชย ยังกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า นางสมบัติ และ น.ส.จันทร์จิรา โสประดิษฐ์ สองแม่ลูก ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีจะเข้ามอบตัว ว่า จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อประสานมา
สำหรับผู้ต้องหารายอื่นๆ ทางชุดสืบสวน ได้ประสานกับทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และทางกองการต่างประเทศ (ตท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี
รอง ผบก.ป.กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ทรัพย์สินต่างๆ ที่มีการตรวจสอบหากพบว่าเป็นการฟอกเงินก็ต้องยึดไว้ทั้งหมด เนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่จะต้องส่งคืนให้กับเจ้าของ ส่วนผู้ที่ซื้อไป ก็ต้องดูที่เจตนา ว่าบริสุทธิ์ใจหรือไม่
ในส่วนของทรัพย์สินของนายกิตติศักดิ์ ทั้งหมดที่ยึดไว้ตรวจสอบ พบว่ามีมูลค่ารวมกว่า500ล้านบาท รวมกว่า 38 รายการ
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) กล่าวว่า จะโทษว่าการเป็นมหาวิทยาลัยนอกระบบแล้วเกิดการยักยอกทรัพย์จึงเป็นการพูดที่ไม่ถูกต้อง ที่ผ่านมาเราอาจเชื่อแค่ตัวเลขในสมุดบัญชี หรือผู้จัดการธนาคารเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอ และขณะนี้เทคโนโลยีก็พัฒนามากขึ้น มหาวิทยาลัยสามารถตรวจสอบทั้งตัวเลขในสมุดบัญชี เทียบกับตัวเลขเงินที่มีอยู่จริงผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งบุคคลทั่วไปก็ยังทำได้ มหาวิทยาลัยก็ต้องทำได้ เหตุที่เกิดขึ้นถือว่าค่อนข้างละเลย ไม่มีการตรวจสอบ การที่เงินหายไป สภามหาวิทยาลัยและผู้บริหารจึงต้องรับผิดชอบ
*****รวบสองแม่ลูกแก๊งลักเงินสจล.
พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รักษาราชการแทน ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศล สว.กก.1 บก.ป.นำกำลังเข้าจับกุม นางสมบัติ โสประดิษฐ์ และ น.ส.จันทร์จิรา โสประดิษฐ์ สองแม่ลูก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมลักทรัพย์ หลังจากร่วมมือกับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมและยังหลบหนีอยู่ก่อนหน้านี้ ลักเงินคงคลังสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) โดยทั้งสองได้รับโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้ที่บ้านเลขที่ 299/211 หมู่บ้านพงษ์เพชร 2 ซอยข้างธนาคารกรุงไทย สาขาแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม.ก่อนจะควบคุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดีที่ บก.ป.อย่างไรก็ดี สำหรับการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากทั้งสองหลบหนีหมายจับกบดานอยู่ที่บ้านพักหลังดังกล่าวซึ่งเป็นบ้านพักของนายปฐมพงศ์ ศรีโรจน์ แฟนหนุ่มของ น.ส.จันทร์จิรา
จากการตรวจค้นภายในบ้านหลังนี้เจ้าหน้าที่พบบัญชีธนาคารต่างๆ กว่า 10 เล่ม เงินสดกว่า 1 แสนบาท รถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับบลิว แซดโฟร์ สีขาว ทะเบียน 1กข 9797 กรุงเทพมหานคร รวมทั้งเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ด้าน พ.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบก.ป.เปิดเผยว่า ภายหลังการจับกุมทั้งสองไว้ได้แล้ว จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เงินคงคลังของสถาบันเทคโนโลยีฯ ลาดกระบัง มีการโอนเข้าบัญชีธนาคารของ น.ส.จันทร์จิรา จำนวน 40 ล้านบาท ก่อนจะโอนต่อให้กับนางสมบัติ เป็นจำนวน 6 ล้านบาท
“ทีมข่าว ASTV ผู้จัดการ” ได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 8/17 หมู่บ้านบางกอกบูเลอวาร์ด หมู่ที่ 8 ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการที่ตั้งของ 1 ใน 7 บริษัทที่นายกิตติศักดิ์จดทะเบียนเอาไว้ คือ บริษัท เคพีพี โปรดักชั่น จำกัด ซึ่งจดทะเบียนเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2556 ด้วยทุน 1 ล้านบาท ประกอบธุรกิจ จัดสร้างและจำหน่ายบทประพันธ์ ละคร รวมถึงภาพยนตร์ จัดสร้างรายการ เกมโชว์ วาไรตี้ ออกงานอีเวนต์ โดยนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ถือ 4,000 หุ้น (ร้อยละ 40) นายภูดิศ จันทิมา และ น.ส.สาวิกา ไชยเดช คนละ 3,000 หุ้น (ร้อยละ 30) และร่วมเป็นกรรมการ ขณะที่กรรมการผู้มีอำนาจทำการ 1 คือ นายกิตติศักดิ์ และกรรมการผู้มีอำนาจทำการ 2 คือ นายภูดิศ
