xs
xsm
sm
md
lg

แนวทางนำเมืองไทยไปสู่ความเป็นมหารัฐ

เผยแพร่:   โดย: ไสว บุญมา

สุวรรณภูมิมีทรัพยากรจำนวนมากและหลากหลายกว่าหมู่เกาะญี่ปุ่นและคาบสมุทรเกาหลี แต่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้กลับหนีไทยไปแบบไม่เห็นฝุ่น อีกไม่กี่ปี จีนก็จะหนีไปด้วย เพราะอะไรคงเถียงกันไม่รู้จบ ในช่วงนี้ หลายเวทีมีกิจกรรมระดมสมอง เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมา อาจารย์มานิต รัตนสุวรรณ (Manit88@hotmail.com) ได้เสนอแนวคิด 3 อย่างที่อาจารย์มองว่าจะพาเมืองไทยให้ก้าวพ้นวังวนของการย่ำอยู่กับที่ มาดูกันว่า แนวคิดเหล่านั้นคืออะไรและถ้ารัฐบาลทำตาม เมืองไทยจะก้าวพ้นวังวนดังกล่าวหรือไม่ หวังว่าในบรรดาผู้อ่านเรื่องนี้ จะมีผู้อยู่ในแวดวงรัฐบาลรวมอยู่และจะนำแนวคิดไปสู่เวทีของผู้มีอำนาจชี้ขาดอนาคตของเมืองไทยด้วย

“......ประเทศไทย “มหารัฐ” Vision Thailand 2025”

นักการตลาดเป็นนักคิดนักฝันนะครับ บางทีฝันอะไรไว้ เคยเขียนอะไรไว้พอเอากลับมาอ่านอีกที ก็ดีเหมือนกันนะตอนนี้ก็ฝันตามนโยบาย “คืนความสุขให้ประชาชน” แล้วก็คิดตามไปด้วย วันนี้ครึ้มใจ อยากฝันเห็นอะไร ยากเห็นอนาคตประเทศไทยเป็นอย่างไร ก็ลองฟังเล่นๆ อย่าถือสานะครับ... ฝันให้ไกล แล้วไปให้ถึง


ในวันนี้ขณะที่ คสช.กำลังดำเนินนโยบายที่ดี “คืนความสุขให้ประชาชน” ซึ่งบางส่วนก็เห็นรูปธรรมชัดเจนแล้ว ไม่เพียงแต่คืนถนนให้ปราศจากม็อบและการก่อความไม่สงบวุ่นวายยืดเยื้อ จากบ้านเมืองใกล้กลียุคให้กลายเป็นบ้านเมืองแห่งสันติสุขในฉับพลัน ปรับเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ แถมยังสั่งปฏิบัติการติดตาม ตรวจสอบขบวนการคอร์รัปชัน ขบวนการฟอกเงิน บรรดามาเฟียทางธุรกิจ และที่สำคัญคือ กลไกสำคัญของรัฐบาล คือ การปรับเปลี่ยนตัวข้าราชการขนานใหญ่ในแทบทุกกระทรวงทบวงกรม และวันนี้ ข่าวใหญ่ที่พาดหัว นสพ.ทุกฉบับ การเปิดโปงคอร์รัปชันระดับชาติ ผมว่าดีเหมือนกันแฮะ...กล้าดี

ดีครับ บ้านเมืองไทยวันนี้ กำลังอยู่ใน “จุดเปลี่ยน” ครั้งยิ่งใหญ่ ที่คนไทยทั้งประเทศกำลังจับตาดูอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจ้องปราบคอร์รัปชัน และการปฏิรูปกระทรวงทบวงกรมครั้งใหญ่ โดยเฉพาะปรับตัวของวงการข้าราชการครั้งใหญ่ ถือว่ากันไว้ก่อนดีกว่าแก้ แต่ตามดูมาตั้งนาน ก็ยังไม่เห็นมี Big Idea พลิกเศรษฐกิจสร้างชาติแบบจะจะเจ๋งๆ เลย ไม่เห็นความฝันในอนาคตที่ยิ่งใหญ่เลย

