เกือบครบรอบ 1 เดือนของการรัฐประหารแล้ว ถ้าประเมินผลการทำงานของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) ในภาพรวมถือว่าสอบผ่านโดยไม่มีข้อโต้แย้ง แต่บางแง่มุมยังต้องปรับปรุงแก้ไข โดยเฉพาะการสร้างบรรทัดฐานความเป็นธรรมในสังคม
คสช.สามารถคืนความสุขสู่สังคมได้ในระดับที่ดี สถานการณ์บ้านเมืองสงบเรียบร้อยขึ้นมาก เมื่อเทียบกับช่วงที่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังรักษาการอยู่
แต่การสร้างความปรองดอง เพื่อความสมานฉันท์อย่างยั่งยืนนั้น ยังมีคำถาม เพราะต้นตอของความขัดแย้งแตกแยกยังไม่ได้รับการแก้ไขให้ถูกจุด โดยประชาชนที่ถูกกระทำจากรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ยังไม่ได้รับคืนความเป็นธรรม
ความปรองดองสมานฉันท์จะเกิดขึ้นอย่างยั่งยืนได้จริงหรือ เมื่อต้นเหตุแห่งความขัดแย้งแตกแยกของสังคมยังไม่ถูกแก้ไข และประชาชนที่ต้องบาดเจ็บล้มตายยังไม่ได้การชดใช้
การนำคนเสื้อแดงในแต่ละพื้นที่จับมือกับแกนนำประชาชนที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ การจัดคนเสื้อต่างสีมาร่วมกิจกรรมสังสรรค์รับประทานอาหารและร้องเพลงร่วมกันอาจสร้างภาพที่ดี แต่ไม่ใช่ข้อยุติในการเยียวยาปัญหาความแตกแยกที่ดำเนินมานับสิบปีแน่
แม้แกนนำคนเสื้อแดงในจังหวัดภาคเหนือจะยอมเข้าร่วมแผนสร้างความปรองดองอย่างไม่มีเงื่อนไข แม้นายขวัญชัย ไพรพนา หัวโจกใหญ่คนเสื้อแดงจังหวัดอุดรฯ จะยอมสยบราบคาบ และแม้แต่นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำเสื้อแดงตัวเอ้ จังหวัดปทุมธานีจะหนีคดีหัวซุกหัวซุนไปแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่า ในแต่ละพื้นที่จะสงบสุข
แกนนำคนเสื้อแดงแต่ละพื้นที่ เป็นเพียง “ตัวเบี้ย” ที่ถูกเชิดขึ้นมาเท่านั้น
แกนนำคนเสื้อแดงในทุกจังหวัด แม้แต่นายขวัญชัยหรือโกตี๋ ถ้าไม่มีนักการเมืองหนุนหลัง ไม่มีท่อน้ำเลี้ยง ไม่มีตำรวจให้ท้าย อย่างมากก็เป็นได้แค่อันธพาลข้างถนน
ช่วงรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ แกนนำคนเสื้อแดงกลับใหญ่คับบ้านคับเมือง สามารถย้ายนายตำรวจใหญ่ได้ มีกองกำลังติดอาวุธคุกคามข่มขู่และทำร้ายประชาชน สามารถระดมมวลชนปิดล้อมกดดันองค์กรอิสระและสื่อมวลชน และเหิมเกริมถึงขั้นประกาศสงครามการเมือง
การจับแกนนำคนเสื้อแดงเข้าค่ายอบรมบ่มเพาะนิสัย การสลายพฤติกรรมและจัดกิจกรรมร่วมสร้างความปรองดอง หรือแม้แต่การไล่ล่าตัวมาลงโทษจนไม่เหลือซาก ไม่ได้ช่วยให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่เกิดความมั่นใจว่า ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่จะหมดไป
เพราะตัวการที่สนับสนุนแกนนำคนเสื้อแดง คนที่อยู่เบื้องหลังบงการให้แผ่นดินลุกเป็นไฟ คนที่สั่งการสร้างความวุ่นวายตัวจริงยังไม่ถูกกำจัด
นักการเมืองในหลายพื้นที่มีฐานะเป็นเจ้าพ่อ เป็น “บ้านใหญ่” ในแต่ละจังหวัด จนประชาชนต้องหดหัว เลือกตั้งเมื่อไหร่ ก็ยกเข้ามากันแทบทั้งตระกูล ผูกขาดชัยชนะมานับสิบปี ข้าราชการระดับผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องทำตัวเป็นขี้ข้ารับใช้ นายตำรวจใหญ่ยังต้องยอมก้มหัว
