วันนี้ “นกน้อยในไร่ส้ม” ย้ายที่ถกแถลงมาร้านเล็กๆ ที่ผมเรียกว่า “คอฟฟี่ แอนด์ บุ๊ก” แถวผ่านฟ้า...
“เฮ้อ!...สงสารนายกฯ ตู่จัง ทั้งหน้านิ่วคิ้วขมวดกับปัญหาชาติสารพัด ทั้งยังโดนแม่เสือยุคำรามใส่ที่ทำเนียบฯ จนนอตหลุด ในขณะที่เสือเหลี่ยมกับเสือสาวยิ่งเลิฟ นัดเจอกันที่ญี่ปุ่นแถมเลยไปลั้นลาต่อบนกำแพงเมืองจีนอีกด้วย...วุ้ย!...น่าอิจฉาจังฮู้...”
สื่อสิ่งพิมพ์นายหนึ่งเปรยเชิงปรารภกับตัวเอง แต่ได้ยินกันชัดทั้งโต๊ะกาแฟ
“น่าอิจฉาสิ...ไม่เคยมีผู้นำชาติไหน โชคดีเท่าสองคนนี้หรอก คนหนึ่งครองอำนาจไม่กี่ปี ก็โกงชาติจนรวยอู้ฟู่อีกหลายแสนล้านบาท ทำผิดโดยไม่กลัวเกรงกฎหมายจนถูกศาลสั่งจำคุก 2 ปี และมีหมายจับอีก 6 ใบ แต่ไอ้เสือเนี่ยก็เผ่นหนีไปอาละวาดต่อที่ต่างแดนโน่น...”
“...อีกคนไร้กึ๋นที่จะเป็นผู้นำชาติ แค่บริหารน้ำ-น้ำก็ท่วมชาติวายป่วง เศรษฐกิจไทยพังกว่า 3 ล้านล้านบาท ยิ่งโครงการจำนำข้าวเนี่ย...ฉาวจริงๆ เอาเงินชาติที่รีดภาษีจากประชาชนไปผลาญและโกงอุตลุดกว่า 7 แสนล้านบาท แต่ทั้งเขาและเธอที่คนไทยรู้นี้ ยังแฮปปี้กันสนุกสนานจนทุกวันนี้...”
เหยี่ยวข่าวป้าพูดผสมโรง ก่อนยกแก้วชาเขียวขึ้นจิบ วันนี้...ดูป้าเธอจะอารมณ์ผ่อนคลายจัง...
“...สองเสือนี่ดวงแข็งโป๊กจริงๆ โดนรัฐประหารครั้งแรกนึกว่า-เจ๊งแล้ว เพราะทหารเผยว่า...ขืนปล่อยเสือเหลี่ยมครองเมืองต่อไป ชาติไทยถูกแทะไม่เหลือแม้ “กระดูก” แน่ แต่ทหารกลุ่มนั้นก็คิดและทำผิด นอกจากจะไม่ปฏิรูปการเมืองแล้ว ยังใช้นักการเมืองหน้าเดิมสมองเดิม ซื้อเสียงเลือกตั้งแข่งกับเสือเหลี่ยมที่รวยล้นฟ้าอีก ผลลัพธ์คือ...ทหารกลุ่มนั้นแพ้สงครามการเมืองยับเยิน เพราะถูกไอ้เสือเหลี่ยมยึดอำนาจรัฐคืนได้อีกครั้ง”
“...รัฐประหารครั้งนั้น... “บังเละ” เสียคน-เสียของ-เสียชาติให้เหลี่ยมครบถ้วนเลย...”
เหยี่ยวข่าวป้าพูดแทรก ก่อนคอลัมนิสต์วัย 70 เศษ ที่เพิ่งมาร่วมวงดื่มกาแฟแทนก๊งเหล้า จะอรรถาธิบายต่อว่า...
