ASTVผู้จัดการรายวัน กกร.ปรับลดประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจปี2558 จากเดิมโต4-4.5% เหลือ 3.5-4% ส่งออกโต 3.5% เหตุเบิกจ่ายงบภาครัฐยังไม่เต็มที่ ศก.โลกยังอ่อนแอ เอกชนแนะรัฐขึ้น VAT เป็น 8% ปลายปี 58 ต้องดูทิศทางเศรษฐกิจหากโตได้เกิน4%สามารถทำได้ ไตรมาส1-2ปีหน้าจะเห็นทิศทางที่ชัดเจนถ้าศก.ไม่โตควรทบทวนไม่เช่นนั้นจะซ้ำเติมศก.
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันได้แก่ ส.อ.ท. สภาหอการค้าไทยและสมาคมธนาคารไทยหรือกกร. เปิดเผยว่า กกร.ได้ประเมินทิศทางเศรษฐกิจในปี 2558 คาดการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือ จีดีพีจะโตประมาณ3.5%-4% จากเดิมที่คาดไว้ว่าจะโต4-4.5% ส่งออกโตประมาณ 3.5%
เนื่องจากทิศทางเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควรขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐน่าจะยังไม่เต็มที่นัก
“เราคุยกันก็เห็นว่าทิศทางเศรษฐกิจจีนและสหรัฐอเมริกาก็ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก ญี่ปุ่นเองก็ยังชะลอตัว แต่การส่งออกจะได้อานิสงค์เพิ่มขึ้นจากการค้าชายแดนกับเพื่อนบ้านจะโตมาก ส่วนเงินลงทุนจากภาครัฐแม้จะเป็นตัวเลขจำนวนมากแต่ปี 2558 ยังเป็นช่วงการศึกษา การเวนคืน งบที่จะลงไปจริงคงเป็นหลังไตรมาส 2 ซึ่งเม็ดเงินจะลงชัดเจนได้คิดว่าจะเป็นปี 2559
มากกว่า”นายสุพันธุ์กล่าว
อย่างไรก็ตามสำหรับเศรษฐกิจปี 2557 ล่าสุดการส่งออกต.ค.ที่ผ่านมามีการเติบโต 3.9% แนวโน้มพ.ย.คงจะยังขยายตัวขณะที่ธ.ค.ตลาดสหรัฐและยุโรปเริ่มหยุดทำธุรกรรมต่างๆ เมื่อเข้าสู่เทศกาลคริสมาสต์ดังนั้นภาพรวมส่งออกปี 2557 คาดว่าอาจไม่โตหรือมีโอกาสติดลบเล็กน้อย ขณะที่จีดีพี 2557 คงจะอยู่ประมาณ 1% หรือบวกลบเล็กน้อยเนื่องจากการผลักดันงบประมาณจากภาครัฐในหลายๆ
โครงการยังคงต่ำอยู่แม้แต่โครงการอุดหนุนความช่วยเหลือเกษตรกรทั้งข้าว ยางพารา ล่าสุดก็ยังเบิกจ่ายได้น้อยมาก
สำหรับกรณีที่รัฐบาลมีแนวคิดที่จะเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) จากปัจจุบัน 7% เป็น 8% ในช่วงปลายปีงบประมาณ 2558 นั้นเห็นว่ารัฐบาลควรจะพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจเป็นหลักซึ่งหากเศรษฐกิจปี 2558 โตได้มากกว่า 4% ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร โดยควรจะพิจารณาดูทิศทางเศรษฐกิจช่วงไตรมาส1-2 หากเศรษฐกิจโตได้มากกว่า4% ก็น่าจะเดินหน้าได้แต่ถ้าไม่ดีก็ควรจะทบทวน
"ผมคิดว่าการขึ้น VAT รัฐน่าจะโยนหินถามทางมากกว่าที่สุดรัฐเองก็คงจะต้องมาดูว่าตอนนั้นเศรษฐกิจเป็นอยางไร เพราะถ้าไม่ดีก็ยิ่งซ้ำเติม"นายสุพันธุ์กล่าว
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า การขึ้น VAT ขึ้นอยู่สภาพแวดล้อมถ้าไม่สอดคล้องก็ไม่ควรปรับขึ้นซึ่งการขึ้น VAT ก็ควรจะลดภาษีรายได้ด้วยและหากดูภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันประชาชนยังมีปัญหาหนี้ครัวเรือน การซื้อสินค้าเป็นประเภทไม่คงทน มากกว่าสินค้าคงทน การขึ้นVATอาจจะกระทบกำลังซื้อได้
