00 เดินทางไปกัมพูชาแล้วตามกำหนดการเยือนอย่างเป็นทางการสองวัน คือ 30-31 ต.ค. ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี วาระสำคัญที่เพิ่งเปิดเผย และยอมรับกันออกมาว่า จะมีการหารือกันเรื่อง"ผลประโยชน์พลังงาน" แต่ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องปัญหาเขตแดน ความหมายก็คือ "แยกพลังงานออกมาจากเรื่องเขตแดน" ซึ่งมันก็ยังงงๆอยู่ว่า เมื่อยังตกลงกันไม่ได้ แล้วจะไปเจรจาเรื่องการจัดการผลประโยชน์ร่วมกันอย่างไร จะแบ่งปันกันอย่างไร เพราะพื้นที่พลังงานล้วนอยู่ในพื้นที่พิพาททั้งสิ้น !!
00 อย่างไรก็ดี สิ่งที่ นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ยืนยันนั้นอาจจะพูดไม่ครบถ้วน เพราะก่อนหน้านี้ รมว.พลังงาน ณรงค์ชัย อัครเศรณี เคยยืนยันว่า จะต้องเร่งจัดการเรื่องพลังงานให้เสร็จสิ้นภายในรัฐบาลนี้ โดยกำหนดเวลาให้เสร็จภายใน 1 ปี และที่สำคัญ ได้เคยหลุดปากออกมาว่าที่ผ่านมา ได้มีการตั้ง "คณะทำงานร่วมพิจารณาปักปันเขตแดน" ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าสามารถทำงานไปได้จนจบในสถานการณ์ "พิเศษ" แบบนี้ ภายใต้อำนาจเบ็ดเสร็จแบบนี้ อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ หรือความจริงอาจไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น อย่างที่พูดก็ได้ !!
00 นี่ก็บินไปจีนแบบเงียบๆ ตั้งแต่เมื่อสองสามวันก่อน ข่าวว่าหลังการประชุม ครม.เสร็จ "พี่ใหญ่" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ก็จับเครื่องบินไปวันนั้นเลย จะด้วยเหตุผลกลใดไม่อาจทราบได้ ว่าทำไมถึงไม่มีการเปิดเผยกำหนดการเดินทางที่อ้างว่าไปตามคำเชิญของกระทรวงกลาโหมจีน แต่ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ก็มาเปิดเผยเพิ่มเติมภายหลังว่า ไปเที่ยวนี้จะไปช่วยเจรจาขายข้าว ขายยางพารา เจรจาเรื่องโครงการรถไฟ เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานทั้งหลาย โดยมีกุนซือใหญ่ อย่าง สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ร่วมคณะไปด้วย นี่ถ้าไม่เห็นชื่อก็ต้องเข้าใจว่าเป็นการเดินทางของคณะ "รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ" คณะใหญ่เลยหละ แต่ไหงเป็น รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงไปได้ หรือ "ควบรวม" ไปแล้ว !!
00 สำหรับ สปช. ก็ได้ 20 ตัวแทน ที่ไปเป็นกรรมาธิการยกร่างรธน. มองรวมๆ แต่ละรายก็ถือว่าไม่ขี้เหร่ พอเชื่อถือได้ เสียดายที่บางคน เช่น ชัยอนันต์ สมุทวณิช ต้องพลาดไป แต่ถึงอย่างไรคนที่เข้ามา หวังว่าพวกเขาจะทำหน้าที่สร้างประวัติศาสตร์ ยกร่างรธน.ที่เปิดกว้างรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย เพื่อให้ออกมาเป็นที่ยอมรับมากที่สุด โดยเฉพาะภาคประชาชน ส่วนพวกนักการเมืองนี่จะฟังก็ได้ ส่วนจะทำตามหรือไม่นั้นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะคนพวกนี้ว่ากันตามจริงแล้วต้องเป็น"ผู้เสียสละ"เข้ามา ไม่ใช้เข้ามาเป็นอาชีพ ส่วนถ้าเห็นว่ากติกาเข้มงวดไม่สะดวก ก็ไม่ต้องลงไป ไปทำอย่างอื่นก็ได้ ดังนั้นต้องอย่าเข้าใจประเด็นผิด เพราะรธน. ต้องให้ประโยชน์กับประชาชน และบ้านเมือง ไม่ใช่นักการเมือง จำไว้ !!
