ตำรวจนครบาลนำตัว "สมชาย-พรชนก" ผู้ต้องหาคดีหั่นศพ "โยชิโนริ" ส่งสภ.บางเสาธง ก่อนจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพวันนี้ (24 ต.ค.) พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนร่วมยันผลตรวจสอบดีเอ็นเอซากศพตรงกับผู้ตาย ขณะที่ผู้ต้องหายันเหยื่อเสียชีวิตเองก่อนลงมือหั่นศพเพราะความกลัวไม่รู้จะทำอย่างไร ด้านลูกสาวอดีตสามีชาวญี่ปุ่นที่ตกบันได้ตายขอให้ตำรวจรื้อคดีใหม่
ภายหลังนายสมชาย แก้วบางยาง สามีนางพรชนก ไชยะปะ หญิงสาวคนสนิทของนายโยชิโนริ ชิมาโตะ อายุ 79 ปี อาจารย์สอนภาษาชาวญี่ปุ่นที่หายตัวไป รับสารภาพว่าลงมือฆ่านายโยชิโนริ ก่อนหั่นศพแบ่งใส่ถุงและใส่ทรายก้นถุงเพื่อถ่วงน้ำไปทิ้งลงคลองนางทิ้ม ซอยนวมินทร์ 16 ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ โดย พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก รรท.รอง ผบ.ตร.นำคณะพร้อมประดาน้ำลงงมค้นหาในคลองนางทิ้ม ตั้งแต่เวลา 20.30 น.วันที่ 21 ตุลาคม ต่อเนื่องวันที่ 22 ตุลาคม และพบถุงบรรจุชิ้นส่วนศพแล้วนั้น
เมื่อเวลา 12.30 น. วานนี้ (23 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผบ.ตร. พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.ผบช.น พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รองผบช.น. พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา รรท.ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธัมรงค์ วงศ์แป้น รองผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.บันลือศักดิ์ แสงสว่าง ผกก.สน.ห้วยขวาง และพ.อ.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานกฎหมาย ส่วนรักษาความสงบคสช. ร.ต.ปรัชญา จันรอดภัย สังกัดม.พัน19 พล.ร.9 แถลงผลการจับกุมนางพรชนก ไชยะปะ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายศาลอาญา เลขที่ จ.1876/2557 ลงวันที่ 23 ตุลาคม 2557 และนายสมชาย แก้วบางยาง อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายศาลอาญา เลขที่ จ.1875/2557 ลงวันที่ 23 ตุลาคม 2557 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยแระการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ร่วมกันลอบฝังซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย
พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ กล่าวว่า การปฏิบัติการเป็นไปตามขั้นตอน คือ 1.การรับมอบตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนจากทหาร 2.ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มีหมายจับของศาลอาญาเรียบร้อยแล้ว 3.ทำการจับกุมตัวโดยกล่าวหาว่าร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ร่วมกันลอบฝังซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย ทั้งนี้ นายแพทย์ประกรณ์ วาดศิลรัต จากโรงพยาบาลตำรวจ ทำการตรวจร่างการของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ปรากฎว่าผลการตรวจร่ายกายเป็นปกติ และ 4.นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เพื่อสอบสวน รวมทั้งจัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนระหว่างนครบาล กับตำรวจภูธรภาค1 โดยจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพวันที่ 24 ตุลาคม
