ASTVผู้จัดการรายวัน - กองปราบขออนุมัติหมายจับเพิ่มอีก 2 เจ้าของบัญชียักยอกเงินเทคโนฯลาดกระบัง ฐานฟอกเงินเร่งสอบหลักฐานบริษัท เคพีพี โปรดักชั่น ในเครือของ"กิตติศักดิ์"ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี พบชื่อพิงกี้ นักแสดงสาวชื่อดัง ร่วมเป็นกรรมการบริษัท โดยถือหุ้น 30% ว่าเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
วานนี้ (30 ธ.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ป.ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคลี่คลายคดีจับกุม นายทรงกลด ศรีประสงค์ อายุ 40 ปี ผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาห้างบิ๊กซี ศรีนครินทร์ และน.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ อายุ 56 ปี ผอ.ส่วนการคลัง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ร่วมกันยักยอกเงินสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง กว่า 1,600 ล้านบาท
รวมทั้งมีการถ่ายโอนไปบุคคลที่ 3 กระทั่งมีการขออนุมัติศาลอาญา ออกหมายจับ นายพูลศักดิ์ บุญสวัสดิ์ นายจริวัฒน์ สหพรอุดมการ นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด และนางสมบัติ โสประดิษฐ์ พร้อมกันนั้นสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาไว้ได้ 4 ราย ยกเว้นเพียงนายกิตติศักดิ์ และนางสมบัติ ที่ยังอยู่ระหว่างหลบหนี ว่า ทางพนักงานสอบสวนได้เชิญตัวเจ้าหน้าที่ธนาคารพาณิชย์มาสอบปากคำเพิ่มเติมในประเด็นที่มีการโอนเงินและเส้นทางการเงินในบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำข้อมูลมาประกอบในคำร้องขออนุมัติศาลจังหวัดมีนบุรี ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม
พ.ต.อ.ณษ กล่าวต่อว่า คาดว่าภายในช่วงบ่ายวันเดียวกัน จะสามารถนำคำร้องไปขออนุมัติหมายจับต่อศาลได้ 2 ราย เป็นชาย 1 และหญิง 1 ราย ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน โดยเบื้องต้นพบว่าทั้งสองมีชื่อเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่ได้รับการโอนเงินด้วย
ส่วนกรณีที่สำนักงานข่าวอิศรา ระบุว่าบริษัท เคพีพี โปรดักชั่น จำกัด ซึ่งเป็น 1 ใน 7 บริษัท ในเครือของนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด นั้น มีทาง น.ส.สาวิกา ไชยเดช หรือพิงกี้ นักแสดงสาวชื่อดัง ร่วมเป็นกรรมการบริษัท โดยถือหุ้น 30% นั้น พ.ต.อ.ณษ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานในกรณีดังกล่าว แต่ยอมรับว่าได้เห็นจากข่าวที่นำเสนอผ่านทางสื่อมวลชนแล้ว อย่างไรก็ตาม ในทุกกรณีทางพนักงานสอบสวนจะต้องตรวจสอบเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงในคดีให้ได้มากที่สุด และหากมีผู้ใดเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดก็จะรวบรวมพยานหลักฐานก่อนจะพิจารณาดำเนินคดีต่อไป
ล่าสุดพนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้ขออนุมัติหมายจับ นายสมพงษ์ สหพรอุดมการ บิดาของ นายจริวัฒน์ สหพรอุดมการ และ น.ส.จันทร์จิรา โสประดิษฐ์ บุตรสาว นางสมบัติ โสประดิษฐ์ ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน โดยเบื้องต้นพบว่าทั้งสองมีชื่อเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่ได้รับการโอนเงินด้วย ซึ่งในส่วนของนายสมพงษ์ ได้รับการโอนเงิน 44 ล้านบาท ขณะที่ น.ส.จันทร์จิราได้รับการโอนเงิน 40 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามติดต่อ น.ส.สาวิกา ไชยเดช หรือพิงกี้ แล้วแต่ติดต่อไม่ได้เนื่องจากนางเอกสาวอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น
วานนี้ (30 ธ.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ป.ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคลี่คลายคดีจับกุม นายทรงกลด ศรีประสงค์ อายุ 40 ปี ผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาห้างบิ๊กซี ศรีนครินทร์ และน.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ อายุ 56 ปี ผอ.ส่วนการคลัง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ร่วมกันยักยอกเงินสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง กว่า 1,600 ล้านบาท
รวมทั้งมีการถ่ายโอนไปบุคคลที่ 3 กระทั่งมีการขออนุมัติศาลอาญา ออกหมายจับ นายพูลศักดิ์ บุญสวัสดิ์ นายจริวัฒน์ สหพรอุดมการ นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด และนางสมบัติ โสประดิษฐ์ พร้อมกันนั้นสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาไว้ได้ 4 ราย ยกเว้นเพียงนายกิตติศักดิ์ และนางสมบัติ ที่ยังอยู่ระหว่างหลบหนี ว่า ทางพนักงานสอบสวนได้เชิญตัวเจ้าหน้าที่ธนาคารพาณิชย์มาสอบปากคำเพิ่มเติมในประเด็นที่มีการโอนเงินและเส้นทางการเงินในบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำข้อมูลมาประกอบในคำร้องขออนุมัติศาลจังหวัดมีนบุรี ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม
พ.ต.อ.ณษ กล่าวต่อว่า คาดว่าภายในช่วงบ่ายวันเดียวกัน จะสามารถนำคำร้องไปขออนุมัติหมายจับต่อศาลได้ 2 ราย เป็นชาย 1 และหญิง 1 ราย ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน โดยเบื้องต้นพบว่าทั้งสองมีชื่อเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่ได้รับการโอนเงินด้วย
ส่วนกรณีที่สำนักงานข่าวอิศรา ระบุว่าบริษัท เคพีพี โปรดักชั่น จำกัด ซึ่งเป็น 1 ใน 7 บริษัท ในเครือของนายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด นั้น มีทาง น.ส.สาวิกา ไชยเดช หรือพิงกี้ นักแสดงสาวชื่อดัง ร่วมเป็นกรรมการบริษัท โดยถือหุ้น 30% นั้น พ.ต.อ.ณษ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานในกรณีดังกล่าว แต่ยอมรับว่าได้เห็นจากข่าวที่นำเสนอผ่านทางสื่อมวลชนแล้ว อย่างไรก็ตาม ในทุกกรณีทางพนักงานสอบสวนจะต้องตรวจสอบเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงในคดีให้ได้มากที่สุด และหากมีผู้ใดเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดก็จะรวบรวมพยานหลักฐานก่อนจะพิจารณาดำเนินคดีต่อไป
ล่าสุดพนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้ขออนุมัติหมายจับ นายสมพงษ์ สหพรอุดมการ บิดาของ นายจริวัฒน์ สหพรอุดมการ และ น.ส.จันทร์จิรา โสประดิษฐ์ บุตรสาว นางสมบัติ โสประดิษฐ์ ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน โดยเบื้องต้นพบว่าทั้งสองมีชื่อเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่ได้รับการโอนเงินด้วย ซึ่งในส่วนของนายสมพงษ์ ได้รับการโอนเงิน 44 ล้านบาท ขณะที่ น.ส.จันทร์จิราได้รับการโอนเงิน 40 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามติดต่อ น.ส.สาวิกา ไชยเดช หรือพิงกี้ แล้วแต่ติดต่อไม่ได้เนื่องจากนางเอกสาวอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น