“รอบสองก็โดน ‘อัศวินม้าเขียว’ พลิกขั้ว ไอ้เสือเหลี่ยมจึงสั่งให้พวก ‘เสือแดง’ ลงมือเผาบ้านเผาเมืองและฆ่าทหารครั้งใหญ่ จนรัฐบาล ‘หล่อมะเขือเผา’ ต้องยุบสภา เปิดโอกาสให้เสือเหลี่ยมใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งกลับมายึดอำนาจรัฐซ้ำอีก พริตตี้ยิ่งเลิฟจึงโดน ‘ส้ม(โอยักษ์)หล่น’ ได้เป็นนายกฯ ไงล่ะ...
เสือไม่กินมังสวิรัติฉันใด คนโกงย่อมไม่หยุดโกงฉันนั้น คนโกงที่ไม่รู้จักพอ รวยแค่ไหนก็ต้องโกงอยู่วันยังค่ำ ทั้งๆ ที่เสือเหลี่ยมได้บทเรียน โดนทั้งรัฐประหารและพลิกขั้ว แต่โชคดีกลับมาเป็นรัฐบาลได้อีก ทว่า...แทนที่จะกลับเนื้อกลับตัว แล้วใช้อำนาจรัฐทำคุณงามความดีให้ชาติ รัฐบาลยิ่งเลิฟกลับปล้นชาติอยู่ตลอดเวลา แถมยังทะลึ่งนิรโทษกรรมความผิดให้พี่อีก...”
หนุ่มน้อยนักจัดรายการข่าวทางวิทยุ ลำดับความย้อนหลัง...ก่อนพูดต่อว่า...
“...จึงเกิดความไม่พอใจรัฐบาลยิ่งเลิฟ เกิดการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดในโลกในไทย เกิดกระแสปฏิรูปประเทศไทยทุกมิติ เพื่อขจัดนักการเมืองโกงชาติ และเอาคนดีขึ้นปกครองบ้านเมือง แต่ผู้นำมวลชนครั้งนั้นล้มรัฐบาลยิ่งเลิฟไม่ลง และมีการบาดเจ็บล้มตายรายวัน ด้วยเสือเหลี่ยมแอบส่ง ‘ชายชุดดำ’ ไล่ฆ่าผู้ชุมนุมแทบทุกวัน สุดท้าย...รัฐบาลเธอเลยโดน ‘ททรปห.’ ทหารทำรัฐประหาร...ส่วน...รปหขลตจสขหบลหมตดกตป..”
“..อะไรวะไอ้เบื๊อก...ใครจะไปรู้ว่า ตัวย่อยาวยืดอย่างกับขบวนรถไฟของเอ็งหมายถึงอะไร...”
เหยี่ยวข่าวป้าถามแทนก๊วนกาแฟที่กำลังงงงวยกับตัวย่อมหัศจรรย์ของนายเบื๊อก
“...หมายถึง...รัฐประหารของลุงตู่จะเสียของเหมือนบังเละหรือไม่ต้องดูต่อไป...จ๊ะป้าหญิง...”
“มันเป็นรัฐประหารประหลาดที่ทั้ง ‘น่ารักและน่าชัง’ พร้อมๆ กัน เพราะคนโดนรัฐประหารสบายใจเฉิบ ลั้นลาไปโน่นนี่ได้ชิวๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีการเร่งปราบคอร์รัปชันเป็นพิเศษ ไม่มีการอายัดหรือยึดทรัพย์นักการเมืองชั่ว ทั้งอดีตกับปัจจุบันให้ชื่อเสียงมัวหมอง และขุ่นเคืองใจในกันและกัน ลุงตู่ทำรัฐประหารเพื่อให้ลืมเรื่องในอดีต แล้วหันหน้ามาปรองดองกันเท่านั้นแหละ...”
