ASTVผู้จัดการรายวัน - พนักงาน DHL ผงะ เอกซเรย์พัสดุ ปลายทางสหรัฐฯ พบพบศีรษะเด็กทารกผ่าครึ่ง พร้อมอวัยวะแยกชิ้นแช่ฟอร์มาลิน รวม 3 กล่อง สอบผู้ต้องสงสัยชาวต่างชาติ ยังไม่พบพิรุธ ส่งแพทย์จุฬาฯ ผ่าพิสูจน์ชี้ชิ้นส่วนทารกทั้ง 3 กล่อง ไม่ใช่เป็นของบุคคลเดียวกัน คาดถูกขโมยมาจากสถาบันทางการแพทย์ หรือการจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์
วานนี้ (16 พ.ย.) ร.ต.ท.สุพจน์ แก้วเจริญ พนักงานสอบสวน สน.บางโพงพาง รับแจ้งเหตุพบศพเด็กทารกบรรจุอยู่ภายในกล่องพัสดุที่บริษัท ดีเอชแอล พระราม 3 บริษัทรับส่งสินค้าระหว่างประเทศ จึงเดินทางไปตรวจสอบพบกล่องกว้างคูณยาว ขนาดประมาณ 6 นิ้ว ใส่มาในกล่องใหญ่ ด้านบนกล่องมีของเล่นเด็ก และรถเข็นเด็ก ห่อหุ้มด้วยโฟมกันกระแทกด้านบนอีกชั้นลักษณะอำพราง เมื่อเปิดกล่องทั้ง 3 พบกล่องแรกเป็นศีรษะเด็กทารกผ่าครึ่ง กล่องที่ 2 เป็นแผ่นผิวหนัง เด็กมีรอยสักอักขระ มี 4 แผ่น และกล่องที่ 3 เป็นเครื่องใน ทั้ง 3 กล่องถูกแยกอวัยวะเป็นส่วนๆ และแช่ฟอร์มาลินเอาไว้
สอบถามพนักงานบริษัทดีเอชแอลให้การว่า จากการตรวจสอบโดยการเอกซเรย์พัสดุดังกล่าวพบเห็นเป็นใบหน้าเด็กและมีชิ้นส่วนต่างๆ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาทำการตรวจสอบ เบื้องต้นทราบว่ากล่องพัสดุดังกล่าวส่งของต้นทางจากปทุมธานี ปลายทางสหรัฐอเมริกาโดยคนส่งเป็นชาวอเมริกันมีที่อยู่ย่านพระราม 1 ปทุมวัน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบหาเจ้าของจากกล้องวงจรปิดในวันที่มาการส่งพัสดุดังกล่าวเพื่อนำตัวมาสอบปากคำพร้อมดำเนินคดีต่อไป
***บช.น.นัดถกคลี่คคลายคดี
พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้าว่าได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนหาข้อเท็จจริง โดยในนี้ (17 พ.ย.) จะมีการประชุมหาแนวทางสืบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ที่ บช.น. ทั้งนี้ ต้องรอให้พนักงานสอบสวนสน.บางโพงพาง ทำการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องให้ละเอียดต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ชวลิต ประสบศิลป ผบก.น.5 เบื้องต้นได้สั่งการเพิ่มเติมให้ฝ่ายสืบสวนสน.บางโพงพาง และชุดสืบสวนบก.น.5 ลงพื้นที่ตรวจสอบหาหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้ได้ชุดสืบสวนได้เชิญตัวผู้ส่งพัสดุดังกล่าวมาสอบปากคำแล้ว ทราบเป็นชาวต่างชาติ 2 ราย ซึ่งทางจากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า ฝรั่งทั้ง 2 คน ไปเดินซื้อศพเด็กทารกดังกล่าวมาจากตลาดกลางคืนแห่งหนึ่งย่านสะพานพุทธฯ แต่จำเส้นทางไม่ค่อยได้ เนื่องจาก พึ่งเคยมาประเทศไทยเป็นครั้งแรก ส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องคนอื่นๆ นั้น ขณะนี้ยังไม่พบบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด
