00 อ่านคำพูดของ "หลวงปู่พุทธะอิสระ" แห่งวัดอ้อน้อย นครปฐม ผ่าน"ไทยโพสต์แทปลอยด์" เมื่อวันก่อนทำให้เห็นภาพ"แจ่มแจ้งแดงแจ๋" ว่าใครเป็นใคร มีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไร ก็วิจารณ์ให้ความเห็นมากเรื่องมากความ ใครที่ยังข้องใจสงสัย ก็ลองย้อนกลับไปหาอ่านแล้ววิเคราะห์ประเมินสถานการณ์กันเอาเอง และที่ผ่านมา"ผู้จัดการออนไลน์" ก็นำมาเผยแพร่ต่อ ลองไปติดตามค้นหากัน เพราะเชื่อว่าบรรดานักต่อสู้ทั้งหลายที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายเวที หลายปี ย่อมเข้าใจที่มาที่ไปได้ทันที
00 งานนี้ฟังจากปากหลวงปู่ ทำให้เข้าใจว่า "มั่นใจ" เอาใจช่วย "ทีมงานบูรพาพยัคฆ์" กันเต็มร้อย เดิมพันมั่นใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มั่นใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ว่าจริงใจกับการ "ปฏิรูปบ้านเมือง" แต่คำถามก็คือ "จะปฏิรูปไปทางไหน" ต่างหาก และอย่างไหนถึงเรียกว่าปฏิรูป ประเภทที่แต่งตั้งโยกย้ายคนใกล้ชิดที่ตัวเองไว้ใจเข้าไปแทนที่ในหน่วยงานสำคัญแบบนี้ ถือว่าปฏิรูปด้วยหรือเปล่า หรือว่าสถานการณ์พิเศษพาไป
00 คำพูดของ หลวงปู่ที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องแต่งตั้งคนที่ไว้ใจได้มาช่วยงาน ก็ต้องตั้ง "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มาใช้งาน เพราะเป็นคน"กว้างขขวาง" มีเพื่อนเยอะแยะทุกวงการ เป้าหมายเพื่อให้การทำงานราบรื่น ขณะตัว "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็อธิบายลักษณะว่าเป็น"คนเก็บตัว" ทำให้ถึง"บางอ้อ" เห็นคำตอบอีกทีว่าการแต่งตั้งโยกย้ายแทบจะทุกหน่วยงานล้วนมีแต่คนใกล้ชิดสายตรงของ"พี่ใหญ่" คนนี้แทบทั้งสิ้น ไม่เชื่อก็ลองไล่เรียงลงมา ตั้งแต่ที่ปรึกษา คสช.รัฐบาล สนช. นี่ก็มี สปช. ออกมาแล้ว ก็ลองเช็กรายชื่อดูกันเอาเองว่าใช่ หรือไม่ใช่ !!
00 อย่างไรก็ดี ผ่านมาสี่ห้าเดือนเริ่มมีคำถามจากสังคมมากขึ้นเหมือนกันว่า"จะสำเร็จหรือเปล่า" เมื่อดูจากแนวโน้มข้างหน้าแล้วมันหนักหนาไม่ใช่เล่น โดยเฉพาะต้องเจอกับด่านหิน เรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ที่ "ไม่ได้ดังใจ" ซึ่งเม็ดเงินที่ทุ่มลงไปกว่า 3.24 แสนล้านบาท ไม่เห็นผล ไม่อาจกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นขึ้นมาได้ในช่วง 3 เดือนที่เหลือในปีนี้ ปีหน้าหนักแน่ ปัญหาที่น่าห่วงก็คือ หากรมว.พลังงาน ณรงค์ชัย อัครเศรณี เดินหน้าปฏิรูปโครงสร้างพลังาน ด้วยการขึ้นราคาก๊าซ และดีเซล อ้างว่าเพื่อให้โครงสร้างด้านราคาเป็นธรรมสะท้อนต้นทุนจริง ก็ว่ากันไป แต่นั่นเท่ากับเปิดทางให้ราคาสินค้าขยับ ค่าเรือ ค่ารถโดยสาร ค่าขนส่งขยับตามมาแบบพรวดพราดจนควบคุมไม่อยู่ ถึงตอนนั้นไม่อยากคิดว่ามันจะเป็นอย่างไร และทำเป็นเล่นไป เรื่องนี้แหละจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้การปฏิรูปสำเร็จหรือไม่ !!