เหยี่ยวข่าวรุ่นป้าหยุดพักหายใจ ก่อนจะโดนคอลัมนิสต์อาวุโสพูดแทรกขึ้นว่า
“...แค่นี้ก็แฮปปี้กันทั้งคนทำรัฐประหาร และคนโดนทำรัฐประหาร เพราะแม้ลุงตู่จะมีอำนาจล้นฟ้า มีศักยภาพเกินพอจะจัดการกับกลุ่มทุนสามานย์ทางการเมืองกับทำการปฏิรูปประเทศไทยทุกภาคส่วนได้ทันที ตามที่คนหลายล้านคนชุมนุมเรียกร้องต้องการ จนบาดเจ็บล้มตายไปมากมาย แต่ลุงตู่ก็ยังไม่ทำ... เพราะลุงตู่อยากให้ สนช.กับ สปช.ที่ คสช.ตั้งทำแทนให้ ทั้งๆ ที่บางเรื่องทำแทนกันไม่ได้ วันนี้...แทบทุกระบบที่เน่าเฟะในชาติไทย จึงยังคงร้องเพลง ‘ขอให้เหมือนเดิม’ อยู่นี่ไงล่ะ...”
“...เฮ้ย...ไอ้เบื๊อก...ลุงตู่ไม่ร้องเพลง ‘ขอให้เหมือนเดิม’ นะ เขาร้องแต่เพลง ‘จะคืนความสุขให้เธอ...ประชาชน..’ โว้ย ส่วนจะคืนความสุขให้เมื่อไหร่...ลุงตู่บอกในเนื้อเพลงว่า...อีกไม่นาน...”
เหยี่ยวข่าวป้าเอะอะใส่ไอ้เบื๊อก ก่อนที่ใครคนหนึ่งจะถาม และใครอีกคนหนึ่งก็พูดสวนทันทีว่า
“...เอ...หมายความว่า...เสือสองตัวที่ลั้นลาอยู่บนกำแพงเมืองจีน ก็ได้ความสุขคืนเหมือนกัน...ใช่ไหม?”
“...ไปถามนายกฯ ตู่หรือ คสช.โน่น เสือกมาถามกันเองทำไม...ใครจะไปรู้ได้ล่ะวะ...หือ...”
“เฮ้อ!...สงสารนายกฯ ตู่จัง ทั้งหน้านิ่วคิ้วขมวดกับปัญหาชาติสารพัด ทั้งยังโดนแม่เสือยุคำรามใส่ที่ทำเนียบฯ จนนอตหลุด ในขณะที่เสือเหลี่ยมกับเสือสาวยิ่งเลิฟ นัดเจอกันที่ญี่ปุ่นแถมเลยไปลั้นลาต่อบนกำแพงเมืองจีนอีกด้วย...วุ้ย!...น่าอิจฉาจังฮู้...”
สื่อสิ่งพิมพ์นายหนึ่งเปรยเชิงปรารภกับตัวเอง แต่ได้ยินกันชัดทั้งโต๊ะกาแฟ
“น่าอิจฉาสิ...ไม่เคยมีผู้นำชาติไหน โชคดีเท่าสองคนนี้หรอก คนหนึ่งครองอำนาจไม่กี่ปี ก็โกงชาติจนรวยอู้ฟู่อีกหลายแสนล้านบาท ทำผิดโดยไม่กลัวเกรงกฎหมายจนถูกศาลสั่งจำคุก 2 ปี และมีหมายจับอีก 6 ใบ แต่ไอ้เสือเนี่ยก็เผ่นหนีไปอาละวาดต่อที่ต่างแดนโน่น...”
“...อีกคนไร้กึ๋นที่จะเป็นผู้นำชาติ แค่บริหารน้ำ-น้ำก็ท่วมชาติวายป่วง เศรษฐกิจไทยพังกว่า 3 ล้านล้านบาท ยิ่งโครงการจำนำข้าวเนี่ย...ฉาวจริงๆ เอาเงินชาติที่รีดภาษีจากประชาชนไปผลาญและโกงอุตลุดกว่า 7 แสนล้านบาท แต่ทั้งเขาและเธอที่คนไทยรู้นี้ ยังแฮปปี้กันสนุกสนานจนทุกวันนี้...”
