xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

อำนาจมา บารมีเกิด ! "โคตรกฐิน" 82 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -เรื่องของบารมียามนี้ต้องยกให้ "พี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์" พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถ้าว่ากันตามตำแหน่ง ก็ถือว่าเป็นเบอร์ 2 ของขั้วอำนาจต่อจาก พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายกรัฐมนตรี

ยิ่งได้รับความไว้วางใจให้มาดูแลด้านความมั่นคง ทั้งทหาร-ตำรวจ ผนวกกำลังกันเข้าไปเหนาะๆ น่าจะมีกำลังพลเฉียดๆ ล้าน ดังนั้นเมื่อ“บิ๊กป้อม”จะทำอะไร นอกจากถูกสังคมจับจ้อง ถูกสื่อมวลชนรุมล้อม ไม่เว้นกระทั่งภารกิจส่วนตัวที่สร้างความฮือฮาต่อสื่อทุกแขนง กับอภิมหา “โคตรกฐิน”

ย้อนรอยข่าวเมื่อตอนสายของวันที่ 26 ต.ค.57 ที่วัดโฆสมังคลาราม บ้านโพนสวาง ต.โคกสว่าง อ.ปลาปาก จ.นครพนม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมคณะ เดินทางไปเป็นประธานในพิธีทำบุญทอดกฐินสามัคคี โดยมี นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผวจ.นครพนม นำข้าราชการ พี่น้องประชาชน ร่วมทำบุญได้ปัจจัยในการทำบุญทั้งสิ้น 82,043,529 บาท

ทั้งนี้ การทอดกฐินในปีนี้ เพื่อสมทบทุนก่อสร้างพระรัตนบรมธาตุเจดีย์ ศรีพนม โฆสะปัญโญ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ของพระอรหันต์ และเป็นพิพิธภัณฑ์ แหล่งเรียนรู้ทางพระพุทธศาสนา รวมถึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ศึกษาประวัติความเป็นมาของพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ (พระสุนทรธรรมากร) โดยความร่วมมือของผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันสมทบทุนสร้าง ใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง ประมาณ 3 ปี เป็นเจดีย์ ขนาดกว้าง 59 เมตร ยาว 59 เมตร สูง 59 เมตร

สำหรับวัดโฆสมังคลาราม บ้านโพนสวาง ต.โคกสว่าง อ.ปลาปาก จ.นครพนม ถือเป็นวัดสำคัญอีกแห่งหนึ่ง ที่พระสุนทรธรรมากร หรือ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำโขง พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง สายวิปัสสนากรรมฐานได้มาพัฒนา ซึ่งหลังจากหลวงปู่คำพันธ์ ได้ละสังขารด้วยโรคชรา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2546 สิริอายุ 89 ปี 59 พรรษา ศิษยานุศิษย์ได้บรรจุสังขารเก็บรักษาไว้ ที่ศาลาวัดธาตุมหาชัย ให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชา รอพิธีพระราชทานเพลิงศพ ถึงปัจจุบันเป็นเวลานาน 11 ปี พร้อมได้มีการดำเนินการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ พระสุนทรธรรมากร หรือ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของศิษยานุศิษย์ รวมถึงพุทธศาสนิกชนทั่วไปได้มาทำบุญกราบไหว้บูชา และศึกษาประวัติความเป็นมา

ด้วยกิติศัพท์ความศักดิ์สิทธิ์ที่เลื่องลือไป พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ ก็คือ สานุศิษย์อีกคนหนึ่งที่มีความศรัทธา หลวงปู่คำพันธ์ อย่างเปี่ยมล้น เป็นที่ทราบกันดีว่า “บิ๊กป้อม” มักแวะเวียนมามนัสการ และร่วมทำบุญอยู่บ่อยครั้ง จนถึงวาระสำคัญเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจทางการเมืองไทย พลังศรัทธาที่มากับยอดบริจาค สร้างกระแสฮือฮาในช่วงเทศกาลกฐินเป็นอย่างยิ่ง ปัจจัยเฉียดๆร้อยล้าน
 
ด้านหนึ่งสะท้อนถึงความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาและเคารพศรัทธาต่อหลวงปู่คำพันธ์ แต่อีกด้านต้องยอมรับว่า เป็นการแสดงออกของน้องๆ ที่อยู่ในอุ้งปีก “บิ๊กป้อม”ในฐานะเบอร์ 1 ด้านความมั่นคง จึงช่วยกันคนละไม้ละมือ กลายเป็นโคตรกฐินส่งผลให้บุญบารมี “ประธานองค์กฐิน”เจิดจรัสอย่างเต็มที่