นายสมเกียรติ อนุราษฎร์ รองประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่รัฐจะขึ้นVATในปีหน้าเพราะขณะนี้กำลังซื้อคนไทยก็ต่ำอยู่แล้วการปรับขึ้นก็จะยิ่งฉุดกำลังซื้อให้ลดต่ำลงรัฐบาลควรจะรอดูทิศทางเศรษฐกิจให้กลับมาดีเสียก่อน
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันได้แก่ ส.อ.ท. สภาหอการค้าไทยและสมาคมธนาคารไทยหรือกกร. เปิดเผยว่า กกร.ได้ประเมินทิศทางเศรษฐกิจในปี 2558 คาดการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือ จีดีพีจะโตประมาณ3.5%-4% จากเดิมที่คาดไว้ว่าจะโต4-4.5% ส่งออกโตประมาณ 3.5%
เนื่องจากทิศทางเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควรขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐน่าจะยังไม่เต็มที่นัก
“เราคุยกันก็เห็นว่าทิศทางเศรษฐกิจจีนและสหรัฐอเมริกาก็ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก ญี่ปุ่นเองก็ยังชะลอตัว แต่การส่งออกจะได้อานิสงค์เพิ่มขึ้นจากการค้าชายแดนกับเพื่อนบ้านจะโตมาก ส่วนเงินลงทุนจากภาครัฐแม้จะเป็นตัวเลขจำนวนมากแต่ปี 2558 ยังเป็นช่วงการศึกษา การเวนคืน งบที่จะลงไปจริงคงเป็นหลังไตรมาส 2 ซึ่งเม็ดเงินจะลงชัดเจนได้คิดว่าจะเป็นปี 2559
มากกว่า”นายสุพันธุ์กล่าว
อย่างไรก็ตามสำหรับเศรษฐกิจปี 2557 ล่าสุดการส่งออกต.ค.ที่ผ่านมามีการเติบโต 3.9% แนวโน้มพ.ย.คงจะยังขยายตัวขณะที่ธ.ค.ตลาดสหรัฐและยุโรปเริ่มหยุดทำธุรกรรมต่างๆ เมื่อเข้าสู่เทศกาลคริสมาสต์ดังนั้นภาพรวมส่งออกปี 2557 คาดว่าอาจไม่โตหรือมีโอกาสติดลบเล็กน้อย ขณะที่จีดีพี 2557 คงจะอยู่ประมาณ 1% หรือบวกลบเล็กน้อยเนื่องจากการผลักดันงบประมาณจากภาครัฐในหลายๆ
โครงการยังคงต่ำอยู่แม้แต่โครงการอุดหนุนความช่วยเหลือเกษตรกรทั้งข้าว ยางพารา ล่าสุดก็ยังเบิกจ่ายได้น้อยมาก
สำหรับกรณีที่รัฐบาลมีแนวคิดที่จะเพิ่มอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) จากปัจจุบัน 7% เป็น 8% ในช่วงปลายปีงบประมาณ 2558 นั้นเห็นว่ารัฐบาลควรจะพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจเป็นหลักซึ่งหากเศรษฐกิจปี 2558 โตได้มากกว่า 4% ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร โดยควรจะพิจารณาดูทิศทางเศรษฐกิจช่วงไตรมาส1-2 หากเศรษฐกิจโตได้มากกว่า4% ก็น่าจะเดินหน้าได้แต่ถ้าไม่ดีก็ควรจะทบทวน
"ผมคิดว่าการขึ้น VAT รัฐน่าจะโยนหินถามทางมากกว่าที่สุดรัฐเองก็คงจะต้องมาดูว่าตอนนั้นเศรษฐกิจเป็นอยางไร เพราะถ้าไม่ดีก็ยิ่งซ้ำเติม"นายสุพันธุ์กล่าว
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า การขึ้น VAT ขึ้นอยู่สภาพแวดล้อมถ้าไม่สอดคล้องก็ไม่ควรปรับขึ้นซึ่งการขึ้น VAT ก็ควรจะลดภาษีรายได้ด้วยและหากดูภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันประชาชนยังมีปัญหาหนี้ครัวเรือน การซื้อสินค้าเป็นประเภทไม่คงทน มากกว่าสินค้าคงทน การขึ้นVATอาจจะกระทบกำลังซื้อได้
นายสมเกียรติ อนุราษฎร์ รองประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่รัฐจะขึ้นVATในปีหน้าเพราะขณะนี้กำลังซื้อคนไทยก็ต่ำอยู่แล้วการปรับขึ้นก็จะยิ่งฉุดกำลังซื้อให้ลดต่ำลงรัฐบาลควรจะรอดูทิศทางเศรษฐกิจให้กลับมาดีเสียก่อน