xs
xsm
sm
md
lg

จับทหารค้ายาบ้า 2ล้านเม็ด-ไอซ์3กก.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (16 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะตำรวจสภ.เด่นชัย จ.แพร่ ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ด่านตรวจแพร่ธรรมาราม สามแยกเด่นชัย อ.เด่นชัย พบรถตู้โตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ติดสติ๊กเกอร์ข้างรถพล.ร.7 (กองพลทหารราบที่ 7) ไว้ที่ประตูห้องโดยสารซ้าย-ขวา และภาษาอังกฤษ V.I.P. ที่ประตูซ้าย-ขวาห้องคนขับ ทะเบียนกงจักร 9912 วิ่งมาตามถนนหมายเลข 101 ตรงมาที่ด่าน พ.ต.ท.ทัตเทพ เดโชชัย สว.สส.สภ.เด่นชัย จึงให้สัญญาณหยุดตรวจ แต่รถคันดังกล่าวกลับเร่งเครื่องแหกด่านไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ได้ใช้ปืนยิงสกัดให้รถหยุดแต่ไม่สำเร็จ

โดยรถตู้วิ่งไปได้ 500 เมตร คนขับได้นำรถเข้าจอดข้างทาง ท้องที่หมู่ 10 ต.แม่จั๊วะ อ.เด่นชัย ระหว่างร้านอาหารปัทมา กับร้านกาแฟดอยช้าง จากนั้นชายที่อยู่ในรถ ซึ่งแต่งชุดทหารลายพรางสีเขียว ได้ลงจากรถหลบหนีไปทางด้านทิศตะวันตก ทางไปอ.เด่นชัย

ด้านพ.ต.อ.ปิยบุตร อัฉริยมงคล รองผบก.ภ.จว.แพร่ ได้มาบัญชาการด้วยตัวเอง โดยสั่งให้ควบคุมรถไม่ให้ใครเข้าแตะต้อง เพื่อรอกองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจดีเอ็นเอของคนในรถที่หลบหนี จากนั้นสั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนภ.จว.แพร่ และสภ.เด่นชัย พร้อมทั้งสุนัขตำรวจ อาสาสมัครร่มบิน เข้าตรวจติดตามคนร้ายที่หลบหนี ซึ่งอยู่บริเวณรอยต่อหมู่ 10 ต.แม่จั๊วะ กับบ้านปากจั๊วะ หมู่ 8 ต.เด่นชัย

ทั้งนี้ พ.ต.ท.รณฤทธิ์ นาเจริญ สารวัตรปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า ได้ติดตามคนร้ายรายนี้จากเบาะแสที่รับแจ้งจากร้านรถเช่า ว่ามีผู้ต้องสงสัยมาเช่ารถ จึงทำการสืบสวนจนทราบว่าทำสติกเกอร์และเปลี่ยนป้ายทะเบียน ไปรับยาบ้าจากอ.เชียงของ จ.เชียงราย จึงติดตามมาตั้งแต่อ.เชียงของ โดยประสานงานให้ด่านใหญ่สกัดจับแต่ไม่สำเร็จ จนคนร้ายขับรถแหกด่านตำรวจสภ.เด่นชัย และทิ้งรถหลบหนี เนื่องจากจนมุมเจ้าหน้าที่ เพราะอีกราว 20 กิโลเมตร จะพบกับด่านตรวจห้วยไร่ ที่มีการตรวจค้นอย่างละเอียด

"ปกติรถที่ติดตราหน่วยงานและทะเบียนของทหาร ตำรวจจะไม่ค่อยตรวจละเอียดมากนัก แต่รายนี้ได้ประสานให้ด่านทำการตรวจค้น ซึ่งคนร้ายก็ไหวตัวทัน ขับรถแหกด่านก่อนทิ้งรถพร้อมยาบ้าหนีไป"

ต่อมา พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ.ม.พัน 12 ค่ายพระยาไชยบูรณ์ อ.เด่นชัย พร้อมกำลังทหารมายังที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่ารถคันดังกล่าวไม่ใช่รถทหาร ทะเบียนและสติกเกอร์เป็นของปลอม เมื่อค้นในรถโดยละเอียด พบป้ายทะเบียนจริงซุกซ่อนอยู่ในรถ คือ นค 1000 เชียงใหม่ พร้อมสำเนาบัตรประชาชนและใบขับขี่ของนายวิชัย รักษ์คีรีเขต อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 210 หมู่ 4 ต.เชียงบาน อ.เชียงคำ จ.พะเยา พร้อมลายเซ็นรับรองสำเนา เพื่อใช้สำหรับเช่ารถ

