ASTVผู้จัดการรายวัน- ช่อง5 วางแผนปรับตัวสู่ช่องสาธารณะ เพื่อความมั่นคงภายในปี60 เน้นลดสัดส่วนบันเทิงลงปีละ10% เชื่อผู้ผลิต รายการยังพร้อมส่งคอนเท้นท์ลงช่อง5 แม้หลายรายจะมีช่องของตัวเอง ชี้โครงข่ายทีวีดิจิตอล จะช่วยบาลานซ์รายได้ในอนาคต คาดปี59-60 เก็บค่าเช่าได้เต็ม ด้วยการสร้างสถานีส่งครบ 39แห่ง
พลตรีบุญญฤทธิ์ วิสมล ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายและแผน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง5 เปิดเผยว่า แผนการวางโครงข่าย ทีวีดิจิตอลของทางททบ.5 ขณะนี้ทำได้กว่า 19สถานีแล้ว ซึ่งสัญญาณ ครอบคลุมกว่า 21 จังหวัด ถือว่าครอบคลุม 70% ของประเทศ เป็นไปตามแผนปีแรกที่นำเสนอแก่กสทช.จาก แผนทั้งหมดสี่ปี
ส่วนแผนในปีที่สองจะเพิ่มอีก20สถานีคาดว่าจะแล้ว เสร็จช่วงกลาง ปี2558 และจะเพิ่มสถานีเสริมอีก45แห่งช่วงครึ่งปีหลังจากปัจจุบัน มีอยู่1แห่งที่หัวหินมั่นใจว่าภายในปี 59-60จะมีสถานีหลัก ครบ39แห่งและสถานีเสริม119แห่งตามแผนได้
"สถานีส่งโครงข่ายทีวีดิจิตอลของททบ.5 เป็นการติดตั้งที่เป็นไป ตามแผนที่วางไว้ และมั่นใจว่าเป็นโครงข่ายที่ดีที่สุดในขณะนี้ซึ่งมีผู้เช่า สัญญาณจนไม่มีสัญญาณว่างพอสำหรับผู้ที่สนใจที่ติดต่อเข้ามา โดย ในแง่ของการเก็บค่าเช่านั้นยังไม่ได้เก็บเต็มราคา เหตุเพราะยังสร้าง สถานีส่งไม่ครบ จึงใช้วิธีเก็บตามเสาสถานีส่งที่เกิดขึ้นตามครัวเรือน ที่ครอบคลุม หรือเฉลี่ยแล้วยังเก็บค่าเช่าไม่ถึงครึ่งของราคาเต็มที่ อยู่ที่4.2ล้านบาทต่อเดือน คาดว่าในปี60จะสามารถเก็บเต็มราคาได้"
พลตรีบุญญฤทธ์ กล่าวต่อว่า รายได้จากส่วนของโครงข่ายนี้ในปี60 จะเป็นรายได้ในสัดส่วน 50% เท่ากับรายได้ทีวี คือช่อง 5ที่ก้าวสู่ทีวีดิจิตอลในรูปแบบช่องสาธารณะเพื่อความมั่นคงแบบเต็มรูปแบบ นั่นหมายความว่า รายได้ในส่วนของทีวีจะลดลงตามรูปแบบ และนโยบายของการเป็นช่องสาธารณะเพื่อความมั่นคง ที่จะต้องมี รายการประเภทสาระ70% และบันเทิง 30% โดยยังคงสามารถ โฆษณาได้ที่ 8-10 นาทีต่อชั่วโมง
"การเป็นช่องสาธารณะเพื่อความมั่นคง จะส่งผลต่อแนวทางในการ หารายได้จะทำได้ยากขึ้น เหตุเพราะมีคู่แข่งเพิ่มขึ้น ช่องที่เป็นบั นเทิงเยอะ มีความน่าสนใจกว่าช่อง5 ลูกค้าที่จะซื้อสื่อโฆษณาก็มีจำกัดขึ้น คอนเท้นท์ทำยากขึ้นผู้ผลิตเดิมหันไปหาช่องอื่นทดแทน เพราะมีหลาย รายที่มีช่องของตัวเอง แต่หากมีการคุยเจรจามีผลตอบแทนเพิ่มให้ เชื่อว่าผู้ผลิตก็จะยังคงอยู่กับทางช่อง5 และหากเน้นเรื่องครีเอทีฟการนำ เสนอให้ดีเชื่อว่าจะช่วยทำให้รายได้ช่อง5ลดลงน้อยที่สุดหลังการเป็นช่องสาธารณะ"
