xs
xsm
sm
md
lg

ช่อง3ปรับสู้ศึกทีวีดิจิตอลเล็งดึง”เทอร์เนอร์”ร่วมผลิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ช่อง3 เดินหน้ารับศึกทีวีดิจิตอลปี58 วางโพซิชั่นนิ่งช่อง3SD เป็นช่องทางเลือก จับคอนเท้นท์รีรัน และคอนเท้นท์ต่างประเทศสร้างแกร่งช่วงเวลา 17.00-23.00น. ส่วนช่อง3แฟมิลี่ ดึงพันธมิตร“เทอร์เนอร์” ยักษ์ใหญ่คอนเท้นท์การ์ตูนเน็ตเวิร์ค ร่วมผลิตรายการ 7วันรวด หวังแค่มีรายได้คุ้มทุน เมินการแข่งขัน เชื่อตลาดยังไม่พร้อมที่จะลงทุนเต็มตัว แต่พร้อมเจาะลึกช่อง3HD ประคองคนดูไว้ให้นานที่สุด

นายประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการ และอดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 และกรรมการบริหาร บริษัท บีอีซีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานเกี่ยวกับทีวีดิจิตอลของช่อง 3 ซึ่งมีทั้งหมด 3 ช่อง คือ ช่อง3HD, ช่อง3SD และช่อง3Family รวมถึงช่อง3 อะนาล็อกที่ออกคู่ขนานนั้น เบื้องต้น จะวางช่อง3HD และช่อง3SD เป็นเรือธง โดยช่อง3HD จะเป็นช่องที่สร้างการเติบโตให้บริษัทเป็นหลัก ส่วนช่อง3แฟมิลี่ เป็นความตั้งใจที่ประมูลมาเพื่อต้องการคืนกำไรสู่สังคม การออกอากาศแบบ 24ชม.เกินความจำเป็น จึงต้องมีรีรัน

“แนวทางเบื้องต้นของการบริหารทั้ง 3 ช่องนั้น ช่อง3เดิมไม่ต้องทำอะไร ช่อง3SDจะสร้างความแข็งแรงเพิ่ม ส่วนช่อง3แฟมิลี่เน้นคืนกำไรสู่ผู้ชม ดังนั้นรายการที่ดีกว่าจะยังคงอยู่ที่ช่อง3HD รายการอื่นๆรองลงมาจะไปอยู่ที่ช่องอื่น ระยะแรกของการออกอากาศที่ผ่านมาค่อนข้างกะทันหัน รายการใหม่จึงผลิตไม่ทันในทุกช่อง จึงต้องเน้นการรีรันไปก่อน แต่มั่นใจว่าช่อง3HD จะเป็นช่องที่สร้างรายได้มากสุด แม้ว่าโอกาสเติบโตจะเหลือน้อยลง จากช่องว่างในการลงโฆษณาเต็ม จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมบริษัทจึงประมูลมาหลายช่อง เพราะต้องมีช่อง3SD เข้ามาเป็นตัวเพิ่มรายได้”

นายประวิทย์ กล่าวต่อว่า ปีหน้าในอุตสาหกรรมทีวีดิจิตอล เชื่อว่ายังเป็นช่วงที่ลำบากสำหรับทุกคน เพราะมีจำนวนช่องที่เยอะ จึงต้องเน้นสร้างความแตกต่างซึ่งเป็นเรื่องยาก ขณะที่รายใหญ่จะมีโอกาสมากกว่า เพราะมีฐานคนดูอยู่แล้ว และมีคอนเท้นท์ที่ผู้ชมติดตามอยู่ก่อนหน้า ช่องใหม่จะต้องทำงานหนักมากขึ้น ในส่วนของช่อง3 มั่นใจว่าคอนเท้นท์ที่มีอยู่เพียงพอสำหรับการนำเสนอในแต่ละช่อง เพียงแต่สถานการณ์ของทีวีดิจิตอลยังไม่พร้อมเต็มที่ จึงไม่รีบที่จะลงทุนเพิ่มหรือนำเสนอคอนเท้นท์แบบเต็มรูปแบบ

ช่อง3ยิ้มรายได้ทรงตัว สวนตลาดติดลบ10%

ด้านนายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการบริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 กล่าวเสริมว่า ปีหน้ายังต้องรอดูสถาการณ์ทีวีดิจิตอลไปอีกสักครึ่งปี เพราะกว่าโครงข่ายจะดี หรือเรตติ้งจะเกิดขึ้นจริงก้น่าจะใช้เวลาอีกราว 6 เดือน และหลังจากเดือนมิ.ย.58 ไปแล้ว คูปองน่าจะแจกได้ครบ 100% โดยน่าจะเข้าถึงกลุ่มผู้ชมได้ 50% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ เรตติ้งก็น่าจะดีขึ้นตาม