***สอบฝรั่งเจ้าของพัสดุรับซื้อสะพานพุทธฯ
ด้าน พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 กล่าวว่า ตำรวจได้เชิญนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อายุประมาณ 30 ปี ซึ่งรับว่าเป็นเจ้าของพัสดุมาสอบปากคำ เบื้องต้นไม่พบพิรุธ อ้างว่าได้ซื้อชิ้นส่วนดังกล่าวมาจากตลาดไนท์บาซาร์ ย่านสะพานพุทธฯ ราคาพันกว่าบาท และต้องการส่งไปให้เพื่อนที่สหรัฐอเมริกา เพราะเห็นว่าแปลกดี เจ้าหน้าที่จึงได้พิมพ์ลายนิ้วมื้อเก็บไว้ก่อนปล่อยตัวไป
ส่วนชิ้นส่วนที่พบเบื้องต้นสันนิษฐานว่า น่าจะถูกขโมยมาจากสถาบันการศึกษา หรือสถาบันทางการแพทย์ที่มีไว้สำหรับการศึกษา เนื่องจากลักษณะการผ่าการตัดชิ้น และการเก็บทำโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ ซึ่งขณะนี้ได้ประสานไปยังสถาบันต่างๆ ว่ามีของลักษณะดังกล่าวหายไปหรือไม่ พร้อมส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสยังตลาดดังกล่าว ส่วนชิ้นส่วนทารกได้ส่งต่อไปยังแผนกนิติเวชวิทยา รพ.จุฬาลงกรณ์ ตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง
พ.ต.อ.ชุมพล กล่าวว่า กรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะถูกนำมาใช้ในทางไสยศาสตร์ เนื่องจากพบรอยคล้ายอักขระ และยันต์นั้น น่าจะเป็นชิ้นส่วนที่บังเอิญมีรอยอักขระมากกว่า และคนธรรมดาไม่น่าจะทำได้ เชื่อว่ามีคนลักลอบนำออกมาจากสถาบันทางการแพทย์ ส่วนชาวต่างชาติจะซื้อไปเก็บสะสมหรือทำอะไรนั้นไม่สามารถยืนยันได้ แต่เชื่อว่าคนนิยมของแปลกก็อาจนำไปสะสมได้
****แพทย์ชี้ชิ้นส่วน3กล่องไม่ใช่บุคคลเดียวกัน
วานนี้ (16 พ.ย.) เมื่อเวลา13.00น. ที่ตึกนิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นพ.อุดมศักดิ์ หุ่นวิจิตร หัวหน้าภาควิชานิติศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีพบชิ้นส่วนเด็กทารก และชิ้นส่วนอวัยวะอื่นๆ ภายในกล่องบรรจุภัณฑ์ ที่จะส่งไปที่สหรัฐอเมริกาว่า ชิ้นส่วนที่พบเป็นชิ้นส่วนมนุษย์จริง ถูกดองด้วยสารฟอร์มาลีนบรรจุภายในกล่องใส ทางนิติเวชจะต้องตรวจสอบหาบางชิ้นส่วน เพื่อที่จะนำไปสกัดเอาดีเอ็นเอ หากพบว่าการตรวจดีเอ็นเอแล้ว มีความเชื่อมโยง หรือความสัมพันธ์ คาดว่าจะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบและดำเนินการ เพราะว่าบางชิ้นส่วนของมนุษย์ที่ถูกดองในกล่องใส มีส่วนคล้ายกับชิ้นส่วนอวัยวะของมนุษย์ที่จัดโชว์ในพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งตัวกล่องจะปิดมิดชิด และถูกเจาะรู เพื่อเปลี่ยน หรือเติมสารฟอร์มาลีนเมื่อหมดอายุ
จากการตรวจสอบชิ้นเนื้อต่างๆที่พบ ยืนยันได้ว่าชิ้นส่วน หรืออวัยวะต่างๆ ไม่ได้มาจากบุคคลเดียวกันแน่นอน และยังไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากชิ้นส่วนต่างๆถูกแช่ในสารฟอร์มาลีนมาเป็นเวลานาน มีการเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา ทั้งนี้ในทางการแพทย์ระบุได้ว่า ชิ้นส่วนต่างๆที่บรรจุภายในกล่องใส จะนำมาใช้ประกอบการเรียนการสอนของคณะแพทยศาสตร์ หรือเป็นการจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์เท่านั้น จึงไม่ทราบว่าชิ้นส่วนต่างๆถูกขโมยมา หรือเป็นการค้ากันมา.
