xs
xsm
sm
md
lg

จ่อส่งฟ้อง2ฆาตกร ฆ่าโหดญี่ปุ่นรวม2ศพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตำรวจบางพลี -บางเสาธงเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมส่งฟ้องอัยการ คดี 2 ผัวเมียชาวไทยฆ่าหั่นศพและผลักญี่ปุ่นตกบันไดเสียชีวิต 2 ศพ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน รอเพียงผลตรวจพิสูจน์หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ด้าน ผบ.เรือนจำ จับตาเข้มผู้ต้องขังเกรงถูกทำร้าย- ทำร้ายตัวเอง เบื้องต้นสภาพจิตใจยังเป็นปกติ

ความคืบหน้าคดีนายสมชาย แก้วบางยางและนางพรชนก ไชยะปะ 2 สามีภรรยา ชาวไทย ทำร้ายร่างกายชาวญี่ปุ่นจนเสียชีวิต โดยเมื่อวานนี้ (25 ต.ค.) ทางตำรวจได้นำตัวทั้ง 2 รายไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา เรียบร้อยแล้ว ส่วนของคดีนายคัตสึโตชิ ทานากะ ที่เสียชีวิตเมื่อปี 2546 และทางตำรวจได้ทำการรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่ หลังมีพยานหลักฐานจากนิติเวชรวมถึงพยานบุคคล จนทำให้นายสมชาย เปิดปากรับสารภาพว่า ได้ฆาตรกรรม นายทานากะ จนเสียชีวิต นั้น

พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ ผกก.สภ.บางพลี เปิดเผยว่า สำหรับคดีหลักฐานทุกอย่างถือว่าสมบูรณ์ครบถ้วนแล้ว เหลือเพียงแต่นำเอกสารของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานที่เดินทางเข้าเก็บรายละเอียด ณ จุดเกิดเหตุ ไปแล้วมาประกอบ ซึ่งเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่จะนำมาประกอบสำนวนเชื่อมโยงในการดำเนินคดีกับ 2 สามีภรรยา ผู้ต้องหา ส่วนการสอบปากคำบุคคลนั้นได้สอบไปครบหมดแล้ว ซึ่งหลังจากนี้จะเร่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน ส่งให้อัยการ ดำเนินการส่งฟ้อง 2 สามีภรรยาต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการ ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน

ส่วนที่ สภ.บางเสาธง นั้น พ.ต.อ.สมศักดิ์ชัย อมรส่งเจริญ เปิดเผยว่า หลังจากดำเนินการส่งทั้ง 2 สามีภรรยาฝากขังต่อศาลอาญารัชดา เรียบร้อยแล้ว คงเหลือแต่เพียงเร่งสรุปสำนวนของคดีเพื่อให้ทันส่งมอบต่ออัยการ โดยขณะนี้ยังคงรอผลการตรวจดีเอ็นเอและผลการตรวจรถกระบะ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลางและรถแท๊กซี่ จาก ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1เพื่อนำมาประกอบสำนวน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นานก็สามารถส่งมอบให้อัยการได้ เพราะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง บช.น.กับตำรวจภูธรภาค 1 และ ตำรวจภูธรจ.สมุทรปราการ

นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เปิดเผย จากการสังเกตพฤติกรรมของนายสมชาย แก้วบางยาง และนางพรชนก ไชยะปะ 2 ผัวเมียที่ก่อเหตุฆ่า นายโยชิโนริ ชิมาโต ครูสอนภาษาชาวญี่ปุ่น ซึ่งถูกนำมาฝากขังผลัดแรก ไม่พบปัญหาใดๆ โดยนายสมชายถูกคุมขังในแดนแรกรับตามขั้นตอนปกติ และไม่ได้แยกออกไปคุมขังพิเศษ ให้ใช้ชีวิตรวมกับผู้ต้องขังทั่วไป แต่ให้นอนในห้องที่มีกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่จะได้ติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด เพราะถือเป็นผู้ต้องขังคดีร้ายแรง ประชาชนให้ความสนใจ

นายอายุตม์ให้การต่อไปว่า ทั้งนี้ช่วงกลางวันจะจำกัดบริเวณไม่ให้ผู้ต้องหา เดินเพ่นพ่านไปมา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดูแลใกล้ชิด เพราะคดีในลักษณะนี้ต้องระวังเรื่องความปลอดภัย ส่วนในช่วงวันหยุดได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องสภาพจิตใจ เพราะผู้ต้องขังอาจมีส่วนเกี่ยวข้องอีกหลายคดีนั้น เรือนจำมีขั้นตอนตรวจสภาพจิตอยู่แล้ว เบื้องต้นไม่พบความผิดปกติ และไม่มีอาการเครียด ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับนางพรชนกที่ถูกส่งตัวไปคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง มีการควบคุมดูแลเหมือนผู้ต้องขังทั่วไป เพราะการควบคุมผู้ต้องขังหญิงไม่มีห้องแยกขัง เรื่องสภาพจิตใจในกรณีผู้ต้องขังสุ่มเสี่ยงทัณฑสถานหญิงกลางมีการประสานกับสถาบันกัลยาราชนครินทร์ให้การตรวจสอบดูแล แต่นางพรชนกยังไม่พบอาการผิดปกติ.
กำลังโหลดความคิดเห็น