รัฐบาลพรรคเพื่อไทยและนักการเมืองที่เป็นเจ้าพ่อในหลายจังหวัด เป็นผู้สนับสนุนแกนนำคนเสื้อแดง โดยมีข้าราชการและตำรวจร่วมมืออำนวยความสะดวก จนคนเสื้อแดงเป็นกลุ่มกวนเมืองเหนือกฎหมายที่สร้างความวุ่นวายให้สังคมอยู่หลายปี
คสช.สามารถสยบแกนนำคนเสื้อแดง จนกลายเป็นแมวเชื่องๆ ไปแล้ว แต่ คสช.ทำอะไรกับนักการเมืองที่อยู่เบื้องหลังบงการคนเสื้อแดงบ้าง ข้าราชการและตำรวจที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ให้การช่วยเหลือคนเสื้อแดงได้รับโทษกันหรือยัง
ผู้ว่าราชการจังหวัดในหลายจังหวัด ซึ่งให้การสนับสนุนคนเสื้อแดงออกนอกหน้า ปัจจุบันก็ยังไม่ถูกย้ายออกจากพื้นที่ เอาจังหวัดใกล้ๆ อย่างปทุมธานีก็ได้
การเรียกร้องให้ลืมอดีตนั้น ทุกคนก็อยากจะลืม แม้จะเป็นอดีตที่ขมขื่น เพราะถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรมมานานนับสิบปีก็ตาม
แต่การก้าวข้ามอดีต จะนำไปสู่สังคมที่สงบสุขอย่างยั่งยืนได้จริงหรือ เมื่อต้นตอที่ก่อปัญหายังไม่ได้รับการสะสาง
เจ้าพ่อ ผู้กว้างขวาง นักการเมืองเลวๆ ข้าราชการตัวร้ายๆ ตำรวจที่ไม่สำนึกต่อหน้าที่ซึ่งร่วมกันก่อวิบัติในสังคม ถ้ายังไม่ถูกชำระความผิด ถ้ายังไม่ถูกลงโทษให้เป็นเยี่ยงอย่าง ความสงบสุขจะไม่มีวันยั่งยืน
เพราะเมื่อมีโอกาส นักการเมืองเลวๆ ข้าราชการตัวร้ายๆ พร้อมกลับเข้ามาสร้างพฤติกรรมเดิมๆ ทำลายความสงบสุข ทำให้สังคมวุ่นวายไร้ขื่นแปรอีกครั้ง
ข้าราชการจำนวนไม่น้อยกำลังเกิดความรู้สึกว่า น่าจะยอมเป็นขี้ข้ารับใช้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเสียนานแล้ว เพราะได้ทั้งเงิน ได้ทั้งอำนาจ และไม่ต้องรับผิดใดๆ
เพราะวันนี้ข้าราชการเลวๆ ที่ยอมเป็นขี้ข้าพ.ต.ท.ทักษิณ ทำลายความสงบสุขของประเทศยังลอยนวลอยู่
เช่นเดียวกับประชาชนจำนวนไม่น้อยที่เริ่มรู้สึกว่า ไม่น่าจะเป็นพลเมืองดี ไม่น่าเป็นประชาชนที่มีสำนึกในความรักชาติ และออกมาต่อต้านพ.ต.ท.ทักษิณ จนถูกกระทำทุกรูปแบบ และต้องทนรับแรงกดดันจากความไม่เป็นธรรม ต้องถูกยัดเยียดข้อหา ต้องถูกคุกคามข่มขู่ ถูกลอบทำร้าย ถูกปราบปรามด้วยความรุนแรง ต้องบาดเจ็บและเซ่นสังเวยด้วยชีวิต
ประชาชนที่ถูกรัฐบาลพรรคเพื่อไทยกดขี่ข่มเหงจนถึงขั้นเข่นฆ่า ยังไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องขอความเป็นธรรม ยังไม่ได้ออกมากดดันให้รื้อฟื้นคดีต่างๆที่ประชาชนถูกกระทำ
คสช.จะรอให้คนดีที่รักชาติ มีความเสียสละ และต้องการการเยียวยาด้านจิตใจออกมาเรียกร้องหรือ
กว่า 13 ปีที่พ.ต.ท.ทักษิณมีอำนาจ คนดีถูกทำลาย คนชั่วได้เป็นใหญ่เป็นโต เมื่อ คสช.เข้ามายึดอำนาจ ประชาชนที่ใฝ่ดี ได้คาดหวังว่า จะได้รับการเชิดชูวีรกรรมการต่อสู้กับรัฐบาลชั่ว การต่อต้านนักการเมืองเลว และมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ชาติไม่ล่มสลาย
แต่คาดหวังอย่างเปี่ยมล้นว่า คสช.จะไม่ปล่อยให้คนชั่วลอยนวล นักการเมือง ตำรวจ และข้าราชการที่เป็นขี้ข้าพ.ต.ท.ทักษิณจะต้องถูกกวาดล้าง
