00 จะเป็นเพราะกำลังเข้าสู่เดือนที่ 7 ของคสช. และในนามรัฐบาลเดือนที่ 3 ที่ทั้งสองอย่าง นำโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพี่น้อง "บูรพาพยัคฆ์" ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวเรือใหญ่ เวลาผ่านมาถึงขั้นนี้ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ถึงเวลาที่จะมีการออกปากมาตรงๆได้แล้วว่า มีกึ๋น มีผลงานเป็นอย่างไรกันบ้าง เพราะทุกอย่างถึงเวลาที่จะต้องพิสูจน์กันให้เห็นแล้ว ดี ไม่ดี อย่างไร ก็ต้องแสดงความรู้สึกกันแล้ว
00 หากจะถามกันถึงเรื่องผลงานด้านเศรษฐกิจ ของคสช.และต่อเนื่องมาเป็นรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ต้องพูดกันตรงๆว่า "ยังไม่เวิร์ก" เท่าที่ควร เพราะด้วยอำนาจเต็มมือ สามารถขจัดปัญหาอุปสรรคได้ทุกอย่าง รวมทั้งสร้างแรงจูงใจในการขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็ว แต่ผลที่ออกมา ถือว่ายังไมาคุ้มค่ากับต้นทุนที่เสียไป สังเกตหรือไม่ว่าทุกเรื่องด้านเศรษฐกิจไม่เข้าเป้า ในภาพรวมถือว่า "พลาด" อย่างการส่งออกที่ลดลง อัตราการขยายตัวจากเดิม ตอนแรกที่เคยตั้งเอาไว้ว่าจะโตร้อยละ 2 ก็ลดลงมาเหลือ 1.5 และล่าสุดกลายเป็นว่าโตไม่ถึงร้อยละ 1 แล้ว ตัวเลขดังกล่าวย่อมมีผลต่อการจ้างงานใหม่ ความหมายก็คือ เมื่อไม่มีการจ้างงานเพิ่ม บรรดาพวกที่จบการศึกษาใหม่จะเตะฝุ่นเพิ่มขึ้น สมทบกับของเก่าเพิ่มปริมาณเข้าไปอีก
00 เวลานี้ถ้าลองไปต่างจังหวัด จะได้ยินแต่เสียงบ่นของชาวบ้านเรื่อง "ชักหน้าไม่ถึงหลัง" จากรายได้จากสินค้าการเกษตรทั้งตัวหลักตัวรอง ทั้งข้าว ยางพารา ข้าวโพด ราคาตกต่ำหมด และยังไม่เห็นแววที่จะฟื้นขึ้นมาแต่อย่างใด ขณะที่ค่าครองชีพกลับพุ่งพรวดขึ้นสวนทาง อย่างที่ส่งเสียงฮึ่มออกมาแบบทนไม่ไหวก็คือ ชาวสวนยาง ที่เริ่มก่อหวอดจากภาคใต้ก่อน และในภาคอื่นทั้งตะวันออก เหนือ อีสาน ก็ขยับตาม เพราะราคายาง "สามกิโลร้อย"นี่มันไม่ไหวจริงๆ
00 สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความเดือดร้อนจริงๆ ก็คือเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ ที่ออกตัวมาอย่างที่เห็นเป็นการผนึกกำลังของทุกกลุ่ม เคลื่อนไหวพร้อมกัน และคราวนี้ถ้าข้อเรียกร้องเรื่องราคายางไม่กระเตื้องขึ้นมาแบบเห็นชัด ถึงตอนนั้นจะได้เห็น "ม็อบ" ภายใต้กฎอัยการศึกเป็นครั้งแรก และหากสกัดไม่อยู่ ก็จะลามไปทั่ว เพราะนี่คือความเดือดร้อนจริง ไม่เกี่ยวกับการเมือง แม้ว่าที่ผ่านมาสำหรับชาวสวนยางภาคใต้ อาจจะได้รับการขอร้องจาก "หลวงลุง" พระสุเทพ ประภากโร เคยเดินสายเทศนาขอร้องให้อดทน และให้โอกาสพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาลไปสักระยะหนึ่งก่อน แต่เรื่องปากท้อง ความเดือดร้อนของลูกเมีย มันจะเกรงใจกันอีกไม่ได้แล้ว เวลานี้ถ้าใครลองเข้าไปในภาคใต้ตามหมู่บ้านต่างๆ ล้วนเงียบเหงา รถรา เครื่องใช้ต่างๆ เริ่มทยอยกันถูกยึด เพราะขาดส่งค่างวด !!
