ASTVผู้จัดการรายวัน - เครือเซ็นทรัล ชี้กำลังซื้อฟิ้นเต็มที่แล้วรับเทศกาลจับจ่ายปีใหม่ ผนึกพลัง 4 แบรนด์ใหญ่ เป็นครั้งแรก “เซ็นทรัล-เซน-ซีพีเอ็น-เซ็นทรัลเอ็มบาสซี” ทุ่ม 1,000 ล้านบาท จัดแคมเปญใหญ่รับเทศกาลปีใหม่
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น เปิดเผยว่า ภาวะตลาดรวมค้าปลีกในไตรมาสสี่นี้พบว่าดีขึ้น กำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มฟื้นในทางบวก การจับจ่ายเริ่มมากขึ้น เพราะเข้าสู่ช่วงเทศกาลด้วยประกอบกับนักท่องเที่ยวต่างชาติก็เริ่มกลับเข้ามาเที่ยวไทยและมาชอปปิ้งกันแล้ว เท่าที่ทราบทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก็ทำการโรดโชว์ในต่างประเทศเต็มที่เพื่อดึงนักท่องเที่ยวกลับเข้ามาเที่ยวไทย คาดว่าในส่วนของธุรกิจค้าปลีกจต่างก็มีการจัดกิจกรรม อีเวนต์เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายเต็มที่
ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าวต่อว่า ปีนี้บริษัทในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป รวม 4 ธุรกิจคือ ห้างเซ็นทรัล ห้างเซน ซีพีเอ็น และเซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ ได้จับมือกันเพื่อจัดงานเทศกาลปีใหม่เป็นครั้งแรกเพื่อจัดแคมเปญใหญ่คือ “ เซ็นทรัล เซเรเบลท อิน แบงคอก” ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. - 31 ธ.ค. 57 ซึ่งใช้งบรวมกันไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทในการจัดแคมเปญครั้งนี้ โดยในส่วนของซีพีเอ็นเองจะใช้งบรวม 250 ล้านบาท เพื่อตกแต่งศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และจัดแคมเปญกิจกรรมกระตุ้นการขาย การจัดอีเวนต์ต่างๆ ทั้งที่เซ็นทรัลเวิลด์และเซ็นทรัลพลาซา เซ็นทรัลเฟสติวัล
ทั้งนี้ คาดว่าช่วงปลายปีนี้ภาพรวมค้าปลีกจะคึกคัก และซีพีเอ็นเองก็คงสามารถเพิ่มยอดผู้เข้ามาเดินในศูนย์ฯได้ไม่ต่ำกว่า 15% เป็น 150,000 - 180,000 คนต่อวัน จากปรกติ 120,000 - 150,000 คนต่อวัน และกระตุ้นยอดขายของร้านค้าให้เติบโตจากช่วงปรกติได้มากกว่า 20-30% และช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตได้
นางณัฐธีรา บุญศรี กรรมการผู้จัดการ ห้างเซน (ZEN) ดีพาร์ทเมนต์สโตร์ ในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสที่สี่นี้ถือเป็นช่วงเทศกาลจับจ่าย จึงทำให้ธุรกิจค้าปลีกมีการแข่งขันกันสูงโดยเฉพาะในด้านอีเวนต์และโปรโมชัน ซึ่งตอนนี้บรรยากาศและกำลังซื้อของผู้บริโภคก็เริ่มกลับคืนมาบ้างแล้ว หลังจากที่ตกลงไปตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เริ่มไหลกลับเข้ามาแล้ว ในส่วนของห้างเซนได้ทุ่มงบประมาณ 20 กว่าล้านบาท ในการจัดกิจกรรม การตกแต่งและการจัดแคมเปญช่วงเทศกาลปีใหม่ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. 57 - 1 มี.ค. 58 ซึ่งคาดว่าจะสามารถผลักดันยอดขายรวมให้เซนเติบโตขึ้น 20%
