xs
xsm
sm
md
lg

ตามรอย “โคตรกฐินบิ๊กป้อม" ระดมปัจจัยทำลายสถิติ 82 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพจากเว็บไซต์สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
ASTVผู้จัดการ - ตามรอย “โคตรกฐินบิ๊กป้อม” บิ๊กอ๊อด –บิ๊กแป๊ะ –บิ๊กช้าง “จัดให้” ระดมปัจจัย นรต.36 กับสมัครพรรคพวก ตั้งเป้า 100 ล้านแต่ยั้งๆ มือเอาแค่เฉียดๆ เผยลบสถิติ “ประยุทธ –ยิ่งลักษณ์ –อภิสิทธิ์”กระจุย รวม 3 นายกฯยังเทียบไม่ติด เชื่อน้องๆ สีกากีฉลองศรัทธา ทำบุญร่วมชาติ ตักบาตรร่วมขันกับ“พี่ป้อม”เพื่ออยู่ในอำนาจและวาสนากันไปนานๆ

เรื่องของบารมียามนี้ต้องยกให้พี่ใหญ่แห่งบูรพาพยัคฆ์ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรียกว่าเป็นเบอร์ 2 ของขั้วอำนาจต่อจาก พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายกรัฐมนตรี ก็คงไม่ผิดนัก ยิ่งได้รับความไว้วางใจมาดูแลความมั่นคงทั้งทหาร-ตำรวจ ผนวกกำลังกันเข้าไปเหนาะๆ น่าจะมีกำลังผลเฉียดๆ ล้านดังนั้นเมื่อ “บิ๊กป้อม” จะทำอะไรนอกจากถูกสังคมจับจ้อง ถูกสื่อมวลชนรุมล้อมไม่เว้นกระทั่งภารกิจส่วนตัวที่สร้างความฮือฮาต่อสื่อทุกแขนงกับอภิมหา “โคตรกฐิน”

ย้อนรอยข่าวเมื่อตอนสายของวันที่ 26 ต.ค.57 ที่วัดโฆสมังคลาราม บ้านโพนสวาง ต.โคกสว่าง อ.ปลาปาก จ.นครพนม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมคณะ เดินทางมาเป็นประธานในพิธีทำบุญทอดกฐินสามัคคี โดยมีนายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผวจ.นครพนม นำข้าราชการ พี่น้องประชาชน ร่วมทำบุญ ได้ปัจจัยในการทำบุญทั้งสิ้น 82,043,529 บาท

ทั้งนี้ การทอดกฐินในปีนี้ เพื่อสมทบทุนก่อสร้างพระรัตนบรมธาตุเจดีย์ ศรีพนม โฆสะปัญโญ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ของพระอรหันต์ และเป็นพิพิธภัณฑ์ แหล่งเรียนรู้ทางพระพุทธศาสนา รวมถึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวศึกษาประวัติความเป็นมาของพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ (พระสุนทรธรรมากร) โดยความร่วมมือของผู้มีจิตศรัทธาร่วมกันสมทบทุนสร้าง ใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี เป็นเจดีย์ ขนาดกว้าง 59 เมตร ยาว 59 เมตร สูง 59 เมตร

สำหรับวัดโฆสมังคลาราม บ้านโพนสวาง ต.โคกสว่าง อ.ปลาปาก จ.นครพนม ถือเป็นวัดสำคัญอีกแห่งหนึ่งที่พระสุนทรธรรมากร หรือ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำโขง พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง สายวิปัสสนากรรมฐานได้มาพัฒนา ซึ่งหลังจากหลวงปู่คำพันธ์ได้ละสังขารด้วยโรคชรา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2546 สิริอายุ 89 ปี 59 พรรษา ศิษยานุศิษย์ ได้บรรจุสังขารเก็บรักษาไว้ที่ศาลาวัดธาตุมหาชัย ให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชา รอพิธีพระราชทานเพลิงศพ ถึงปัจจุบันเป็นเวลานาน 11 ปี พร้อมได้มีการดำเนินการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ พระสุนทรธรรมากร หรือ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของศิษยานุศิษย์ รวมถึงพุทธศาสนิกชนทั่วไป ได้มาทำบุญกราบไหว้บูชา และศึกษาประวัติความเป็นมา

ด้วยกิติศัพท์ความศักดิ์สิทธิ์ที่เลื่องลือไปพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่แห่งบูรภาพยัคฆ์ก็คือสานุศิษย์อีกคนหนึ่งที่มีความศรัทธาหลวงปู่คำพันธ์ อย่างเปี่ยมล้นเป็นที่ทราบกันดีว่า “บิ๊กป้อม”มักแวะเวียนมามนัสการและร่วมทำบุญอยู่บ่อยครั้งจนถึงวาระสำคัญเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจทางการเมืองไทย พลังศรัทธาที่มากับยอดบริจาคสร้างกระแสฮือฮาในช่วงเทศกาลกฐินเป็นอย่างยิ่งปัจจัยเฉียดๆ ร้อยล้านด้านหนึ่งสะท้อนถึงความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาและเคารพศรัทธาต่อหลวงปู่คำพันธ์ แต่อีกด้านต้องยอมรับว่าเป็นการแสดงออกของน้องๆที่อยู่ในอุ้งปีก “บิ๊กป้อม” ในฐานะเบอร์ 1 ด้านความมั่นคงจึงช่วยกันคนละไม้ละมือกลายเป็นโคตรกฐินส่งผลให้บุญบารมี “ประธานองค์กฐิน”เจิดจรัสอย่างเต็มที่

