ด้ามขวานอ่วม!ฝนกระหน่ำหนัก น้ำพื้นราบสะสมผสมน้ำป่าจากภูเขา ทะลักท่วมตั้งแต่สุราษฎร์ธานี ตรัง พัทลุง หาดใหญ่ นราธิวาส ส่วนนครศรีธรมราช เจอ"พายุหางหนู"พัดถล่มบ้านเรือนต.ปากนคร ต.ท่าซัก อ.เมือง เสียหายกว่า 50 หลัง มณฑลทหารบกที่ 41 ต้องส่งทหารช่วยขึงผ้าใบแทนหลังคาชั่วคราว กรมอุตุนิยมวิทยาคาดตั้งแต่วันนี้(21 พ.ย.)ฝนเริ่มลดอยู่ในเกณฑ์ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่
วานนี้(20 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.สุราษฎร์ธานี ว่าหลังฝนตกหนักและลมกระโชกแรง ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ส่งผลให้น้ำป่าไหลหลากจากเขาท่าเพชร ลงมาท่วมผิวการจราจรหน้าโรงเรียนบ้านบางใหญ่ อ.เมือง ระดับน้ำสูงประมาณ 30 เซนติเมตร ประกอบกับน้ำฝนที่สะสมจำนวนมาก ไม่สามารถระบายลงสู่แม่น้ำตาปีได้ทัน ทำให้ถนนเลี่ยงเมือง ถนนสุราษฎร์-บ้านนาสาร และถนนสุราษฎร์-พุนพิน ถูกน้ำท่วมขังสูง 30-40เซนติเมตร มีต้นไม้ขนาดใหญ่โค่นทับบ้านเรือนในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ทหารจากค่ายวิภาวดีรังสิต และเจ้าหน้าที่กู้ภัย เร่งออกช่วยเหลือประชาชนแล้ว ซึ่งหากฝนหยุดตก จะทำให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
จ.นครศรีธรรมราช ช่วงเช้าเกิดพายุหางหนูพัดเข้าพื้นที่ต.ปากนคร และต.ท่าซัก อ.เมือง ทำให้บ้านเรือนเสียหายกว่า 50 หลัง บางหลังอยู่ในสภาพหลังคาหายไปทั้งหมด บางหลังอยู่ในสภาพโยกคลอน โดยมณฑลทหารบกที่ 41 ได้ส่งกำลังพลเข้าให้ความช่วยเหลือ เก็บกวาดเศษกระเบื้อง ขนย้ายสิ่งของ และหาผ้าใบขนาดใหญ่ปิดหลังคาที่เสียหาย เพื่อป้องกันลมและฝนชั่วคราว
จ.ตรัง ฝนตกหนักต่อเนื่อง 2-3 วัน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงมาจากเทือกเขาบรรทัด เข้าสู่พื้นที่ราบลุ่มในอ.นาโยง เอ่อล้นลำคลองเข้าท่วมสวนยางพารา ปาล์มน้ำมัน นาข้าว และถนนในหมู่บ้านต.ช่อง ต.ละมอ ต.นาโยงเหนือ รวมทั้งต.นาโยงใต้ อ.เมือง ระดับน้ำสูง 10-20 เซนติเมตร รถทุกชนิดยังสัญจรไได้ เพียงแต่ต้องระมัดระวัง เนื่องจากบางจุดน้ำไหลเชี่ยว ซึ่งเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งที่ 2 ในรอบเดือนพฤศจิกายน
ต่อมา นายทวี คงบัน นายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)นาโยงใต้ นำเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบสถานการณ์หมู่ 4 บ้านนาโยงใต้ บริเวณถนนทางเข้าสำนักสงฆ์ควนสงฆ์ ระดับน้ำสูง 40-50 เซนติเมตร รถเล็กสัญจรด้วยความลำบาก ส่วนหมู่ 7 บ้านหนองเอื้อง มีน้ำท่วมหลังปั้มน้ำมันซัสโก้ ระดับสูง 20-30 เซนติเมตร และหมู่ 8 บ้านโคกโคน น้ำท่วมหลังโรงเรียนเพาะปัญญา ระดับน้ำสูง 20-30 เซนติเมตร เนื่องจากจุดติดกับคลองนางน้อย และเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก ชาวบ้านเดือดร้อนประมาณ 80 ครัวเรือน ซึ่งล้วนแต่เป็นจุดเดิมที่เพิ่งจะถูกน้ำท่วมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
