มวยคู่มันพะยะค่ะ “เฉลิม-ตู่”

ริมฝั่งเจ้าพระยา
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา

รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา มีหลายประเด็นข่าวที่น่าติดตาม แต่ไม่มีข่าวไหนที่เรียกความสนใจมากไปกว่า การประกาศสงครามน้ำลาย ระหว่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)

ศึกครั้งนี้ เกิดจากการแกว่งเท้าหาเสี้ยนของร.ต.อ.เฉลิม เพราะนำเรื่องจริงมาเปิดโปง โดยระบุว่า การยึดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) คนที่ได้กำที่สุด มีความสุขมากที่สุดคือ พรรคเพื่อไทยและพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะได้แก้ปัญหาคนเสื้อแดงที่มีปัญหากับรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์

ร.ต.อ.เฉลิมยังระบุอีกว่า กระบวนการคนเสื้อแดงไม่มี หาก ส.ส.ไม่ร่วมสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกำลังคน จะมีคนมาฟังๆได้ขนาดนี้หรือ โดยช่วงคนเสื้อแดงชุมนุมที่ถนนอักษะ นับผ้ชุมนุมได้ 9.7 หมื่นคน แต่แกนนำคนเสื้อแดงบอกมี 3 แสนคน

พูดออกมาอย่างนี้ นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อและนายจตุพร จะนั่งอยู่ได้อย่างไร เพราะถูกสบประมาทเข้าเต็มๆ ยอมร.ต.อ.เฉลิมได้ที่ไหน

ว่าแล้วคุณ “ตู่” จตุพร ก็ออกมาปะฉะดะ ตอกหน้าร.ต.อ.เฉลิอย่างยังเยิน ถึงขนาดประกาศไม่เผาผี ถึงขนาดด่ากราดหมาลอบกัดและหน้าตัวเมียกันทีเดียว

นายจตุพรหรือฉายา “บักแสน” เพราะปลุกระดมคนเสื้อแดงมาทีไร ประกาศทุกทีว่ามวลชนคนเสื้อแดงจะยกมาเป็นแสนๆคน แต่ถึงเวลาชุมนุมจริง นับแล้วนับอีก นับวนกันหลายรอบก็ไม่เคยถึงแสนสักที

ใบส่งของแจ้งจำนวนคนเสื้อแดงที่ร่วมชุมนุมอาจระบุตัวเลขเป็นแสน แต่สินค้าที่ส่งจริงอาจมีเพียงไม่กี่พัน ร.ต.อ.เฉลิมเล่นเอาเรื่องจริงมาเล่า แกนนำนปช.อย่าง “ตู่”จะทนไหวหรือ

แม้จะเป็นสาวก พ.ต.ท.ทักษิณเหมือนกัน แม้เคยกินข้าวหม้อเดียวกันของพรรคเพื่อไทยมาด้วยกัน และแทบไม่มีที่ยืนในสังคมด้วยกันทั้งคู่ แต่ก็หันมา “ซด”กันเองได้

ถ้าเปรียบเป็นคู่มวย ระหว่าง “เฉลิม”กับ “ตู่” ก็ถือเป็นคู่มวยที่มันส์ยกร่อง มีกองเชียร์มากมาย ขอให้ชกกันจริงเท่านั้น

เทียบในความกล้าแล้ว ต้องถือว่า ร.ต.อ.เฉลิมกล้ากว่า เพราะประกาศยอมรับตัวเองว่า เป็นขี้ข้าพ.ต.ท.ทักษิณ

สำหรับ “ตู่”จตุพร ยังกระมิดกระเมี้ยน แม้จะโหนกระแส พ.ต.ท.ทักษิณ ขี่กระแสมวลชนคนเสื้อแดง จนมีตำแหน่งทางการเมือง มีฐานะทางการเงินระดับเศรษฐี ชีวิตตกต่างจากสมัยเรียนมหาวิทยาลัยรามคำแหงราวฟ้ากับดิน แต่กลับไม่ยอมรับว่าเป็นทาสรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ

ใครพูดตรง ชี้หน้าประณามว่า เป็นทาสรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำเป็นโกรธ ฟ้องอุตลุด และไล่ฟ้องนายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์มาสองศาลแล้ว แต่ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกฟ้องหมด