ผมชอบคุณสุทธิชัย หยุ่น เพื่อนเก่าผม เวลาขึ้นเวทีสัมภาษณ์ ผู้นำธุรกิจ เช่น ประธานสภาหอการค้า ประธานอุตสาหกรรม แกจะมีคำถามทีเด็ดเช่น ถ้าคุณเป็นนายกรัฐมนตรีวันนี้ ให้เลือกทำ 3 อย่าง คุณจะทำอะไร ทุกคนก็ตอบไปตามความสนุกสนาน ผมคิดสนุกๆ ถ้าวันหนึ่ง แกถามผมบ้างบนเวทีอย่างนี้ ผมจะตอบอย่างนี้ครับ ผมมีวาระแห่งชาติ (จริงๆ) ที่อยากทำ 2 เรื่องครับ

1. ขุดคอคอดกระ พลิกอ่าวไทยให้เป็นเมืองท่าสากล เอาเกาะสวยมาสัมปทาน สร้างเป็นเกาะสวรรค์หาเงินเข้าประเทศ เชิญเพื่อนบ้านที่ได้เสียผลประโยชน์มาร่วมลงทุน ถ้าไม่ก็เชิญจีน ญี่ปุ่น เกาหลี หรือ มหาอำนาจของโลก มาร่วมแทน

2. ขุดแม่น้ำเจ้าพระยาสายที่สอง เวนคืนที่สองข้างแม่น้ำ 1 ล้านไร่ สร้างเมืองราชการใหม่ นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค รถไฟความเร็วสูง เอาที่ริมฝั่งแม่น้ำใหม่มาให้เช่า 100 ปี หาเงินสร้างประเทศ 4 – 5 ล้านล้านบาท ไม่ต้องกู้

ครับ ฟันธงไปเลย ล้วนแต่เป็นไอเดียหาเงินเข้าประเทศ ไม่ใช่กู้และแจกเงิน อันนั้นคิดแบบนักเศรษฐศาสตร์ทฤษฎีเก่า วันนี้ให้ดูเกาหลีสร้างประเทศที่ใช้เงินจากการบาร์เตอร์กับเอกชนในประเทศ กลายเสือตัวใหม่ที่น่าเกรงขาม ทั้งที่อดีตยากจนชนิดเราต้องส่งทหารไทยไปช่วยรักษาประเทศ เขาคิดแบบนักการค้า นักการตลาดระดับโลก ครับ

วันนี้ เรามีโอกาสทองเป็นยุคว่างเว้นประชาธิปไตยชั่วคราว สุดท้ายเราก็จะรอดูว่า ผลพวงแห่งการปฏิวัติครั้งนี้จะคุ้มไหม เราจะโชคดีได้รัฐมนตรีในฝัน ได้คนดีจริง เก่งจริง กล้าจริง สายตายาวจริง มาพลิกความฝันของคนไทยให้เป็นจริงหรือเปล่า เพราะเคยมีคำทำนายของหลวงปู่และเกจิอาจารย์มากมายที่ฟันธงไว้ว่า

วันหนึ่ง ประเทศไทยจะเป็น “ไทยมหารัฐ” เป็นชาติที่ยิ่งใหญ่และร่ำรวยที่สุด เพราะจะมีคนดีเกิดขึ้นมาพร้อมๆ กัน และทรัพย์ในดินที่ถูกซ่อนไว้ ก็จะพลิกโผล่ขึ้นมาเป็นสมบัติมหาศาล จะเรียกว่าหนึ่งในมหาอำนาจทางเศรษฐกิจได้เลย...ไม่น่าเชื่อเลย

วันนี้ถ้าเราเกิดโชคดี ได้กลุ่มคนดีจริง เก่งจริงมาบริหารแผ่นดิน คนคิดใหญ่ใจกล้า วิสัยทัศน์ยาวไกล คนที่มีความซื่อสัตย์ต่อคำปฏิญาณต่อองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือน้ำพิพัฒน์สัตยา คนที่ตั้งใจจะพลิกประวัติศาสตร์จริง มาทำให้ชาติร่มเย็นเป็นสุข ไพร่ฟ้าหน้าใส เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง สังคมมีคุณธรรม มีระเบียบวินัย ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ผมเชื่อว่า นี่คือเป้าหมายที่งดงาม ที่ทุกคนก็อยากเห็นเช่นเดียวกัน และถ้าใครทำได้ประชาชนก็จะแซ่ซ้องสรรเสริญ เป็นประวัติชีวิต