นางปิยวรรณ ลีละสมภพ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด เปิดเผยว่า ทางห้างเซ็นทรัลได้แยกงบประมาณออกเป็นสองส่วนคือ สำหรับห้างเซ็นทรัลทั้ง 17 สาขาทั่วประเทศ ใช้งบประมาณ 650 ล้านบาท และห้างเซ็นทรัลชิดลม ใช้งบ 250 ล้านบาท เพื่อร่วมจัดแคมเปญ เซ็นทรัล เซเลเบรท อิน แบงคอก ด้วยการจัด 3 รายการใหญ่ คือ เซ็นทรัลมิดไนท์เซลส์ วันที่ 26 พ.ย. 57 - 2 ธ.ค. 57 งานเซ็นทรัลเล็ทเซเรเบลท 2015 วันที่ 24 พ.ย. 57 - 1 มี.ค. 58 และ เซ็นทรัล เล็ท เซเรเบลท ว๊าว วันที่ 19 ธ.ค.57 - 4 ม.ค. 58 โดยห้างเซ็นทรัลตั้งเป้ายอดขายเฉพาะในช่วงไตรมาสสี่นี้จาก 3 แคมเปญใหญ่นี้ไว้ที่ 12,000 ล้านบาท
“ถ้ามองในภาพรวมตอนนี้กำลังซื้อเริ่มดีดกลับมาเมื่อเดือนกันยายน และเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้เราจัดงานวอทช์แฟร์ ทำให้มีปริมาณคนเข้าห้างมากขึ้น 10% ช่วงปลายเดือนตุลาคม ซึ่งหากเฉลี่ยแล้วทั้ง 17 สาขาของห้างเซ็นทรัลมีปริมาณลูกค้าเข้าเพิ่ม 5-6% เป็นผลมาจากการจัดอีเวนต์และการจัดแคมเปญโปรโมชั่นต่างๆ ซึ้งทั้งปีเราตั้งบการตลาดไว้ที่ 1,500 ล้านบาท แต่ครึ่งปีแรกไม่ค่อยได้ใช้จึงมาเน้นช่วงครึ่งปีหลังแทน แต่เฉพาะไตรมาสสุดท้ายนี้เราใช้ 650 ล้านบาท”
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น เปิดเผยว่า ภาวะตลาดรวมค้าปลีกในไตรมาสสี่นี้พบว่าดีขึ้น กำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มฟื้นในทางบวก การจับจ่ายเริ่มมากขึ้น เพราะเข้าสู่ช่วงเทศกาลด้วยประกอบกับนักท่องเที่ยวต่างชาติก็เริ่มกลับเข้ามาเที่ยวไทยและมาชอปปิ้งกันแล้ว เท่าที่ทราบทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก็ทำการโรดโชว์ในต่างประเทศเต็มที่เพื่อดึงนักท่องเที่ยวกลับเข้ามาเที่ยวไทย คาดว่าในส่วนของธุรกิจค้าปลีกจต่างก็มีการจัดกิจกรรม อีเวนต์เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายเต็มที่
ดร.ณัฐกิตติ์ กล่าวต่อว่า ปีนี้บริษัทในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป รวม 4 ธุรกิจคือ ห้างเซ็นทรัล ห้างเซน ซีพีเอ็น และเซ็นทรัลเอ็มบาสซี่ ได้จับมือกันเพื่อจัดงานเทศกาลปีใหม่เป็นครั้งแรกเพื่อจัดแคมเปญใหญ่คือ “ เซ็นทรัล เซเรเบลท อิน แบงคอก” ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. - 31 ธ.ค. 57 ซึ่งใช้งบรวมกันไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทในการจัดแคมเปญครั้งนี้ โดยในส่วนของซีพีเอ็นเองจะใช้งบรวม 250 ล้านบาท เพื่อตกแต่งศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และจัดแคมเปญกิจกรรมกระตุ้นการขาย การจัดอีเวนต์ต่างๆ ทั้งที่เซ็นทรัลเวิลด์และเซ็นทรัลพลาซา เซ็นทรัลเฟสติวัล
