xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

แกะรอยไอ้เณรแสบ ปลอมทะเบียนกงจักร ขนไอซ์-ยาบ้ากว่า 500 ล้านฝ่ากฎอัยการศึกเข้ากรุง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจ้าหน้าที่คุมตัว พลทหารวิชัย รักษ์คีรีเขต อายุ 22 ปี สังกัด ร.17 พัน 4 ค่ายขุนจอมธรรม อ.เชียงคำ จ.พะเยา ไปทำแผน
ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ภาพข่าวรถตู้ ติดสติ๊กเกอร์หน้ารถ "กองพลทหารราบที่ 7" และ "พล.ร.7" ที่ประตูข้างรถทั้ง 2 ด้าน พร้อมอักษร V.I.P ที่ประตูหน้า รวมทั้งติดป้ายตรากงจักร หมายเลข ๙๙๑๒ แหกด่านตรวจแพร่ธรรมาราม หรือด่านแม่จั๊วะ อ.เด่นชัย จ.แพร่ เมื่อวันที่ 16 พ.ย.57 ทำให้ผู้คนในสังคมฉงนกันอยู่ไม่น้อย

เพราะหลังจากเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในรถคันดังกล่าวพบว่ามียาเสพติดวางอยู่บนเบาะนั่งผู้โดยสารเต็มรถ โดยไม่มีการซุกซ่อนใดๆ ซึ่งเป็นยาบ้าที่บรรจุอยู่ในกระสอบฟางจำนวน 11 ใบ รวม 1.6 ล้านเม็ด, ยาไอซ์ บรรจุอยูในกระเป๋าเป้ สีเขียว จำนวน 10 ใบ รวมประมาณ 150 กิโลกรัม รวมมูลค่าตามราคาตลาดในประเทศไม่น้อยกว่า 556 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังพบหลักฐานเป็นบัตรประจำตัวของคนขับรถและหลักฐานการเป็นทหาร จึงทราบว่า ผู้ที่หลบหนีไป คือ พลทหารวิชัย รักษ์คีรีเขต อายุ 22 ปี สังกัด ร.17 พัน 4 ค่ายขุนจอมธรรม อ.เชียงคำ จ.พะเยา มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 210 หมู่ 4 ต.เชียงบาน อ.เชียงคำ จ.พะเยา เป็นทหารเกณฑ์สัญชาติไทย เชื้อสายชาวม้ง เป็นพลทหารวัย 22 ปี ที่กล้าขับรถตู้บรรทุกยาเสพติดล็อตมหึมา ฝ่ากฏอัยการศึก ผ่านจุดตรวจปกติ-ด่านความมั่นคง ถี่ยิบตลอดเส้นทาง

ทั้งนี้ มีรายงานว่า การจับกุมยาเสพติดล็อตมหึมาครั้งนี้ มีขึ้นหลัง พ.ต.ท.รณฤทธิ์ นาเจริญ สว.ปพ./ปฎิบัติหน้าที่ประจำ ชปส.ภ.5 ได้รับแจ้งจากสายลับแจ้งว่า มีนายวิชัย รักษ์คีรีเขต อายุประมาณ 20-25 ปี เป็นชาวเขาเผ่าม้ง บ้านม่วงกาญจน์ ม.9 ต.ริมโขง อ.เชียงของ จ.เชียงราย มีพฤติการณ์ค้ายาเสพติดรายใหญ่ มักจะลักลอบนำยาเสพติดครั้งละจำนวนมากจากเชียงราย ไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯ และภาคกลาง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชา และสั่งการสืบสวนติดตาม

กระทั่งวันที่ 15 พ.ย.57 พ.ต.ท.รณฤทธิ์ ได้รับแจ้งอีกว่า นายวิชัย ได้เตรียมการจะขนยาเสพติดจำมาก จาก เชียงราย ไปส่งให้ลูกค้าในกรุงเทพฯ โดยได้ติดต่อเช่ารถตู้จากร้านพลศักดิ์ ในตัวเมืองเชียงราย

พ.ต.ท.รณฤทธิ์ จึงได้ติดต่อประสานกับทางร้านรถเช่า เพื่อขอข้อมูลการเช่ารถ และทราบว่า นายวิชัย ติดต่อเช่ารถตู้ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นแกรน์ไฮแอท สีขาวคาดบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน นค 1000 เชียงใหม่ ซึ่งติดตั้ง GPS ไว้ด้วย โดยมอบหลักฐานเป็นสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาใบขับขี่ และหมายเลขโทรศัพท์ สำหรับทางร้านติดต่อไว้ โดยพลทหารวิชัย ได้แต่งเครื่องแบบทหารชุดลายพรางเต็มยศมารับรถไปเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 15 พ.ย.57

หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้วางแผนสกดรอยติดตาม จนพบว่า พลทหารวิชัย นำรถไปในพื้นที่ อ.เชียงของ เมื่อรับยาบ้าแล้วได้ะใช้เส้นทางเชียงของ-เทิง-เชียงคำ-งาว-สอง-เมืองแพร่ และได้เปลี่ยนป้านทะเบียน มาเป็นป้ายกงจักร เมื่อรถผ่านจุดตรวจระหว่างทางก็จะชลอรถ เปิดไฟขอทาง เมื่อเจ้าหน้าที่ประจำด่านเห็นเป็นรถราชการจึงปล่อยผ่านไป

เมื่อรถคันดังกล่าวเข้าเขต อ.สูงเม่น กำลังมุ่งหน้าเข้า อ.เด่นชัย จ.แพร่ ซึ่งใกล้ออกนอกเขตตำรวจภูธรภาค 5 จึงประสานกับด่านตรวจแพร่ธรรมาราม หรือด่านแม่จั๊วะ เพื่อสกัดตรวจค้นรถคันดังกล่าว

แต่ขณะรถคันดังกล่าวมาถึงด่านตรวจแม่จั๊วะ เจ้าหน้าที่ได้ให้สัญาณหยุดรถ ปรากฎว่า คนขับไม่ยอมจอด กลับพยามเร่งเครื่องจะเฉี่ยวชนเจ้าหน้าที่ด่านตรวจ และแหกด่านไปได้

เจ้าหน้าที่จึงได้ไล่ติดตามและใช้อาวุธปืนยิงยางรถ แต่รถคันยังวิ่งต่อไปได้ ก่อนที่จะไปพบรถคันดังกล่าวเสียหลักจอดข้างทางที่เวณใกล้ร้านกาแฟดอยช้าง ห่างจากด่านตรวจประมาณ 1 กม.โดยชุดจับกุมเห็นชายคนหนึ่งแต่งกายชุดลายพรางวิ่งลงจากรถวิ่งลงจากรถข้ามถนนสาย 101 เข้าไปในป่าข้างทางจึงไล่ติดตามและประสานเจ้าหน้าที่ สภ.เด่นชัย ช่วยติดตาม

หลังเกิดเหตุ พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ.ม.พัน 12 ค่ายพระยาไชยบูรณ์ อ.เด่นชัย จ.แพร่ ได้นำกำลังทหารพร้อมอาวุธครบมือ 10 นายเข้าควบคุมสถานการณ์ในจุดเกิดเหตุ เนื่องจากเป็นช่วงประกาศใช้กฎอัยการศึก

จากนั้นได้ทำการตรวจพิสูจน์รถตู้ ซึ่งพบพิรุธหลายอย่าง ทั้งป้ายทะเบียนทหาร หรือป้ายตรากงจักร พบว่า เป็นป้ายทำด้วยพลาสติก แม้ว่าเป็นเครื่องหมายกงจักร และทะเบียนเป็นเลขไทย แต่เป็นป้ายที่ทำด้วยสติ๊กเกอร์ ถ้าเป็นของทหารจะเป็นป้ายโลหะ ส่วนตัวอักษรบอกสังกัด ก็เป็นสติ๊กเกอร์ติดเช่นกัน ซึ่งในราชการทหาร มักใช้วีธีการพ่นสีติดกับตัวรถ เมื่อตรวจค้นในรถยังพบป้ายทะเบียน นค 1000 เชียงใหม่ ซ่อนอยู่ในรถด้วย

พ.อ.ชาตรี ยืนยันว่า รถตู้คันดังกล่าว ไม่ใช่รถทหารแน่นอน !!

เช้าวันรุ่งขึ้นวันที่ 17 พ.ย.ก็มีรายงานจากด่านตำรวจดงยาง สภ.นาพูน อ.วังชิ้น จ.แพร่ ว่า สามารถควบคุมตัวคนร้ายได้ในขณะขับรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ หลบหนีไปตามเส้นทางหมายเลข 101 มุ่งหน้าไปจังหวัดสุโขทัย มีการเปลี่ยนชุดจากชุดทหารเป็นชุดพลเรือน แต่เจ้าหน้าที่จำหน้าได้ จึงทำการควบคุมตัวส่งมาที่ สภ.เด่นชัย

จากนั้นชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ ได้นำตัวคนร้ายไปยังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแพร่เพื่อสอบสวนขยายผล โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารเข้าร่วมสอบ หลังจากนั้นทหารก็ได้นำตัวพลทหารวิชัย เพื่อไปควบคุมตัวไว้ที่ ค่ายทหาร ม.พัน 12 อ.เด่นชัย จ.แพร่

