ผบช.น.สั่งเร่งสรุปสำนวนคดีแอบอ้างเบื้องสูง ทั้งกรณีประมูลเครื่องเสวย แอบ้างเพื่อการสอบที่นิด้า รวมทั้งกรณีส่วยน้ำมันเถื่อน เพื่อรายงานความคืบหน้าในวันนี้
วานนี้ (14 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รอง ผบช.น. ในฐานะดูแลงานกฎหมายและคดี พร้อมด้วยพ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง รอง ผบก.น.5 เรียกพนักงานสอบสวน สน.สามเสน เพื่อติดตามความคืบหน้า เร่งรัดสำนวนคดีพฤติกรรมแอบอ้างเบื้องสูง ในนามคณะบุคคลน้ำทิพย์ อยู่ที่ 2/3 ม.9 ถนนทวีวัฒนา แขวงและเขตทวีวัฒนา กทม. ได้ประมูลขายน้ำพริกประเภทต่างๆ โดยนางสุดาทิพย์ ม่วงนวล อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 10 ธ.ค.57 ร่วมกับ น.ส.ปาลิดา หลักเฉลิมพร อายุ 25 ปี มีรายได้ประมาณ 6-7 แสนบาทต่อเดือน และแอบอ้างเบื้องสูงได้ประมูลเครื่องเสวยในนามคณะบุคคลปณสุ ขายผักสด และผักต้ม ส่งที่วังอัมพร และวังศุโขทัย โดยมี นางสุดาทิพย์ และน.ส.ปาลิดา เกี่ยวข้อง รายได้ประมาณ 3-4 แสนบาทต่อเดือน ภายหลังดำเนินคดีกับนางสุดาทิพย์ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มีรายงานระบุว่า ทางพนักงานสอบสวน สน.สามเสน ทำการตรวจสอบข้อมูลความเชื่อมโยงของ น.ส.ปาลิดา ว่ามีความเชื่อมโยงกับเครือญาติกับนางสุดาทิพย์ หรือไม่ ภายหลังจากที่ทำการสอบปากคำนางสุดาทิพย์แล้ว ยืนยันว่าน.ส.ปาลิดา ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีการจัดตั้งคณะบุคคลดังกล่าวขึ้น เพื่อประมูลเครื่องเสวย และขายผักสด ผักต้ม แต่อย่างใด ซึ่งจากการตรวจสอบยืนยันว่าน.ส.ปาลิดา เป็นภรรยาของ นายสิทธิศักดิ์ หรือ ปื๊ด สุวะดี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ จึงยืนยันได้ว่าเป็นเครือญาติกัน
อย่างไรก็ตาม ทางคณะพนักงานสอบสวน สน.สามเสน จะออกหมายเรียกน.ส.ปาลิดา เข้าให้ปากคำว่า เกี่ยวข้องอย่างไร ในการตั้งคณะบุคคลดังกล่าว ภายหลังการประชุมคณะพนักงานสอบสวนในการตรวจสอบหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในวันที่ 15 ธ.ค. ที่ บช.น.ต่อไป
ส่วนกรณีคดีขออายัดตัวผู้ต้องหา 2 ราย ข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาทดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตามความผิด มาตรา 112 โดยมีผู้ร่วมกระทำผิด 2 ราย ทราบชื่อคือนายชากานต์ หรือ ยูริ ภาคภูมิ อายุ 34 ปี และนายณัฐพล หรือ กอล์ฟ สุวะดี อายุ 29 ปี โดยนายชากานต์ ทำหนังสือทั้งหมด 3 ฉบับ ลงชื่อโดยนายณัฐพล มายื่นที่คณะที่ศึกษาอยู่ แจ้งว่าตนเองมีภารกิจติดตามดูแลบุคคลสำคัญ ทำให้การยื่นหนังสือได้สิทธิ์จากทาง สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ในการเข้าสอบไม่ต้องตกในวิชาที่เข้าเรียนนั้น ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว ยังอยู่ระหว่างการสรุปสำนวนคดีดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า นายณัฐพล มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ เพราะการดำเนินการดังกล่าวถึงแม้ว่า นายชากานต์ จะเป็นผู้ให้การรับสารภาพแล้ว แต่ยังคงต้องการตรวจสอบหลักฐานว่า มีการสมยอมให้นายชากานต์ ให้ใช้ชื่อของตนเองมาแอบอ้างในการกระทำผิดดังกล่าวหรือไม่ ส่วนลายมือที่เซ็นชื่อนั้น ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ ทาง สน.ลาดพร้าว จะรายงานผลการสรุปให้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ ทราบอีกครั้ง ในวันที่ 15 ธ.ค.
