00 สังเกตหรือไม่ว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และคาดว่าจะต่อเนื่องไปจนถึงวันหน้าได้เกิดเหตุการณ์สำคัญ เริ่มตั้งแต่การที่นักศึกษา ม.ขอนแก่น 5 คน บุกถึงตัวหัวหน้า คสช. และนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขณะลงพื้นที่ตรวจราชการในภาคอีสาน เริ่มที่ขอนแก่น และกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา ถือว่าน่าจับตาเป็นอย่างยิ่งว่า รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงจะซีเรียสแค่ไหน เพราะหลังจากนั้น ยังมีการเคลื่อนไหวในลักษณะเครือข่าย นศ.ออกมาในการ "สร้างกระแส" กึ่งๆ แบบเฟชั่น มีการชู 3 นิ้ว เอาตัวอย่างจากภาพยนต์ที่กำลังลงโรงมาต้านเผด็จการกันในกรุงเทพฯ และตามต่างจังหวัดในภาคเหนือ ล่าสุดเกิดขึ้นที่ เชียงใหม่ เชียงราย ขณะที่ มท.1 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ขึ้นไปมอบนโยบายให้กับผู้ว่าฯ และไปเปิดงานสัมมนาของหอการค้าแห่งประเทศไทย
00 แน่นอนว่า กระแสแบบนี้มีการจงใจสร้างขึ้นมา แต่จะขยายวง สร้างแนวร่วมเพิ่มเติมได้มากมายขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับการ "เข้าใจสถานการณ์" ที่เป็นจริงมากน้อยแค่ไหน เพราะถ้ายิ่งซีเรียส แสดงท่าทางแบบใช้อำนาจเผด็จการมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเข้าทาง เพราะหากพิจารณาตามความเป็นจริง สังคมส่วนใหญ่ยังไม่เอาด้วย ออกไปทาง "น่ารำคาญ" กับพวกเด็กๆ พวกนี้ด้วยซ้ำ แต่ถ้ามองในภาพรวม มองในแง่ดี ก็ถือว่านี่คือ "มุมใหม่" ของพวกนักศึกษาในยุคใหม่ ที่เริ่มหันกลับมาสนใจสังคม ตื่นตัวในทางการเมืองมากขึ้นกว่าเดิม แทนที่จะไปเห่อแฟชั่น สินค้าบ้ายี่ห้อเกาหลี หากรัฐบาลเข้าใจอารมณ์แบบนี้ ก็ผ่อนๆไปบ้างเถอะ เพราะยิ่งปิดกั้น มันก็เหมือนยิ่งยั่วยุ ยิ่งต้องการแหกกฎ เพราะเด็กๆ พวกนี้มันก็ไม่ต่างจากพวกวัยรุ่นอื่นๆ มากเท่าไหร่นัก ซึ่งก็มีทั้งต้องการสร้างจุดเด่น เรียกร้องความสนใจ แต่อาจจะพ่วงเอาเรื่องการเมือง เรื่องเสรีภาพเข้าไปด้วยเท่านั้น ก็ต้องถือว่าเด็กๆ พวกนี้มีจิตใจที่ดีงาม เพียงแต่ว่าอาจเคลื่อนไหวไม่ถูกจังหวะเวลาบ้างเท่านั้น แต่ผ่อนคลาย คอยควบคุมอยู่ห่างๆ เดี๋ยวก็เงียบไปเอง
00 อย่างไรก็ดี ที่น่ากลัวกว่าก็คือ การเคลื่อนไหวแบบ "คลื่นใต้น้ำ" ต่อต้านสคช. โดยใช้เงื่อนไขเผด็จการที่คาดว่าจะน่าจะเข้มข้นมากขี้นตั้งแต่ปลายปีต่อเนื่องไปจนถึงต้นปีหน้า โดยเฉพาะจาก "เครือข่ายของ ทักษิณ ชินวัตร" หากสังเกตจากคดีความหลายคดีของคนสำคัญของพวกเขา เช่น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่จะโดนถอดถอน และโดนฟ้องอาญา ในคดีจำนำข้าว ถอดถอน สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนฯ นิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา จากเรื่องแก้ไขรธน.มิชอบ รวมไปถึงพวก 38 ส.ว.ในคดีเดียวกัน กำลังงวดเข้ามา แม้ว่าในที่สุดแล้วคงไม่มีผลอะไร แต่กรณีของ
ยิ่งลักษณ์ น่าลุ้น ถ้าถูกฟ้องอาญา รับรองมีหนาว นั่นคือ "ลุ้นคุก" แบบนี้มันก็ต้องป่วนต่อรองกันหน่อย !!