00 การโปรยเงินให้ชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 15,000 บาท กำลังเป็นคำถามเรื่อง "ประยุทธ์นิยม" เพื่อหวังซื้อใจกระตุ้นใช้จ่ายระดับรากหญ้า แต่เสียงวิจารณ์ตามมานอกจาก"ไม่พอ" แล้ว ยังข้องใจว่าทำไมให้เฉพาะชาวนาที่มีที่ดิน แล้วพวกที่เช่านาเขาทำ ที่มีจำนวนหลายล้านคน ทำไมถึงไม่ได้ หรือว่าไม่ใช่ชาวนา อยู่นอกสารบบไปแล้ว นอกจากนี้เกษตรกรที่เป็นชาวสวนอื่นๆ ทำไมถึงถูกมองข้ามไป เรื่องแบบนี้ "ละเอียดอ่อน" นะ จะบอกให้
00 จะเรียกว่าเรื่องไม่เป็นเรื่องกำลังจะมำให้เป็นเรื่องขึ้นมาจริงๆ สำหรับการยื่นบัญชีทรัพย์สินของ สนช. ต่อ ป.ป.ช. ที่ตอนแรกมี 28 คน ทำท่าอิดออดไม่ยื่น อ้างว่า ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจบังคับ อีกทั้งยังคิดว่าตัวเองไม่ใช่นักการเมือง ทำเอาชาวบ้านสวดกันพึมไปแล้ว นี่มาใหม่อีกบางรายเมื่อบังคับให้ยื่น ก็ยื่น แต่ดันมีข้อแม้ว่า "ห้ามเปิดเผยให้ชาวบ้านรู้" บอกว่าเดี๋ยวจะไม่ปลอดภัย กลัวโจรปล้น มันพิลึกจริง คนที่คิดแบบนี้ ไม่ใช่ใคร ก็ทั่นประธาน สนช. พรเพชร วิชิตชลชัย นั่นแหละ ทำให้น่าเป็นห่วงถึงเส้นทางปฏิรูปในวันข้างหน้าแล้วสิ !!
00 งานนี้ฟังจากปากหลวงปู่ ทำให้เข้าใจว่า "มั่นใจ" เอาใจช่วย "ทีมงานบูรพาพยัคฆ์" กันเต็มร้อย เดิมพันมั่นใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มั่นใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ว่าจริงใจกับการ "ปฏิรูปบ้านเมือง" แต่คำถามก็คือ "จะปฏิรูปไปทางไหน" ต่างหาก และอย่างไหนถึงเรียกว่าปฏิรูป ประเภทที่แต่งตั้งโยกย้ายคนใกล้ชิดที่ตัวเองไว้ใจเข้าไปแทนที่ในหน่วยงานสำคัญแบบนี้ ถือว่าปฏิรูปด้วยหรือเปล่า หรือว่าสถานการณ์พิเศษพาไป
00 คำพูดของ หลวงปู่ที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องแต่งตั้งคนที่ไว้ใจได้มาช่วยงาน ก็ต้องตั้ง "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มาใช้งาน เพราะเป็นคน"กว้างขขวาง" มีเพื่อนเยอะแยะทุกวงการ เป้าหมายเพื่อให้การทำงานราบรื่น ขณะตัว "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็อธิบายลักษณะว่าเป็น"คนเก็บตัว" ทำให้ถึง"บางอ้อ" เห็นคำตอบอีกทีว่าการแต่งตั้งโยกย้ายแทบจะทุกหน่วยงานล้วนมีแต่คนใกล้ชิดสายตรงของ"พี่ใหญ่" คนนี้แทบทั้งสิ้น ไม่เชื่อก็ลองไล่เรียงลงมา ตั้งแต่ที่ปรึกษา คสช.รัฐบาล สนช. นี่ก็มี สปช. ออกมาแล้ว ก็ลองเช็กรายชื่อดูกันเอาเองว่าใช่ หรือไม่ใช่ !!