00 สำหรับเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องราคาสินค้าเกษตร ความหวังเดียวของทั้งคนไทย และรัฐบาลตอนนี้ขึ้นอยู่กับว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯในฐานะหัวหน้าทีม และรมช.เกษตรฯ อำนวย ปะติเส ว่าจะจัดการได้ตรงจุดหรือไม่ และที่อ้างว่า ที่ผ่านมาเพราะติดขัดเรื่องขั้นตอนระบบราชการเยอะ ยุบยับไปหมด ทำให้งานไม่เดิน นั้นไม่ต้องมาพูดแล้ว เพราะเวลานี้อยู่ใน "สถานการณ์พิเศษ" ถ้าจะทุบโต๊ะแก้ปัญหาที่หมักหมมก็ต้องทำทันที ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องรับผิดชอบ !!
00 สำหรับรายนี้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ โผล่ออกมาถูกเวลาจริงๆ เพราะการเตือนให้ระวัง "ปฏิวัติซ้อน" ในปีหน้า ทำเอาหลายคนต้องหูผึ่ง เงี่ยหูฟังกันเป็นแถว ถึงขั้นที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และขุนทหารข้างกาย ต่างรีบออกมาปฏิเสธถึงความเป็นไปได้ ยืนยันไม่มีทางเกิดขึ้น ไม่ว่าปฏิวัติตัวเอง หรือคนอื่นจะทำ ทำนองว่าถ้าตัวเองไม่ทำเสียอย่าง คนอื่นก็ทำไม่ได้ และไม่ให้ทำอะไรแบบนี้ แต่ก็อย่าคิดว่าเป็นไปไม่ได้ หากภาวะความเดือดร้อนของชาวบ้านยังสะสมไปเรื่อยๆ หลายคำพูดของ พล.อ.ชวลิต อาจเลอะเทอะ แต่บางเรื่องเขาก็อ่านเกมขาดเหมือนกันนะ !!
00 หากจะถามกันถึงเรื่องผลงานด้านเศรษฐกิจ ของคสช.และต่อเนื่องมาเป็นรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ต้องพูดกันตรงๆว่า "ยังไม่เวิร์ก" เท่าที่ควร เพราะด้วยอำนาจเต็มมือ สามารถขจัดปัญหาอุปสรรคได้ทุกอย่าง รวมทั้งสร้างแรงจูงใจในการขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็ว แต่ผลที่ออกมา ถือว่ายังไมาคุ้มค่ากับต้นทุนที่เสียไป สังเกตหรือไม่ว่าทุกเรื่องด้านเศรษฐกิจไม่เข้าเป้า ในภาพรวมถือว่า "พลาด" อย่างการส่งออกที่ลดลง อัตราการขยายตัวจากเดิม ตอนแรกที่เคยตั้งเอาไว้ว่าจะโตร้อยละ 2 ก็ลดลงมาเหลือ 1.5 และล่าสุดกลายเป็นว่าโตไม่ถึงร้อยละ 1 แล้ว ตัวเลขดังกล่าวย่อมมีผลต่อการจ้างงานใหม่ ความหมายก็คือ เมื่อไม่มีการจ้างงานเพิ่ม บรรดาพวกที่จบการศึกษาใหม่จะเตะฝุ่นเพิ่มขึ้น สมทบกับของเก่าเพิ่มปริมาณเข้าไปอีก
00 เวลานี้ถ้าลองไปต่างจังหวัด จะได้ยินแต่เสียงบ่นของชาวบ้านเรื่อง "ชักหน้าไม่ถึงหลัง" จากรายได้จากสินค้าการเกษตรทั้งตัวหลักตัวรอง ทั้งข้าว ยางพารา ข้าวโพด ราคาตกต่ำหมด และยังไม่เห็นแววที่จะฟื้นขึ้นมาแต่อย่างใด ขณะที่ค่าครองชีพกลับพุ่งพรวดขึ้นสวนทาง อย่างที่ส่งเสียงฮึ่มออกมาแบบทนไม่ไหวก็คือ ชาวสวนยาง ที่เริ่มก่อหวอดจากภาคใต้ก่อน และในภาคอื่นทั้งตะวันออก เหนือ อีสาน ก็ขยับตาม เพราะราคายาง "สามกิโลร้อย"นี่มันไม่ไหวจริงๆ