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุจูงใจในการก่อเหตุมีอะไรบ้าง นายสมชาย กล่าวว่า นางพรชนกติดต่อให้มาหาที่บ้านในหมู่บ้านออคิดส์ วิลล่า เมื่อมาถึงนางพรชนกบอกกับตนว่า นายโยชิโนริเสียชีวิต ตอนนี้ศพอยู่ชั้น 2 ตนจึงขึ้นไปดู และพบว่านายโยชิโนริไม่หายใจแล้ว จากนั้นก็ปรึกษากับนางพรชนกว่าจะทำอย่างไรกับศพ แต่นางพรชนกเกิดความหวาดกลัว ตนจึงลากศพนายโยชิโนริเข้าไปในห้องน้ำ แล้วทำการชำแหละศพออกเป็นชิ้นๆ
ส่วนนางพรชนก ให้การว่า ตนไม่ทราบว่านายโยชิโนริเสียชีวิตด้วยสาเหตุอะไร เพราะหลังจากที่พานายโยชิโนริไปรักษาที่โรงพยาบาลบางนา2 ก็พามารักษาตัวที่บ้าน ในหมู่บ้านออร์คิด วิลล่า ก็พบว่านายโยชิโนริเสียชีวิตแล้ว
ทั้งนี้ นางพรชนกให้การว่ารหัสบัตรเอทีเอ็มนั้น นายโยชิโนริได้ให้แก่ตนเอง เพื่อเป็นการตอบแทนที่ดูแลเป็นอย่างดี โดนส่วนตัวแล้วตนรู้จักกับนายโยชิโนริมากว่า 10 ปี เพราะตอนนั้นตนเปิดร้านนวดในประเทศไทย แล้วนายโยชิโนริมาเรียนหนังสือฝั่งตรงข้ามร้าน หลังเรียนเสร็จจะมานวดทุกวัน
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า กรณีสามีชาวญี่ปุ่นคนแรกที่ตกบันไดเสียชีวิต แล้วได้เงินประกัน 6 ล้านบาทนำไปทำอะไร นางพรชนกให้การว่า ตนไม่ทราบว่าทำประกับชีวิตไว้ มีเพียงน้องชายที่นำใบประกันชีวิตและเงินสดมาจากญี่ปุ่น 2 ล้านบาทเท่านั้น
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา นายเทสซึโอะ ชิมาโตะ บุตรชายนายโยชิโนริ ชิมาโตะ แจ้งความกับพนักงานสอบสวนสน.ห้วงขวาง ว่านายโยชิโนริซึ่งเป็นบิดาหายไปจากห้องพักเลขที่ 180 ชั้น 10 ศรีวราแมนชั่น แขวงสามเสนนอก เขตดินแดง กทม. ต่อมานางเทสซึโอะไปยังห้องพักของนายโยชิโนริ พบนางพรชนก ไชยะปะ อยู่ภายในห้อง มีท่าทางพิรุธ พบบัตรกดเงินสดของนายโยชิโนริที่นางพรชนก จึงแจ้งพนักสอบสวนสน.ห้วยขวาง ดำเนินคดี แต่นางพรชนกประกันได้ตัวในชั้นศาล แล้วหลบหนีไป ต่อมา ได้ตรวจสอบบัญชีเงินฝากของนายโยชิโนริ พบว่านางพรชนกนำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินสดเมื่อวันที่ 28 กันยายน 700,000 บาท
เจ้าหน้าที่คาดว่า นางพรชนกน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนายโยชิโนริแน่นอน จึงพยายามติดตามมาโดยตลอด จนกระทั่งสืบทราบว่านางพรชนกกับนายสมชาย แก้วบางยาง สามีคนปัจจุบัน ที่ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ หลบหนีไปอยู่บ้านพักในจ.อ่างทอง เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวมาสอบสวนและรับสารภาพในที่สุด
ล่าสุด ทางพล.ต.ท.เรืองศักดิ์ ได้โทรเข้าไปสอบถามกับสถาบันนิติเวช ผลตรวจดีเอ็นเอ ชิ้นส่วนร่างที่พบทั้ง 4 ถุงปุ๋ยบริเวณคลองนางทิ้ม จ.สมุทรปราการ พบว่า ดีเอ็นเอ ตรงกับนายโยชิโนริ ส่วนการทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น ต้องขึ้นอยู่กับผู้ต้องหาทั้งสอง ว่าจะยอมรับสารภาพทั้งหมดหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้นางพรชนกยังให้การปฏิเสธอยู่ ส่วนนายสมชายยอมรับสารภาพแล้ว
ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของอดีตสามีนางพรชนก คือ นายคัทซึโตชิ ทานากะ ที่ตกบันไดเสียชีวิต ทางตำรวจขอนุญาตทำคดีฆ่าหั่นศพ นายโยชิโนริ ให้แล้วเสร็จเสียก่อน จากนั้นค่อยมาขยายผล และรื้อคดีดังกล่าว กลับมาดำเนินคดีอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน นางเค็กโกะ มัตตะ ลูกสาวของนายคัทซึโตชิ ก็ได้เดินทางมาที่ สถานีตำรวจภูธรบางเสาธง เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรช่วยรื้อคดีเก่า เนื่องจากส่วนตัวมีข้อสงสัยในการเสียชีวิตของพ่อ