สำหรับกรณีชุดพนักงานสอบสวนตรวจสอบกรณีส่วยน้ำมันเถื่อน เตรียมเรียก พ.ต.อ. สังกัดกองบังคับการตำรวจน้ำ บช.ก. มาสอบปากคำ กรณีนายณรงค์กรณ์ หรือโจ เจียรเสริมสิน อายุ 41 ปี น้องชายเสี่ยโจ้ นายสหชัย เจียรเสริมสิน ผู้ต้องหาหนีคดีปลอมแปลงเอกสาร และพัวพันจ่ายส่วยน้ำมันเถื่อน ตำรวจตามล่าตัวจนมีการตั้งรางวัลนำจับไว้ 1 ล้านบาท เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมให้พี่ชาย ว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตามที่กล่าวหา รวมทั้งนำหลักฐานสำเนาการโอนเงินของธนาคารแห่งหนึ่ง ฉบับลงวันที่ 21 พ.ย.51 และวันที่ 23 ก.ย.52 และสลิปเอทีเอ็ม ลงวันที่ 27 ม.ค.55 รวมเป็นเงิน 110,000 บาทนั้น
มีรายงานข่าวระบุว่า เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบหลักฐานเพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดทั้งหมด ทั้งข้อมูลการโอนเงินทั้งหมด ก่อนนำผลสรุปรายงานให้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ ในวันที่ 15 ธ.ค. เพื่อสั่งการให้มีการนัดสอบปากคำ พ.ต.อ. สังกัดตำรวจน้ำเพิ่มเติม และนายณรงค์กรณ์ น้องชายนายสหชัย อีกครั้ง เพื่อซักถามในประเด็นที่เกี่ยวข้องกรณีความเชื่อมโยงกับนายสหชัยอย่างไร และมีความผิดจริงตามที่ปรากฏในข้อมูลการร้องเรียนหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเครือข่ายของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. ให้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ ประกอบด้วย พนักงานสืบสวนของกองบังคับการกองปราบปราม (บก.ป.) ร่วมด้วย มีทั้งหมดเป็นสำนวนคดีหลัก 5 สำนวน คือ สำนวนคดีทุจริตแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ สำนวนคดีการรับส่วยน้ำมันเถื่อน สำนวนคดีการบุกรุกป่าไม้ สำนวนคดีบ่อนการพนัน และสำนวนคดีการฟอกเงิน โดยทุกสำนวนคดี มีข้อหาการเรียกรับสินบน และข้อหาความผิดตาม มาตรา 112 หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เชื่อมโยงอยู่ในการกระทำความผิดดังกล่าว.
วานนี้ (14 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รอง ผบช.น. ในฐานะดูแลงานกฎหมายและคดี พร้อมด้วยพ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง รอง ผบก.น.5 เรียกพนักงานสอบสวน สน.สามเสน เพื่อติดตามความคืบหน้า เร่งรัดสำนวนคดีพฤติกรรมแอบอ้างเบื้องสูง ในนามคณะบุคคลน้ำทิพย์ อยู่ที่ 2/3 ม.9 ถนนทวีวัฒนา แขวงและเขตทวีวัฒนา กทม. ได้ประมูลขายน้ำพริกประเภทต่างๆ โดยนางสุดาทิพย์ ม่วงนวล อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 10 ธ.ค.57 ร่วมกับ น.ส.ปาลิดา หลักเฉลิมพร อายุ 25 ปี มีรายได้ประมาณ 6-7 แสนบาทต่อเดือน และแอบอ้างเบื้องสูงได้ประมูลเครื่องเสวยในนามคณะบุคคลปณสุ ขายผักสด และผักต้ม ส่งที่วังอัมพร และวังศุโขทัย โดยมี นางสุดาทิพย์ และน.ส.ปาลิดา เกี่ยวข้อง รายได้ประมาณ 3-4 แสนบาทต่อเดือน ภายหลังดำเนินคดีกับนางสุดาทิพย์ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มีรายงานระบุว่า ทางพนักงานสอบสวน สน.สามเสน ทำการตรวจสอบข้อมูลความเชื่อมโยงของ น.ส.ปาลิดา ว่ามีความเชื่อมโยงกับเครือญาติกับนางสุดาทิพย์ หรือไม่ ภายหลังจากที่ทำการสอบปากคำนางสุดาทิพย์แล้ว ยืนยันว่าน.ส.ปาลิดา ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีการจัดตั้งคณะบุคคลดังกล่าวขึ้น เพื่อประมูลเครื่องเสวย และขายผักสด ผักต้ม แต่อย่างใด ซึ่งจากการตรวจสอบยืนยันว่าน.ส.ปาลิดา เป็นภรรยาของ นายสิทธิศักดิ์ หรือ ปื๊ด สุวะดี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ จึงยืนยันได้ว่าเป็นเครือญาติกัน