เหยี่ยวข่าวป้าพูดผสมโรง ก่อนยกแก้วชาเขียวขึ้นจิบ วันนี้...ดูป้าเธอจะอารมณ์ผ่อนคลายจัง...
“...สองเสือนี่ดวงแข็งโป๊กจริงๆ โดนรัฐประหารครั้งแรกนึกว่า-เจ๊งแล้ว เพราะทหารเผยว่า...ขืนปล่อยเสือเหลี่ยมครองเมืองต่อไป ชาติไทยถูกแทะไม่เหลือแม้ “กระดูก” แน่ แต่ทหารกลุ่มนั้นก็คิดและทำผิด นอกจากจะไม่ปฏิรูปการเมืองแล้ว ยังใช้นักการเมืองหน้าเดิมสมองเดิม ซื้อเสียงเลือกตั้งแข่งกับเสือเหลี่ยมที่รวยล้นฟ้าอีก ผลลัพธ์คือ...ทหารกลุ่มนั้นแพ้สงครามการเมืองยับเยิน เพราะถูกไอ้เสือเหลี่ยมยึดอำนาจรัฐคืนได้อีกครั้ง”
“...รัฐประหารครั้งนั้น... “บังเละ” เสียคน-เสียของ-เสียชาติให้เหลี่ยมครบถ้วนเลย...”
เหยี่ยวข่าวป้าพูดแทรก ก่อนคอลัมนิสต์วัย 70 เศษ ที่เพิ่งมาร่วมวงดื่มกาแฟแทนก๊งเหล้า จะอรรถาธิบายต่อว่า...
“รอบสองก็โดน ‘อัศวินม้าเขียว’ พลิกขั้ว ไอ้เสือเหลี่ยมจึงสั่งให้พวก ‘เสือแดง’ ลงมือเผาบ้านเผาเมืองและฆ่าทหารครั้งใหญ่ จนรัฐบาล ‘หล่อมะเขือเผา’ ต้องยุบสภา เปิดโอกาสให้เสือเหลี่ยมใช้เงินซื้อเสียงเลือกตั้งกลับมายึดอำนาจรัฐซ้ำอีก พริตตี้ยิ่งเลิฟจึงโดน ‘ส้ม(โอยักษ์)หล่น’ ได้เป็นนายกฯ ไงล่ะ...
เสือไม่กินมังสวิรัติฉันใด คนโกงย่อมไม่หยุดโกงฉันนั้น คนโกงที่ไม่รู้จักพอ รวยแค่ไหนก็ต้องโกงอยู่วันยังค่ำ ทั้งๆ ที่เสือเหลี่ยมได้บทเรียน โดนทั้งรัฐประหารและพลิกขั้ว แต่โชคดีกลับมาเป็นรัฐบาลได้อีก ทว่า...แทนที่จะกลับเนื้อกลับตัว แล้วใช้อำนาจรัฐทำคุณงามความดีให้ชาติ รัฐบาลยิ่งเลิฟกลับปล้นชาติอยู่ตลอดเวลา แถมยังทะลึ่งนิรโทษกรรมความผิดให้พี่อีก...”
หนุ่มน้อยนักจัดรายการข่าวทางวิทยุ ลำดับความย้อนหลัง...ก่อนพูดต่อว่า...
“...จึงเกิดความไม่พอใจรัฐบาลยิ่งเลิฟ เกิดการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดในโลกในไทย เกิดกระแสปฏิรูปประเทศไทยทุกมิติ เพื่อขจัดนักการเมืองโกงชาติ และเอาคนดีขึ้นปกครองบ้านเมือง แต่ผู้นำมวลชนครั้งนั้นล้มรัฐบาลยิ่งเลิฟไม่ลง และมีการบาดเจ็บล้มตายรายวัน ด้วยเสือเหลี่ยมแอบส่ง ‘ชายชุดดำ’ ไล่ฆ่าผู้ชุมนุมแทบทุกวัน สุดท้าย...รัฐบาลเธอเลยโดน ‘ททรปห.’ ทหารทำรัฐประหาร...ส่วน...รปหขลตจสขหบลหมตดกตป..”