จ.พัทลุง น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด ไหลลงสู่อ.ศรีบรรพต ผ่านทางน้ำล้นหรือสปิลเวย์ฝายท่าแนะ ต.เขาย่า จนต้องเปิดประตูระบายน้ำ ทำให้น้ำหลากเข้ากัดเซาะคันดินขาดที่หมู่ 9 ต.ชะมวง อ.ควนขนุน น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน วัดล้อ และโรงเรียนวัดไทรพอนชาวบ้านกว่า 800 ครัวเรือนต้องเร่งอพยพสิ่งของเร่งด่วน ขณะที่ระดับน้ำยังเพิ่มระดับขึ้นตลอด และท่วมถนนเอเชีย 41 ฝั่งขา บริเวณแยกโพธิ์ อ.ควนขนุน ระยะทางกว่า 400 เมตร สูงเฉลี่ย 20-30 เซนติเมตร และทางหลวงเข้าอ.ศรีบรรพต และอ.ควนขนุน สูง 40-50 เซนติเมตร รถเล็กต้องใช้ความระมัดระวัง เจ้าหน้าที่ตชด.ที่ 434 พัทลุง ต้องนำไม้มาปักแนวถนน พร้อมขนย้ายต้นไม้กิ่งไม้ที่ขวางถนนออก
นอกจากนี้น้ำที่ไหลผ่านอ.กงหรา อ.ศรีนครินทร์ ได้ไหลท่วมพื้นที่ลุ่มจุดบรรจบของลำคลอง 4 สาย คือ คลองพญาโฮ้ว คลองหลักสาม คลองโคกไทร และคลองหวะหลัง จนล้นแนวตลิ่งทะลักเข้าท่วมพื้นที่ต.ชะรัด อ.กงหรา ต.หนาโหนด ต.ท่าแค ต.โคกชะงาย ต.เขาเจียก ต.ปรางหมู่ อ.เมือง ต.โคกม่วง ต.ควนขนุน ต.หารโพธิ์ อ.เขาชัยสน ส่วนที่อ.ควนขนุน ชาวบ้านต.มะกอกเหนือ ต.ปันแต ต.แหลมโตนด ต.พะนางตุง ต้องเร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ขณะที่ต.นาโหนด ต.ท่าแค ต.โคกชะงาย ต.ขาเจียก ระดับน้ำยังทรงตัวและไหลหลากเข้าสู่ต.ปรางหมู่ ต.พญาขันต์ ต.ลำปำ
ขณะเดียวกันลมที่กระโชกแรง ทำให้ต้นไม้ล้มทับบ้านเรือนเสียหาย 1 หลัง ในต.ป่าพะยอม อ.ป่าพะยอม กัดเซาะคอสะพานขาดที่หมู่ 1 ต.เขาปู่ อ.ศรีบรรพต ทำให้ชาวบ้านถูกตัดขาดกว่า 30 ครอบครัว
จ.สงขลา น้ำท่วมขังในพื้นลุ่มต่ำรอบนอกของอ.หาดใหญ่ โดยเฉพาะหมู่บ้านขวัญทิพย์ หมู่ 5 ต.คลองแห น้ำท่วมซ้ำซากเป็นรอบที่ 3 ได้รับความเดือดร้อนกว่า 10 หลังคาเรือน บางส่วนทนไม่ไหวต้องขอกำลังทหา รจากมณฑลทหารบกที่ 42 และอาสาสามัคร(อส.)อำเภอหาดใหญ่ มาช่วยขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้หนีน้ำไปอยู่ที่อื่นชั่วคราว เพราะเกรงว่าน้ำจะท่วมสูงกว่านี้
ด้านพระและชาวบ้านหมู่ 1 บ้านทุ่งบัว ต.กระแสสินธุ์ อ.กระแสสินธุ์ ต้องช่วยกันเฝ้าระวังน้ำที่ไหลลงมาจากภูเขาอย่างใกล้ชิด เพราะเกรงว่าอาจจะเกิดดินสไลด์ทับพระอุโบสถที่อยู่เชิงเขา เนื่องจากดินภูเขาชุ่มน้ำ และอยู่ในภาวะเสี่ยงตลอดเวลา ทั้งนี้ ปลายปีที่ผ่านมา เคยเกิดเหตุดินสไลด์จนพระอุโบสถและเมรุเสียหาย จึงสร้างความหวาดกลัวให้กับพระและชาวบ้านเป็นอย่างมาก
จ.นราธิวาส ฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน ทำให้น้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนท่าประปา ชุมชนหัวสะพาน ชุมชนโรงเลื่อย ชุมชนท่าชุมพู่ ชุมชนก่อไพ่ และชุมชนเจ๊ะกาเซ็ม เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งพ.ท.พงษ์พัฒน์ ห้องสินหลาก ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 36 จัดกำลังเจ้าหน้าที่ประจำการชุมชนท่าประปา เพื่อเตรียมอพยพประชาชนหากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ว่าช่วงวันที่ 21-25 พฤศจิกายน มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์กระจาย อ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูงประมาณ 1-2 เมตร โดยภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจายร้อยละ 40-60 ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40