00 ขณะเดียวกัน น่าจับตาก็คือคำพูดแบบมีอารมณ์ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงกับเคยโพล่งออกมาในทำนองว่า มีข้าราชการ "เกียร์ว่าง" เนื่องจากรู้ดีว่า รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาล "เฉพาะกาล" อยู่ได้อีกไม่นาน แค่ปีเศษ นี่ก็ผ่านไปเกือบครึ่งทางแล้ว ดังนั้นจึงเริ่มทำมึน เฉื่อยงาน "ทำหูทวนลม" เพื่อรอรัฐบาล"แม้ว" กลับมาอีก เหล่ตาไปที่ขรก.มหาดไทย เป็นหลัก ซึ่งก็มีแนวโน้มเป็นแบบนั้นสูงยิ่ง เพราะที่ผ่านมาคสช. สั่งห้ามพูดถึงเรื่องเก่า ห้ามขยายความเรื่องความชั่วร้ายของระบอบทักษิณ อ้างว่าเพื่อความปรองดอง ก็รอดูไปก็แล้วกัน ว่าจะเจอชะตากรรมซ้ำรอยคมช. และรัฐบาล "ขิงแก่" หรือเปล่า แต่ที่น่าเศร้าไปกว่านั้นก็คือ ชาวบ้านที่ต้องมาเผชิญกับระบบห่วยๆ ที่จะกลับมาอีกครั้ง ขณะที่ขุนทหารที่ออกมาเที่ยวนี้ "ได้กำไร" กลับบ้านกันไปแล้ว เวรกรรม !!
00 แน่นอนว่า ถ้าพูดถึงเรื่องความมั่นคง นาทีนี้คนคุมเกมตัวจริง ก็ต้องเป็น "พี่ใหญ่" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะรองนายกฯ ด้านความมั่นคง และ รมว.กลาโหม และในฐานะที่ทำตัวเป็น"เปลือกหอยใหญ่" คอยหุ้มหอยอยู่ในเวลานี้ จึงต้องเป็นภาระหนักกว่าปกติ ตอนนี้ก็สั่งแกะรอยกลุ่มต้าน เน้นเช็กที่มาแต่ละคนแบบละเอียดยิบ มันก็ได้ผลส่วนหนึ่ง แต่เงื่อนไขสำคัญก็คือ ถ้ายังแก้ปัญหาปากท้องไม่ได้ ราคาสินค้าเกษตรไม่กระเตื้อง รับรองยุ่งแน่ และยังมีผลต่อเนื่องไปถึงอนาคตด้วย ประเภท "ต่อคิว" อะไรนั่น เลิกคิดไปได้เลย ขอบอก !!
00 แน่นอนว่า กระแสแบบนี้มีการจงใจสร้างขึ้นมา แต่จะขยายวง สร้างแนวร่วมเพิ่มเติมได้มากมายขนาดไหนก็ขึ้นอยู่กับการ "เข้าใจสถานการณ์" ที่เป็นจริงมากน้อยแค่ไหน เพราะถ้ายิ่งซีเรียส แสดงท่าทางแบบใช้อำนาจเผด็จการมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเข้าทาง เพราะหากพิจารณาตามความเป็นจริง สังคมส่วนใหญ่ยังไม่เอาด้วย ออกไปทาง "น่ารำคาญ" กับพวกเด็กๆ พวกนี้ด้วยซ้ำ แต่ถ้ามองในภาพรวม มองในแง่ดี ก็ถือว่านี่คือ "มุมใหม่" ของพวกนักศึกษาในยุคใหม่ ที่เริ่มหันกลับมาสนใจสังคม ตื่นตัวในทางการเมืองมากขึ้นกว่าเดิม แทนที่จะไปเห่อแฟชั่น สินค้าบ้ายี่ห้อเกาหลี หากรัฐบาลเข้าใจอารมณ์แบบนี้ ก็ผ่อนๆไปบ้างเถอะ เพราะยิ่งปิดกั้น มันก็เหมือนยิ่งยั่วยุ ยิ่งต้องการแหกกฎ เพราะเด็กๆ พวกนี้มันก็ไม่ต่างจากพวกวัยรุ่นอื่นๆ มากเท่าไหร่นัก ซึ่งก็มีทั้งต้องการสร้างจุดเด่น เรียกร้องความสนใจ แต่อาจจะพ่วงเอาเรื่องการเมือง เรื่องเสรีภาพเข้าไปด้วยเท่านั้น ก็ต้องถือว่าเด็กๆ พวกนี้มีจิตใจที่ดีงาม เพียงแต่ว่าอาจเคลื่อนไหวไม่ถูกจังหวะเวลาบ้างเท่านั้น แต่ผ่อนคลาย คอยควบคุมอยู่ห่างๆ เดี๋ยวก็เงียบไปเอง
