xs
xsm
sm
md
lg

ที่ดินของตระกูลจันทร์โอชา

เผยแพร่:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ

โชคดีที่การยื่นฟ้องศาลปกครอง กรณีคดีพิพาทที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติให้ สนช.ยื่นและเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ไม่ชอบด้วยกฎหมายของพล.อ.นพดล อินทปัญญา และพวกไม่เป็นผล ทำให้เราทราบว่า อาชีพทหารที่มีรายรับจากเงินราชการนั้นหลายคนเป็นคนรวยเกินความคาดหมายมีเงินเก็บหลายร้อยหลายสิบล้านบาท

บางคนอาจนินทาว่า ต่อให้เก็บเงินเดือนทุกบาททุกสตางค์ตลอดชีวิตรับราชการแบบไม่ใช้เลยสักบาทก็ยังมีเงินขนาดนั้นไม่ได้ แต่เอาเถอะอาจเป็นเพราะแม้จะรับราชการแต่บางคนก็อาจมีช่องทางทำธุรกิจหรือมีสมบัติพัสถานมรดกมาจากวงศ์ตระกูลแต่ดั้งแต่เดิม เรื่องนี้จึงว่ากันไม่ได้ถ้าจับไม่มั่น คั้นไม่ตาย

แต่ต้องยอมรับนะครับว่า มี 2 คนที่คนเขาจับตาเป็นพิเศษก็คือ บัญชีของ 2 พี่น้องจันทร์โอชา คนน้องพล.อ.ปรีชา จันทร์โอชานั้นต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินในฐานะสมาชิก สนช. ส่วนคนพี่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินในฐานะนายกรัฐมนตรี

การแสดงบัญชีของพล.อ.ปรีชานั้นเกือบจะเป็นเรื่อง แม้สุดท้ายจะเคลียร์กันได้ลงตัว เนื่องจากข้อมูลยอดเงินฝากที่พล.อ.ปรีชา แจ้งไว้ในใบปะหน้าเอกสารต่อ ป.ป.ช. คือ 42,051,468 บาท แต่กลับแจ้งยอดบัญชีเงินฝากทั้งหมดไว้ 10 บัญชี คิดเป็นวงเงินรวม 89,418,876 บาท ทำให้เกิดข้อสงสัยตามมาทันที ว่าเงินที่เกินมากว่า 47 ล้านบาท มีที่มาที่ไปอย่างไร

กระทั่งจบลงได้เมื่อพล.อ.ปรีชาชี้แจงเพิ่มเติมว่า เงินในบัญชีที่เกินมานั้น เป็นบัญชีเงินฝากของหน่วยงานที่มีอำนาจลงนามสั่งจ่าย เพื่อใช้ในกิจการของราชการ แต่ไม่ใช่บัญชีเงินของตัวเอง พร้อมแนบเอกสารประกอบจำนวน 2 รายการ คือ 1. รายการบัญชีสถานภาพเงินราชการ กองทัพภาคที่ 3 2. รายการบัญชีสถานภาพเงินนอกงบประมาณและงบพิเศษของกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3

พร้อมกับชี้แจงว่า เงินในบัญชีส่วนหนึ่งได้มาจากการขายที่ดินที่พ่อแบ่งให้ลูกๆ ทุกคน รวมทั้งพล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีและพี่น้องคนอื่นด้วย

พล.อ.ปรีชา ตอบสำนักข่าวอิศราที่ตามเกาะติดเรื่องนี้ว่า “จะเอาอะไรกับผมนักหนา ผมมีที่มาที่ไปนะ บ้านผมไม่ใช่ว่าจนนะ ต้องไปดูรายละเอียดให้ชัดเจน ไปดูสิ เงินเดือนผม รายได้ต่อปีเท่าไหร่ ไปดูให้ละเอียด แล้วค่อยเขียน ไม่ใช่จับตัวเลขปั๊บแล้วมาเขียน เหมือนกับเราไปโกงใครเขามา พ่อผมขายที่ได้ เขาก็แบ่งให้คนละแปดสิบล้าน ร้อยล้าน นายกฯ เขาก็ได้ นี่ถ้าไปตรวจสอบนายกฯ เขาก็ไม่ผิด น้องชาย น้องสาวเขาก็ไม่ผิด” ส่วนภรรยานั้นพล.อ.ปรีชาชี้แจงว่าเป็นคนที่มีฐานะร่ำรวยอยู่แล้ว

เรื่องของพล.อ.ปรีชาก็ค่อยๆ เงียบหายไป จนกระทั่งมาถึงการแจงบัญชีทรัพย์สินของพล.อ.ประยุทธ์ผู้พี่ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า ที่พล.อ.ปรีชาผู้น้องบอกว่า พี่น้องทุกคนได้เงินจากการขายที่ดินของพ่อนั้นเป็นเรื่องจริง

เพียงแต่เวลาต่อมาสำนักข่าวอิศราเจ้ากรรมไปตรวจสอบพบว่า บริษัท 69 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ที่ซื้อขายที่ดินของตระกูลจันทร์โอชา 9 แปลงเนื้อที่ 50-3-08 ไร่นั้น ในราคา 600 ล้านบาท เป็นบริษัทที่มีหุ้นส่วนเป็นบริษัทจดทะเบียนในเกาะบริติชเวอร์จิ้น จากการตรวจสอบยังพบว่า บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าวเป็นกรรมการบริษัทในเครือทีซีซีแลนด์ของ นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของธุรกิจเบียร์ช้าง ซึ่งหันไปจับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วย