พันเอกภัคพงศ์ พรายจันทร์ รองผู้อำนวยการฝ่ายรายการ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง5 กล่าวเสริมว่า แผนการปรับผังรายการสู่การเป็นช่องทีวีสาธารณะเพื่อความมั่นคงครั้งนี้จะส่งผลต่อรายได้ให้ลดลงแน่นอน แต่จะเป็นรายได้ที่คุ้มทุนและเลี้ยง ตัวเองได้ในฐานะที่เป็นช่องสาธารณะที่ไม่มุ่งเน้นกำไร ขณะที่ต่อปีจะมีต้นทุนในการบริหารช่อง ทั้งด้านกำลังพลและอุปกรณ์ปี ละประมาณ 1,000 ล้านบาท ส่วนปัญหาเรื่องผู้ผลิตนั้น แม้หลายรายจะมีสถานีของตัวเอง แต่มั่นใจว่ายังต้องมีคอนเท้นท์ อยู่ที่ช่อง5 เพราะเชื่อว่าคงไม่สามารถลงที่ช่องตัวเองได้หมด ที่สำคัญ โครงข่ายของททบ. แข็งแกร่งที่สุด
อย่างไรก็ตาม ช่อง5ได้เริ่มดำเนินการปรับผังรายการสู่การเป็นช่อง สาธารณะเพื่อความมั่นคงแล้ว ซึ่งเป็นแผนที่เริ่มตั้งแต่ปี57-60 โดยในปีนี้ได้เริ่มทยอยปรับผังรายการลง จากเดิมสัดส่วนราย การหลักเป็น บันเทิง 70% และสาระ30% ปัจจุบันเป็นบันเทิง 60% สาระ 40% สู่สัดส่วนสาระ70% และบันเทิงเหลือ30% ภายในปี60 โดยเป็นการลดสัดส่วนบันเทิงลงปีละ10% ซึ่งในแต่ละปีจะมีธีม ของการเปลี่ยนแปลงผังรายการด้วย
พลตรีบุญญฤทธิ์ วิสมล ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายและแผน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง5 เปิดเผยว่า แผนการวางโครงข่าย ทีวีดิจิตอลของทางททบ.5 ขณะนี้ทำได้กว่า 19สถานีแล้ว ซึ่งสัญญาณ ครอบคลุมกว่า 21 จังหวัด ถือว่าครอบคลุม 70% ของประเทศ เป็นไปตามแผนปีแรกที่นำเสนอแก่กสทช.จาก แผนทั้งหมดสี่ปี
ส่วนแผนในปีที่สองจะเพิ่มอีก20สถานีคาดว่าจะแล้ว เสร็จช่วงกลาง ปี2558 และจะเพิ่มสถานีเสริมอีก45แห่งช่วงครึ่งปีหลังจากปัจจุบัน มีอยู่1แห่งที่หัวหินมั่นใจว่าภายในปี 59-60จะมีสถานีหลัก ครบ39แห่งและสถานีเสริม119แห่งตามแผนได้
"สถานีส่งโครงข่ายทีวีดิจิตอลของททบ.5 เป็นการติดตั้งที่เป็นไป ตามแผนที่วางไว้ และมั่นใจว่าเป็นโครงข่ายที่ดีที่สุดในขณะนี้ซึ่งมีผู้เช่า สัญญาณจนไม่มีสัญญาณว่างพอสำหรับผู้ที่สนใจที่ติดต่อเข้ามา โดย ในแง่ของการเก็บค่าเช่านั้นยังไม่ได้เก็บเต็มราคา เหตุเพราะยังสร้าง สถานีส่งไม่ครบ จึงใช้วิธีเก็บตามเสาสถานีส่งที่เกิดขึ้นตามครัวเรือน ที่ครอบคลุม หรือเฉลี่ยแล้วยังเก็บค่าเช่าไม่ถึงครึ่งของราคาเต็มที่ อยู่ที่4.2ล้านบาทต่อเดือน คาดว่าในปี60จะสามารถเก็บเต็มราคาได้"
