xs
xsm
sm
md
lg

ปีหน้าดิจิตอลทีวีเดือด ทุกค่ายปรับทัพสู้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - หลังจากที่ช่อง3ขึ้นคู่ขนานดิจิตอล ส่งโค้งท้ายปีศึกทีวีดิจิตอลคึกคัก ช่องทีวีดิจิตอลรายใหม่เก้าอี้ร้อน เร่งปรับแผนรับมือเจ้าตลาดลงสนามแข่งเต็มรูปแบบ พร้อมตบเท้าส่ง “คิงส์คอนเทนต์”หวังยึดฐานผู้ชมให้อยู่หน้าจอมากที่สุด ชูโพซิชั่นนิ่งช่องให้ชัดเจน หวังปูทางเร่งปั้มรายได้ในปี58 สู่การแข่งขันจริง

ปิดฉากปัญหาร้อนทีวีดิจิตอลที่ยืดเยื้อมานานตลอดปี 2557 หลังช่อง3อะนาล็อกก้าวสู่การออกคู่ขนานในระบบดิจิตอลช่วงกลางไตรมาสมาสสาม ส่งท้ายปี57สนามทีวีดิจิตอลฝุ่นตลบ ผู้เล่นรายใหม่หลายรายพร้อมขยับเก้าอี้ปรับแผนรับศึกเต็มที่หลังลุ้นเสี่ยงดูสถานการณ์มาตลอดปี ต่างฝ่ายต่างปล่อยหมัดเด็ด โฟกัสส่งคิงส์คอนเทนต์ หวังสร้างเรตติ้งเพิ่มให้ช่อง พร้อมอัดงบลงทุนลุยต่อปี58 ที่ว่ากันว่าจะเป็นปีที่เข้าสู่การแข่งขันจริงของทีวีดิจิตอลอย่างเต็มรูปแบบ
***PPTV ชูซีรีส์เกาหลี-บุนเดสลีกาลีก
นายเขททัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด (BMB) ผู้ประกอบการสถานีโทรทัศน์ดิจิตอล ช่อง PPTV HD เปิดเผยว่า การที่ช่อง3ขึ้นมาออกคู่ขนานในระบบทีวีดิจิตอลหมายเลข 33 แล้วนั้น ถือเป็นเรื่องดีสำหรับช่องทีวีดิจิตอลช่องอื่นๆที่อยู่ตั้งแต่เลข 30 ขึ้นไป ที่จะทำให้มีโอกาสที่ผู้ชมจะกดมารับชมได้มากขึ้น
แต่ก็ต้องเสียแชร์ในกลุ่มฐานผู้ชมกับช่อง3ไปบ้าง
โดยช่องPPTV HD ซึ่งอยู่ในหมายเลขช่อง 36 ได้มีการเตรียมแผนรับมือไว้ คือ จะมีการปรับผังรายการในช่วงเดือนต.ค.-ธ.ค.นี้ ด้วยการนำเสนอคอนเท้นท์รายการใหม่ๆเพิ่ม โดยเฉพาะซีรีส์เกาหลี รวมถึงคอนเท้นท์กีฬา อย่าง การถ่ายทอดสดฟุตบอลบุนเดสลีกาลีก จำนวน 34แมชต์ ทุกวันเสาร์ และการถ่ายทอดสดการแข่งขันชกมวยศึกราชดำเนิน Super Fight ทุกวันอาทิตย์ เป็นต้น
เพื่อขยายฐานผู้ชมและสร้างความนิยมให้กับช่องPPTV HD
“ช่องPPTV HD เป็นน้องใหม่สำหรับวงการสื่อ ที่เข้ามาในอุตสาหกรรมทีวีดิจิตอล ซึ่งจะเห็นได้ว่า 5อันดับแรกของทีวีดิจิตอลจะเป็นช่องที่มีสื่ออยู่ในมือ หรืออยู่ในวงการนี้มาก่อนแล้ว มีความชัดเจนในตัวช่อง มีคอนเทนต์ที่มีฐานผู้ชมอยู่แล้ว เช่น ละคร ของทางช่อง3 เป็นต้น การที่PPTV จะแข่งขันได้จะต้องหาคอนเทนต์ที่ดีมาสู้ ดังนั้นจึงเลือกใช้ซีรีส์เกาหลีเป็นตัวนำใน3ปีแรกนี้ โดยหวังว่าการปรับผังใหม่นี้จะช่วยให้ช่องPPTV HD ขึ้นมาเป็นท็อป5 ในกลุ่มทีวีดิจิตอลได้ จากปัจจุบันอยู่ในอันดับที่ 10”
นายเขมทัตต์ กล่าวด้วยว่า ในช่วง 3ปีนี้ จะเป็นช่วงของการลงทุน ซึ่งในปีหน้าจะมีการลงทุนเพิ่มอีกหลายร้อยล้านบาท จากงบเดิม 1,000 ล้านบาท ที่จะใช้เพิ่มทั้งในส่วนโปรโมชั่น และสตูดิโอแห่งใหม่ ส่วนรายได้นั้น 3ปีแรกตั้งไว้ที่ปีละ 1,000 ล้านบาท แต่สำหรับปีนี้จากปัจจัยลบหลายด้าน จึงมีการปรับลดรายได้ลงมา