คืนความสุขให้สังคมแล้ว ขอกันอีกหน่อย คืนความป็นธรรมให้ประชาชนด้วย
คสช.สามารถคืนความสุขสู่สังคมได้ในระดับที่ดี สถานการณ์บ้านเมืองสงบเรียบร้อยขึ้นมาก เมื่อเทียบกับช่วงที่รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังรักษาการอยู่
แต่การสร้างความปรองดอง เพื่อความสมานฉันท์อย่างยั่งยืนนั้น ยังมีคำถาม เพราะต้นตอของความขัดแย้งแตกแยกยังไม่ได้รับการแก้ไขให้ถูกจุด โดยประชาชนที่ถูกกระทำจากรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ยังไม่ได้รับคืนความเป็นธรรม
ความปรองดองสมานฉันท์จะเกิดขึ้นอย่างยั่งยืนได้จริงหรือ เมื่อต้นเหตุแห่งความขัดแย้งแตกแยกของสังคมยังไม่ถูกแก้ไข และประชาชนที่ต้องบาดเจ็บล้มตายยังไม่ได้การชดใช้
การนำคนเสื้อแดงในแต่ละพื้นที่จับมือกับแกนนำประชาชนที่ออกมาต่อต้านรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ การจัดคนเสื้อต่างสีมาร่วมกิจกรรมสังสรรค์รับประทานอาหารและร้องเพลงร่วมกันอาจสร้างภาพที่ดี แต่ไม่ใช่ข้อยุติในการเยียวยาปัญหาความแตกแยกที่ดำเนินมานับสิบปีแน่
แม้แกนนำคนเสื้อแดงในจังหวัดภาคเหนือจะยอมเข้าร่วมแผนสร้างความปรองดองอย่างไม่มีเงื่อนไข แม้นายขวัญชัย ไพรพนา หัวโจกใหญ่คนเสื้อแดงจังหวัดอุดรฯ จะยอมสยบราบคาบ และแม้แต่นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำเสื้อแดงตัวเอ้ จังหวัดปทุมธานีจะหนีคดีหัวซุกหัวซุนไปแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่า ในแต่ละพื้นที่จะสงบสุข
แกนนำคนเสื้อแดงแต่ละพื้นที่ เป็นเพียง “ตัวเบี้ย” ที่ถูกเชิดขึ้นมาเท่านั้น
แกนนำคนเสื้อแดงในทุกจังหวัด แม้แต่นายขวัญชัยหรือโกตี๋ ถ้าไม่มีนักการเมืองหนุนหลัง ไม่มีท่อน้ำเลี้ยง ไม่มีตำรวจให้ท้าย อย่างมากก็เป็นได้แค่อันธพาลข้างถนน
ช่วงรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ แกนนำคนเสื้อแดงกลับใหญ่คับบ้านคับเมือง สามารถย้ายนายตำรวจใหญ่ได้ มีกองกำลังติดอาวุธคุกคามข่มขู่และทำร้ายประชาชน สามารถระดมมวลชนปิดล้อมกดดันองค์กรอิสระและสื่อมวลชน และเหิมเกริมถึงขั้นประกาศสงครามการเมือง
การจับแกนนำคนเสื้อแดงเข้าค่ายอบรมบ่มเพาะนิสัย การสลายพฤติกรรมและจัดกิจกรรมร่วมสร้างความปรองดอง หรือแม้แต่การไล่ล่าตัวมาลงโทษจนไม่เหลือซาก ไม่ได้ช่วยให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่เกิดความมั่นใจว่า ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่จะหมดไป
เพราะตัวการที่สนับสนุนแกนนำคนเสื้อแดง คนที่อยู่เบื้องหลังบงการให้แผ่นดินลุกเป็นไฟ คนที่สั่งการสร้างความวุ่นวายตัวจริงยังไม่ถูกกำจัด
นักการเมืองในหลายพื้นที่มีฐานะเป็นเจ้าพ่อ เป็น “บ้านใหญ่” ในแต่ละจังหวัด จนประชาชนต้องหดหัว เลือกตั้งเมื่อไหร่ ก็ยกเข้ามากันแทบทั้งตระกูล ผูกขาดชัยชนะมานับสิบปี ข้าราชการระดับผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องทำตัวเป็นขี้ข้ารับใช้ นายตำรวจใหญ่ยังต้องยอมก้มหัว
