"บิ๊กตู่"ยึดเวทีเด็กวกการเมือง ซัดม็อบยาง-โวยสื่อ ระทึก!ต้นไม้ล้มฟาดใส่ขบวนรถ

ASTVผู้จัดการรายวัน-"บิ๊กตู่"ใช้เวทีเด็กวกเรื่องการเมือง ซัดมีคนปลุกระดมม็อบยาง ย้ำลดราคาน้ำมันเน้นๆ ตามตลาดโลกไม่ได้ ส่วนการปฏิรูปประเทศต้องใช้เวลา โวยสื่อยังมีเลือกข้างจ้องถล่มรัฐบาล วอนขอให้ช่วยกันดีกว่า ระทึก! ต้นไม้ข้างทางล้มฟาดใส่ขบวนรถ ทหารฟาดเคราะห์เจ็บแทน 2 นาย ยันไม่มีแนวคิดยกเลิกธนบัตร ขออย่าเชื่อพวกโซเซียลทุบหุ้น "บิ๊กป้อม"ขู่ลากคอพวกผิด ม.112 ตำรวจเผยแก๊งทุบหุ้นพวกเดียวกับแก๊งหมิ่น ด้านแกนนำยางโพสต์อัดนายกฯ 2 มาตรฐานปากหวานก้นเปรี้ยว

เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลอง ถนนสุขุมวิท เขตคลองเตย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดงาน "คืนความสุขให้เธอ...เยาวชน" โดยมี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะผู้บริหารระดับสูง ตลอดจนคณะครูนักเรียนเข้าร่วมงาน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า รัฐบาลเห็นว่าเด็กและเยาวชนในวันนี้จะมีบทบาทต่อไปในอนาคต เป็นส่วนในการพัฒนาสังคมให้ดีขึ้น รวมทั้งวิทยาศาสตร์เป็นปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนพัฒนาประเทศ และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งประเทศเดินหน้าได้ช้า เพราะขาดแคลนบุคลากรทางด้านวิทยาศาสตร์ ต้องให้เด็กเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ต้องทำให้เด็กเกิดกระบวนการคิด ต้องมีการแก้ไข ถ้าเราปูพื้นฐานดี จะสามารถต่อยอดได้ ต้องสอนให้คนใฝ่ดี นอกจากนั้นการเรียนการสอนควรปรับให้เหมาะกับความสามารถ ความชอบ ความถนัด ของบุคคล จัดเป็นการเรียนเฉพาะทาง ส่งเสริมให้โดดเด่น

ทั้งนี้ การศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของเยาวชน จึงเป็นพื้นฐานพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้ายั่งยืน โดยทุกอย่างจะต้องเดินหน้าไปพร้อมกัน ทั้งวิทยาศาสตร์และการรักษาสิ่งแวดล้อม ขอให้สอนวิทยาศาสตร์กับคำนวณให้สนุก ความชอบของแต่ละคนเปลี่ยนไปตามวัย แต่ขอให้อยากเป็นในสิ่งที่ดีขึ้น

ส่วนในเรื่องของคำขวัญวันเด็ก ตนมีเจตนาให้เด็กเป็นคนดี ไม่ได้ไปลอกเลียนแบบใครมา

***เผยมีคนปลุกระดมม็อบยางพารา

หลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวถึงปัญหาราคายางพาราตกต่ำว่า วันนี้มีการเรียกร้องที่จะให้มีการปรับขึ้น เกษตรกรเขาไม่รู้เรื่อง มีแต่คนไปปลุกระดม สร้างความเข้าใจผิดมาตลอด อย่างราคาน้ำมันดิบที่ตอนนี้ ลดลงประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ต่อบาเรล แต่จะให้เราลดราคาน้ำมันที่ผ่านการกลั่นแล้ว ให้เท่ากับราคาน้ำมันดิบที่ลดไม่ได้ เพราะมีปัจจัยต่างๆ อีกมาก ขอร้องอย่าเอาทั้งหมดมาพันกัน หรือถ้าจะทำง่ายๆ ให้หาเงินมาอุดหนุนแบบเก่าก็ทำได้ แต่สถานการณ์ปัจจุบันประเทศทั่วโลกยกเลิกการทำแบบนี้หมดแล้ว สิ่งที่ควรคิดคือการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ มาแข่งขันกัน ที่ผ่านมา หลายรัฐบาลไม่คิด มัวแต่ประท้วง และกลัวเสียคะแนนเสียง แม้แต่การขึ้นทะเบียนชาวนาก็ยังทำไม่ได้ทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ ที่จ่ายช้า เพราะจ่ายไม่ได้ เนื่องจากการขึ้นทะเบียนไม่ครบ กว่าจะไล่ให้หมดก็ช้า แต่ถ้าทำแบบเร็ว ก็จะเกิดการโกง ความจริงคนเป็นนายกรัฐมนตรีควรพูดให้น้อย จะได้ไม่โดนด่า แต่ที่ตนพูดมากเพื่อสร้างความเข้าใจ คนไทยต้องแยกแยะสิ่งต่างๆ ให้ได้