00 สังเกตหรือไม่ว่า ใน 20 รายชื่อที่โหวตเลือกโดยสมาชิก สปช.นั้น ไม่มีชื่อของ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ก็อย่าได้แปลกใจ เพราะรายนี้เขาล็อกไว้สำหรับเก้าอี้ ประธานกมธ.ยกร่าง ที่ส่งตรงมาจากคสช. แยกมาต่างหาก ส่วนที่เหลืออีก 10 คน ก็ให้รอจากสนช. จาก ครม. และ คสช. ก็จะได้ครบทั้ง 30+1 ในต้นเดือน พ.ย. !!
00 อย่างไรก็ดี สิ่งที่ นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ยืนยันนั้นอาจจะพูดไม่ครบถ้วน เพราะก่อนหน้านี้ รมว.พลังงาน ณรงค์ชัย อัครเศรณี เคยยืนยันว่า จะต้องเร่งจัดการเรื่องพลังงานให้เสร็จสิ้นภายในรัฐบาลนี้ โดยกำหนดเวลาให้เสร็จภายใน 1 ปี และที่สำคัญ ได้เคยหลุดปากออกมาว่าที่ผ่านมา ได้มีการตั้ง "คณะทำงานร่วมพิจารณาปักปันเขตแดน" ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าสามารถทำงานไปได้จนจบในสถานการณ์ "พิเศษ" แบบนี้ ภายใต้อำนาจเบ็ดเสร็จแบบนี้ อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ หรือความจริงอาจไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น อย่างที่พูดก็ได้ !!
00 นี่ก็บินไปจีนแบบเงียบๆ ตั้งแต่เมื่อสองสามวันก่อน ข่าวว่าหลังการประชุม ครม.เสร็จ "พี่ใหญ่" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ก็จับเครื่องบินไปวันนั้นเลย จะด้วยเหตุผลกลใดไม่อาจทราบได้ ว่าทำไมถึงไม่มีการเปิดเผยกำหนดการเดินทางที่อ้างว่าไปตามคำเชิญของกระทรวงกลาโหมจีน แต่ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ก็มาเปิดเผยเพิ่มเติมภายหลังว่า ไปเที่ยวนี้จะไปช่วยเจรจาขายข้าว ขายยางพารา เจรจาเรื่องโครงการรถไฟ เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานทั้งหลาย โดยมีกุนซือใหญ่ อย่าง สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ร่วมคณะไปด้วย นี่ถ้าไม่เห็นชื่อก็ต้องเข้าใจว่าเป็นการเดินทางของคณะ "รองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ" คณะใหญ่เลยหละ แต่ไหงเป็น รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงไปได้ หรือ "ควบรวม" ไปแล้ว !!
00 สำหรับ สปช. ก็ได้ 20 ตัวแทน ที่ไปเป็นกรรมาธิการยกร่างรธน. มองรวมๆ แต่ละรายก็ถือว่าไม่ขี้เหร่ พอเชื่อถือได้ เสียดายที่บางคน เช่น ชัยอนันต์ สมุทวณิช ต้องพลาดไป แต่ถึงอย่างไรคนที่เข้ามา หวังว่าพวกเขาจะทำหน้าที่สร้างประวัติศาสตร์ ยกร่างรธน.ที่เปิดกว้างรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย เพื่อให้ออกมาเป็นที่ยอมรับมากที่สุด โดยเฉพาะภาคประชาชน ส่วนพวกนักการเมืองนี่จะฟังก็ได้ ส่วนจะทำตามหรือไม่นั้นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะคนพวกนี้ว่ากันตามจริงแล้วต้องเป็น"ผู้เสียสละ"เข้ามา ไม่ใช้เข้ามาเป็นอาชีพ ส่วนถ้าเห็นว่ากติกาเข้มงวดไม่สะดวก ก็ไม่ต้องลงไป ไปทำอย่างอื่นก็ได้ ดังนั้นต้องอย่าเข้าใจประเด็นผิด เพราะรธน. ต้องให้ประโยชน์กับประชาชน และบ้านเมือง ไม่ใช่นักการเมือง จำไว้ !!
00 สังเกตหรือไม่ว่า ใน 20 รายชื่อที่โหวตเลือกโดยสมาชิก สปช.นั้น ไม่มีชื่อของ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ก็อย่าได้แปลกใจ เพราะรายนี้เขาล็อกไว้สำหรับเก้าอี้ ประธานกมธ.ยกร่าง ที่ส่งตรงมาจากคสช. แยกมาต่างหาก ส่วนที่เหลืออีก 10 คน ก็ให้รอจากสนช. จาก ครม. และ คสช. ก็จะได้ครบทั้ง 30+1 ในต้นเดือน พ.ย. !!