รัฐบาลพรรคเพื่อไทยและนักการเมืองที่เป็นเจ้าพ่อในหลายจังหวัด เป็นผู้สนับสนุนแกนนำคนเสื้อแดง โดยมีข้าราชการและตำรวจร่วมมืออำนวยความสะดวก จนคนเสื้อแดงเป็นกลุ่มกวนเมืองเหนือกฎหมายที่สร้างความวุ่นวายให้สังคมอยู่หลายปี
คสช.สามารถสยบแกนนำคนเสื้อแดง จนกลายเป็นแมวเชื่องๆ ไปแล้ว แต่ คสช.ทำอะไรกับนักการเมืองที่อยู่เบื้องหลังบงการคนเสื้อแดงบ้าง ข้าราชการและตำรวจที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ให้การช่วยเหลือคนเสื้อแดงได้รับโทษกันหรือยัง
ผู้ว่าราชการจังหวัดในหลายจังหวัด ซึ่งให้การสนับสนุนคนเสื้อแดงออกนอกหน้า ปัจจุบันก็ยังไม่ถูกย้ายออกจากพื้นที่ เอาจังหวัดใกล้ๆ อย่างปทุมธานีก็ได้
การเรียกร้องให้ลืมอดีตนั้น ทุกคนก็อยากจะลืม แม้จะเป็นอดีตที่ขมขื่น เพราะถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรมมานานนับสิบปีก็ตาม
แต่การก้าวข้ามอดีต จะนำไปสู่สังคมที่สงบสุขอย่างยั่งยืนได้จริงหรือ เมื่อต้นตอที่ก่อปัญหายังไม่ได้รับการสะสาง
เจ้าพ่อ ผู้กว้างขวาง นักการเมืองเลวๆ ข้าราชการตัวร้ายๆ ตำรวจที่ไม่สำนึกต่อหน้าที่ซึ่งร่วมกันก่อวิบัติในสังคม ถ้ายังไม่ถูกชำระความผิด ถ้ายังไม่ถูกลงโทษให้เป็นเยี่ยงอย่าง ความสงบสุขจะไม่มีวันยั่งยืน
เพราะเมื่อมีโอกาส นักการเมืองเลวๆ ข้าราชการตัวร้ายๆ พร้อมกลับเข้ามาสร้างพฤติกรรมเดิมๆ ทำลายความสงบสุข ทำให้สังคมวุ่นวายไร้ขื่นแปรอีกครั้ง
ข้าราชการจำนวนไม่น้อยกำลังเกิดความรู้สึกว่า น่าจะยอมเป็นขี้ข้ารับใช้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเสียนานแล้ว เพราะได้ทั้งเงิน ได้ทั้งอำนาจ และไม่ต้องรับผิดใดๆ
เพราะวันนี้ข้าราชการเลวๆ ที่ยอมเป็นขี้ข้าพ.ต.ท.ทักษิณ ทำลายความสงบสุขของประเทศยังลอยนวลอยู่
เช่นเดียวกับประชาชนจำนวนไม่น้อยที่เริ่มรู้สึกว่า ไม่น่าจะเป็นพลเมืองดี ไม่น่าเป็นประชาชนที่มีสำนึกในความรักชาติ และออกมาต่อต้านพ.ต.ท.ทักษิณ จนถูกกระทำทุกรูปแบบ และต้องทนรับแรงกดดันจากความไม่เป็นธรรม ต้องถูกยัดเยียดข้อหา ต้องถูกคุกคามข่มขู่ ถูกลอบทำร้าย ถูกปราบปรามด้วยความรุนแรง ต้องบาดเจ็บและเซ่นสังเวยด้วยชีวิต
ประชาชนที่ถูกรัฐบาลพรรคเพื่อไทยกดขี่ข่มเหงจนถึงขั้นเข่นฆ่า ยังไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องขอความเป็นธรรม ยังไม่ได้ออกมากดดันให้รื้อฟื้นคดีต่างๆที่ประชาชนถูกกระทำ
คสช.จะรอให้คนดีที่รักชาติ มีความเสียสละ และต้องการการเยียวยาด้านจิตใจออกมาเรียกร้องหรือ
กว่า 13 ปีที่พ.ต.ท.ทักษิณมีอำนาจ คนดีถูกทำลาย คนชั่วได้เป็นใหญ่เป็นโต เมื่อ คสช.เข้ามายึดอำนาจ ประชาชนที่ใฝ่ดี ได้คาดหวังว่า จะได้รับการเชิดชูวีรกรรมการต่อสู้กับรัฐบาลชั่ว การต่อต้านนักการเมืองเลว และมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ชาติไม่ล่มสลาย
แต่คาดหวังอย่างเปี่ยมล้นว่า คสช.จะไม่ปล่อยให้คนชั่วลอยนวล นักการเมือง ตำรวจ และข้าราชการที่เป็นขี้ข้าพ.ต.ท.ทักษิณจะต้องถูกกวาดล้าง
คืนความสุขให้สังคมแล้ว ขอกันอีกหน่อย คืนความป็นธรรมให้ประชาชนด้วย