***ยันการปฏิรูปประเทศต้องใช้เวลา

สำหรับการจะปฏิรูปประเทศต้องใช้ระยะเวลา ไม่ง่ายในการจะแก้ทุกอย่างในเวลาเดียวกัน คนเราไม่ค่อยยอมรับความเปลี่ยนแปลง ขอให้เข้าใจในการทำงานของตน ซึ่งทำงานมา 6 เดือนแล้ว แต่ละคนแก่ขึ้นเพราะเครียด จริงๆ หนุ่มกว่านี้ ทุกอย่างที่กำลังทำต้องใช้เวลา เพราะต้องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งแต่เดิมมีกฎหมายที่ค้างไม่ได้ออก 300-400 ฉบับ ซึ่งรัฐบาลกำลังแก้ไขให้ดีขึ้นตามกระบวนการ วันนี้เราต้องลดความเลื่อมล้ำทางได้จิตใจ ไม่ใช่จะเอารถไฟรางคู่ รถไฟฟ้าจะเอาเงินจากที่ไหน ทุกอย่างจะเอาหมด แต่เก็บภาษีไม่ได้ ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมใช้อำนาจเพื่อทำให้ประเทศชาติมีความปลอดภัย อย่ามัวแต่เลือกข้างโน้นข้างนี้กันอยู่ ติติงรัฐบาล ตอนนี้กำลังทำงานกันอยู่นะ เราต้องมาช่วยกัน ท่านชอบใครตนไม่ว่า แต่อย่ามาเป็นศัตรูกัน ความจริงแล้วตนอยากพูดน้อย เพราะพูดน้อยก็โดนด่าน้อย แต่เรากำลังเดินหน้าประเทศอยู่ต้องใช้เวลา

"ผมไม่อยากจะก้าวล่วงว่า ที่ผ่านมา พลาดตรงไหน แต่เมื่อผมเข้ามาต้องการเริ่มต้นใหม่ อย่าเอาไปเทียบกับเรื่องที่ผ่านมาแล้ว ทุกอย่างต้องใช้เวลาและมีขั้นตอน ขอร้องว่าอย่าเอาสถานการณ์วันนี้ ไปเปรียบเทียบกับสถานการณ์เมื่อ 6 เดือนก่อน เพราะหากปล่อยให้สถานการณ์เป็นเหมือนเดิม วันนี้คงไม่มีเงินเดือนจ่าย ต้องยอมรับว่าทุกอย่างเป็นเรื่องที่ยาก แต่ก็ต้องทำ แต่ก็ยังมีสื่อหนังสือพิมพ์บางฉบับ จะเอานี้ เอาโน้น ซึ่งผมเข้าใจในหน้าที่ของพวกท่าน แต่หลายสื่อจะแบ่งคนเป็นข้างนี้หรือข้างนั้นไม่ได้ มาคอยติติงรัฐบาล เรากำลังจะทำ และจะแก้เพื่อส่วนรวมก็มาคอยจ้องเล่นงาน จะรักชอบใครผมไม่ว่า แต่เราเป็นศัตรูกันไม่ได้ วันนี้หนังสือพิมพ์หลายฉบับก็ยังเลือกข้างอยู่เหมือนเดิม ผมพูดก็โกรธ แต่ก็ทำเหมือนอยากให้ประเทศรบกันอยู่เช่นเดิม ขอให้ทุกคนยึดประเทศชาติเป็นหลัก แต่ก็คงบังคับกันไม่ได้ แต่ก็อยากให้ช่วยกัน"พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายกฯ กล่าวเปิดงานเสร็จ ได้เดิมชมนิทรรศการภายในงาน โดยได้มีการพูดกับนักเรียนที่มาต้อนรับว่า “ใครอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์บ้าง เป็นนักวิทยาศาสตร์เงินดีนะ ประเทศต้องการนักคิดนักเยอะๆ จะได้แข่งขันกับต่างชาติได้”

