00 เริ่มอยู่ไม่เป็นสุข ต้องออกมาเต้นแร้งเต้นกาปกป้อง "นาย" กันแบบถวายชีวิต กับการที่ได้เห็นบรรดาลิ่วล้อของครอบครัว ทักษิณ ชินวัตร ออกมาทำทุกทางเพื่อไม่ให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รับความผิด จากความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ทำทุกทาง ทั้งขู่ฟ้อง ทั้งดิสเครดิตในทำนอง "ถ้าข้าเลว เอ็งก็ชั่ว" อะไรประมาณนั้น และหากสังเกตฝ่าย ทักษิณ ชินวัตร ก็ส่ง ยรรยง พวงราช อดีต รมช.พาณิชย์ ที่เคยรับใช้มาตั้งแต่สมัยเป็นปลัดฯพาณิชย์ออกมาทำลายจังหวะ พยายามชี้ให้เห็นว่า มล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายฯ และปลัดสำนักนายกฯ ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบสต๊อกข้าวว่า ตรวจสอบแบบมีพิรุธ หรือจะว่า "มั่ว" ก็ได้ เพียงแต่ไม่พูดออกมาโดยตรงเท่านั้น พร้อมยุให้บรรดาโกดัง หรือโรงสีในเครือออกมาไล่ฟ้องกลับ ซึ่งก็เชื่อว่าอีกไม่นานจะมีรายการ "หน้าม้า" ฟ้องร้องตามมาแน่
00 อย่างไรก็ดี ถ้าพิจารณากันแบบรู้ทันก็ต้องบอกว่า มันก็ต้องเล่นเกมป่วนแบบนี้แหละ อย่างน้อยก็เพื่อลดทอนภาพลบของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เป้าหมายก็เพื่อสร้างภาพลักษณ์ทางจิตวิทยาให้เห็นว่า "ถูกรังแก" อย่างไม่เป็นธรรม อย่างน้อยก็ต้องทำให้บรรดาสาวกเสื้อแดงทั้งหลายไม่เบี่ยงเบนความศรัทธาออกไป โดยไม่ต้องไปพูดกันถึงความเสียหายจากโครงการดังกล่าว ว่าสร้างภาระให้หนี้สินสาธารณะมหาศาลเพียงใด และคนที่ต้องใช้หนี้เป็นใคร ซึ่งก็คือชาวบ้านที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษี กับพวกมนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย ที่ต้องมาแบกรับภาระกับนโยบายประชานิยมที่ครอบครัวชินวัตร ใช้เงินชาวบ้านมาสร้างบริษัทพรรคเพื่อไทย ไปใช้หาเสียงหาความนิยมในการสร้างอำนาจ สร้างความร่ำรวยไม่สิ้นสุด
00 จนถึงวันนี้มีการสรุปตัวเลขออกมาจากปากของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า ความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวไม่ต่ำว่า 6 แสนล้านบาท เกือบแตะ 7 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการสรุปตัวเลขทางบัญชีเบื้องต้น โดยย้ำว่าต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย คำถามก็คือ ความเสียหายแบบนี้ ตัวเลขมหาศาลแบบนี้ เราจะเอาผิดได้แค่ "ไอ้พวกขี้หมา" ไม่กี่ตัวเท่านั้นหรือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะผู้กำกับการนโยบาย รวมทั้งตังเป้งๆ คนอื่นไม่ต้องรับผิดชอบ ไม่มีความผิดอย่างที่ ยรรยง พวงราช ลิ่วล้อพยายามชี้นำให้เอาผิดกับพวกกระจอกทั้งหลาย ไม่ว่าพวกฝ่ายสำรวจตรวจสอบของกระทรวงพาณิชย์ ปลายแถวแค่นี้หรือ มันจะบ้าหรือเปล่า ดังนั้น เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พูดออกมาว่า ต้องดำเนินการทางกม. ก็ต้องทำจริง ถ้าไม่ทำ ให้ระวังจะโดนข้อหา "ละเว้น" และจะกลายเป็นความเสื่อม และที่สำคัญอย่าประมาทกับพลังของประชาชนเป็นอันขาด !!
00 นำคณะเดินทางไปเยือนจีนอีกรอบ สำหรับนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คราวนี้มีกำหนดเยือนตั้งแต่ 22-23 ธ.ค. เป้าหมายหลักๆ เป็นการกระชับความสัมพันธ์ในลักษณะ "หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์" และยังเป็นการไปเยือนแบบเพิ่มความสนิทสนมกันในระดับผู้นำ และที่น่าจับตาก็คือ เป็นการเข้าพบกับระดับ "อภิมหาผู้นำ" ของจีนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง นายกฯหลี่เค่อเฉียง และประธานสภาประชาชนจีน จางเต๋อเจียง ก็ต้องบอกว่า ครบสูตรศูนย์กลางอำนาจ แม้ว่าเป้าหมายภายนอกจะเป็นการลงนามในบันทึกความเข้าใจและการลงนามต่อสัญญาบางฉบับที่เกี่ยวข้องกับ การค้าการขายต่อกัน แต่ความหมายในทางลึกมีมากกว่านั้น ในเรื่องยุทธศาสตร์ความสัมพันธ์ในภูมิภาค และเศรษฐกิจระหว่างประเทศยุคใหม่
00 หากมองถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ถือว่าลงตัวเหมาะเจาะกันพอดี นั่นคือ หนึ่งไทยกับจีนไม่มีปัญหาเรื่องความขัดแย้งเรื่องการอ้างสิทธิ์เหนือหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ สองที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ในภูมิภาค ไทยเป็นทางออกทะเลให้กับจีนตอนใต้ จึงเป็นที่มาของการผลักดันก่อสร้างทางรถไฟ ไทยหวังพึ่งพาตลาดสินค้าเกษตรกับจีนและเทคโนโลยีทางราง และมองว่าการเป็นหุ้นส่วนต่อกันทั้งสองฝ่าย จะได้ประโยชน์ อีกทางหนึ่งยังเป็นการกดดันอเมริกาในทีได้อีกด้วย หลังจากห่างเหินไปในช่วงการก่อรัฐประหารของคสช. งานนี้ถือว่า "ไทยเล่นไพ่จีน" และในอนาคตยังน่าจะเชื่อมต่อไปยังรัสเซียได้อีกด้วย เอาเป็นว่าการไปคราวนี้ น่าจับตาทีเดียว !!