ครับ วันนี้ นี่คือโอกาสทองของประเทศไทย โอกาสที่จะพลิกวิกฤตให้เป็นทอง อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะพลิกประเทศไทย จากประเทศผ้าขี้ริ้วห่อทอง จากประเทศที่อุดมด้วยความมั่งคั่ง สมบัติของชาติที่มหาศาล แต่ไหงกลายเป็นประเทศตกยาก “กำลังพัฒนา”วิ่งตามหลังเพื่อนบ้านต้อยๆ เศรษฐีที่เคยมีทองแต่ทองกลับกลายเป็นถ่านเหมือนในนิทานชาดก

ไม่น่าเชื่อ ประเทศนี้ที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงยากจนทั้งประเทศ ทั้งที่ควรจะร่ำรวยที่สุดในแหลมทอง ประเทศที่น่าจะเป็นมหาเศรษฐี เพราะเคยเป็นประเทศผู้นำในดินแดนแถบนี้ เคยมีดินแดนในอดีตมากที่สุดทางเหนือติดกับประเทศจีนทางใต้จนหมดเกือบหมดแหลมมลายู แม้ปัจจุบันที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ชัยภูมิที่ได้เปรียบที่สุดยิ่งกว่าทองคำฝังเพชร

ตัวอย่างเช่น คิดหรือไม่ว่า ประเทศเราเป็นทำเลทองคำที่นานาชาติอิจฉา มีอ่าวไทย ที่ได้ชื่อว่า Gulf of Siam ที่มองเห็นได้จากอวกาศ ที่น่าจะเป็นอ่าวทองคำ เป็นท่าเรือนานาชาติ (แทนสิงคโปร์) ถ้ามีความ “กล้า” ที่จะขุดคอคอดกระ ที่ฝันในทุกรัฐบาล มีแผนที่แผนผังขุดคลองตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์ สมัย ร. 4 ร. 5 ร. 6 มาจนถึงทุกรัฐบาลในรัชกาลปัจจุบัน ตั้งแต่คุณปรีดี พนมยงศ์ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จนถึงยุคคิดใหม่ทำใหม่ คุณทักษิณ ชินวัตร “กล้าคิดแต่ไม่กล้าทำ” หรือมี Hidden Agenda กลัวอะไรไม่ทราบ ใช้วิธีทางการค้าซิครับ ย้อนศรไปเลย ได้ๆ ด้วยกัน

ไอเดียที่หนึ่ง ความฝันที่ผมเห็นมานาน ทุกคนพูดถึงแผนการขุดคอคอดกระ (มีรายงานเยอะแยะ) พูดกันมากว่า 50 ปี ร้อยปี ทุกคนก็รู้ว่าคือกรุสมบัติทองคำแห่งชาติที่จะพลิกประเทศไทย แต่เกรงใจประเทศเพื่อนบ้านโดยไม่สมควร (กลัวเขาจะเจ๊งและจน และโดนขู่เรื่องแบ่งแยกดินดินแดน ซึ่งจ้องหาเหตุกันแท้ๆ) เพราะนี่คือแผ่นดินของเรา สมบัติของเรา กลัวทำไม ชาติมหาอำนาจมองตาเป็นมัน อยากและพร้อมจะลงทุนให้ใจจะขาด (จีน ญี่ปุ่น อเมริกา ฝรั่งเศส) แต่เราก็อวดอีโก้ถือครองไว้เฉยๆ อย่างนี้แหละ ไม่รู้จะรออะไร

วันนี้เราเลยเป็นเศรษฐีตกยาก เพราะไม่เพียงแต่ดินแดนสยามอันยิ่งใหญ่ในอดีตจะถูกนักล่าอาณานิคมตัดแบ่งแย่งไปก้อนใหญ่ (ซึ่งวันนี้เราก็ทำใจได้แล้วละ) แต่เราน่าจะพลิกวิกฤตให้กลับเป็นทอง เหมือนหนังสือที่ผมเขียนและกำลังวางตลาดนี่แหละ