ภายหลังนายสมชาย แก้วบางยาง สามีนางพรชนก ไชยะปะ หญิงสาวคนสนิทของนายโยชิโนริ ชิมาโตะ อายุ 79 ปี อาจารย์สอนภาษาชาวญี่ปุ่นที่หายตัวไป รับสารภาพว่าลงมือฆ่านายโยชิโนริ ก่อนหั่นศพแบ่งใส่ถุงและใส่ทรายก้นถุงเพื่อถ่วงน้ำไปทิ้งลงคลองนางทิ้ม ซอยนวมินทร์ 16 ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ โดย พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก รรท.รอง ผบ.ตร.นำคณะพร้อมประดาน้ำลงงมค้นหาในคลองนางทิ้ม ตั้งแต่เวลา 20.30 น.วันที่ 21 ตุลาคม ต่อเนื่องวันที่ 22 ตุลาคม และพบถุงบรรจุชิ้นส่วนศพแล้วนั้น
เมื่อเวลา 12.30 น. วานนี้ (23 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผบ.ตร. พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.ผบช.น พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รองผบช.น. พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา รรท.ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธัมรงค์ วงศ์แป้น รองผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.บันลือศักดิ์ แสงสว่าง ผกก.สน.ห้วยขวาง และพ.อ.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานกฎหมาย ส่วนรักษาความสงบคสช. ร.ต.ปรัชญา จันรอดภัย สังกัดม.พัน19 พล.ร.9 แถลงผลการจับกุมนางพรชนก ไชยะปะ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายศาลอาญา เลขที่ จ.1876/2557 ลงวันที่ 23 ตุลาคม 2557 และนายสมชาย แก้วบางยาง อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายศาลอาญา เลขที่ จ.1875/2557 ลงวันที่ 23 ตุลาคม 2557 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยแระการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ร่วมกันลอบฝังซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย
พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ กล่าวว่า การปฏิบัติการเป็นไปตามขั้นตอน คือ 1.การรับมอบตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนจากทหาร 2.ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มีหมายจับของศาลอาญาเรียบร้อยแล้ว 3.ทำการจับกุมตัวโดยกล่าวหาว่าร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใด ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ร่วมกันลอบฝังซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย ทั้งนี้ นายแพทย์ประกรณ์ วาดศิลรัต จากโรงพยาบาลตำรวจ ทำการตรวจร่างการของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ปรากฎว่าผลการตรวจร่ายกายเป็นปกติ และ 4.นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เพื่อสอบสวน รวมทั้งจัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนระหว่างนครบาล กับตำรวจภูธรภาค1 โดยจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพวันที่ 24 ตุลาคม