****แกรมมี่อัดคิงส์คอนเท้นท์ลุย
นายไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การที่ช่อง3 ออกอากาศคู่ขนานในระบบทีวีดิจิตอลอย่างเต็มรูปแบบ เชื่อว่าจะเป็นการเข้าสู่การแข่งขันของทีวีดิจิตอลอย่างแท้จริงมากขึ้น ซึ่งบริษัทพร้อมที่จะลงทุนในส่วนธุรกิจทีวีดิจิตอลเต็มที่ โดยในปี2558 พร้อมใช้งบกว่า 3,000 ล้านบาท สำหรับการทยอยเพิ่มคอนเทนต์
และพัฒนาช่องทีวีดิจิตอลทั้ง 2 ช่อง คือ ช่องONE HD และGMM Channel มั่นใจว่ารายได้ของทั้ง 2 ช่องจะทำได้คุ้มทุน ร่วม 2,000 กว่าล้านบาทได้ จากคอนเท้นท์ต่างๆที่สร้างกระแสได้ดี เช่น ฮอร์โมน, สงครามนางฟ้า และคลับฟรายเดย์ เป็นต้น หรืออย่างน้อยต่อช่องจะมีรายได้ที่ 1,000 ล้านบาท
ด้านนางสาวสายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล จำกัด กล่าวเสริมว่า ในส่วนของช่อง จีเอ็มเอ็ม แชนแนล ได้มีการปรับผังใหม่มาตั้งแต่ต้นเดือนต.ค.ภายใต้งบผลิตคอนเทนต์ 400-500 ล้านบาท ถือเป็นการรุกในธุรกิจทีวีดิจิตอลแบบเต็มรูปแบบครั้งแรกของทางช่อง ที่สำคัญจะเป็นการเริ่มขายโฆษณาหลังจากนี้เป็นต้นไป
ภายใต้ราคาโฆษณาที่วางไว้เฉลี่ย 2.5-3 หมื่นบาทต่อนาที ซึ่งจะมีการขายเป็นแพกเกจพ่วงกับไทอิน หรืออีเวนต์ตามคอนเซ็ปต์ช่องที่ชูในเรื่องของรีเรชัน มาร์เกตติ้ง และอีเวนต์ เทเลวิชัน เชื่อว่าในปี 2558 จะมีรายได้คุ้มทุน 1,000 ล้านบาท หรือคุ้มทุนและมีกำไรภายใน 3-5 ปี และมั่นใจว่าภายใน 3 ปีจะก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 5 ในแง่เรตติ้งช่องทีวีดิจิตอลทั้งหมด
*** อัมรินทร์ทีวี ผนึกพันธมิตร
นายโชคชัย ปัญจรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อมรินทร์ เทเลวิชั่น จำกัด กล่าวว่า ในส่วนของอัมรินทร์ทีวี ช่วงไตรมาสสุดท้ายโดยเฉพาะในเดือนพ.ย.-ธ.ค.นี้ จะมีการปรับเพิ่มรายการใหม่ๆมากขึ้น ล่าสุดจะโฟกัสในช่วงเวลา 6.00-12.00น. เป็นหลัก นำเสนอรายการเกี่ยวกับธุรกิจ สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเจ้าของธุรกิจ เอสเอ็มอี เจ้าของกิจการขนาดใหญ่ และนักลงทุน
โดยมีรายการใหม่เพิ่มเข้ามาในช่วงนี้ 3-4 รายการ และจะเพิ่มอีก 1 รายการในไตรมาสหนึ่ง เนื่องจากมองเป็นช่วงเวลาที่มีศักยภาพ ในการนำเสนอโพซิชันนิ่งของช่องอัมรินทร์ทีวี ส่วนช่วงเวลาไพร์มไทม์ของช่องอัมรินทร์ทีวี หลังเวลา 20.00น. เป็นต้นไปนั้น จะเริ่มปรับผังรายการอีกครั้งในช่วงไตรมาสหนึ่งปีหน้า
“การปรับเพิ่มรายการครั้งนี้ เป็นการจับมือกับพันธมิตรใหม่ๆมากขึ้น เช่น 1. บริษัท โพสต์ ทีวี จำกัด ในการร่วมมือผลิตรายการข่าวต่างประเทศให้ เริ่มต้นด้วยรายการ “WORLD fOCUS รู้รอบโลก” เริ่ม 3พ.ย. นี้ และจะมีอีก 2 รายการ คือ รายการสรุปข่าวต่างประเทศรอบสัปดาห์ และรายการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนช่วงเช้าและเย็น 2.บริษัท อิมเมจิ้น กรุ๊ป โปรดักชั่นส์ จำกัด