เวลา 15.00 น. พล.ต.ต.ประหยัด บุญศรี รองผบช.ภ. 5 มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย นายศักดิ์ สมบุญโต ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ พร้อมร่วมตรวจนับของกลางที่พบในรถตู้ โดยพบว่ามียาเสพติดทั้งยาบ้าและยาไอซ์รวม 21 เป้ โดยเป็นยาไอซ์ 1 เป้ จากนั้นระดมเจ้าหน้าที่นับปริมาณยาบ้าทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 ล้านเม็ด ยาไอซ์ไม่น้อยกว่า 3 กิโลกรัม

ส่วนผู้ต้องหาที่หลบหนีเชื่อว่ายังคงอยู่ในพื้นที่อ.เด่นชัย ใกล้กับหน่วยทหาร ม.พัน 12 ค่ายพระยาไชยบูรณ์ โดยตำรวจได้จัดกำลังจากบก.ภ.จว.แพร่ มาร่วมติดตามคนร้ายเพิ่มเติม แต่ยังไม่พบแม้แต่ร่องรอย

ทั้งนี้ จากการสืบสวนของตำรวจทราบว่านายวิชัย คือ พลทหารวิชัย รักษ์คีรีเขต สังกัด ร.17 พัน 4 ค่ายขุนจอมธรรม อ.เชียงคำ จ.พะเยา โดยการลำเลียงยาบ้าครั้งนี้มีการวางแผนหลายวัน ด้วยการการเช่ารถตู้ ทะเบียน นค 1000 เชียงใหม่ แล้วนำป้ายทะเบียนออก พร้อมทำป้ายทะเบียนทหาร 9912 และสติกเกอร์พล.ร.7 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มาติดเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

พล.ต.ต.ประหยัด กล่าวว่า การจับคุมครั้งนี้ถือเป็นรายใหญ่ ซึ่งผู้ต้องหาใช้วิธีดัดแปลงรถให้เป็นรถในราชการทหาร ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานต้นสังกัดแต่อย่างใด

ขณะที่พล.ต.สุทัศน์ จารุมณี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 7 สั่งการให้ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 17 เชิญตัวมารดาของพลทหารวิชัยไปยังที่เกิดเหตุ เพื่อเกลี้ยกล่อมให้ยอมมอบตัว เพราะไม่ต้องการให้มีการวิสามัญฆาตกรรม และเพื่อการขยายผลทลายเครือข่ายต่อไป พร้อมให้เสนาธิการกรมทหารราบที่ 17 และและเข้าพื้นที่เกิดเหตุเพื่ออำนวยการ และประสานการปฏิบัติกับพ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ.ม.พัน 12 อย่างใกล้ชิด ตลอดจนร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดปฏิบัติการขยายผลเครือข่ายบุคคลต้องสงสัยในพื้นที่ต่อไป

ล่าสุด จากการตรวจนับจของกลาง พบว่าเป็นยาไอซ์ประมาณ 150 กิโลกรัม ยาบ้าประมาณ 1.6 ล้านเม็ด โดยราคาซื้อขายยาไอซ์แนวชายแดน กิโลกรัมละ 600,000 บาท มูลค่ารวม 90 ล้านบาท หากนำมาขายพื้นที่ชั้นในกิโลกรัมละ 2 ล้านบาท มูลค่ารวม 300 ล้านบาท ขณะที่ยาบ้าราคาต้นทุนตามแนวชายแดนราว 56 ล้านบาท แต่หากนำมาขายในพื้นที่ชั้นในจะมีมูลค่าราว 265 ล้านบาท รวมมูลค่ายาเสพติดที่ตรวจยึดได้ครั้งนี้กว่า 556 ล้านบาท

ต่อมา พ.ต.ท.กุศลพันธุ์ สิงห์ใจ สว.สส.สภ.เชียงของ จ.เชียงราย นำตำรวจสนธิกำลังกับตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.) 328 หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง(นรข.)เขตเชียงราย และทหารพราน 31 เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 54 หมู่ 9 ต.ริมโขง อ.เชียงของ ชายแดนไทย-สปป.ลาว ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง พบเป็นบ้านของนายนิพนธ์ รักศิริเขต บิดาของพลทหารวิชัย ในบ้านก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่พบสมุดบัญชีออมทรัพย์จึงนำไปตรวจสอบแล้ว

นอกจากนี้ได้ตรวจประวัติพบว่า ในพื้นที่มีผู้ที่เป็นญาติกับพลทหารวิชัย เคยถูกจับกุมคดียาเสพติดที่อ.สบปราบ จ.ลำปาง เมื่อปี 2545 พร้อมยาบ้า 30,000 เม็ดด้วย.
กำลังโหลดความคิดเห็น