00 อย่างไรก็ดี ผ่านมาสี่ห้าเดือนเริ่มมีคำถามจากสังคมมากขึ้นเหมือนกันว่า"จะสำเร็จหรือเปล่า" เมื่อดูจากแนวโน้มข้างหน้าแล้วมันหนักหนาไม่ใช่เล่น โดยเฉพาะต้องเจอกับด่านหิน เรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ที่ "ไม่ได้ดังใจ" ซึ่งเม็ดเงินที่ทุ่มลงไปกว่า 3.24 แสนล้านบาท ไม่เห็นผล ไม่อาจกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นขึ้นมาได้ในช่วง 3 เดือนที่เหลือในปีนี้ ปีหน้าหนักแน่ ปัญหาที่น่าห่วงก็คือ หากรมว.พลังงาน ณรงค์ชัย อัครเศรณี เดินหน้าปฏิรูปโครงสร้างพลังาน ด้วยการขึ้นราคาก๊าซ และดีเซล อ้างว่าเพื่อให้โครงสร้างด้านราคาเป็นธรรมสะท้อนต้นทุนจริง ก็ว่ากันไป แต่นั่นเท่ากับเปิดทางให้ราคาสินค้าขยับ ค่าเรือ ค่ารถโดยสาร ค่าขนส่งขยับตามมาแบบพรวดพราดจนควบคุมไม่อยู่ ถึงตอนนั้นไม่อยากคิดว่ามันจะเป็นอย่างไร และทำเป็นเล่นไป เรื่องนี้แหละจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้การปฏิรูปสำเร็จหรือไม่ !!
00 การโปรยเงินให้ชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 15,000 บาท กำลังเป็นคำถามเรื่อง "ประยุทธ์นิยม" เพื่อหวังซื้อใจกระตุ้นใช้จ่ายระดับรากหญ้า แต่เสียงวิจารณ์ตามมานอกจาก"ไม่พอ" แล้ว ยังข้องใจว่าทำไมให้เฉพาะชาวนาที่มีที่ดิน แล้วพวกที่เช่านาเขาทำ ที่มีจำนวนหลายล้านคน ทำไมถึงไม่ได้ หรือว่าไม่ใช่ชาวนา อยู่นอกสารบบไปแล้ว นอกจากนี้เกษตรกรที่เป็นชาวสวนอื่นๆ ทำไมถึงถูกมองข้ามไป เรื่องแบบนี้ "ละเอียดอ่อน" นะ จะบอกให้
00 จะเรียกว่าเรื่องไม่เป็นเรื่องกำลังจะมำให้เป็นเรื่องขึ้นมาจริงๆ สำหรับการยื่นบัญชีทรัพย์สินของ สนช. ต่อ ป.ป.ช. ที่ตอนแรกมี 28 คน ทำท่าอิดออดไม่ยื่น อ้างว่า ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจบังคับ อีกทั้งยังคิดว่าตัวเองไม่ใช่นักการเมือง ทำเอาชาวบ้านสวดกันพึมไปแล้ว นี่มาใหม่อีกบางรายเมื่อบังคับให้ยื่น ก็ยื่น แต่ดันมีข้อแม้ว่า "ห้ามเปิดเผยให้ชาวบ้านรู้" บอกว่าเดี๋ยวจะไม่ปลอดภัย กลัวโจรปล้น มันพิลึกจริง คนที่คิดแบบนี้ ไม่ใช่ใคร ก็ทั่นประธาน สนช. พรเพชร วิชิตชลชัย นั่นแหละ ทำให้น่าเป็นห่วงถึงเส้นทางปฏิรูปในวันข้างหน้าแล้วสิ !!