รัฐมนตรีช่วยกลาโหม ชี้ “จิ๋ว” เตือนปฏิวัติซ้อนแค่คิดเห็นส่วนตัว แต่รับฟัง ยันปฏิบัติตามคำสั่งนายกฯ เคร่งครัด ยันมีศูนย์ปรองดองให้คนเห็นต่างแสดงออกอยู่ ขอให้เข้าสู่กระบวนการ ด้านผู้ช่วย ผบ.ทบ.ยันไม่เคยได้ยินข่าว เชื่อแค่ลือ ยังไม่เห็น พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
วันนี้ (8 ธ.ค.) เมื่อเวลา 07.00 น.ที่กรมการขนส่งทหารบก พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาเตือนรัฐบาลให้ระวังปฎิวัติซ้อนว่า รัฐบาลและ คสช.พยามเต็มที่ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ การที่ พล.อ.ชวลิต ออกมาระบุเช่นนั้น ถือเป็นการแสดงความคิดเห็นของผู้ใหญ่ในบ้านเมือง และเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล ซึ่งความจริงในปัจจุบันรัฐบาลและ คสช.พยายามทำงานเต็มที่และจะทำต่อไปเพื่อแก้ไขปัญหา สิ่งที่ท่านพูดออกมาเราก็รับฟัง ทั้งนี้ในส่วนของตนและกองทัพอยู่ภายใต้การดูแลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งตนพยายามดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่ ยืนยันว่าปฎิบัติตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัด
เมื่อถามว่า พล.อ.ชวลิตระบุว่า คสช.รัฐบาล มองคนเห็นต่างเป็นศัตรู จะแก้ปัญหาอย่างไร พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า เรามีศูนย์สร้างความปรองดองสมานฉันท์แห่งชาติ (ศปป.)อยู่แล้ว เพื่อให้คนเห็นต่างได้แสดงออกในแนวทางที่ถูกต้อง โดยจะให้ทุกจังหวัดเปิดเวทีพร้อมกันประมาณ 4 พันกว่าแห่ง ทุกกองทัพภาคจะประสานงานร่วมกับผู้ว่าจังหวัด รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมดำเนินการ ดังนั้นคนที่เห็นต่างขอให้เข้ามาสู่กระบวนการตรงนี้ จะทำให้สามารถรวบรวมความคิดเห็นไปใช้ประโยชน์กับคณะกรรมการปฎิรูปทั้ง 11 ด้านต่อไป เชื่อว่าจะแก้ไขปัญหาเรื่องความเห็นต่างได้
ขณะที่ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทการทหารบก และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สนามมวยรามอินทรา ถึงกรณีดังกล่าวว่า ไม่เคยได้ยินข่าว ไม่มีกระแส ไม่ทราบว่าเอาข่าวมาจากไหน คิดว่าเป็นเพียงข่าวลือ ถือว่าเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ระหว่างการปฎิรูป ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็น แต่ต้องอยู่พื้นฐานความถูกต้อง ทั้งนี้กองทัพบกก็ยังคงทำงานต่อไปในสายงานปกติ ในส่วนของรัฐบาล และ คสช.ก็ทำงาน
พล.อ.ปรีชายังกล่าวถึงแนวคิดการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมว่า ตนยังไม่เห็น ส่วนจะมีส่วนช่วยในการสร้างความปรองดองหรือไม่นั้น รอดูกันต่อไป เพราะทุกคนใน สนช.สามารถแสดงความคิดเห็นได้ ส่วนจะเห็นด้วยหรือไม่ต้องรอผลการประชุม สนช.ในครั้งต่อไป