00 สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความเดือดร้อนจริงๆ ก็คือเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ ที่ออกตัวมาอย่างที่เห็นเป็นการผนึกกำลังของทุกกลุ่ม เคลื่อนไหวพร้อมกัน และคราวนี้ถ้าข้อเรียกร้องเรื่องราคายางไม่กระเตื้องขึ้นมาแบบเห็นชัด ถึงตอนนั้นจะได้เห็น "ม็อบ" ภายใต้กฎอัยการศึกเป็นครั้งแรก และหากสกัดไม่อยู่ ก็จะลามไปทั่ว เพราะนี่คือความเดือดร้อนจริง ไม่เกี่ยวกับการเมือง แม้ว่าที่ผ่านมาสำหรับชาวสวนยางภาคใต้ อาจจะได้รับการขอร้องจาก "หลวงลุง" พระสุเทพ ประภากโร เคยเดินสายเทศนาขอร้องให้อดทน และให้โอกาสพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาลไปสักระยะหนึ่งก่อน แต่เรื่องปากท้อง ความเดือดร้อนของลูกเมีย มันจะเกรงใจกันอีกไม่ได้แล้ว เวลานี้ถ้าใครลองเข้าไปในภาคใต้ตามหมู่บ้านต่างๆ ล้วนเงียบเหงา รถรา เครื่องใช้ต่างๆ เริ่มทยอยกันถูกยึด เพราะขาดส่งค่างวด !!
00 สำหรับเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องราคาสินค้าเกษตร ความหวังเดียวของทั้งคนไทย และรัฐบาลตอนนี้ขึ้นอยู่กับว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯในฐานะหัวหน้าทีม และรมช.เกษตรฯ อำนวย ปะติเส ว่าจะจัดการได้ตรงจุดหรือไม่ และที่อ้างว่า ที่ผ่านมาเพราะติดขัดเรื่องขั้นตอนระบบราชการเยอะ ยุบยับไปหมด ทำให้งานไม่เดิน นั้นไม่ต้องมาพูดแล้ว เพราะเวลานี้อยู่ใน "สถานการณ์พิเศษ" ถ้าจะทุบโต๊ะแก้ปัญหาที่หมักหมมก็ต้องทำทันที ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องรับผิดชอบ !!
00 สำหรับรายนี้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ โผล่ออกมาถูกเวลาจริงๆ เพราะการเตือนให้ระวัง "ปฏิวัติซ้อน" ในปีหน้า ทำเอาหลายคนต้องหูผึ่ง เงี่ยหูฟังกันเป็นแถว ถึงขั้นที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และขุนทหารข้างกาย ต่างรีบออกมาปฏิเสธถึงความเป็นไปได้ ยืนยันไม่มีทางเกิดขึ้น ไม่ว่าปฏิวัติตัวเอง หรือคนอื่นจะทำ ทำนองว่าถ้าตัวเองไม่ทำเสียอย่าง คนอื่นก็ทำไม่ได้ และไม่ให้ทำอะไรแบบนี้ แต่ก็อย่าคิดว่าเป็นไปไม่ได้ หากภาวะความเดือดร้อนของชาวบ้านยังสะสมไปเรื่อยๆ หลายคำพูดของ พล.อ.ชวลิต อาจเลอะเทอะ แต่บางเรื่องเขาก็อ่านเกมขาดเหมือนกันนะ !!