และให้เห็นภาพความยิ่งใหญ่ของ โคตรกฐิน “บิ๊กป้อม” เมื่อนำไปเทียบกับกฐินกองอื่น ในวันเวลาที่ใก้ลเคียงกัน จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน เริ่มจาก กฐินหลวงลุงกำนัน ทอดเมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา ณ วัดเต่า เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ได้ปัจจัยทั้งสิ้น 6,883,006 บาท หลวงลุงกำนัน หรือ พระสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. ผู้นำมวลชนนับล้าน เมื่อเทียบตัวเลขแล้วห่างกันกว่า 10 เท่าตัว แม้เรื่องบุญเรื่องกุศล ไม่ควรเอาจำนวน หรือปริมาณมาแข่งขันกัน แต่มันมีอะไรบางอย่างให้มองเห็น

อีกท่านหนึ่งคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรี เดินทางไปเป็นประธาน ทอดกฐินพระราชทาน สำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 ต.ค. หลัง “บิ๊กป้อม”เพียงวันเดียว ที่วัดราชนัดดารามวรวิหาร ได้ปัจจัยถวายวัด 5,326,363 บาท และแถมท้ายด้วยอดีตนายกรัฐมนตรี อีก 2 ท่าน คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ วันที่ 29 สิงหาคม 2556 กฐินพระราชทาน สำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นประธานนำไปทอด ที่วัดธาตุทอง ได้ปัจจัยทั้งสิ้น 5,574,472 บาท วันที่ 26 ตุลาคม 2552 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในตอนนั้น นำกฐินประราชทาน สำนักนายกฯไปทอดที่วัชนะสงคราม ได้ปัจจัย 1,445,503 บาท และวันที่ 6 พฤศจิกายน 2553 ที่วัดนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ ได้ปัจจัย 3,600,000 บาท

หากนำปัจจัยทั้งหมดของนายกรัฐมนตรี คนปัจจุบัน มารวมกับอดีตนายกฯ ยอดปัจจัยยังไม่ถึงครึ่งของ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ เป็นประธานทอดกฐินแค่เพียงครั้งเดียว

“โคตรกฐิน”จึงเป็นการเรียกขานที่เหมาะสมทุกประการ และน่าจะเป็นยอดบริจาคที่สูงสุดในประวัติการณ์ ตามที่เป็นข่าวเกรียวกราวกัน แต่เบื้องหน้าเบื้องหลังของกองกฐินนี้ มีใครเป็นแม่แรงใหญ่ช่วยเบ่งบารมีให้กับ “บิ๊กป้อม”จนกลายเป็นอาทิตย์ที่ส่องแสงเจิดจรัสที่สุดของเมืองไทย ว่ากันว่าไม่พ้นน้องรัก 3 เสือสีกากี คนแรกคือ “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร. คนที่สองคือ “บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. และ "บิ๊กช้าง" พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช. สันติบาล

ข่าวว่าตอนแรก 3 ทหารเสือสีกากี ตั้งเป้าไว้ให้ได้ 100 ล้านบาท แต่ด้วยความเหมาะสมบางประการ จึงยั้งๆ มือไว้ ปล่อยให้กระแสบริจาคไหลมาตามศรัทธา มากบ้าง น้อยบ้าง ตามแต่ฐานะและเศรษฐกิจของสมัครพรรคพวก แน่นอนว่าไม่พ้นเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 36 และรุ่นน้อง รุ่นพี่ ที่มีสายสัมพันธ์อันดีต่อกัน นอกจากนั้นยังมีแรงสนับสนุนจากพ่อค้า คหบดีที่คุ้นเคย

หากจะเรียกว่าผลสำเร็จจากยอดปัจจัยที่ยากจะมีใครลบสถิติได้ มาจากความกตัญญุทิตาจากน้องๆ ตำรวจผู้ใก้ลชิดก็คงไม่ผิดนัก โดยมีเสียงยืนยันมาจากรั้วปทุมวันว่า ปัจจัยทั้งหมดล้วนแต่เป็นเงินบุญที่พวกพ้องน้องพี่ช่วยกัน เรียกว่า ทำบุญร่วมชาติ ตักบาตรร่วมขัน จะได้อยู่ในอำนาจ (วาสนา) กันไปนานๆ


กำลังโหลดความคิดเห็น