ข้อหาหมิ่นประมาทเป็นทาสรับใช้พ.ต.ท.ทักษิณที่ “ตู่” จตุพรไล่ฟ้อง รับฟังไม่ขึ้น เพราะพฤติกรรมการแสดงความจงรักภักดีของ “ตู่” ถ้าไม่ใช่ทาสรับใช้พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่รู้จะเรียกอะไรแล้ว ไม่น่าจะทำเป็นเหนียม สู้ร.ต.อ.เฉลิมไม่ได้ แสดงความเป็นลูกผู้ชายยอมรับความป็น “ขี้ข้า” เสียแต่โดยดี

ข้อกล่าวหา แต่งบัญชี ปั้นตัวเลขจำนวนคนเสื้อแดง เพื่อ “วางบิล” การชุมนุม เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่เป็นเสียงจากคนภายนอก ซึ่งนายจตุพรอาจจะโกรธ แต่ไม่เคยออกมาตอบโต้

แต่นี่เป็นคำสบประมาทจากคนในพรรคเพื่อไทยด้วยกัน เป็นคนที่โหนกระแสพ.ต.ท.ทักษิณ ขี่มวลชนคนเสื้อแดงมาด้วยกัน ทำให้ “ตู่” เลือดขึ้นหน้า เห็นช้างตัวเท่ามด และเห็น “เฉลิม” เป็นเพียง “ขี้ข้า” อีกคนหนึ่งเท่านั้น จึงประเคนหัด เท้า เข่า ศอกไม่เลี้ยง

ไม่ยำเกรงที่มีลูกชายยิงปืนแม่น ไม่หวั่นไหวมาดที่ดูเป็นนักเลงแม้แต่น้อย เพราะถือว่ามีมือมีตีนเหมือนกัน ซัด “ตู่” มา “ตู่” ก็ซัดกลับไป เล่นให้เสียมวย

มวยคู่ บักเฉลิมกับบักตู่ มีแต่คนอยากดู แต่ถามไถ่เชียร์ข้างไหน กลับไม่มีคนเชียร์ใคร อยากจะเห็นต่อยกันเท่านั้น อยากจะเห็นสาวก พ.ต.ท.ทักษิณ สาวไส้กันออกมาเท่านั้น

ใครจะแพ้ใครจะชนะ ใครจะถูกหามลงจากเวที ใครจะเป็นศพ กองเชียร์ไม่สน

“ตู่”จตุพรชักธงรบ เดินหน้าชน ร.ต.อ.เฉลิมแล้ว เล่นเอาเรื่องจริงมาพูด งานนี้คงไม่ยอมเลิกราง่ายๆ ไม่กลัวกันแล้ว

อยู่ที่ ร.ต.อ.เฉลิมเท่านั้นจะเอาอย่างไร สู้หรือไม่สู้ ถูกเด็กรุ่นหลังชักธงรบแล้ว จะรับคำท้าหรือเปล่า และเป็นนักเลงที่เก่งแต่ปากเท่านั้นหรือไม่

ถ้ารับคำท้า มวยคู่ “เฉลิม-ตู่” คงมันพะยะค่ะ สมใจพระเดชพระคุณที่รอชม

แต่ถ้าไม่สู้ ร.ต.อ.เฉลิมก็มีหนทางเดียว ยอมถือดอกไม้ธูปเทียน ไปกราบขอขมาน้อง”ตู่”จตุพรเสีย ไม่ต้องคิดเรื่องศักดิ์ ปัญหาจะได้จบ จะได้ไม่ต้องระแวงว่า “น้องตู่”จตุพรจะเล่นงานเมื่อไหร่

งานศพ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ที่ประกาศจะเดินทางไปร่วมงาน แต่ ร.ต.อ.เฉลิมกลับหายตัวเฉย เป็นเพราะกลัวน้องเจอน้อง “ตู่” หรือเปล่า จึงต้องหลบฉาก

กลัว “ตู่”จตุพรจนขี้ ขึ้นสมอง รีบไปขอขมาดีๆ แค่เสียศักดิ์ศรีนิดหน่อย คนอย่าง ร.ต.อ.เฉลิมทำได้อยู่แล้ว ...ชิวๆ