***เสียววูบ! ต้นไม้ล้มฟาดใส่ขบวนรถ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.50 น. ขณะที่ขบวนรถของนายกรัฐมนตรีได้ออกจากท้องฟ้าจำลองและเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสุขุมวิท (สุขุมวิท 40) ขาเข้าบริเวณหน้าโรงเรียนปทุมคงคา เกิดเหตุกิ่งต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ หรือต้นตาเบบูญ่าขนาดใหญ่ เส้นผ่ายศูนย์กลางประมาณ 1 ฟุต ที่ปลูกอยู่บริเวณทางเท้าได้หักลงมาฟาดเข้าขบวนรถของพล.อ.ประยุทธ์ โดยเฉียดรถเบนซ์ทะเบียน ญค 1881 กรุงเทพมหานคร เพียงเล็กน้อย แต่ฟาดเข้ากับรถมอร์เตอร์ไซต์คาวาซากิ สีดำ ซึ่งเป็นรถของทีมรักษาความปลอดภัย ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ทหารจากพรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21) จำนวน 2 นาย ซึ่งขี่ประกบข้างรถนายกรัฐมนตรีอย่างแรง รถไถลไปประมาณ 10 เมตร ทำให้คนขับได้รับบาดเจ็บที่ข้อมือขวา ส่วนคนซ้อนได้รับบาดเจ็บที่สะโพกด้านขวา ส่วนรถเบนซ์ของนายกรัฐมนตรีมีเศษกิ่งไม้กระเด็นไปถูกประตูด้านซ้าย มีรอยเพียงเล็กน้อย

ในช่วงที่เกิดเหตุ พล.อ.ประยุทธ์ ได้สั่งรถชะลอและสอบถามถึงอาการบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่ทหารทั้ง 2 นาย เมื่อได้รับทราบว่าไม่ได้รับบาดเจ็บมาก จึงได้เคลื่อนขบวนรถ เพื่อกลับมาปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในเวลา 10.30 น. และได้สั่งการให้หัวหน้าชุดรักษาความปลอดภัยดูแลเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 นาย รวมทั้งเมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางถึงทำเนียบรัฐบาล ได้แสดงความเป็นห่วงพร้อมสอบถามทีมรักษาความปลอดภัยด้วยว่ามีใครเป็นอะไรมากหรือไม่และสั่งการให้ดูแลเป็นอย่างดี

ทั้งนี้ เมื่อขบวนรถของนายกรัฐมนตรีได้เคลื่อนออกไป เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้นำผู้บาดเจ็บทั้ง 2 นายส่งโรงพยาบาลทันที พร้อมสั่งการไม่ให้มีการให้ข้อมูลใดๆ กับสื่อมวลชน และไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ โดยแจ้งว่ามีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

***หัวหน้าทีมรปภ.บอกเป็นแค่อุบัติเหตุ

ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ระทึกขวัญกับขบวนรถของนายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ สน.ทองหล่อ ได้เร่งประสานกับเจ้าหน้าที่รักษาความสะอาดของกรุงเทพมหานครเข้าเคลียร์พื้นที่ เพื่อตัดกิ่งไม้ที่เกิดเหตุ หลังจากที่มีการเก็บหลักฐานทั้งหมด โดยมีพ.อ.อมฤต บุญสุยา รองผบ.รอ.21 หัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรีร่วมตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ โดยยืนยันว่าเป็นเรื่องอุบัติเหตุ ไม่ใช่การกระทำของมนุษย์หรือการลอบปองร้ายแต่อย่างใด

***"บิ๊กตู่"ยืนยันไม่มีแนวคิดยกเลิกธนบัตร

วันเดียวกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวถึงกระแสข่าวลือในตลาดหุ้นว่ารัฐบาลจะยกเลิกธนบัตร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งทำให้หุ้นตก ว่า ใครคนสั่ง มันง่ายนักหรือไง การยกเลิกธนบัตร ยืนยันว่าไม่เคยมีความคิด เรื่องอื่นมีเยอะแยะ แต่ถ้าทำนั้นทำได้ แต่ไม่ใช่เรื่อง ไม่ใช่เวลาที่จะมาทำ ส่วนข่าวที่มีขบวนการปั่นหุ้น ต้องการทุบให้หุ้นตก เพื่อที่จะช้อนซื้อเก็งกำไรนั้น วันนี้ยังไม่มีรายงานเรื่องนี้ แต่พฤติกรรมการปั่นหุ้นแบบนี้ มีเมื่อตอนปี 2551 เรื่องหุ้นตกเป็นเรื่องธรรมดา หุ้นจะขึ้นทุกวันได้อย่างไร