ทั้งนี้ คาดว่าช่วงปลายปีนี้ภาพรวมค้าปลีกจะคึกคัก และซีพีเอ็นเองก็คงสามารถเพิ่มยอดผู้เข้ามาเดินในศูนย์ฯได้ไม่ต่ำกว่า 15% เป็น 150,000 - 180,000 คนต่อวัน จากปรกติ 120,000 - 150,000 คนต่อวัน และกระตุ้นยอดขายของร้านค้าให้เติบโตจากช่วงปรกติได้มากกว่า 20-30% และช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตได้
นางณัฐธีรา บุญศรี กรรมการผู้จัดการ ห้างเซน (ZEN) ดีพาร์ทเมนต์สโตร์ ในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสที่สี่นี้ถือเป็นช่วงเทศกาลจับจ่าย จึงทำให้ธุรกิจค้าปลีกมีการแข่งขันกันสูงโดยเฉพาะในด้านอีเวนต์และโปรโมชัน ซึ่งตอนนี้บรรยากาศและกำลังซื้อของผู้บริโภคก็เริ่มกลับคืนมาบ้างแล้ว หลังจากที่ตกลงไปตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เริ่มไหลกลับเข้ามาแล้ว ในส่วนของห้างเซนได้ทุ่มงบประมาณ 20 กว่าล้านบาท ในการจัดกิจกรรม การตกแต่งและการจัดแคมเปญช่วงเทศกาลปีใหม่ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. 57 - 1 มี.ค. 58 ซึ่งคาดว่าจะสามารถผลักดันยอดขายรวมให้เซนเติบโตขึ้น 20%
นางปิยวรรณ ลีละสมภพ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด เปิดเผยว่า ทางห้างเซ็นทรัลได้แยกงบประมาณออกเป็นสองส่วนคือ สำหรับห้างเซ็นทรัลทั้ง 17 สาขาทั่วประเทศ ใช้งบประมาณ 650 ล้านบาท และห้างเซ็นทรัลชิดลม ใช้งบ 250 ล้านบาท เพื่อร่วมจัดแคมเปญ เซ็นทรัล เซเลเบรท อิน แบงคอก ด้วยการจัด 3 รายการใหญ่ คือ เซ็นทรัลมิดไนท์เซลส์ วันที่ 26 พ.ย. 57 - 2 ธ.ค. 57 งานเซ็นทรัลเล็ทเซเรเบลท 2015 วันที่ 24 พ.ย. 57 - 1 มี.ค. 58 และ เซ็นทรัล เล็ท เซเรเบลท ว๊าว วันที่ 19 ธ.ค.57 - 4 ม.ค. 58 โดยห้างเซ็นทรัลตั้งเป้ายอดขายเฉพาะในช่วงไตรมาสสี่นี้จาก 3 แคมเปญใหญ่นี้ไว้ที่ 12,000 ล้านบาท
“ถ้ามองในภาพรวมตอนนี้กำลังซื้อเริ่มดีดกลับมาเมื่อเดือนกันยายน และเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้เราจัดงานวอทช์แฟร์ ทำให้มีปริมาณคนเข้าห้างมากขึ้น 10% ช่วงปลายเดือนตุลาคม ซึ่งหากเฉลี่ยแล้วทั้ง 17 สาขาของห้างเซ็นทรัลมีปริมาณลูกค้าเข้าเพิ่ม 5-6% เป็นผลมาจากการจัดอีเวนต์และการจัดแคมเปญโปรโมชั่นต่างๆ ซึ้งทั้งปีเราตั้งบการตลาดไว้ที่ 1,500 ล้านบาท แต่ครึ่งปีแรกไม่ค่อยได้ใช้จึงมาเน้นช่วงครึ่งปีหลังแทน แต่เฉพาะไตรมาสสุดท้ายนี้เราใช้ 650 ล้านบาท”