และให้เห็นภาพความย่างใหญ่ของโคตรกฐิน “บิ๊กป้อม”เมื่อนำไปเทียบกับกฐินกองอื่นในวันเวลาที่ใก้ลเคียงกัน จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน เริ่มจากกฐินหลวงลุงกำนัน ทอดเมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ณ วัดเต่า เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ได้ปัจจัยทั้งสิ้น 6,883,006 บาท หลวงลุงกำนัน หรือพระสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส.ผู้นำมวลชนนับล้านเมื่อเทียบตัวเลขแล้วห่างกันกว่า 10 เท่าตัว แม้เรื่องบุญเรื่องกุศลไม่ควรเอาจำนวนหรือปริมาณมาแข่งขันกันแต่มันมีอะไรบางอย่างให้มองเห็น

อีกท่านหนึ่งคือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรี เดินทางไปเป็นประธาน ทอดกฐินพระราชทาน สำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 ต.ค.หลัง “บิ๊กป้อม”เพียงวันเดียว ที่วัดราชนัดดารามวรวิหาร ได้ปัจจัยถวายวัด 5,326,363 บาท และแถมท้ายด้วยอดีตนายกรัฐมนตรี อีก 2 ท่านคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ วันที่ 29 สิงหาคม 2556 กฐินพระราชทาน สำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นประธานนำไปทอดที่วัดธาตุทอง ได้ปัจจัยทั้งสิ้น 5,574,472 บาท วันที่ 26 ต.ค.2552 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในตอนนั้นนำกฐินประราชทาน สำนักนายกฯไปทอดที่วัชนะสงคราม ได้ปัจจัย 1,445,503 บาทและวันที่ 6 พ.ย.2553 ที่วัดนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ ได้ปัจจัย 3,600,000 บาท

หากนำปัจจัยทั้งหมดของนายกรัฐมนตรี คนปัจจุบันมารวมกับอดีตนายกฯยอดปัจจัยยังไม่ถึงครึ่งของ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ เป็นประธานทอดกฐินแค่เพียงครั้งเดียว

“โคตรกฐิน”จึงเป็นการเรียกขานที่เหมาะสมทุกประการ และน่าจะเป็นยอดบริจาคที่สูงสุดในประวัติการณ์ตามที่เป็นข่าวเกรียวกราวกัน แต่เบื้องหน้าเบื้องหลังของกองกฐินนี้มีใครเป็นแม่แรงใหญ่ช่วยเบ่งบารมีให้กับ “บิ๊กป้อม” จนกลายเป็นอาทิตย์ที่ส่องแสงเจิดจรัสที่สุดของเมืองไทย ว่ากันว่าไม่พ้นน้องรัก 3 เสือสีกากี คนแรกคือ “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร. คนที่สองคือ “บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร.และ”บิ๊กช้าง”พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.สันติบาล

ข่าวว่าตอนแรก 3 ทหารเสือสีกากีตั้งเป้าไว้ให้ได้ 100 ล้านบาทแต่ด้วยความเหมาะสมบางประการจึงยั้งๆมือไว้ ปล่อยให้กระแสบริจาคไหลมาตามศรัทธา มากบ้างน้อยบ้างตามแต่ฐานะและเศรษฐกิจของสมัครพรรคพวก แน่นอนว่าไม่พ้นเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 36 และรุ่นน้อง รุ่นพี่ที่มีสายสัมพันธ์อันดีต่อกัน นอกจากนั้นยังมีแรงสนับสนุนจากพ่อค้า คหบดีที่คุ้นเคย

หากจะเรียกว่าผลสำเร็จจากยอดปัจจัยที่ยากจะมีใครลบสถิติได้มาจากความกตัญญุทิตาจากน้องๆตำรวจผู้ใก้ลชิดก็คงไม่ผิดนักโดยมีเสียงยืนยันมาจากรั้วปทุมวัน ว่าปัจจัยทั้งหมดล้วนแต่เป็นเงินบุญที่พวกพ้องน้องพี่ช่วยกัน เรียกว่าทำบุญร่วมชาติ ตักบาตรร่วมขัน จะได้อยู่ในอำนาจ(วาสนา)กันไปนานๆ

อ่านเพิ่มเติม : รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานทอดกฐินสามัคคี ณ วัดโฆษมังคลาราม จากเว็บไซต์สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์


ภาพจากเว็บไซต์สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
(แฟ้มภาพ)
กำลังโหลดความคิดเห็น