ในส่วนของช่อง3ปีหน้าจะมีการปรับและสร้างจุดแข็งในบางช่วงเวลามากขึ้น เช่น 6.00-9.30น. รวมถึงช่วงบ่ายหลังข่าวเที่ยง จะมีการปรับปรุงรายการเพื่อดึงคนดูไว้ให้นานที่สุด โดยเชื่อมั่นว่าปีหน้าจะยังคงมีรายได้ที่ดีอยู่ จากปีนี้ที่รายได้ทรงตัว หรือน่าจะปิดรายได้เท่าปีก่อน จากปกติต่อปีจะมีการเติบโต 9-10% ถือเป็นตัวเลขที่น่ายินดี ในสถานการณ์ที่สื่อทีวีติดลบ 10% แต่ช่อง3มีส่วนแบ่งดีขึ้น

วางหมากช่อง3SD เป็นช่องทางเลือก

นายสุรินทร์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามในปี2558นี้ ทางบริษัทจะให้ความสำคัญกับช่อง3SD (ช่อง28) มากขึ้น ด้วยการจัดทำผังรายการที่ตอบโจทย์คนดู ให้เป็นช่อง3แบบในอดีตที่อยากทำ โดยจะยึดผังช่อง3HD เป็นหลัก ในการสร้างผังลงช่อง3SD เพื่อไม่ให้เกิดแย่งฐานผู้ชมกันเอง

เบื้องต้นจะสร้างไลน์คอนเท้นท์ 6ชม. ให้เป็นช่วงสร้างฐานผู้ชมและสร้างเรตติ้ง คือ ช่วงเวลา 17.00น-23.00น. เริ่มจากการนำละครที่เคยได้รับความนิยมในอดีตมารีรัน ตามด้วยรายการข่าว”ท็อปนิวส์” ซึ่งเป็นคนละทีมที่ออกอากาศในช่อง3HD ด้วยการผลิตและนำเสนอในลักษณะวาไรตี้ที่แตกต่าง ไม่เน้นฮาร์ดนิวส์ ตามด้วยข่าวในพระราชสำนัก หลังจากนั้นเป็นการนำคอนเท้นท์ฟอร์มเมทจากต่างประเทศ มานำเสนอ เช่น The VOICE(USA), Britain's Got Talent และรายการข่าว BEC นิวส์ อีก 45 นาที และหลังเวลา22.00น. ซึ่งพ้นช่วงไพร์มไทม์ไปแล้ว จะนำรายการดังในอดีต เช่น ซีรีย์จีน, เกาหลี รวมถึงภาพยนตร์จีนใหม่ๆมาออกอากาศ ส่วนช่วงเวลาอื่นจะเป็นการรีรัน และเป็นช่วงศึกษา ให้โอกาสบุคลากรมาผลิตรายการบ้าง

“ผังรายการของช่อง3SD ช่วง 6 ชม.นี้ น่าจะแข่งขันกับช่องอื่นๆได้ แต่ถ้าเทียบกับช่อง3HD ถือเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ชมเดิมของช่อง3 และกลุ่มแมสที่ยังชื่นชอบคอนเท้นท์เหล่านี้อยู่ ทั้งนี้ยังจะมีคอนเท้นท์ที่ผลิตใหม่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่จะเน้น 6ชม.นี้ให้มีเรตติ้งและฐานผู้ชมให้แข็งแรงไปตลอดทั้งปี ขณะที่ในแง่ของเรตโฆษณานั้น เฉลี่ยอยู่ที่ 20,000 บาทต่อนาที โดยจะวางขายในทุกรูปแบบทั้งรูทสปอร์ต แพกเกจ และเรตการ์ด เป็นต้น แต่จะแยกขายจากช่อง3HD อย่างชัดเจน เพราะเป็นคนละบริษัทกัน”

ดึง”เทอร์เนอร์”ลงช่อง3แฟมิลี่

ส่วนแผนการดำเนินงานในช่อง3แฟมิลี่นั้น ล่าสุดได้มีการเจรจากับทาง บริษัท เทอร์เนอร์ บรอดคาส ซิสเต็ม เอเชียแปซิฟิค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่เกี่ยวกับคอนเท้นท์การ์ตูนระดับโลก อย่าง ช่องการ์ตูนเน็ตเวิร์ค และช่องบูมเมอร์แรง รวมถึงรายการสำหรับเด็กและครอบครัวอีกมากมาย โดยทางเทอร์เนอร์จะเข้ามาผลิตรายการเด็กทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 16.00-18.00น. และทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 7.00-9.00น. ด้วย

“แผนการดำเนินงานในช่อง3SD และช่อง3แฟมิลี่ จะเป็นการลงทุนจากคอนเท้นท์เดิมที่มีอยู่ ไม่รีบที่จะผลิตรายการใหม่ เพราะมองว่าสนามรบยังไม่เต็ม100% ขณะที่หลายช่องต่างมุ่งสู้กันจนเหนื่อยเพื่อชิงความเป็นผู้นำ จึงไม่รีบร้อนถือเป็นการดูตลาดไปด้วย พร้อมปรับคอนเท้นท์ให้เหมาะสม ดังนั้นในแง่รายได้ของทั้ง2ช่อง จึงหวังไว้เพียงแค่คุ้มทุนกับการลงทุนไปของในแต่ละช่องมากกว่า” นายสุรินทร์ กล่าวสรุป
กำลังโหลดความคิดเห็น