00 ครบสามเดือนของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ต้องเป็นธรรมเนียมที่จะต้องมีผลสำรวจความคิดเห็นของชาวบ้านออกมา ซึ่ง "กรุงเทพโพล" ก็ออกมาว่าโดยภาพรวมๆ ก็ยังถือว่าผ่านยังอยู่ในระดับดี แต่ถ้าสังเกตให้ดีในระดับที่ผ่านนั้น คะแนนเริ่มเป็นแบบเฉื่อยช้าลง เช่นบางรายการอย่างเรื่อง "ความทุ่มเท" ในการทำงานลดลง งานด้านสังคมลดลง แม้ว่าความนิยมในตัวผู้นำอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จะยังดีอยู่ก็ตาม แต่นี่คือสัญญาณที่ไม่ใช่ออกมาในระดับเอบวก เหมือนแต่ก่อน
00 อย่างไรก็ตาม มันก็ขึ้นอยู่กับว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะวางอนาคตข้างหน้าของตัวเองไว้อย่างไร หากไม่ประสงค์ลงสนามการเมืองรักษาอำนาจไว้ต่อไป เสร็จสิ้นภารกิจปฏิรูปตามโรดแมปเรียบร้อยแล้วจะกลับไปนอนอยู่บ้าน หรือจะรวบรวมเพื่อนฝูงคนรู้ใจไปท่องเที่ยวกันทั่วโลก ก็ว่ากันไป และในเวลาที่เหลืออยู่นี้ ก็ทุ่มเทแก้ปัญหาวางรากฐานเพื่ออนาคตของชาติ นั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายกย่อง เพราะการแก้ปัญหาระดับโครงสร้าง บางครั้งก็ต้องไม่คำนึงถึงคะแนนเสียงที่จะสะท้อนตามมา เนื่องจากการแก้ปัญหา ต้องใช้ความกล้าหาญ ที่สำคัญนี่คือโอกาสอันดีที่สุดสำหรับการผ่าตัดบ้านเมือง ถ้าใจไม่ถึง หรือว่าไม่ตั้งใจจริง ก็จะอยู่ในสภาพเดิมๆ และล้าหลังไปเรื่อยๆ
00 โผล่มาอีกแล้วสำหรับ "โซ่ข้อกลาง" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ที่ออกมาเตือนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคสช. ในทำนองว่า "จะเกิดปฏิวัติซ้อน" ในปีหน้าอันเนื่องมาจากปัญหาต่างๆ เริ่มรุมเร้า ที่สำคัญคือ เรื่องเศรษฐกิจ ก็ต้องบอกว่าถ้าคนอย่าง "บิ๊กจิ๋ว" พูดเรื่องอื่นอาจไม่ควรต้องไปใส่ใจ แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์ งานด้านกุนซือ คนๆ นี้ถือว่า "ฟังได้" ขณะเดียวกันเมื่อประเมินสถานการณ์พิจารณาจากในปัจจุบันก็สามารถมองเห็นแนวโน้มถึงวันข้างหน้าว่า "ยังหนัก" เท่าที่เห็นก็คือ เรื่อง"ปากท้อง" ยังไม่ดีขึ้น ตัวอย่างที่เห็นชัดก็คือ ราคาสินค้าเกษตรตัวหลักยังไม่กระเตื้อง มิหนำซ้ำยังทรุดลงเรื่อยๆ อย่างอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ สรุปรวมแล้วขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ 1 ต่ำกว่าที่คาดการณ์กันไว้ ความหมายก็คือ ถ้าต่ำกว่าร้อยละ 1 มันก็ย่อมมีผลกระทบต่อการจ้างงาน จนเกิดความรู้สึกได้ พวกจบใหม่จะเดินเตะฝุ่นเพิ่มขึ้นไปอีก นี่แหละคือปัญหาใหญ่ !!
00 อาจเป็นช่วงของการเสนอความเห็นเข้ามาแบบร้อยแปด สำหรับการยกร่างรธน. ล่าสุดมีข้อเสนอออกมาจาก สมบัติ ธำรงค์ธัญวงศ์ ประธานคณะกรรมาธิการฯ ด้านการปฏิรูปการเมือง ที่เสนอให้มีการเลือกนายกฯ โดยตรง พร้อมกำหนดรายชื่อครม. ให้ชาวบ้านได้เห็นล่วงหน้า เพื่อประกอบการตัดสินใจ อ้างว่าเพื่อป้องกันการซื้อตำแหน่ง ป้องกันนายกฯ นำตำแหน่งรมต.ไปเซ็งลี้ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริงและน่ารับฟัง น่าสนใจ แต่ถึงอย่างไรนี่ก็คือ หนึ่งในความเห็น ต้องเปรียบเทียบกันหลายแบบ อย่าเพิ่งไปตัดรอน รอให้มีการตกผลึกเสียก่อน แต่เชื่อเถอะแบบไหนก็ตาม ต้องออกแบบให้มีการป้องกันและตรวจสอบทุจริต และถ่วงดุลอำนาจได้จริงนั่นแหละ คือเป้าหมาย ดังนั้นทุกฝ่ายต้องช่วยกัน เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายดังกล่าว
00 เป้าหมายสำคัญที่สุดที่กำลังพุ่งเข้าใส่อย่างเต็มอกก็คือ การปฏิรูปวงการตำรวจ นาทีนี้ถือว่าถ้าเปรียบเหมือนเหล็กที่กำลังร้อนจัด ต้องตีกันตอนนี้ ดังนั้นจึงพลาดไม่ได้ ที่จะต้องมีการผ่าตัดครั้งใหม่ ถือว่าสุกงอมเต็มที่ และเป็นครั้งแรกตามความรู้สึกของสังคมเห็นตรงกันว่า "ถึงเวลาแล้ว" และถ้าสังเกตให้ดี พบว่าเป็นครั้งแรกที่บรรดาตำรวจไม่กล้าออกมาเคลื่อนไหวโต้แย้ง ได้แต่ก้มหน้าเงียบเสียงอย่างเดียว ก็น่าเห็นใจ ผบ.ตร. คนปัจจุบัน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่ต้องมารับเผือกร้อนเต็มๆ !!