วานนี้ (16 พ.ย.) ร.ต.ท.สุพจน์ แก้วเจริญ พนักงานสอบสวน สน.บางโพงพาง รับแจ้งเหตุพบศพเด็กทารกบรรจุอยู่ภายในกล่องพัสดุที่บริษัท ดีเอชแอล พระราม 3 บริษัทรับส่งสินค้าระหว่างประเทศ จึงเดินทางไปตรวจสอบพบกล่องกว้างคูณยาว ขนาดประมาณ 6 นิ้ว ใส่มาในกล่องใหญ่ ด้านบนกล่องมีของเล่นเด็ก และรถเข็นเด็ก ห่อหุ้มด้วยโฟมกันกระแทกด้านบนอีกชั้นลักษณะอำพราง เมื่อเปิดกล่องทั้ง 3 พบกล่องแรกเป็นศีรษะเด็กทารกผ่าครึ่ง กล่องที่ 2 เป็นแผ่นผิวหนัง เด็กมีรอยสักอักขระ มี 4 แผ่น และกล่องที่ 3 เป็นเครื่องใน ทั้ง 3 กล่องถูกแยกอวัยวะเป็นส่วนๆ และแช่ฟอร์มาลินเอาไว้
สอบถามพนักงานบริษัทดีเอชแอลให้การว่า จากการตรวจสอบโดยการเอกซเรย์พัสดุดังกล่าวพบเห็นเป็นใบหน้าเด็กและมีชิ้นส่วนต่างๆ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาทำการตรวจสอบ เบื้องต้นทราบว่ากล่องพัสดุดังกล่าวส่งของต้นทางจากปทุมธานี ปลายทางสหรัฐอเมริกาโดยคนส่งเป็นชาวอเมริกันมีที่อยู่ย่านพระราม 1 ปทุมวัน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบหาเจ้าของจากกล้องวงจรปิดในวันที่มาการส่งพัสดุดังกล่าวเพื่อนำตัวมาสอบปากคำพร้อมดำเนินคดีต่อไป
***บช.น.นัดถกคลี่คคลายคดี
พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้าว่าได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนหาข้อเท็จจริง โดยในนี้ (17 พ.ย.) จะมีการประชุมหาแนวทางสืบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง ที่ บช.น. ทั้งนี้ ต้องรอให้พนักงานสอบสวนสน.บางโพงพาง ทำการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องให้ละเอียดต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ชวลิต ประสบศิลป ผบก.น.5 เบื้องต้นได้สั่งการเพิ่มเติมให้ฝ่ายสืบสวนสน.บางโพงพาง และชุดสืบสวนบก.น.5 ลงพื้นที่ตรวจสอบหาหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้ได้ชุดสืบสวนได้เชิญตัวผู้ส่งพัสดุดังกล่าวมาสอบปากคำแล้ว ทราบเป็นชาวต่างชาติ 2 ราย ซึ่งทางจากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า ฝรั่งทั้ง 2 คน ไปเดินซื้อศพเด็กทารกดังกล่าวมาจากตลาดกลางคืนแห่งหนึ่งย่านสะพานพุทธฯ แต่จำเส้นทางไม่ค่อยได้ เนื่องจาก พึ่งเคยมาประเทศไทยเป็นครั้งแรก ส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องคนอื่นๆ นั้น ขณะนี้ยังไม่พบบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด
***สอบฝรั่งเจ้าของพัสดุรับซื้อสะพานพุทธฯ
ด้าน พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 กล่าวว่า ตำรวจได้เชิญนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อายุประมาณ 30 ปี ซึ่งรับว่าเป็นเจ้าของพัสดุมาสอบปากคำ เบื้องต้นไม่พบพิรุธ อ้างว่าได้ซื้อชิ้นส่วนดังกล่าวมาจากตลาดไนท์บาซาร์ ย่านสะพานพุทธฯ ราคาพันกว่าบาท และต้องการส่งไปให้เพื่อนที่สหรัฐอเมริกา เพราะเห็นว่าแปลกดี เจ้าหน้าที่จึงได้พิมพ์ลายนิ้วมื้อเก็บไว้ก่อนปล่อยตัวไป