"เมื่อวันที่หุ้นตก เพราะมีข่าวลือโน่นนี่ ลือพระอาการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่เมื่อมีแถลงการณ์ออกมาแล้ว ก็จบ พวกนี้ลือส่งเดช มันไม่ได้ เรื่องอะไรที่ไม่เกี่ยว ทำไมจะต้องแบบนี้"

เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่ว่า สิ่งที่รัฐบาลกำลังวางไว้ แต่รัฐบาลใหม่มา ก็ปรับใหม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ห่วง ตนคิดเอาไว้แล้วว่าจะวางมาตรการต่างๆ ที่จะทำให้การปฏิรูปเหล่านี้ต่อเนื่องไปให้ได้ เมื่อตนออกไปจะต้องมีกลไกในการรักษาสิ่งเหล่านี้ ก็ต้องอยู่ในกฎหมาย อยู่ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งกำลังพิจารณากันอยู่ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้น ก็ทำมาหนึ่งปี ปีหน้าก็กลับมาใหม่ มันไม่ได้ อย่างน้อยต้องระยะหนึ่ง เพื่อปฏิรูปที่เหลือให้จบ และวันหน้าอาจจะดีขึ้นก็ได้ วันนี้รัฐบาลเข้ามารื้อใหม่หมด แต่ทุกอย่างไม่ได้ทำวันเดียวเสร็จ เป็นการแก้ระยะสั้น ระยะยาว โดยมีการตรวจสอบความโปร่งใส ถ้าไม่ใช่รัฐบาลนี้ ไม่มีใครกล้าทำ เพราะถ้าทำไปจะเสียคะแนนเสียง และเอื้อประโยชน์ให้พวกเดียวกันไม่ได้ ตนตัดใหม่หมดวางแผนไปถึงปี 2565

เมื่อถามว่า อธิบดีกระทรวงการคลังออกมาบอกว่า เรื่องหุ้นตกมี ไอ้โม่งปั่นหุ้น นายกฯ กล่าวว่า จะโง่ฟังเขาทำไม ตัวเองต้องประเมินเอง ถ้าเกี่ยวกับเรื่องอะไรที่สำคัญ เขาจะมีแถลงการณ์ วันนี้มีการปั่นหัวด้วยโซเซียลมีเดีย

**ยันเอาจริงพวกผิด ม.112

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการติดตามตัวผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่หลบหนีอยู่ต่างประเทศ โดยเฉพาะกรณี นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งออกมาโพสต์เฟซบุ๊กเยาะเย้ยรัฐบาลว่า เราทำตามกฎหมาย ซึ่งต้องทำเรื่องไป แต่ต้องดูกฎหมายแต่ละประเทศก่อน เพราะกฎหมายแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน ซึ่งจะติดตามดู จะทำทั้งหมด และทำตามขั้นตอนการประสานติดตามตัวทุกอย่าง ไม่ต้องกลัว ใช้ทั้งอัยการต่างประเทศและตำรวจ เราต้องการตัวผู้ที่กระทำผิดกฎหมายทั้งหมด ส่วนกรณีใดเป็นเรื่องระหว่างประเทศจำเป็นต้องเชิญตัวมาจะต้องประสานขอตัวประเทศนั้นไป ยืนยันทำทุกประเทศ แต่คนเหล่านี้หนีไปไหน ตนไม่ทราบ เพราะมีจำนวนมาก

เมื่อถามว่า กรณีประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เชื่อมโยงกับสถานการณ์ที่ตลาดหุ้นตกอยู่ขณะนี้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า พยายามโยง กำลังตรวจสอบ ขอเวลาหน่อย เพราะข่าวลือ คือ ข่าวลือ ขอร้องว่าอย่าไปทำ ดังนั้น คนหนึ่งต้องอย่าปล่อยข่าวลือ และอีกคนหนึ่งต้องอย่าไปเชื่อข่าวลือ แค่นั้นก็จบ โดยจะให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบดู

เมื่อถามอีกว่า ที่ระบุว่าจะตามตัวผู้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แต่ความผิดอื่น อย่างกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะติดตามตัวด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เขาทำกันทั้งหมดอยู่แล้ว

***ยันไม่พบใช้ ม.112 กลั่นแกล้งคน

พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวว่า ได้ติดตามการข่าว และยอมรับว่า มีคนละเมิดกฎหมายมาตรา 112 ถือว่าเป็นสิ่งกังวลใจของนายกรัฐมนตรี โดยทางกองทัพได้ติดตามเรื่องดังกล่าว และประสานงานกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง แต่ยังไม่เคยเห็นว่ามีการใช้กฎหมายดังกล่าวมากลั่นแกล้งใคร ซึ่งการใช้กฎหมาย จะใช้ตามความจำเป็น เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์บานปลาย โดยสิ่งที่มีความสงบเรียบร้อย สิ่งที่เรารักหวงแหน บางคนไม่เข้าใจ เราก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ได้ดำเนินการนอกกฎหมายเลย