นี่คือคิดแบบนักธุรกิจที่มองนอกกรอบนะครับ ถือเป็น Road Map ทางการค้า ที่เป็นความฝันอันยิ่งใหญ่มหาศาลของประเทศไทย เอาแค่เรื่องสองเรื่องนี่แหละ การขุดคอคอดกระ เพื่อสร้างอ่าวไทยให้เป็นอ่าวทองคำ ท่าเทียบเรือทันสมัย ความเจริญอย่างพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินของจังหวัดปักษ์ใต้ให้ร่ำรวยทุกจังหวัด และความคิดเรื่องแบ่งแยกแผ่นดินเรื่องศาสนาก็จะหายไปเอง เพราะความเจริญจะทำให้ทุกคนอยู่ดีกินดีกันทุกคน แม้ ใน 3 จังหวัดภาคใต้ ก็จะกลายเป็นเขตเศรษฐกิจอุตสาหกรรมพิเศษ ที่เป็นแหล่งขุดทองของนักธุรกิจอาเชียนทุกชาติ ไม่ต้องจำกัด กีดกันหรอกครับ ชวนมาลงทุนในเมืองไทยก้นให้เต็มที่เลย เอาความเจริญนี่แหละขับไล่ความจน ถ้านโยบายเราฉลาด กล้าเอาเศรษฐกิจมหภาคระดับโครงสร้างนำจริงๆ แต่ไม่ใช่แค่นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจซบเซาทีละขยัก เช่น นโยบายแจกเงินคนจน มหกรรมลดราคาสินค้าชั่วคราว ฯลฯ แล้วเศรษฐกิจก็กลับไปเหี่ยวเฉาอย่างเก่า ต้องแก้ที่โครงสร้างการตลาดครับ (Marketing Infrastructure) ไม่ใช่แก้ที่โปรโมชันกระตุกสั้นๆ

ผมอยากเห็นอ่าวไทยเป็นดินแดนที่มหาเศรษฐีของโลกมาสร้างบ้าน เอาเรือยอร์ชมาจอด มาอยู่อาศัยมาพักผ่อนบนเกาะอันสวยงามของเรานับพันๆ เกาะ ถ้าผมมีสิทธิเสนอ ผมจะเสนอให้มีการสัมปทานให้เช่าเกาะในราคาแพงมาก เอาเงินเข้าแผ่นดิน เอาเงินไปบำรุงกองทัพเรือพัฒนากองทัพเรือไทยให้อยู่ระดับชาติมหาอำนาจ ให้สัมปทาน 50 ปี 70 ปี แต่ต้องบับคับเนรมิตสิ่งแวดล้อมให้สวยงามถูกหลักนิเวศวิทยา แผ่นดินทองคำของเราเขายกเอาไปไหนไม่ได้หรอกครับ ดีกว่าปล่อยให้รุกล้ำด้วยความยากจนหรือเป็นเหยื่อมาเฟียเศรษฐกิจไทยทุกวันนี้

เศรษฐีคนไหน นักธุรกิจต่างชาติ ใครอยากจะอยู่เมืองไทยนานๆ ผมจะให้วีซ่า หรือ Green Card พิเศษ (Privilege Card) เก็บเงินเข้าแผ่นดิน จะเอาคนละกี่ปี ก็ต้องจ่ายคนละหลายล้านบาท ผมว่ามีคนอยากได้จนตัวสั่น ทั้งจีน เกาหลี ญี่ปุ่น อเมริกัน และยุโรป ฯลฯ ทำเงินเข้าประเทศปีละหลายแสนล้านบาท ไม่ต้องขึ้นภาษีถอนขนห่านเลยไอเดียที่สอง ฝันที่ยิ่งใหญ่ ทองข้ามช็อตไปสิบปีเลย ถ้าจะพลิกประเทศกันให้สุดหล้าฟ้าเขียว ผมว่าไอเดียที่ผมคิดเล่นๆ แต่เอาจริง และเสนอมาตลอด คือ การพลิกสร้างประเทศใหม่ ดินแดนใหม่กลางประเทศไทย คือ การขุดแม่น้ำเจ้าพระยาสายที่สอง ที่ยิ่งใหญ่กว้างกว่า 200 เมตร ยาวกว่า 200 กิโลเมตร จากแม่น้ำ 4 สายปากน้ำโพ บึงบอระเพ็ดแสนไร่ ที่นครสวรรค์ มาออกที่บางประกง สมุทรปราการ กลายเป็นแม่น้ำทองคำ เพราะไม่เพียงแต่จะแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก เอาน้ำดีๆ ไปทิ้ง (Flood Way) แต่ยังจะกลายเป็นการสร้างเขื่อนเก็บน้ำ (แก้มลิง) ที่ยิ่งใหญ่ มีทะเลสาบสวยเป็นรีสอร์ตหรูในทุกจังหวัด