“..อะไรวะไอ้เบื๊อก...ใครจะไปรู้ว่า ตัวย่อยาวยืดอย่างกับขบวนรถไฟของเอ็งหมายถึงอะไร...”
เหยี่ยวข่าวป้าถามแทนก๊วนกาแฟที่กำลังงงงวยกับตัวย่อมหัศจรรย์ของนายเบื๊อก
“...หมายถึง...รัฐประหารของลุงตู่จะเสียของเหมือนบังเละหรือไม่ต้องดูต่อไป...จ๊ะป้าหญิง...”
“มันเป็นรัฐประหารประหลาดที่ทั้ง ‘น่ารักและน่าชัง’ พร้อมๆ กัน เพราะคนโดนรัฐประหารสบายใจเฉิบ ลั้นลาไปโน่นนี่ได้ชิวๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีการเร่งปราบคอร์รัปชันเป็นพิเศษ ไม่มีการอายัดหรือยึดทรัพย์นักการเมืองชั่ว ทั้งอดีตกับปัจจุบันให้ชื่อเสียงมัวหมอง และขุ่นเคืองใจในกันและกัน ลุงตู่ทำรัฐประหารเพื่อให้ลืมเรื่องในอดีต แล้วหันหน้ามาปรองดองกันเท่านั้นแหละ...”
เหยี่ยวข่าวรุ่นป้าหยุดพักหายใจ ก่อนจะโดนคอลัมนิสต์อาวุโสพูดแทรกขึ้นว่า
“...แค่นี้ก็แฮปปี้กันทั้งคนทำรัฐประหาร และคนโดนทำรัฐประหาร เพราะแม้ลุงตู่จะมีอำนาจล้นฟ้า มีศักยภาพเกินพอจะจัดการกับกลุ่มทุนสามานย์ทางการเมืองกับทำการปฏิรูปประเทศไทยทุกภาคส่วนได้ทันที ตามที่คนหลายล้านคนชุมนุมเรียกร้องต้องการ จนบาดเจ็บล้มตายไปมากมาย แต่ลุงตู่ก็ยังไม่ทำ... เพราะลุงตู่อยากให้ สนช.กับ สปช.ที่ คสช.ตั้งทำแทนให้ ทั้งๆ ที่บางเรื่องทำแทนกันไม่ได้ วันนี้...แทบทุกระบบที่เน่าเฟะในชาติไทย จึงยังคงร้องเพลง ‘ขอให้เหมือนเดิม’ อยู่นี่ไงล่ะ...”
“...เฮ้ย...ไอ้เบื๊อก...ลุงตู่ไม่ร้องเพลง ‘ขอให้เหมือนเดิม’ นะ เขาร้องแต่เพลง ‘จะคืนความสุขให้เธอ...ประชาชน..’ โว้ย ส่วนจะคืนความสุขให้เมื่อไหร่...ลุงตู่บอกในเนื้อเพลงว่า...อีกไม่นาน...”
เหยี่ยวข่าวป้าเอะอะใส่ไอ้เบื๊อก ก่อนที่ใครคนหนึ่งจะถาม และใครอีกคนหนึ่งก็พูดสวนทันทีว่า
“...เอ...หมายความว่า...เสือสองตัวที่ลั้นลาอยู่บนกำแพงเมืองจีน ก็ได้ความสุขคืนเหมือนกัน...ใช่ไหม?”
“...ไปถามนายกฯ ตู่หรือ คสช.โน่น เสือกมาถามกันเองทำไม...ใครจะไปรู้ได้ล่ะวะ...หือ...”