พลตรีบุญญฤทธ์ กล่าวต่อว่า รายได้จากส่วนของโครงข่ายนี้ในปี60 จะเป็นรายได้ในสัดส่วน 50% เท่ากับรายได้ทีวี คือช่อง 5ที่ก้าวสู่ทีวีดิจิตอลในรูปแบบช่องสาธารณะเพื่อความมั่นคงแบบเต็มรูปแบบ นั่นหมายความว่า รายได้ในส่วนของทีวีจะลดลงตามรูปแบบ และนโยบายของการเป็นช่องสาธารณะเพื่อความมั่นคง ที่จะต้องมี รายการประเภทสาระ70% และบันเทิง 30% โดยยังคงสามารถ โฆษณาได้ที่ 8-10 นาทีต่อชั่วโมง
"การเป็นช่องสาธารณะเพื่อความมั่นคง จะส่งผลต่อแนวทางในการ หารายได้จะทำได้ยากขึ้น เหตุเพราะมีคู่แข่งเพิ่มขึ้น ช่องที่เป็นบั นเทิงเยอะ มีความน่าสนใจกว่าช่อง5 ลูกค้าที่จะซื้อสื่อโฆษณาก็มีจำกัดขึ้น คอนเท้นท์ทำยากขึ้นผู้ผลิตเดิมหันไปหาช่องอื่นทดแทน เพราะมีหลาย รายที่มีช่องของตัวเอง แต่หากมีการคุยเจรจามีผลตอบแทนเพิ่มให้ เชื่อว่าผู้ผลิตก็จะยังคงอยู่กับทางช่อง5 และหากเน้นเรื่องครีเอทีฟการนำ เสนอให้ดีเชื่อว่าจะช่วยทำให้รายได้ช่อง5ลดลงน้อยที่สุดหลังการเป็นช่องสาธารณะ"
พันเอกภัคพงศ์ พรายจันทร์ รองผู้อำนวยการฝ่ายรายการ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง5 กล่าวเสริมว่า แผนการปรับผังรายการสู่การเป็นช่องทีวีสาธารณะเพื่อความมั่นคงครั้งนี้จะส่งผลต่อรายได้ให้ลดลงแน่นอน แต่จะเป็นรายได้ที่คุ้มทุนและเลี้ยง ตัวเองได้ในฐานะที่เป็นช่องสาธารณะที่ไม่มุ่งเน้นกำไร ขณะที่ต่อปีจะมีต้นทุนในการบริหารช่อง ทั้งด้านกำลังพลและอุปกรณ์ปี ละประมาณ 1,000 ล้านบาท ส่วนปัญหาเรื่องผู้ผลิตนั้น แม้หลายรายจะมีสถานีของตัวเอง แต่มั่นใจว่ายังต้องมีคอนเท้นท์ อยู่ที่ช่อง5 เพราะเชื่อว่าคงไม่สามารถลงที่ช่องตัวเองได้หมด ที่สำคัญ โครงข่ายของททบ. แข็งแกร่งที่สุด
อย่างไรก็ตาม ช่อง5ได้เริ่มดำเนินการปรับผังรายการสู่การเป็นช่อง สาธารณะเพื่อความมั่นคงแล้ว ซึ่งเป็นแผนที่เริ่มตั้งแต่ปี57-60 โดยในปีนี้ได้เริ่มทยอยปรับผังรายการลง จากเดิมสัดส่วนราย การหลักเป็น บันเทิง 70% และสาระ30% ปัจจุบันเป็นบันเทิง 60% สาระ 40% สู่สัดส่วนสาระ70% และบันเทิงเหลือ30% ภายในปี60 โดยเป็นการลดสัดส่วนบันเทิงลงปีละ10% ซึ่งในแต่ละปีจะมีธีม ของการเปลี่ยนแปลงผังรายการด้วย