ที่สำคัญคือ สองข้างแม่น้ำกว้างไม่ต่ำกว่าข้างละ 2 –4 กิโลเมตร จะกลายเป็นนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค เมืองธุรกิจ หมู่บ้านทันสมัยยาวเหยียดผ่าน 7 จังหวัด นครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี อยุธยา ปทุมธานี และสมุทรปราการ โดยรัฐบาลเวนคืนแล้วเป็นเจ้าของที่ทั้งหมด แต่ให้สัมปทานภาคเอกชนเช่า 70 – 99 ปี (แบบสิงคโปร์ จีน) ส่วนหนึ่งเช่น นครนายก จะเก็บไว้สัก 3 แสนไร่ สร้างเป็นทะเลสาบกับเมืองราชการทันสมัย คู่กับเมืองการค้า ผมคำนวณเล่นๆ ถ้าเราเวนคืนที่น้ำท่วมซ้ำซาก สัก 1 ล้านไร่ เอาไปขุดแม่น้ำสัก 1 แสนไร่ เอาให้ลึกกว่า 12 เมตร (เรือใหญ่เข้าได้ สร้างท่าเรือคลองเตยใหม่ได้) สร้างเมืองราชการ 3 แสนไร่ ก็จะยังเหลือที่อีก 7 แสนไร่ เอามาหาเงินเข้าประเทศ

ผมคิดคร่าวๆ เราจ่ายค่าเวนคืนเฉลี่ยสูงสุดให้ชาวไร่ชาวนาที่น้ำท่วม สมมติว่าไร่ละ 3 แสนบาท (ชาวนาก็ลืมตาอ้าปากได้ทันที) ก็เป็นเงินแค่ 3 แสนล้านบาท ส่วนที่เหลือ 7 แสนไร่ รัฐก็เอาไปให้เอกชนเช่าทำเมืองไฮเทค ไร่ละ 5 ล้านบาทเป็นอย่างต่ำเพราะเป็นที่ริมแม่น้ำ (ให้เช่า 70 – 99 ปี) รัฐก็จะมีเงิน 3.5 ล้านล้านบาทเข้ากระเป๋าเหนาะๆ เอาไปสร้างรถไฟฟ้า รถใต้ดิน (ในเมืองราชการใหม่) สถานที่ราชการสวยหรู ทำเนียบ ฯลฯ แม่น้ำสายใหม่ สองข้างแม่น้ำคือ คือไฟความเร็วสูง (ยกระดับ) มอเตอร์เวย์ 10 เลน (ยกระดับข้ามจังหวัด) และได้จำนวนดินมหาศาลมาถมสร้างเมืองอุตสาหกรรมไฮเทค (น้ำไม่ท่วม)

สร้างเมืองใหม่ที่มีตึกระฟ้า สายไฟฟ้าโทรศัพท์ลงใต้ดินทั้งเมือง ทุกเมือง เมืองที่ปลอดจากมลพิษ (รถสาธารณะใช้ไฟฟ้าหมด) รถจักรยานยนต์ในเมืองใช้ไฟฟ้าหมด (แบบคุนหมิง จีน) จ้างสถาปนิกระดับโลกมาออกแบบ แบบดูไบ ใช้วิธีประกวดแข่งขันระดับโลก นี่ฝันเล่นๆ นะครับ