ในการนำเสนอรายการเรียลิตี้ ที่ชื่อ “The Apartment” และ.บริษัท ดาราเดลี่ จำกัด ที่จะเข้ามาร่วมผลิตรายการข่าวบันเทิง ในช่วงเวลา 20.30-21.00น.ในปี2558 เป็นต้น”
***สปริงนิวส์เพิ่มรายใหม่อีก 30%
นางสาววทันยา วงษ์โอภาสี รองประธานกรรมการบริหาร ด้านธุรกิจองค์กร บริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ในเดือนพ.ย.นี้ทางช่องสปริงส์นิว จะมีการปรับผังรายการใหม่ โดยการเพิ่มรายการใหม่เข้ามาอีก 30% และปรับเวลารายการเดิมที่ได้รับความนิยมสูง โดยมีการเพิ่มเวลาออกอากาศออกไปอีก เช่น รายการ 3มุมข่าว เป็นต้น
และในปี 2558 เตรียมงบลงทุนอีกกว่า 100 ล้านบาท สำหรับการนำเสนอคอนเท้นท์ใหม่ๆ ทั้งข่าวและสารคดี ซึ่งจะมีการปรับผังใหม่ 3ครั้งต่อปี นอกจากนี้ยังได้ลงทุนอีก 150 ล้านบาท สำหรับในการพัฒนาระบบเทคโนโลยีเข้าใช้ในงานข่าวเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้เท่าเทียมระดับสากล มั่นใจว่าในปี 2558 จะยังคงมีเรตติ้งรั้ง 1ใน3 ของกลุ่มช่องข่าวในทีวีดิจิตอล และยังคงคุ้มทุนใน3ปีตามแผนเดิมที่วางไว้ แม้ว่าปีนี้จะมีรายได้ต่ำกว่าเป้าก็ตาม
***ไทยรัฐทีวีอัด1,500ล.ลุยปี58
จากสถานการณ์ทีวีดิจิตอลตลอดปีนี้ คงจะมีเพียงช่องไทยรัฐทีวีเพียงช่องเดียว ที่ดำเนินงานได้ตามแผนที่วางไว้ ดังนั้นการที่ช่อง3ออกคู่ขนานในระบบดิจิตอลหรือไม่จึงไม่ได้ส่งผลต่อแผนงานที่วางไว้
นางสาวจิตสุภา วัชรพล เจ้าหน้าที่บริหารสายงานกลยุทธ์และการตลาดบริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสท์ จำกัด ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี กล่าวว่า ปัจจุบันไทยรัฐทีวีมีรายการที่ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายอยู่แล้ว และมีส่วนแบ่งผู้ชมที่ดี จนทำให้เอเจนซี่และสปอนเซอร์หลักพอใจ จนทำให้ปีนี้มีรายได้ตามเป้าที่ 500 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามในปีหน้า ทางสถานีฯจะเพิ่มคอนเท้นท์รายการใหม่ๆในส่วนวาไรตี้บันเทิง เพื่อเพิ่มฐานผู้ชมอายุ 15-30ปีให้มากขึ้น พร้อมให้ความแข็งแกร่งทางด้านคอนเท้นท์ข่าว ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของช่องไทยรัฐทีวี โดยจะมีการนำเสนอในรูปแบบใหม่ๆ ที่สำคัญจะให้ความสำคัญในส่วนของช่องทางการรับชมใหม่ๆ โดยปีหน้าจะมีการเปิดตัวแอพลิเคชั่นคู่กับการรับชมไทยรัฐทีวีด้วย
ภายใต้งบการลงทุนรวมกว่า 1,500 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อต้องการที่จะรักษาความเป็นผู้นำในกลุ่มวาไรตี้เอชดี และท็อปไฟว์กลุ่มฟรีทีวีดิจิตอลให้ได้ ด้วยรายได้ที่มั่นใจว่าจะทำได้ถึง 1,500 ล้านบาท จากเป้าเดิมที่วางไว้ 1,200 ล้านบาท และเชื่อว่าจะยังคงคุ้มทุนได้ใน7ปี
กำลังโหลดความคิดเห็น