00 อย่างไรก็ดี ที่น่ากลัวกว่าก็คือ การเคลื่อนไหวแบบ "คลื่นใต้น้ำ" ต่อต้านสคช. โดยใช้เงื่อนไขเผด็จการที่คาดว่าจะน่าจะเข้มข้นมากขี้นตั้งแต่ปลายปีต่อเนื่องไปจนถึงต้นปีหน้า โดยเฉพาะจาก "เครือข่ายของ ทักษิณ ชินวัตร" หากสังเกตจากคดีความหลายคดีของคนสำคัญของพวกเขา เช่น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่จะโดนถอดถอน และโดนฟ้องอาญา ในคดีจำนำข้าว ถอดถอน สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนฯ นิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา จากเรื่องแก้ไขรธน.มิชอบ รวมไปถึงพวก 38 ส.ว.ในคดีเดียวกัน กำลังงวดเข้ามา แม้ว่าในที่สุดแล้วคงไม่มีผลอะไร แต่กรณีของ
ยิ่งลักษณ์ น่าลุ้น ถ้าถูกฟ้องอาญา รับรองมีหนาว นั่นคือ "ลุ้นคุก" แบบนี้มันก็ต้องป่วนต่อรองกันหน่อย !!
00 ขณะเดียวกัน น่าจับตาก็คือคำพูดแบบมีอารมณ์ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงกับเคยโพล่งออกมาในทำนองว่า มีข้าราชการ "เกียร์ว่าง" เนื่องจากรู้ดีว่า รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาล "เฉพาะกาล" อยู่ได้อีกไม่นาน แค่ปีเศษ นี่ก็ผ่านไปเกือบครึ่งทางแล้ว ดังนั้นจึงเริ่มทำมึน เฉื่อยงาน "ทำหูทวนลม" เพื่อรอรัฐบาล"แม้ว" กลับมาอีก เหล่ตาไปที่ขรก.มหาดไทย เป็นหลัก ซึ่งก็มีแนวโน้มเป็นแบบนั้นสูงยิ่ง เพราะที่ผ่านมาคสช. สั่งห้ามพูดถึงเรื่องเก่า ห้ามขยายความเรื่องความชั่วร้ายของระบอบทักษิณ อ้างว่าเพื่อความปรองดอง ก็รอดูไปก็แล้วกัน ว่าจะเจอชะตากรรมซ้ำรอยคมช. และรัฐบาล "ขิงแก่" หรือเปล่า แต่ที่น่าเศร้าไปกว่านั้นก็คือ ชาวบ้านที่ต้องมาเผชิญกับระบบห่วยๆ ที่จะกลับมาอีกครั้ง ขณะที่ขุนทหารที่ออกมาเที่ยวนี้ "ได้กำไร" กลับบ้านกันไปแล้ว เวรกรรม !!
00 แน่นอนว่า ถ้าพูดถึงเรื่องความมั่นคง นาทีนี้คนคุมเกมตัวจริง ก็ต้องเป็น "พี่ใหญ่" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะรองนายกฯ ด้านความมั่นคง และ รมว.กลาโหม และในฐานะที่ทำตัวเป็น"เปลือกหอยใหญ่" คอยหุ้มหอยอยู่ในเวลานี้ จึงต้องเป็นภาระหนักกว่าปกติ ตอนนี้ก็สั่งแกะรอยกลุ่มต้าน เน้นเช็กที่มาแต่ละคนแบบละเอียดยิบ มันก็ได้ผลส่วนหนึ่ง แต่เงื่อนไขสำคัญก็คือ ถ้ายังแก้ปัญหาปากท้องไม่ได้ ราคาสินค้าเกษตรไม่กระเตื้อง รับรองยุ่งแน่ และยังมีผลต่อเนื่องไปถึงอนาคตด้วย ประเภท "ต่อคิว" อะไรนั่น เลิกคิดไปได้เลย ขอบอก !!