ไอเดียที่สาม ความฝันเรื่องรวมชาวแหลมทอง เรื่องง่ายๆ การพลิกแหลมทองให้รวมเป็นชาติเศรษฐกิจที่มีความเป็นหนึ่งเดียวกันครับ เรื่องการปกครองก็ว่ากันไปต่างคนต่างระบบ แต่ผมว่าแค่ไทย ลาว กัมพูชา ที่มีความเหมือนกัน คล้ายกัน ทั้งภาษาวัฒนธรรมนิสัยและหน้าตาเชื่อมกันได้ โดยประเทศไทยเป็นผู้นำช่วยเหลือเกื้อกูลเพื่อนบ้าน ถ้าเราบอกว่า เราจะทำให้รวยด้วยกันนะ อย่าไปดูถูกเขา รักเขา ยกย่องให้เกียรติเขา เราจะกลายเป็นประเทศผู้นำศูนย์กลางแห่งอาเซียน (วงใน 3 ประเทศ) ไม่ต้องคิดไกลไปถึงอาเซียนทั้ง 11 ประเทศหรอกครับ

เอาแค่เรื่องรวมพลังการท่องเที่ยวอย่างเดียว ลาวได้ชื่อว่าเป็นดินแดนรักษาวัฒนธรรมและธรรมชาติที่งดงามระดับโลก ดีกว่าไทย จุดเด่นคือหลวงพระบาง กัมพูชามีนครวัด นครธม ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและสิ่งมหัศจรรย์ระดับโลก ไทยมีวัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวัง และวัดที่งดงามและสถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศไทย แค่คิดปรับปรุงการคมนาคมให้ถึงกันหมด ไม่ว่าจะเป็นรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมจนถึงประเทศจีน ลาว กัมพูชา ไทย สิงคโปร์ แค่นักท่องเที่ยวนับร้อยล้านคนจากเมืองจีนก็มหาศาล ไม่ต้องคิดถึงรายได้ทางเศรษฐกิจการค้า และความเจริญอื่นๆ ที่จะตามมา เพราะอนาคต จีนจะเป็นชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกแทนอเมริกาแน่นอน...ฟันธง

ครับ ไทยมหารัฐ หรือรัฐในอุดมคติตามคำทำนายของบรรดาเกจิอาจารย์ที่ทำนายมานาน เป็นเรื่องจริงเหมือนนิยายแฟนตาซี แต่คนที่ทำได้คือ ถ้าได้ผู้นำหรือวีรบุรุษชาติที่กล้าคิดนอกกรอบแบบสาธารณรัฐเอมิเรตส์ เมืองดูไบที่พลิกทะเลทรายไร้ค่ากลายเป็นเมืองทองคำ จากแขกมอมแมมขี่อูฐ โดนฝรั่งข่มขี่ขูดรีบกอบโกยน้ำมันจนรวย จนเกิดเรื่องราวแบบหนัง “Lawrence of Arabia” ฝรั่งอังกฤษที่สงสารแขกและมาช่วยจนเป็นขวัญใจแขก แต่วันนี้ดินแดนตะวันออกกลางคือดินแดนทองคำรวยยิ่งกว่าเมืองฝรั่งชนิดถ่านกลายเป็นทอง

ครับ ผมก็คิดเล่นเป็นตุเป็นตะ เผื่อว่าจะไปกระตุกต่อมจิตสำนึกให้เกิดวีรบุรุษไทยซึ่งรอกันมานานเหลือเกิน เพราะผมแค่คิดเล่นทางการค้า เราจะไปเสียเงินให้ต่างชาติร่ำรวยทำไม คิดแต่จะจ้างเขา ใช้เงิน ซื้อรถไฟเขา ใช้เงินเป็นล้านล้านบาท ทำไมไม่คิดหาเงินเข้าประเทศ ทำประเทศไทยให้มีนักท่องเที่ยวถึงร้อยล้านคน สร้างเมืองใหม่ในฝัน 7 เมืองกลางประเทศไทย สวยหรู ทันสมัย แค่ 10 ปีก็ได้เห็น นี่แหละ Vision of Thailand 2025 “เล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ ทำ” ตามแนว Donald Trump