การจับกุมยาเสพติดล็อตใหญ่ครั้งนี้ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ มีแผนจะแถลงข่าว แต่ก็ต้องล้มเลิก พร้อมส่งตัวพลทหารวิชัย ให้อยู่ในความควบคุมของทหาร

หลังจากนั้นเวลา 04.00 น.วันที่ 18 พ.ย.สารวัตรทหาร และกำลังทหารจำนวนหนึ่งได้นำตัวพลทหารวิชัย ไปควบคุมตัวไว้ที่ค่ายพระยาพิชัยดาบหัก จทบ.อุตรดิตถ์ เพื่อขึ้นศาลทหารต่อไป พร้อมกันนั้นพนักงานสอบสวน สภ.เด่นชัย นำของกลางส่งมอบให้สำนักงานปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)

ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง ผบก.ภ.จว.แพร่ ที่เดินทางไปตรวจสอบของกลางพร้อมนายศักดิ์ สมบุญโต ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ก็ได้กำชับสื่อมวลชนว่า ต้องให้ความเป็นธรรมกับหน่วยทหารที่ถูกคนร้ายแอบอ้าง เชื่อว่าการขนยาเสพติดครั้งใหญ่นี้ ไม่ได้เกิดจากกลไกของทหาร แต่เกิดจากพลทหารเพียงคนเดียวที่ครอบครัวมีประวัติค้ายาเสพติดอยู่แล้ว

โดยพบว่า นายภูรัธจักร รักษ์คีรีเขต อายุ 27 ปี พี่ชายของพลทหารวิชัย ถูกจับกุมพต้อมยาบ้า 34,000 เม็ด ในท้องที่ สภ.สบปราบ จ.ลำปาง เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมา และถูกตัดสินจำคุกในเรือนกลางจังหวัดเชียงราย ในเวลาต่อมา

และในวันเกิดเหตุ (16 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้าตรวจค้นบ้านเดิมของพลทหารวิชัย ที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย พบเพียงสมุดบัญชีธนาคารจำนวนหนึ่งเท่านั้น

เช่นเดียวกับการระดมกำลัง นรข. ทหารพราน ตำรวจ ตม.และ ป.ป.ส.ภาค 5 เข้าตรวจค้นโรงงานน้ำดื่ม และน้ำแข็งแห่งหนึ่งในหมู่ 2 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ชายแดนไทย-สปป.ลาว เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ในระยะที่ผ่านมาขบวนการค้ายาเสพติด ใช้คน-รถทางราชการในการลำเลียงทั้งยาบ้า-ไอซ์ จากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือส่งเข้าพื้นที่ชั้นในของประเทศมาแล้วหลายครั้ง

เช่น 13 ธ.ค.2555 ก็เคยเกิดเหตุฉาว 5 ตำรวจ สภ.อวน ตั้งแต่หัวหน้าสถานี ยันนายดาบ ใช้รถตราโล่ ขนย้าบ้าล้านเม็ดจากเชียงราย เข้ากรุงเทพฯ ก่อนถูกจับกุมได้ที่อยุทธยา นำไปสู่การขยายผลจับกุมผู้ต้องหาร่วมแก๊ง 8 คน ก่อนที่ศาลจะพิพาษาประหารชีวิต 3 อดีตตำรวจ เมื่อวันที่ 23 ก.ย.2557 ที่ผ่านมา

และวันที่ 18 ส.ค.2557 ก็ปรากฏข่าว นายตำรวจระดับรอง ผกก.ป.สภ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ถูกจับกุมพร้อมยาบ้า 8 แสนเม็ด-ไอซ์ 1 กิโลกรัม คารถฟอร์จูนเนอร์คันหรู ที่จอดอยู่ในลานจอดรถห้างเทสโก้โลตัส สาขาแม่สาย จ.เชียงราย

ซึ่งคราวนี้มีการใช้ทะเบียนตรากงจักรปลอม พร้อมติดสติ๊กเกอร์หน่วยทหาร ก็สามารถขนยาเสพติดล็อตมหึมาเข้ามาได้ลึกถึงเมืองแพร่


ยาบ้าที่บรรจุอยู่ในกระสอบฟางจำนวน 11 ใบ รวม 1.6 ล้านเม็ด, ยาไอซ์ บรรจุอยูในกระเป๋าเป้ สีเขียว จำนวน 10 ใบ รวมประมาณ 150 กิโลกรัม รวมมูลค่าตามราคาตลาดในประเทศไม่น้อยกว่า 556 ล้านบาทที่วางอยู่บนเบาะนั่งผู้โดยสารเต็มรถ โดยไม่มีการซุกซ่อนใดๆ

กำลังโหลดความคิดเห็น