xs
xsm
sm
md
lg

จำนำข้าวเจ๊งยับ 7 แสนล้าน ใช้หนี้ถึงรุ่นหลาน- ปู ลอยนวล !?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"หนี้โครงการรับจำนำข้าวที่มีผลขาดทุนสูง 6-7 แสนล้านบาท สุดท้ายแล้วก็ต้องตกเป็นเงินภาษีของทุกคนในประเทศ การใช้หนี้ขาดทุนจำนำข้าว มีทางแก้ทางเดียวคือต้องใช้หนี้ และคาดว่าอาจจะใช้เวลามากกว่า 30 ปี หรือต้องใช้หนี้จำนำข้าวกันถึงรุ่นหลาน"
นั่นเป็นคำพูดของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สมหมาย ภาษี ที่โพล่งออกมาให้สังคมได้ยินกันทั่ว เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ที่ผ่านมา อารมณ์หนึ่งอาจเป็นจังหวะที่ถึงคราวที่ต้องระบายความอัดอั้นตันใจออกมาตรงๆกันบ้าง เพราะนี่คือภาระหน้าที่ของเขาที่เข้ามาแก้ปัญหา หางบประมาณ ทำทุกอย่างทั้งกู้ทั้งยืม ทั้งขายเพื่อหาเงินมาใช้หนี้จากความล้มเหลว และการทุจริตกันอย่างมโหฬารจากโครงการดังกล่าวในรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
สมหมาย ภาษี ยังเปิดเผยข้อมูลอีกว่า กระทรวงการคลังต้องบริหารหนี้ที่มีอยู่ ทั้งหนี้ระยะสั้นและหนี้ระยะยาวต้องบริหารให้สอดคล้องกับภาวะทางการตลาด เพื่อให้ภาระต้นทุนดอกเบี้ยให้ต่ำที่สุด รวมทั้งต้องหางบประมาณมาบริหารจัดการหนี้ให้ครอบคลุม ทั้งดอกเบี้ย และเงินต้น
ส่วนการออกพันธบัตรอายุ 30 ปี เพื่อนำเงินมาใช้หนี้โครงการรับจำนำข้าวนั้น ทำได้เพียงร้อยละ 10 ของความเสียหายทั้งหมด !!
นี่คือความจริงบนความอัปยศอดสู ที่เกิดขึ้นมาแล้ว และนี่คือความจริงที่สะท้อนออกมาตามความรู้สึกของคนไทยที่รับรู้เรื่องราวมานาน โดยเฉพาะคนไทยที่ต้องมีภาระเสียภาษีให้กับรัฐเพื่อนำเงินมาพัฒนาประเทศ
หากคิดแบบง่ายๆ บ้านๆ ก็คือนับจากนี้ไปงบประมาณรายได้ของประเทศจะต้องกันออกไปส่วนหนึ่งไปใช้หนี้จากโครงการ "ห่วยแตก" ที่นักการเมืองในระบอบทักษิณคิดขึ้นมา เพื่อทุจริตหาประโยชน์ ที่ได้ทั้งเงินและหาคะแนนเสียงจากชาวนาที่ได้ประโยชน์จากการบิดเบือนกลไกตลาด ในแบบที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์
คำพูดที่พรั่งพรูออกมาจากปากของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดังกล่าว อาจถือว่าเป็นครั้งแรกที่กล่าวออกมาในทำนองนี้ อาจเป็นเพราะเป็นภาระที่หนักหน่วงเกินไป ที่ดูแลเกือบจะหาทางออกไม่ได้ เพราะอีกเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องกันก็คือ จนบัดนี้กระทรวงการคลังยังไม่สามารถปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวได้เลย
ขณะเดียวกันการตรวจสอบสต็อกข้าว และคุณภาพข้าวตามโกดังต่างๆ ทั่วประเทศก็ยังไม่สรุปออกมา ทั้งที่ใช้เวลานานหลายเดือนแล้ว โดยล่าสุด นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระบุว่า ส่วนใหญ่มีข้าวด้อยคุณภาพถึงร้อยละ 70 ส่วนข้าวที่มีคุณภาพได้มาตรฐานมีเพียงแค่ร้อยละ 10 เท่านั้น ที่เหลือก็เป็นข้าวเสื่อมสภาพ เสื่อมราคา ซึ่งผลการตรวจสอบดังกล่าวมาจากปริมาณข้าวทั้งหมด 18 ล้านตัน
** นี่ก็อีกความจริงอันอัปยศ !!
เป็นความเลวร้ายที่คนไทยทั้งประเทศต้องมารับกรรม ต้องมาแบกรับภาระหนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ไม่ได้ประโยชน์กับพวกนักการเมืองขี้ฉ้อสักบาทเดียว ต้องมาร่วมชดใช้ไปอีก 30 ปี ต่อเนื่องไปจนถึงรุ่นหลานอย่างที่กล่าวเอาไว้
เมื่อความจริงที่เห็นประจักษ์อยู่ทนโท่ คำถามตามมาก็คือ ทั้งชาตินี้และชาติหน้า ยังไม่มีแนวโน้มที่จะลากคอคนผิดระดับนโยบาย นักการเมืองที่รวมหัวกันทุจริตกับพ่อค้าในเครือข่ายได้เลยหรือ หรือว่าคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ได้ชี้มูลความผิดกับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฐานปล่อยปละละเลย หรือรู้เห็นเป็นใจกับการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวทุกขั้นตอน จะลอยนวล มีความสุขแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวกันต่อไป หรืออย่างไร
หรือแม้แต่กรณีที่อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อย่าง บุญทรง เตริยาภิรมย์ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพณิชย์ ภูมิ สารผล เป็นต้น คนพวกนี้ยังปล่อยให้ลอยนวลอีกหรือไม่
แน่นอนว่า จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้นเชื่อว่า จะเป็นการกระตุ้นกดดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะทั้งฝ่ายอัยการสูงสุด และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะต้องเร่งหาข้อสรุปว่า จะสั่งฟ้อง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในคดีโครงการรับจำนำข้าวหรือไม่ รวมไปถึงการพิจารณาถอดถอน ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หลังจากที่ประธาน สนช. คือ พรเพชร วิชิตชลชัย ได้บรรจุเข้าวาระพิจารณาไปเรียบร้อยแล้ว
**ก็ต้องมาวัดใจกันว่า จะเดินหน้ากันแบบจริงจังแค่ไหน แต่รับรองว่าไม่มีทางให้คนทุจริตได้อยู่เป็นสุขแน่ !!
กำลังโหลดความคิดเห็น