xs
xsm
sm
md
lg

ต้นตอชายแดนใต้ลุกโชน !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

00 เริ่มเดินทางเยือนต่างประเทศอีกรอบ สำหรับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คราวนี้ไปแนะนำตัวสานต่อความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านใกล้ชิด และเพื่อนในอาเซียนกับ ลาว วันที่ 26-27 พ.ย. แล้ววันรุ่งขึ้นก็ไปต่อเวียดนาม จากนั้นจะกลับบ้านมาเตรียมตัวเพื่อไปเยือนมาเลย์ ในวันที่ 1 ธ.ค. ซึ่งก็ถือว่ามีวาระน่าสนใจและจับตามอง นั่นคือ การพูดคุยกับนายกฯมาเลย์ นาจิบ ราซัก ในฐานะผู้ประสานงานการหาแนวทางเพื่อนำไปสู่ "สันติสุข" ในชายแดนใต้ ขณะเดียวกันฝ่ายไทยก็จะมีรายชื่อ หัวหน้าคณะในการเจรจาคงจะลงนามเปิดเผยกันให้ทราบก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะออกเดินทาง แต่เท่าที่ทราบหัวหน้าคณะก็คือ พล.อ.อักษรา เกิดผล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก
00 แม้ว่าภายในประเทศจะเจอหลายปัญหาที่เริ่มไม่เป็นใจ ทำให้รำคาญใจ แต่สำหรับเวทีต่างประเทศแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. กำลังขึ้นหม้อ หลายประเทศรุมตอม แม้แต่ประเทศตะวันตก ก็ยังเชื้อเชญให้เข้าร่วมนัดสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศดีขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ อาเซม ที่มิลาน อิตาลี มาถึงเอเปก ที่จีน ประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสามบวกสี่ ที่พม่า ได้กระทบไหล่ผู้นำมหาอำนาจต่อเนื่อง ล่าสุดกำลังจะไปร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-เกาหลี ไปเยือนญี่ปุ่น ในปลายเดือนธ.ค. หรือแม้แต่การเป็นเจ้าภาพการประชุมกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง นี่ก็สำคัญ ถือว่าไทยเป็นประเทศยุทธศาสตร์สำคัญในภูมิภาค เป็นด่านเชื่อมทั้งทางบกและทางทะเล ล่าสุดแม้แต่การประชุมเวิลด์เอ็กโคโนมิก ฟอรัม ที่เมือง ดาวอช สวิสฯ ก็ยังมีการเชิญให้ พล.อ.ประยุทธ์ ไปร่วมด้วย ก็ต้องบอกว่า น่าจับตา !!
00 พูดถึงชายแดนใต้ก็สะท้อนจากคำพูดของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง และรมว.กลาโหม ที่โวยกลางวงครม.เมื่อวันก่อน งบประมาณที่ทุ่มลงไปให้ทุกกระทรวงกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท เพื่อแก้ปัญหา แต่กลายเป็นว่า ที่บอกว่า "บูรณาการ" นั้นเป็นแค่การ "พ่นน้ำลาย" เท่านั้น เพราะของจริงต่างคนต่างทำ ขาดการประสานงาน แถมยังเฉื่อยชาอีกต่างหาก ทำให้งบจำนวนมหาศาลดังกล่าวสูญเปล่า และที่สำคัญทำให้การแก้ปัญหาไม่เดินหน้าสักที โดยเฉพาะงานฝ่ายปกครอง ทั้งผู้ว่าฯ นายอำเภอ ไม่ได้จริงจัง จึงทำให้ นายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องมาคาดโทษว่า ถ้าภายในสามเดือนแล้วยังเหลาะแหละเหมือนเดิม ต้องมีปัญหาแน่นอน !!
00 ก็ต้องบอกว่ามีคราวนี้แหละที่ "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พูดได้ตรงใจ เพราะเป็นเรื่องจริงที่แม้ว่ามีหลายองค์ประกอบที่สร้างเงื่อนไขในพื้นที่ สร้างปัญหาให้ชายแดนใต้จนแทบลุกเป็นไฟ ส่วนสำคัญก็คือ เจ้าหน้าที่รัฐนี่แหละที่ "ห่วยแตก-เฉื่อยชา" เช้าชามเย็นชาม ยิ่งในพื้นที่ห่างไกลแบบนั้น ถ้าใครถูกย้ายไปประจำที่นั่นก็เหมือนถูกลงโทษ ซังกะตาย อาจจะมีบ้างพวกที่มีอุดมการณ์แรกๆ ก็คึกคักดี แต่ผ่านไประยะหนึ่งเมื่อมองไปรอบข้างมีแต่พวกที่ไม่เอาไหน มันก็ชักนำให้ฝ่อตาม จากคำพูดดังกล่าวมันก็สะท้อนให้เห็นว่า การน้อมนำยุทธศาสตร์ "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา" นั้นไม่ได้ทำจริงจัง ดีแต่พูด เพราะถ้าทำจริง รับรองทุกอย่างต้องดีขึ้นทันตาเห็นแน่นอน เพราะถือว่าเป็นการแก้ปัญหา "แบบธรรมชาติ" และความเป็นจริงมากที่สุด ดังนั้นหวังว่านับจากนี้ไม่เกิน 3 เดือน หลังจากลงแส้ไปแล้วน่าจะคืบหน้า เพราะพวก "แก๊งน้ำมันเถื่อน" ถูกทลายไปแล้วไม่ใช่หรือ !!
00 อาจมองว่าล้ำเส้นเกินไปหน่อยแล้วก็ได้ สำหรับคำพูดของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่บอกว่าจะลงเลือกตั้งอีกรอบในปี 59 และยังเปรียบเปรยให้เจ็บจี๊ด อีกว่า "ถูก(โจร)เอาปืนจี้หัวไล่ลงกลางทางแล้วชิงรถไป" ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และนายกฯ ออกอาการเดือด คำรามใส่ทำนองว่า หากยังขืนพูดมากจะเจอไม้แข็ง "กักบริเวณ" และ "อายัดทรัพย์" ห้ามทำธุรกรรม ก็น่าจับตาว่า มาอารมณ์ไหน หรือว่าเป็นการปรามไว้ก่อน เพราะยังไม่ถึงเวลาหรือเปล่า !!
กำลังโหลดความคิดเห็น