วานนี้(20 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.สุราษฎร์ธานี ว่าหลังฝนตกหนักและลมกระโชกแรง ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ส่งผลให้น้ำป่าไหลหลากจากเขาท่าเพชร ลงมาท่วมผิวการจราจรหน้าโรงเรียนบ้านบางใหญ่ อ.เมือง ระดับน้ำสูงประมาณ 30 เซนติเมตร ประกอบกับน้ำฝนที่สะสมจำนวนมาก ไม่สามารถระบายลงสู่แม่น้ำตาปีได้ทัน ทำให้ถนนเลี่ยงเมือง ถนนสุราษฎร์-บ้านนาสาร และถนนสุราษฎร์-พุนพิน ถูกน้ำท่วมขังสูง 30-40เซนติเมตร มีต้นไม้ขนาดใหญ่โค่นทับบ้านเรือนในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ทหารจากค่ายวิภาวดีรังสิต และเจ้าหน้าที่กู้ภัย เร่งออกช่วยเหลือประชาชนแล้ว ซึ่งหากฝนหยุดตก จะทำให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
จ.นครศรีธรรมราช ช่วงเช้าเกิดพายุหางหนูพัดเข้าพื้นที่ต.ปากนคร และต.ท่าซัก อ.เมือง ทำให้บ้านเรือนเสียหายกว่า 50 หลัง บางหลังอยู่ในสภาพหลังคาหายไปทั้งหมด บางหลังอยู่ในสภาพโยกคลอน โดยมณฑลทหารบกที่ 41 ได้ส่งกำลังพลเข้าให้ความช่วยเหลือ เก็บกวาดเศษกระเบื้อง ขนย้ายสิ่งของ และหาผ้าใบขนาดใหญ่ปิดหลังคาที่เสียหาย เพื่อป้องกันลมและฝนชั่วคราว
จ.ตรัง ฝนตกหนักต่อเนื่อง 2-3 วัน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงมาจากเทือกเขาบรรทัด เข้าสู่พื้นที่ราบลุ่มในอ.นาโยง เอ่อล้นลำคลองเข้าท่วมสวนยางพารา ปาล์มน้ำมัน นาข้าว และถนนในหมู่บ้านต.ช่อง ต.ละมอ ต.นาโยงเหนือ รวมทั้งต.นาโยงใต้ อ.เมือง ระดับน้ำสูง 10-20 เซนติเมตร รถทุกชนิดยังสัญจรไได้ เพียงแต่ต้องระมัดระวัง เนื่องจากบางจุดน้ำไหลเชี่ยว ซึ่งเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งที่ 2 ในรอบเดือนพฤศจิกายน
ต่อมา นายทวี คงบัน นายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)นาโยงใต้ นำเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบสถานการณ์หมู่ 4 บ้านนาโยงใต้ บริเวณถนนทางเข้าสำนักสงฆ์ควนสงฆ์ ระดับน้ำสูง 40-50 เซนติเมตร รถเล็กสัญจรด้วยความลำบาก ส่วนหมู่ 7 บ้านหนองเอื้อง มีน้ำท่วมหลังปั้มน้ำมันซัสโก้ ระดับสูง 20-30 เซนติเมตร และหมู่ 8 บ้านโคกโคน น้ำท่วมหลังโรงเรียนเพาะปัญญา ระดับน้ำสูง 20-30 เซนติเมตร เนื่องจากจุดติดกับคลองนางน้อย และเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก ชาวบ้านเดือดร้อนประมาณ 80 ครัวเรือน ซึ่งล้วนแต่เป็นจุดเดิมที่เพิ่งจะถูกน้ำท่วมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