ทั้งนี้ บริษัท เคพีพี โปรดักชั่น จำกัด แห่งนี้เป็นที่จับตาของสังคมเนื่องจากมี ดาราสาว “พิ้งกี้” สาวิกา ไชยเดช ถือหุ้นและเป็นกรรมการร่วมอยู่ด้วย ขณะที่รายงานงบการเงิน ณ สิ้นปี 2556 ระบุว่า บริษัท เคพีพี โปรดักชั่น จำกัด มีรายได้รวม 471.14 บาท มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 258,347.30 บาท มีสินทรัพย์รวม 985,740.97 บาท มีหนี้สิน 243,617.13 บาท ขาดทุนสะสม 257,876.16 บาท
ที่น่าสนใจก็คือ ที่ตั้งของบริษัทแห่งนี้เป็นบ้านหรูใน โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด เทพารักษ์-วงแหวน ของบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
วานนี้ ( 6 ม.ค.) ที่ กองปราบปราม น.ส.วรวรรณ สุวรรณกูฎ ผอ.ฝ่ายนิติกร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) พร้อมด้วย น.ส.ลำดวน ทินราช รักษาการ ผอ.ส่วนการคลัง สถาบันเดียวกัน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ป.โดยนำเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการเรื่องเงินคงคลังของสถาบันเทคโนโลยีฯ ลาดกระบัง รวมทั้งระเบียบข้อบังคับการเบิกถอนและนำฝากเงิน เพื่อใช้ประกอบการพิจารณา
ด้าน พ.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบก.ป.กล่าวว่า บุคคลที่ยังต้องออกหมายเรียก ไม่ว่าจะเป็น นายภาดา บัวขาว หรือ "โอ๊ต ภาดา" ซึ่งเป็นคนสนิทของนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด หนึ่งในผู้ต้องหารายสำคัญในคดี ก็ต้องเชิญตัวเข้าพบพนักงานสอบสวน
" จากการตรวจสอบพบว่า นายภาดา ได้รับทรัพย์สินไปหลายส่วน และมีหน้าที่ดูแลทรัพย์สินแทนนายกิตติศักดิ์ ส่วน น.ส.สาวิกา ไชยเดช หรือ “พิ้งกี้-สาวิกา” นางเอกสาวชื่อดัง นั้น ทราบว่า เดินทางกลับประเทศไทยแล้ว คิดว่าถึงอย่างไรก็คงต้องเชิญตัวมาสอบปากคำอย่างแน่นอน ได้พิจารณากันว่าจะนัดหมายในวันที่ 7 มกราคมนี้ " พ.ต.อ.กรไชย กล่าว
นอกจากนี้ พ.ต.อ.กรไชย ยังกล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า นางสมบัติ และ น.ส.จันทร์จิรา โสประดิษฐ์ สองแม่ลูก ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีจะเข้ามอบตัว ว่า จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อประสานมา
สำหรับผู้ต้องหารายอื่นๆ ทางชุดสืบสวน ได้ประสานกับทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และทางกองการต่างประเทศ (ตท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี
รอง ผบก.ป.กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ทรัพย์สินต่างๆ ที่มีการตรวจสอบหากพบว่าเป็นการฟอกเงินก็ต้องยึดไว้ทั้งหมด เนื่องจากเป็นทรัพย์สินที่จะต้องส่งคืนให้กับเจ้าของ ส่วนผู้ที่ซื้อไป ก็ต้องดูที่เจตนา ว่าบริสุทธิ์ใจหรือไม่
ในส่วนของทรัพย์สินของนายกิตติศักดิ์ ทั้งหมดที่ยึดไว้ตรวจสอบ พบว่ามีมูลค่ารวมกว่า500ล้านบาท รวมกว่า 38 รายการ
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) กล่าวว่า จะโทษว่าการเป็นมหาวิทยาลัยนอกระบบแล้วเกิดการยักยอกทรัพย์จึงเป็นการพูดที่ไม่ถูกต้อง ที่ผ่านมาเราอาจเชื่อแค่ตัวเลขในสมุดบัญชี หรือผู้จัดการธนาคารเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอ และขณะนี้เทคโนโลยีก็พัฒนามากขึ้น มหาวิทยาลัยสามารถตรวจสอบทั้งตัวเลขในสมุดบัญชี เทียบกับตัวเลขเงินที่มีอยู่จริงผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งบุคคลทั่วไปก็ยังทำได้ มหาวิทยาลัยก็ต้องทำได้ เหตุที่เกิดขึ้นถือว่าค่อนข้างละเลย ไม่มีการตรวจสอบ การที่เงินหายไป สภามหาวิทยาลัยและผู้บริหารจึงต้องรับผิดชอบ