ส่วนชิ้นส่วนที่พบเบื้องต้นสันนิษฐานว่า น่าจะถูกขโมยมาจากสถาบันการศึกษา หรือสถาบันทางการแพทย์ที่มีไว้สำหรับการศึกษา เนื่องจากลักษณะการผ่าการตัดชิ้น และการเก็บทำโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ ซึ่งขณะนี้ได้ประสานไปยังสถาบันต่างๆ ว่ามีของลักษณะดังกล่าวหายไปหรือไม่ พร้อมส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสยังตลาดดังกล่าว ส่วนชิ้นส่วนทารกได้ส่งต่อไปยังแผนกนิติเวชวิทยา รพ.จุฬาลงกรณ์ ตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง
พ.ต.อ.ชุมพล กล่าวว่า กรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะถูกนำมาใช้ในทางไสยศาสตร์ เนื่องจากพบรอยคล้ายอักขระ และยันต์นั้น น่าจะเป็นชิ้นส่วนที่บังเอิญมีรอยอักขระมากกว่า และคนธรรมดาไม่น่าจะทำได้ เชื่อว่ามีคนลักลอบนำออกมาจากสถาบันทางการแพทย์ ส่วนชาวต่างชาติจะซื้อไปเก็บสะสมหรือทำอะไรนั้นไม่สามารถยืนยันได้ แต่เชื่อว่าคนนิยมของแปลกก็อาจนำไปสะสมได้
****แพทย์ชี้ชิ้นส่วน3กล่องไม่ใช่บุคคลเดียวกัน
วานนี้ (16 พ.ย.) เมื่อเวลา13.00น. ที่ตึกนิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นพ.อุดมศักดิ์ หุ่นวิจิตร หัวหน้าภาควิชานิติศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีพบชิ้นส่วนเด็กทารก และชิ้นส่วนอวัยวะอื่นๆ ภายในกล่องบรรจุภัณฑ์ ที่จะส่งไปที่สหรัฐอเมริกาว่า ชิ้นส่วนที่พบเป็นชิ้นส่วนมนุษย์จริง ถูกดองด้วยสารฟอร์มาลีนบรรจุภายในกล่องใส ทางนิติเวชจะต้องตรวจสอบหาบางชิ้นส่วน เพื่อที่จะนำไปสกัดเอาดีเอ็นเอ หากพบว่าการตรวจดีเอ็นเอแล้ว มีความเชื่อมโยง หรือความสัมพันธ์ คาดว่าจะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ทราบและดำเนินการ เพราะว่าบางชิ้นส่วนของมนุษย์ที่ถูกดองในกล่องใส มีส่วนคล้ายกับชิ้นส่วนอวัยวะของมนุษย์ที่จัดโชว์ในพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งตัวกล่องจะปิดมิดชิด และถูกเจาะรู เพื่อเปลี่ยน หรือเติมสารฟอร์มาลีนเมื่อหมดอายุ
จากการตรวจสอบชิ้นเนื้อต่างๆที่พบ ยืนยันได้ว่าชิ้นส่วน หรืออวัยวะต่างๆ ไม่ได้มาจากบุคคลเดียวกันแน่นอน และยังไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากชิ้นส่วนต่างๆถูกแช่ในสารฟอร์มาลีนมาเป็นเวลานาน มีการเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา ทั้งนี้ในทางการแพทย์ระบุได้ว่า ชิ้นส่วนต่างๆที่บรรจุภายในกล่องใส จะนำมาใช้ประกอบการเรียนการสอนของคณะแพทยศาสตร์ หรือเป็นการจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์เท่านั้น จึงไม่ทราบว่าชิ้นส่วนต่างๆถูกขโมยมา หรือเป็นการค้ากันมา.