00 อย่างไรก็ดี ถ้าพิจารณากันแบบรู้ทันก็ต้องบอกว่า มันก็ต้องเล่นเกมป่วนแบบนี้แหละ อย่างน้อยก็เพื่อลดทอนภาพลบของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เป้าหมายก็เพื่อสร้างภาพลักษณ์ทางจิตวิทยาให้เห็นว่า "ถูกรังแก" อย่างไม่เป็นธรรม อย่างน้อยก็ต้องทำให้บรรดาสาวกเสื้อแดงทั้งหลายไม่เบี่ยงเบนความศรัทธาออกไป โดยไม่ต้องไปพูดกันถึงความเสียหายจากโครงการดังกล่าว ว่าสร้างภาระให้หนี้สินสาธารณะมหาศาลเพียงใด และคนที่ต้องใช้หนี้เป็นใคร ซึ่งก็คือชาวบ้านที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษี กับพวกมนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย ที่ต้องมาแบกรับภาระกับนโยบายประชานิยมที่ครอบครัวชินวัตร ใช้เงินชาวบ้านมาสร้างบริษัทพรรคเพื่อไทย ไปใช้หาเสียงหาความนิยมในการสร้างอำนาจ สร้างความร่ำรวยไม่สิ้นสุด
00 จนถึงวันนี้มีการสรุปตัวเลขออกมาจากปากของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า ความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวไม่ต่ำว่า 6 แสนล้านบาท เกือบแตะ 7 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการสรุปตัวเลขทางบัญชีเบื้องต้น โดยย้ำว่าต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย คำถามก็คือ ความเสียหายแบบนี้ ตัวเลขมหาศาลแบบนี้ เราจะเอาผิดได้แค่ "ไอ้พวกขี้หมา" ไม่กี่ตัวเท่านั้นหรือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะผู้กำกับการนโยบาย รวมทั้งตังเป้งๆ คนอื่นไม่ต้องรับผิดชอบ ไม่มีความผิดอย่างที่ ยรรยง พวงราช ลิ่วล้อพยายามชี้นำให้เอาผิดกับพวกกระจอกทั้งหลาย ไม่ว่าพวกฝ่ายสำรวจตรวจสอบของกระทรวงพาณิชย์ ปลายแถวแค่นี้หรือ มันจะบ้าหรือเปล่า ดังนั้น เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พูดออกมาว่า ต้องดำเนินการทางกม. ก็ต้องทำจริง ถ้าไม่ทำ ให้ระวังจะโดนข้อหา "ละเว้น" และจะกลายเป็นความเสื่อม และที่สำคัญอย่าประมาทกับพลังของประชาชนเป็นอันขาด !!
00 นำคณะเดินทางไปเยือนจีนอีกรอบ สำหรับนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คราวนี้มีกำหนดเยือนตั้งแต่ 22-23 ธ.ค. เป้าหมายหลักๆ เป็นการกระชับความสัมพันธ์ในลักษณะ "หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์" และยังเป็นการไปเยือนแบบเพิ่มความสนิทสนมกันในระดับผู้นำ และที่น่าจับตาก็คือ เป็นการเข้าพบกับระดับ "อภิมหาผู้นำ" ของจีนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ประธานาธิบดี สีจิ้นผิง นายกฯหลี่เค่อเฉียง และประธานสภาประชาชนจีน จางเต๋อเจียง ก็ต้องบอกว่า ครบสูตรศูนย์กลางอำนาจ แม้ว่าเป้าหมายภายนอกจะเป็นการลงนามในบันทึกความเข้าใจและการลงนามต่อสัญญาบางฉบับที่เกี่ยวข้องกับ การค้าการขายต่อกัน แต่ความหมายในทางลึกมีมากกว่านั้น ในเรื่องยุทธศาสตร์ความสัมพันธ์ในภูมิภาค และเศรษฐกิจระหว่างประเทศยุคใหม่
00 หากมองถึงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ ถือว่าลงตัวเหมาะเจาะกันพอดี นั่นคือ หนึ่งไทยกับจีนไม่มีปัญหาเรื่องความขัดแย้งเรื่องการอ้างสิทธิ์เหนือหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ สองที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ในภูมิภาค ไทยเป็นทางออกทะเลให้กับจีนตอนใต้ จึงเป็นที่มาของการผลักดันก่อสร้างทางรถไฟ ไทยหวังพึ่งพาตลาดสินค้าเกษตรกับจีนและเทคโนโลยีทางราง และมองว่าการเป็นหุ้นส่วนต่อกันทั้งสองฝ่าย จะได้ประโยชน์ อีกทางหนึ่งยังเป็นการกดดันอเมริกาในทีได้อีกด้วย หลังจากห่างเหินไปในช่วงการก่อรัฐประหารของคสช. งานนี้ถือว่า "ไทยเล่นไพ่จีน" และในอนาคตยังน่าจะเชื่อมต่อไปยังรัสเซียได้อีกด้วย เอาเป็นว่าการไปคราวนี้ น่าจับตาทีเดียว !!