00 อย่างไรก็ตาม มันก็ขึ้นอยู่กับว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะวางอนาคตข้างหน้าของตัวเองไว้อย่างไร หากไม่ประสงค์ลงสนามการเมืองรักษาอำนาจไว้ต่อไป เสร็จสิ้นภารกิจปฏิรูปตามโรดแมปเรียบร้อยแล้วจะกลับไปนอนอยู่บ้าน หรือจะรวบรวมเพื่อนฝูงคนรู้ใจไปท่องเที่ยวกันทั่วโลก ก็ว่ากันไป และในเวลาที่เหลืออยู่นี้ ก็ทุ่มเทแก้ปัญหาวางรากฐานเพื่ออนาคตของชาติ นั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายกย่อง เพราะการแก้ปัญหาระดับโครงสร้าง บางครั้งก็ต้องไม่คำนึงถึงคะแนนเสียงที่จะสะท้อนตามมา เนื่องจากการแก้ปัญหา ต้องใช้ความกล้าหาญ ที่สำคัญนี่คือโอกาสอันดีที่สุดสำหรับการผ่าตัดบ้านเมือง ถ้าใจไม่ถึง หรือว่าไม่ตั้งใจจริง ก็จะอยู่ในสภาพเดิมๆ และล้าหลังไปเรื่อยๆ
00 โผล่มาอีกแล้วสำหรับ "โซ่ข้อกลาง" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ที่ออกมาเตือนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคสช. ในทำนองว่า "จะเกิดปฏิวัติซ้อน" ในปีหน้าอันเนื่องมาจากปัญหาต่างๆ เริ่มรุมเร้า ที่สำคัญคือ เรื่องเศรษฐกิจ ก็ต้องบอกว่าถ้าคนอย่าง "บิ๊กจิ๋ว" พูดเรื่องอื่นอาจไม่ควรต้องไปใส่ใจ แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์ งานด้านกุนซือ คนๆ นี้ถือว่า "ฟังได้" ขณะเดียวกันเมื่อประเมินสถานการณ์พิจารณาจากในปัจจุบันก็สามารถมองเห็นแนวโน้มถึงวันข้างหน้าว่า "ยังหนัก" เท่าที่เห็นก็คือ เรื่อง"ปากท้อง" ยังไม่ดีขึ้น ตัวอย่างที่เห็นชัดก็คือ ราคาสินค้าเกษตรตัวหลักยังไม่กระเตื้อง มิหนำซ้ำยังทรุดลงเรื่อยๆ อย่างอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ สรุปรวมแล้วขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ 1 ต่ำกว่าที่คาดการณ์กันไว้ ความหมายก็คือ ถ้าต่ำกว่าร้อยละ 1 มันก็ย่อมมีผลกระทบต่อการจ้างงาน จนเกิดความรู้สึกได้ พวกจบใหม่จะเดินเตะฝุ่นเพิ่มขึ้นไปอีก นี่แหละคือปัญหาใหญ่ !!
00 อาจเป็นช่วงของการเสนอความเห็นเข้ามาแบบร้อยแปด สำหรับการยกร่างรธน. ล่าสุดมีข้อเสนอออกมาจาก สมบัติ ธำรงค์ธัญวงศ์ ประธานคณะกรรมาธิการฯ ด้านการปฏิรูปการเมือง ที่เสนอให้มีการเลือกนายกฯ โดยตรง พร้อมกำหนดรายชื่อครม. ให้ชาวบ้านได้เห็นล่วงหน้า เพื่อประกอบการตัดสินใจ อ้างว่าเพื่อป้องกันการซื้อตำแหน่ง ป้องกันนายกฯ นำตำแหน่งรมต.ไปเซ็งลี้ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริงและน่ารับฟัง น่าสนใจ แต่ถึงอย่างไรนี่ก็คือ หนึ่งในความเห็น ต้องเปรียบเทียบกันหลายแบบ อย่าเพิ่งไปตัดรอน รอให้มีการตกผลึกเสียก่อน แต่เชื่อเถอะแบบไหนก็ตาม ต้องออกแบบให้มีการป้องกันและตรวจสอบทุจริต และถ่วงดุลอำนาจได้จริงนั่นแหละ คือเป้าหมาย ดังนั้นทุกฝ่ายต้องช่วยกัน เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายดังกล่าว
00 เป้าหมายสำคัญที่สุดที่กำลังพุ่งเข้าใส่อย่างเต็มอกก็คือ การปฏิรูปวงการตำรวจ นาทีนี้ถือว่าถ้าเปรียบเหมือนเหล็กที่กำลังร้อนจัด ต้องตีกันตอนนี้ ดังนั้นจึงพลาดไม่ได้ ที่จะต้องมีการผ่าตัดครั้งใหม่ ถือว่าสุกงอมเต็มที่ และเป็นครั้งแรกตามความรู้สึกของสังคมเห็นตรงกันว่า "ถึงเวลาแล้ว" และถ้าสังเกตให้ดี พบว่าเป็นครั้งแรกที่บรรดาตำรวจไม่กล้าออกมาเคลื่อนไหวโต้แย้ง ได้แต่ก้มหน้าเงียบเสียงอย่างเดียว ก็น่าเห็นใจ ผบ.ตร. คนปัจจุบัน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่ต้องมารับเผือกร้อนเต็มๆ !!