อย่างไรก็ตาม ทางคณะพนักงานสอบสวน สน.สามเสน จะออกหมายเรียกน.ส.ปาลิดา เข้าให้ปากคำว่า เกี่ยวข้องอย่างไร ในการตั้งคณะบุคคลดังกล่าว ภายหลังการประชุมคณะพนักงานสอบสวนในการตรวจสอบหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในวันที่ 15 ธ.ค. ที่ บช.น.ต่อไป
ส่วนกรณีคดีขออายัดตัวผู้ต้องหา 2 ราย ข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาทดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตามความผิด มาตรา 112 โดยมีผู้ร่วมกระทำผิด 2 ราย ทราบชื่อคือนายชากานต์ หรือ ยูริ ภาคภูมิ อายุ 34 ปี และนายณัฐพล หรือ กอล์ฟ สุวะดี อายุ 29 ปี โดยนายชากานต์ ทำหนังสือทั้งหมด 3 ฉบับ ลงชื่อโดยนายณัฐพล มายื่นที่คณะที่ศึกษาอยู่ แจ้งว่าตนเองมีภารกิจติดตามดูแลบุคคลสำคัญ ทำให้การยื่นหนังสือได้สิทธิ์จากทาง สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ในการเข้าสอบไม่ต้องตกในวิชาที่เข้าเรียนนั้น ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว ยังอยู่ระหว่างการสรุปสำนวนคดีดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า นายณัฐพล มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ เพราะการดำเนินการดังกล่าวถึงแม้ว่า นายชากานต์ จะเป็นผู้ให้การรับสารภาพแล้ว แต่ยังคงต้องการตรวจสอบหลักฐานว่า มีการสมยอมให้นายชากานต์ ให้ใช้ชื่อของตนเองมาแอบอ้างในการกระทำผิดดังกล่าวหรือไม่ ส่วนลายมือที่เซ็นชื่อนั้น ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ ทาง สน.ลาดพร้าว จะรายงานผลการสรุปให้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ ทราบอีกครั้ง ในวันที่ 15 ธ.ค.
สำหรับกรณีชุดพนักงานสอบสวนตรวจสอบกรณีส่วยน้ำมันเถื่อน เตรียมเรียก พ.ต.อ. สังกัดกองบังคับการตำรวจน้ำ บช.ก. มาสอบปากคำ กรณีนายณรงค์กรณ์ หรือโจ เจียรเสริมสิน อายุ 41 ปี น้องชายเสี่ยโจ้ นายสหชัย เจียรเสริมสิน ผู้ต้องหาหนีคดีปลอมแปลงเอกสาร และพัวพันจ่ายส่วยน้ำมันเถื่อน ตำรวจตามล่าตัวจนมีการตั้งรางวัลนำจับไว้ 1 ล้านบาท เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมให้พี่ชาย ว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตามที่กล่าวหา รวมทั้งนำหลักฐานสำเนาการโอนเงินของธนาคารแห่งหนึ่ง ฉบับลงวันที่ 21 พ.ย.51 และวันที่ 23 ก.ย.52 และสลิปเอทีเอ็ม ลงวันที่ 27 ม.ค.55 รวมเป็นเงิน 110,000 บาทนั้น
มีรายงานข่าวระบุว่า เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบหลักฐานเพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดทั้งหมด ทั้งข้อมูลการโอนเงินทั้งหมด ก่อนนำผลสรุปรายงานให้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ ในวันที่ 15 ธ.ค. เพื่อสั่งการให้มีการนัดสอบปากคำ พ.ต.อ. สังกัดตำรวจน้ำเพิ่มเติม และนายณรงค์กรณ์ น้องชายนายสหชัย อีกครั้ง เพื่อซักถามในประเด็นที่เกี่ยวข้องกรณีความเชื่อมโยงกับนายสหชัยอย่างไร และมีความผิดจริงตามที่ปรากฏในข้อมูลการร้องเรียนหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีเครือข่ายของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. ให้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ ประกอบด้วย พนักงานสืบสวนของกองบังคับการกองปราบปราม (บก.ป.) ร่วมด้วย มีทั้งหมดเป็นสำนวนคดีหลัก 5 สำนวน คือ สำนวนคดีทุจริตแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ สำนวนคดีการรับส่วยน้ำมันเถื่อน สำนวนคดีการบุกรุกป่าไม้ สำนวนคดีบ่อนการพนัน และสำนวนคดีการฟอกเงิน โดยทุกสำนวนคดี มีข้อหาการเรียกรับสินบน และข้อหาความผิดตาม มาตรา 112 หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เชื่อมโยงอยู่ในการกระทำความผิดดังกล่าว.