*** จี้รัฐบาล-คลังจัดการแก๊งทุบหุ้น

นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวว่า ปรากฎการณ์ที่เกิดกับตลาดหลักทรัพย์เมื่อช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา คงเป็นไปตามที่ นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ระบุว่า มีไอ้โม่งทำให้หุ้นตก เพื่อช้อนซื้อในราคาต่ำ หรือภาษาในวงการเรียกว่าการทุบหุ้น แต่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นในช่วงรัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศ เพราะเมื่อช่วงเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ก็เกิดมีการทุบหุ้นในลักษณะเช่นนี้มาแล้ว จึงอยากถามว่า เหตุใดรัฐบาล และกระทรวงคลัง จึงปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ที่สำคัญเป็นมาตลอดทุกรัฐบาล รวมทั้งผู้บริหารกระทรวงการคลัง และ ตลท. ที่ปล่อยปละละเลยให้เกิดการแสวงหาผลประโยชน์อย่างไม่ถูกต้องเช่นนี้ ซึ่งผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนก็หนีไม่พ้นบรรดานักลงทุนรายย่อยที่ถูกรังแกอย่างไม่เป็นธรรม

** แก๊งทุบหุ้นพวกเดียวกับแก๊งหมิ่นฯ

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผช.ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่มีการปล่อยข่าวลือในตลาดหลักทรัพย์จนทำให้หุ้นตก ว่า หากพบมีการกระทำผิดปล่อยข่าวลือจริง ตำรวจสามารถดำเนินคดีตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ได้ และพบว่าเบื้องต้นการปล่อยข่าว ไม่ได้ทำเป็นขบวนการ แต่พบว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ที่กระทำผิดตาม มาตรา 112 ส่วนจะเป็นกลุ่มเดียวกับที่เคยปล่อยข่าวลือในลักษณะนี้มาแล้วเมื่อปี 2552 หรือไม่นั้น ยังไม่สามารถยืนยันได้

***อัด"บิ๊กตู่"แก้ยาง2มาตรฐาน

นายสุนทร รักษ์รงค์ แกนนำแนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยาง ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อว่า “สุนทร รักษ์รงค์” วิจารณ์การทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ ถึงความจริงใจในการแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำในพื้นที่ภาคใต้ ว่า ต่อหน้าท่านประยุทธ์ ทำปากหวาน อ้อนอยากพูดคุยกับแกนนำชาวสวนยางในภาคใต้ เพื่อขอความเห็นใจในการทำงานแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ แต่ในทางกลับกันกลับให้ทหาร เรียกตัวแกนนำแนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยางไปปรับทัศนคติ จากกรณีที่ไปยื่นหนังสือถึงนายกฯ ผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัด เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา

จากนั้นได้มีข้อความตอนหนึ่งแสดงการเปรียบเปรยถึงการปฏิบัติหน้าที่อย่าง 2 มาตรฐานของทหาร เนื่องจากมีการเรียกฝ่ายที่ยื่นหนังสือแสดงความไม่เห็นด้วยต่อแนวทางการแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำของรัฐบาลไปปรับทัศนคติ แต่กลับไม่เรียก นายมนูญ อุปลา ซึ่งถือว่า เป็นผู้สนับสนุนแนวทางการแก้ไขปัญหายางพาราของของรัฐบาลไปปรับทัศนคติบ้าง

***“อำนวย”โว สิ้นปีราคายางแตะ 60 แน่

นายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีอาจมีการปลุกระดมให้เกิดความเข้าใจผิด และเคลื่อนไหวเรียกร้องเรื่องราคายางพาราว่า ในแต่ละเวทีที่เกี่ยวกับเรื่องยาง มีตัวแทนเกษตรกรเข้าไปร่วมทั้งหมดในการแก้ปัญหาในทุกระยะอยู่แล้ว ขณะที่ตนเองพร้อมจะลงพื้นที่ไปพบกับเกษตรกรด้วยตัวเองหากมีการประสานมา โดยรัฐบาลตั้งเป้าราคายางไว้ที่กก.ละ 60 บาท แต่ขณะนี้ราคายางขยับขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้ และถึงราคาที่เราตั้งไว้ภายในสิ้นปีนี้แน่นอน