โดยบริษัท 69 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด จดทะเบียนในวันที่ 2 พ.ค. 2556 ก่อนทำการซื้อขายที่ดินของตระกูลจันทร์โอชา ในวันที่ 9 พ.ค. 2556 คือจดทะเบียนบริษัทก่อนซื้อขายเพียง 7 วัน

ส่วนบริษัทที่จดทะเบียนที่เกาะบริติชเวอร์จิ้นนั้น ส่วนใหญ่เขารู้กันว่าใช้เป็นแหล่งหนีภาษีและฟอกเงิน (Tax Heaven Territory) หมู่เกาะบริติชเวอร์จิ้นตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียน ทางตะวันออกของประเทศจาเมกา เดิมนั้นเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิดัตช์ (Dutch Empire) ภายหลังอังกฤษเข้ามาครอบครอง เมื่อ พ.ศ. 2215

แต่เรื่องนี้ผมยกประโยชน์ให้กับเจ้าของที่ดินนะครับว่า คงไม่สืบสายหรอกครับว่า บริษัทที่เข้ามาซื้อขายที่ดินที่ตัวเองอยากขายนั้นมีความเป็นมาที่สืบทอดมาอย่างไร คนขายก็เพียงแต่ให้ได้เงินและราคาตามต้องการก็พอ มีแต่ข้อสงสัยต่อคนซื้อว่าทำไมต้องไปจดทะเบียนที่เกาะดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวอิศราเจ้ากรรมเขาไม่ได้หยุดแค่นี้ เพราะเขาได้โทรศัพท์ไปสอบถามกับพ.อ.ประพัฒน์ จันทร์โอชา พ่อของพล.อ.ประยุทธ์ วัย 89 ปีได้รับคำตอบว่า ไม่ทราบข้อมูลเรื่องการซื้อขายที่ดินดังกล่าว ขอให้ไปสอบถามข้อมูลจาก พล.อ.ประยุทธ์ เอาเอง เพราะเป็นผู้รับผิดชอบจัดการเรื่องทั้งหมด

ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนไปเสนอขายที่ดินแปลงนี้ด้วยตัวเอง หรือบริษัทอสังหาฯ ไปพบที่ดินแปลงนี้แล้วแสวงหาเจ้าของที่ดินเพื่อติดต่อซื้อขายนั้นไม่อาจทราบได้

แต่ที่แน่ๆ ที่ดินแปลงนี้ซื้อขายในขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้บัญชาการทหารบก ยังไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี

เมื่อขายที่ดินได้เงินก็โอนเข้าบัญชีของพ.อ.ประพัฒน์ ผู้พ่อในฐานะเจ้าของที่ ต่อมาพ.อ.ประพัฒน์ ได้มอบเงินจำนวน 540 ล้านบาทกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เนื่องจากเป็นบุตรชายมีสิทธิอย่างสมบูรณ์ในการดูแลเงินจำนวนนี้ ให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องของผู้รับ

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้แจ้งต่อสำนักงาน ป.ป.ช.ว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาซอยอารีสัมพันธ์ รับรองว่าได้มีการโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์เลขที่ 056-2-471xx-x ชื่อบัญชี พล.อ.ประยุทธ์ โดยโอนมาจากบัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 134-2-329xx-x ชื่อบัญชี พ.อ.ประพัฒน์ จำนวนเงิน 540 ล้านบาท ณ วันที่ 10 พฤษภาคม 2556 จริง

หลังเป็นข่าวสื่อมวลชนได้ใช้โดรนขึ้นไปถ่ายภาพมุมสูงของที่ดินผืนดังกล่าว เห็นว่า เป็นที่ดินแปลงสวยทีเดียว พื้นที่หน้ากว้างติดถนน 4 เลน (ไปกลับข้างละ 2 เลน)

การซื้อขายที่ดินของตัวเองไม่ใช่ความผิดและราคาขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ซื้อและผู้ขายแต่เลี่ยงไม่ได้หรอกที่จะมีคนนินทาว่า ถ้าคนขายไม่เป็น ผบ.ทบ.จะได้ราคาขนาดนี้ไหม

อย่างไรก็ตาม ราคาที่ดินบริเวณดังกล่าวขายกันจริงราคาตารางวาละเท่าไหร่นั้นตรวจสอบได้ไม่ยากหรอกครับ ผมคิดว่าเพื่อความบริสุทธิ์ใจก็ปล่อยให้สื่อมวลชนตรวจสอบกันอย่างเต็มที่เลย

แต่ผมไม่เข้าใจที่พล.อ.ประยุทธ์ พูดว่า บิดาซื้อขายที่ดินดังกล่าวตามปกติ ไม่มีปัญหาใดๆ และไม่เกี่ยวข้องกับตัวเอง หากใครคิดว่ามีที่มาไม่ชอบสามารถตรวจสอบบริษัทดังกล่าวได้ และขอให้ทุกคนหยุดวิจารณ์

คือเรียกร้องให้มีการตรวจสอบแล้วทำไมบอกว่าขอให้หยุดวิจารณ์ เพราะถ้าพร้อมให้เขาตรวจสอบก็ต้องพร้อมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ด้วยสองสิ่งนี้ควรจะไปด้วยกัน

ที่เราต้องไม่ลืมก็คือ หลังเข้ามารับตำแหน่งพล.อ.ประยุทธ์ย้ำเสมอมาว่า ต้องซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ตั้ง ดังนั้นอย่าไปกลัวเลยครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น