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุจูงใจในการก่อเหตุมีอะไรบ้าง นายสมชาย กล่าวว่า นางพรชนกติดต่อให้มาหาที่บ้านในหมู่บ้านออคิดส์ วิลล่า เมื่อมาถึงนางพรชนกบอกกับตนว่า นายโยชิโนริเสียชีวิต ตอนนี้ศพอยู่ชั้น 2 ตนจึงขึ้นไปดู และพบว่านายโยชิโนริไม่หายใจแล้ว จากนั้นก็ปรึกษากับนางพรชนกว่าจะทำอย่างไรกับศพ แต่นางพรชนกเกิดความหวาดกลัว ตนจึงลากศพนายโยชิโนริเข้าไปในห้องน้ำ แล้วทำการชำแหละศพออกเป็นชิ้นๆ
ส่วนนางพรชนก ให้การว่า ตนไม่ทราบว่านายโยชิโนริเสียชีวิตด้วยสาเหตุอะไร เพราะหลังจากที่พานายโยชิโนริไปรักษาที่โรงพยาบาลบางนา2 ก็พามารักษาตัวที่บ้าน ในหมู่บ้านออร์คิด วิลล่า ก็พบว่านายโยชิโนริเสียชีวิตแล้ว
ทั้งนี้ นางพรชนกให้การว่ารหัสบัตรเอทีเอ็มนั้น นายโยชิโนริได้ให้แก่ตนเอง เพื่อเป็นการตอบแทนที่ดูแลเป็นอย่างดี โดนส่วนตัวแล้วตนรู้จักกับนายโยชิโนริมากว่า 10 ปี เพราะตอนนั้นตนเปิดร้านนวดในประเทศไทย แล้วนายโยชิโนริมาเรียนหนังสือฝั่งตรงข้ามร้าน หลังเรียนเสร็จจะมานวดทุกวัน
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า กรณีสามีชาวญี่ปุ่นคนแรกที่ตกบันไดเสียชีวิต แล้วได้เงินประกัน 6 ล้านบาทนำไปทำอะไร นางพรชนกให้การว่า ตนไม่ทราบว่าทำประกับชีวิตไว้ มีเพียงน้องชายที่นำใบประกันชีวิตและเงินสดมาจากญี่ปุ่น 2 ล้านบาทเท่านั้น
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา นายเทสซึโอะ ชิมาโตะ บุตรชายนายโยชิโนริ ชิมาโตะ แจ้งความกับพนักงานสอบสวนสน.ห้วงขวาง ว่านายโยชิโนริซึ่งเป็นบิดาหายไปจากห้องพักเลขที่ 180 ชั้น 10 ศรีวราแมนชั่น แขวงสามเสนนอก เขตดินแดง กทม. ต่อมานางเทสซึโอะไปยังห้องพักของนายโยชิโนริ พบนางพรชนก ไชยะปะ อยู่ภายในห้อง มีท่าทางพิรุธ พบบัตรกดเงินสดของนายโยชิโนริที่นางพรชนก จึงแจ้งพนักสอบสวนสน.ห้วยขวาง ดำเนินคดี แต่นางพรชนกประกันได้ตัวในชั้นศาล แล้วหลบหนีไป ต่อมา ได้ตรวจสอบบัญชีเงินฝากของนายโยชิโนริ พบว่านางพรชนกนำบัตรเอทีเอ็มไปกดเงินสดเมื่อวันที่ 28 กันยายน 700,000 บาท
เจ้าหน้าที่คาดว่า นางพรชนกน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนายโยชิโนริแน่นอน จึงพยายามติดตามมาโดยตลอด จนกระทั่งสืบทราบว่านางพรชนกกับนายสมชาย แก้วบางยาง สามีคนปัจจุบัน ที่ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ หลบหนีไปอยู่บ้านพักในจ.อ่างทอง เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวมาสอบสวนและรับสารภาพในที่สุด
ล่าสุด ทางพล.ต.ท.เรืองศักดิ์ ได้โทรเข้าไปสอบถามกับสถาบันนิติเวช ผลตรวจดีเอ็นเอ ชิ้นส่วนร่างที่พบทั้ง 4 ถุงปุ๋ยบริเวณคลองนางทิ้ม จ.สมุทรปราการ พบว่า ดีเอ็นเอ ตรงกับนายโยชิโนริ ส่วนการทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น ต้องขึ้นอยู่กับผู้ต้องหาทั้งสอง ว่าจะยอมรับสารภาพทั้งหมดหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้นางพรชนกยังให้การปฏิเสธอยู่ ส่วนนายสมชายยอมรับสารภาพแล้ว
ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของอดีตสามีนางพรชนก คือ นายคัทซึโตชิ ทานากะ ที่ตกบันไดเสียชีวิต ทางตำรวจขอนุญาตทำคดีฆ่าหั่นศพ นายโยชิโนริ ให้แล้วเสร็จเสียก่อน จากนั้นค่อยมาขยายผล และรื้อคดีดังกล่าว กลับมาดำเนินคดีอีกครั้ง
ขณะเดียวกัน นางเค็กโกะ มัตตะ ลูกสาวของนายคัทซึโตชิ ก็ได้เดินทางมาที่ สถานีตำรวจภูธรบางเสาธง เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรช่วยรื้อคดีเก่า เนื่องจากส่วนตัวมีข้อสงสัยในการเสียชีวิตของพ่อ