จ.พัทลุง น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด ไหลลงสู่อ.ศรีบรรพต ผ่านทางน้ำล้นหรือสปิลเวย์ฝายท่าแนะ ต.เขาย่า จนต้องเปิดประตูระบายน้ำ ทำให้น้ำหลากเข้ากัดเซาะคันดินขาดที่หมู่ 9 ต.ชะมวง อ.ควนขนุน น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน วัดล้อ และโรงเรียนวัดไทรพอนชาวบ้านกว่า 800 ครัวเรือนต้องเร่งอพยพสิ่งของเร่งด่วน ขณะที่ระดับน้ำยังเพิ่มระดับขึ้นตลอด และท่วมถนนเอเชีย 41 ฝั่งขา บริเวณแยกโพธิ์ อ.ควนขนุน ระยะทางกว่า 400 เมตร สูงเฉลี่ย 20-30 เซนติเมตร และทางหลวงเข้าอ.ศรีบรรพต และอ.ควนขนุน สูง 40-50 เซนติเมตร รถเล็กต้องใช้ความระมัดระวัง เจ้าหน้าที่ตชด.ที่ 434 พัทลุง ต้องนำไม้มาปักแนวถนน พร้อมขนย้ายต้นไม้กิ่งไม้ที่ขวางถนนออก
นอกจากนี้น้ำที่ไหลผ่านอ.กงหรา อ.ศรีนครินทร์ ได้ไหลท่วมพื้นที่ลุ่มจุดบรรจบของลำคลอง 4 สาย คือ คลองพญาโฮ้ว คลองหลักสาม คลองโคกไทร และคลองหวะหลัง จนล้นแนวตลิ่งทะลักเข้าท่วมพื้นที่ต.ชะรัด อ.กงหรา ต.หนาโหนด ต.ท่าแค ต.โคกชะงาย ต.เขาเจียก ต.ปรางหมู่ อ.เมือง ต.โคกม่วง ต.ควนขนุน ต.หารโพธิ์ อ.เขาชัยสน ส่วนที่อ.ควนขนุน ชาวบ้านต.มะกอกเหนือ ต.ปันแต ต.แหลมโตนด ต.พะนางตุง ต้องเร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ขณะที่ต.นาโหนด ต.ท่าแค ต.โคกชะงาย ต.ขาเจียก ระดับน้ำยังทรงตัวและไหลหลากเข้าสู่ต.ปรางหมู่ ต.พญาขันต์ ต.ลำปำ
ขณะเดียวกันลมที่กระโชกแรง ทำให้ต้นไม้ล้มทับบ้านเรือนเสียหาย 1 หลัง ในต.ป่าพะยอม อ.ป่าพะยอม กัดเซาะคอสะพานขาดที่หมู่ 1 ต.เขาปู่ อ.ศรีบรรพต ทำให้ชาวบ้านถูกตัดขาดกว่า 30 ครอบครัว
จ.สงขลา น้ำท่วมขังในพื้นลุ่มต่ำรอบนอกของอ.หาดใหญ่ โดยเฉพาะหมู่บ้านขวัญทิพย์ หมู่ 5 ต.คลองแห น้ำท่วมซ้ำซากเป็นรอบที่ 3 ได้รับความเดือดร้อนกว่า 10 หลังคาเรือน บางส่วนทนไม่ไหวต้องขอกำลังทหา รจากมณฑลทหารบกที่ 42 และอาสาสามัคร(อส.)อำเภอหาดใหญ่ มาช่วยขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้หนีน้ำไปอยู่ที่อื่นชั่วคราว เพราะเกรงว่าน้ำจะท่วมสูงกว่านี้
ด้านพระและชาวบ้านหมู่ 1 บ้านทุ่งบัว ต.กระแสสินธุ์ อ.กระแสสินธุ์ ต้องช่วยกันเฝ้าระวังน้ำที่ไหลลงมาจากภูเขาอย่างใกล้ชิด เพราะเกรงว่าอาจจะเกิดดินสไลด์ทับพระอุโบสถที่อยู่เชิงเขา เนื่องจากดินภูเขาชุ่มน้ำ และอยู่ในภาวะเสี่ยงตลอดเวลา ทั้งนี้ ปลายปีที่ผ่านมา เคยเกิดเหตุดินสไลด์จนพระอุโบสถและเมรุเสียหาย จึงสร้างความหวาดกลัวให้กับพระและชาวบ้านเป็นอย่างมาก
จ.นราธิวาส ฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน ทำให้น้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนท่าประปา ชุมชนหัวสะพาน ชุมชนโรงเลื่อย ชุมชนท่าชุมพู่ ชุมชนก่อไพ่ และชุมชนเจ๊ะกาเซ็ม เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ซึ่งพ.ท.พงษ์พัฒน์ ห้องสินหลาก ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสที่ 36 จัดกำลังเจ้าหน้าที่ประจำการชุมชนท่าประปา เพื่อเตรียมอพยพประชาชนหากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ว่าช่วงวันที่ 21-25 พฤศจิกายน มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลงอยู่ในเกณฑ์กระจาย อ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูงประมาณ 1-2 เมตร โดยภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจายร้อยละ 40-60 ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40