*****รวบสองแม่ลูกแก๊งลักเงินสจล.
พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รักษาราชการแทน ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศล สว.กก.1 บก.ป.นำกำลังเข้าจับกุม นางสมบัติ โสประดิษฐ์ และ น.ส.จันทร์จิรา โสประดิษฐ์ สองแม่ลูก ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมลักทรัพย์ หลังจากร่วมมือกับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมและยังหลบหนีอยู่ก่อนหน้านี้ ลักเงินคงคลังสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) โดยทั้งสองได้รับโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้ที่บ้านเลขที่ 299/211 หมู่บ้านพงษ์เพชร 2 ซอยข้างธนาคารกรุงไทย สาขาแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม.ก่อนจะควบคุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดีที่ บก.ป.อย่างไรก็ดี สำหรับการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากทั้งสองหลบหนีหมายจับกบดานอยู่ที่บ้านพักหลังดังกล่าวซึ่งเป็นบ้านพักของนายปฐมพงศ์ ศรีโรจน์ แฟนหนุ่มของ น.ส.จันทร์จิรา
จากการตรวจค้นภายในบ้านหลังนี้เจ้าหน้าที่พบบัญชีธนาคารต่างๆ กว่า 10 เล่ม เงินสดกว่า 1 แสนบาท รถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับบลิว แซดโฟร์ สีขาว ทะเบียน 1กข 9797 กรุงเทพมหานคร รวมทั้งเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ด้าน พ.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบก.ป.เปิดเผยว่า ภายหลังการจับกุมทั้งสองไว้ได้แล้ว จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เงินคงคลังของสถาบันเทคโนโลยีฯ ลาดกระบัง มีการโอนเข้าบัญชีธนาคารของ น.ส.จันทร์จิรา จำนวน 40 ล้านบาท ก่อนจะโอนต่อให้กับนางสมบัติ เป็นจำนวน 6 ล้านบาท
“ทีมข่าว ASTV ผู้จัดการ” ได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 8/17 หมู่บ้านบางกอกบูเลอวาร์ด หมู่ที่ 8 ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการที่ตั้งของ 1 ใน 7 บริษัทที่นายกิตติศักดิ์จดทะเบียนเอาไว้ คือ บริษัท เคพีพี โปรดักชั่น จำกัด ซึ่งจดทะเบียนเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2556 ด้วยทุน 1 ล้านบาท ประกอบธุรกิจ จัดสร้างและจำหน่ายบทประพันธ์ ละคร รวมถึงภาพยนตร์ จัดสร้างรายการ เกมโชว์ วาไรตี้ ออกงานอีเวนต์ โดยนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ถือ 4,000 หุ้น (ร้อยละ 40) นายภูดิศ จันทิมา และ น.ส.สาวิกา ไชยเดช คนละ 3,000 หุ้น (ร้อยละ 30) และร่วมเป็นกรรมการ ขณะที่กรรมการผู้มีอำนาจทำการ 1 คือ นายกิตติศักดิ์ และกรรมการผู้มีอำนาจทำการ 2 คือ นายภูดิศ
ทั้งนี้ บริษัท เคพีพี โปรดักชั่น จำกัด แห่งนี้เป็นที่จับตาของสังคมเนื่องจากมี ดาราสาว “พิ้งกี้” สาวิกา ไชยเดช ถือหุ้นและเป็นกรรมการร่วมอยู่ด้วย ขณะที่รายงานงบการเงิน ณ สิ้นปี 2556 ระบุว่า บริษัท เคพีพี โปรดักชั่น จำกัด มีรายได้รวม 471.14 บาท มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 258,347.30 บาท มีสินทรัพย์รวม 985,740.97 บาท มีหนี้สิน 243,617.13 บาท ขาดทุนสะสม 257,876.16 บาท
ที่น่าสนใจก็คือ ที่ตั้งของบริษัทแห่งนี้เป็นบ้านหรูใน โครงการบางกอก บูเลอวาร์ด เทพารักษ์-วงแหวน ของบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