ที่สำคัญคือ แก้ปัญหาน้ำท่วมอภิมหาอลังการที่ดังไปทั่วโลก และวันนี้ลืมแล้ว สร้างเมืองราชการใหม่สวยหรูแทนกรุงเทพฯ (ทำกรุงเทพฯ ให้เล็กลง) มีระบบเก็บน้ำยุคใหม่ ไม่ต้องสร้างเขื่อน ใช้ระบายน้ำท่วม (หน้าฝน) ใช้เก็บน้ำเพื่อชลประทานหน้าแล้ง เป็นเส้นทางขนส่งสมัยใหม่ที่ถูกที่สุด ได้ท่าเรือกรุงเทพฯ ใหม่ ได้ระบบคมนาคมใหม่ (รถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่) ทั้งหมดนี้ ไม่ต้องควักสตางค์เลย แถมได้เงินเข้าประเทศอีกต่างหาก นี่ละครับ เขาถึงเรียกว่า “Think Different” คิดแหวกโลก คิดนอกกรอบแบบ Steve Jobs ไม่ใช่คิดแบบคนรวยที่อยู่ใน Comfort Zone รวยสบายจนชินชา

ยิ่งไปกว่านั้น เป็นการแก้ปัญหาเรื่องข้าวไทยขายถูก นอกจากชาวไร่ชาวนาส่วนหนึ่งจะได้ค่าเวนคืนแบบราคาสูง หายจน และไม่ต้องทำอาชีพทำนาที่ยากจนอีกต่อไป เนื้อที่ปลูกข้าว ก็จะหายไป 1 ล้านไร่ ทำให้ผลผลิตของไทยลดลง ไม่ต้องมีข้าวเหลือไปขายถูกๆ อีกต่อไป (อาชีพยากจนซ้ำซากตลอดชาติ) ถือเป็นยุทธศาสตร์ De-marketing ลด Supply เพื่อปรับราคา (และยกคุณภาพ) เลิกการจำนำกับการประกันราคาข้าว ซึ่งผิดปกติการค้าทั้งสองวิธี แต่ถ้าจะเก่งยิ่งกว่านั้น ชาติไหนใครอยากได้โครงการขุดแม่น้ำ ใครอยากขายรถไฟความเร็วสูง ก็บังคับให้ซื้อข้าวไทยในราคาที่เราอยากให้ชาวนาอยู่ได้ ถือเป็นการ Barter กัน (บังคับซื้อล่วงหน้าสัก 10 ปีก็พอ) ข้าวไทยก็จะไม่เหลือและได้ราคาดีอย่างน้อยอีก 10 ปี นโยบายนี้ใช้กับสินค้าเกษตรได้อีกหลายตัว เช่น ยางพารา เป็นต้น

ครับ อีก 10 ปี ถ้าใครอยากเห็นประเทศไทยเป็นประเทศไทยมหารัฐ ก็ลองเอาไปคิดดูเล่นๆ ว่าทำได้จริงหรือไม่ กล้าจริงหรือไม่ อยากเป็นวีรบุรุษ เอกบุรุษ มหาบุรุษ ที่มีชื่อในประวัติศาสตร์หรือไม่ อันนี้ผมก็มิกล้าหรือบังอาจไปวิพากษ์วิจารณ์ แต่ถ้าใครกล้าคิดกล้าทำ “Big Idea” คิดนอกกรอบเอาให้เห็นหน้าเห็นหลังเลย ผมจะยกมือท่วมหัวภาวนาให้เป็นรัฐบาลยาวติดต่อ 10 ปี ไม่ต้องมีเลือกตั้งก็ได้ เพราะให้เขียนรัฐธรรมนูญยังไง มันก็อีหรอบเก่าๆ เพราะ Satan never sleeps รอจ้องอยู่

ถือว่าเป็นแค่จิตวิญญาณนักคิดนักฝันของนักการตลาดเล็กๆ คนหนึ่งก็ได้ครับ การไม่ได้มีตำแหน่งอะไร ไม่มีหัวโขน ไม่มีอำนาจอะไรก็ดีเหมือนกัน การเป็นคนดูก็เลยคิดเล่นไปได้เรื่อยๆ ซำบายดี แต่ก็อยากเห็นเป็นความจริงนะครับ ไม่เอาก็ไม่ว่ากัน เพราะผมก็อยู่ใน Comfort Zone แล้วเหมือนกัลล์... ”

กำลังโหลดความคิดเห็น