ASTVผู้จัดการรายวัน-"หมอวรงค์" อัดทนายความยิ่งลักษณ์ ป้องลูกความจนเบลอ ย้ำ"วิชา"ระบุขบวนการโกง ขนเงิน 7 แสนล้านออกนอกประเทศ จากกรณีทีทูจีเก๊ ด้าน "พาณิชย์" ปลื้ม ราคาข้าวขยับขึ้นใกล้เคียงเป้าหมาย เตรียมเสนอ นบข. เพิ่มมาตรการพยุงราคาอีก
น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงกรณีที่ทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาตำหนินายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ระบุว่าโครงการรับจำนำข้าวเป็นสุดยอดความชั่วร้ายและมีการจ่ายเงิน 7 แสนล้านบาท เข้ากระเป๋าพรรคพวก โดยเงินส่วนใหญ่ ถูกขนถ่ายออกนอกประเทศไปแล้ว ว่า ทนายความคงเบลอ และสับสนจนงงไปหมด ที่ออกมาตอบโต้นายวิชาว่าเป็นการพูดนอกสำนวน ชี้นำสังคม จนทำให้ลูกความได้รับความเสียหาย
"สงสัยทนายความคุณยิ่งลักษณ์ คงปกป้องลูกความจนไม่ติดตามข้อเท็จจริง ทำให้เบลอและสับสนไปหมด เพราะผมได้ติดตามเรื่องนี้มาตลอด พบว่า คดีรับจำนำข้าว ไม่ได้มีแต่คดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ และป.ป.ช. ไม่ได้กล่าวหาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทุจริต เพียงแต่ปล่อยปละละเลย สร้างความเสียหาย แต่ไม่ระงับยับยั้ง ดังนั้น สิ่งที่นายวิชากล่าวถึง จึงเป็นคนละคดีกัน"
ทั้งนี้ คดีทุจริตที่มีการระบุว่ามีเงินเข้ากระเป๋า และขนถ่ายเงินออกนอกประเทศนั้น คงหมายถึงคดีระบายข้าวจีทูจีเท็จ เพราะมีคนเกี่ยวข้องมากถึง111 คน ซึ่ง ป.ป.ช. ยังไม่ได้ชี้มูล จึงเป็นหน้าที่ ป.ป.ช. ที่จะต้องแจ้งความคืบหน้า และความเสียหายให้ประชาชนทราบเป็นระยะๆ
ก่อนหน้านี้ ป..ป.ช. ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านการทุจริต และโครงการ "ดู Cheat don’t cheat เป็นวัยรุ่นต้องกล้าโชว์ ใจฮีโร่ต่อต้านโกง" โดยนายวิชากล่าวตอนหนึ่งว่า มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ชาวนาเอาข้าวมาจำนำ แต่ไม่รับคืน จนข้าวล้นโกดัง ทำให้เงินรัฐที่จ่ายไป 7 แสนล้านบาทหายไปเข้ากระเป๋าพรรคพวก เป็นการโกงที่ยิ่งใหญ่ เพราะเป็นขบวนการ และเงินที่ได้จากการโกงถูกขนออกไปนอกประเทศแล้ว ซึ่งป.ป.ช. จะร่วมมือกับ ป.ป.ช.ทั่วโลก ที่มีการลงนามเอ็มโอยู เพื่อติดตามดูว่าคนของเราไปประเทศเขาแล้วเอาเงินฝากไว้ในธนาคารใดบ้าง
หลังจากนั้น ทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ออกมาระบุว่านายวิชาพูดนอกสำนวน ชี้นำสังคม ทำให้ลูกความได้รับความเสียหาย ซึ่งในทางที่ถูกต้อง หากมีหลักฐานมีใครโกง ก็ควรส่งหลักฐานให้คณะทำงานร่วมระหว่างอัยการสูงสุดกับ ป.ป.ช. ดีกว่าออกมาพูดนอกสำนวน
วันเดียวกันนี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ประชุมมอบนโยบายให้กับพาณิชย์จังหวัดและค้าภายในจังหวัด โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ขณะนี้ราคาข้าวเปลือกบางชนิดราคาสูงกว่าเป้าหมาย และบางชนิดใกล้เคียงราคาเป้าหมาย เช่น ข้าวเปลือกเจ้า ขณะนี้ตันละ 8,200-8,600 บาท จากราคาเป้าหมายที่ตันละ 8,500 บาท ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิใกล้เคียงเป้าหมายที่ตันละ 15,000-16,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดข้าว (นบข.) วันที่ 24 ต.ค.นี้ จะมีการเสนอมาตรการเสริมอื่นๆ ในการพยุงราคาข้าวเปลือกในประเทศให้ไม่ต่ำกว่าราคาเป้าหมาย โดยจะเสนอขยายมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและพยุงราคาข้าว โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ขยายการให้สินเชื่อแก่เกษตรกร ในอัตราดอกเบี้ย 0% เป็นระยะเวลา 4 เดือน โดยให้สินเชื่อเพิ่มขึ้นเป็น 90% จากเดิม 80% ของข้าวที่เก็บไว้ในยุ้งฉาง
สำหรับการประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลครั้งที่ 3/2557 ปริมาณ 2 แสนตันที่กำหนดให้ยื่นซองประมูลในวันที่ 28 ต.ค.2557 นั้น น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้ชี้แจงหลักเกณฑ์การยื่นซองประมูลให้กับผู้ที่สนใจ ทั้งผู้ส่งออก โรงสี และผู้ประกอบการค้าข้าว โดยยืนยันว่า ข้าวที่นำมาเปิดระบายรอบนี้ มีเพียงข้าวขาว 5% และปลายข้าวขาวเอวัณเลิศ ซึ่งจะไม่กระทบต่อราคาข้าวเปลือกในตลาด
น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงกรณีที่ทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาตำหนินายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ระบุว่าโครงการรับจำนำข้าวเป็นสุดยอดความชั่วร้ายและมีการจ่ายเงิน 7 แสนล้านบาท เข้ากระเป๋าพรรคพวก โดยเงินส่วนใหญ่ ถูกขนถ่ายออกนอกประเทศไปแล้ว ว่า ทนายความคงเบลอ และสับสนจนงงไปหมด ที่ออกมาตอบโต้นายวิชาว่าเป็นการพูดนอกสำนวน ชี้นำสังคม จนทำให้ลูกความได้รับความเสียหาย
"สงสัยทนายความคุณยิ่งลักษณ์ คงปกป้องลูกความจนไม่ติดตามข้อเท็จจริง ทำให้เบลอและสับสนไปหมด เพราะผมได้ติดตามเรื่องนี้มาตลอด พบว่า คดีรับจำนำข้าว ไม่ได้มีแต่คดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ และป.ป.ช. ไม่ได้กล่าวหาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทุจริต เพียงแต่ปล่อยปละละเลย สร้างความเสียหาย แต่ไม่ระงับยับยั้ง ดังนั้น สิ่งที่นายวิชากล่าวถึง จึงเป็นคนละคดีกัน"
ทั้งนี้ คดีทุจริตที่มีการระบุว่ามีเงินเข้ากระเป๋า และขนถ่ายเงินออกนอกประเทศนั้น คงหมายถึงคดีระบายข้าวจีทูจีเท็จ เพราะมีคนเกี่ยวข้องมากถึง111 คน ซึ่ง ป.ป.ช. ยังไม่ได้ชี้มูล จึงเป็นหน้าที่ ป.ป.ช. ที่จะต้องแจ้งความคืบหน้า และความเสียหายให้ประชาชนทราบเป็นระยะๆ
ก่อนหน้านี้ ป..ป.ช. ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านการทุจริต และโครงการ "ดู Cheat don’t cheat เป็นวัยรุ่นต้องกล้าโชว์ ใจฮีโร่ต่อต้านโกง" โดยนายวิชากล่าวตอนหนึ่งว่า มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ชาวนาเอาข้าวมาจำนำ แต่ไม่รับคืน จนข้าวล้นโกดัง ทำให้เงินรัฐที่จ่ายไป 7 แสนล้านบาทหายไปเข้ากระเป๋าพรรคพวก เป็นการโกงที่ยิ่งใหญ่ เพราะเป็นขบวนการ และเงินที่ได้จากการโกงถูกขนออกไปนอกประเทศแล้ว ซึ่งป.ป.ช. จะร่วมมือกับ ป.ป.ช.ทั่วโลก ที่มีการลงนามเอ็มโอยู เพื่อติดตามดูว่าคนของเราไปประเทศเขาแล้วเอาเงินฝากไว้ในธนาคารใดบ้าง
หลังจากนั้น ทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ออกมาระบุว่านายวิชาพูดนอกสำนวน ชี้นำสังคม ทำให้ลูกความได้รับความเสียหาย ซึ่งในทางที่ถูกต้อง หากมีหลักฐานมีใครโกง ก็ควรส่งหลักฐานให้คณะทำงานร่วมระหว่างอัยการสูงสุดกับ ป.ป.ช. ดีกว่าออกมาพูดนอกสำนวน
วันเดียวกันนี้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ประชุมมอบนโยบายให้กับพาณิชย์จังหวัดและค้าภายในจังหวัด โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ขณะนี้ราคาข้าวเปลือกบางชนิดราคาสูงกว่าเป้าหมาย และบางชนิดใกล้เคียงราคาเป้าหมาย เช่น ข้าวเปลือกเจ้า ขณะนี้ตันละ 8,200-8,600 บาท จากราคาเป้าหมายที่ตันละ 8,500 บาท ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิใกล้เคียงเป้าหมายที่ตันละ 15,000-16,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดข้าว (นบข.) วันที่ 24 ต.ค.นี้ จะมีการเสนอมาตรการเสริมอื่นๆ ในการพยุงราคาข้าวเปลือกในประเทศให้ไม่ต่ำกว่าราคาเป้าหมาย โดยจะเสนอขยายมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและพยุงราคาข้าว โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ขยายการให้สินเชื่อแก่เกษตรกร ในอัตราดอกเบี้ย 0% เป็นระยะเวลา 4 เดือน โดยให้สินเชื่อเพิ่มขึ้นเป็น 90% จากเดิม 80% ของข้าวที่เก็บไว้ในยุ้งฉาง
สำหรับการประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลครั้งที่ 3/2557 ปริมาณ 2 แสนตันที่กำหนดให้ยื่นซองประมูลในวันที่ 28 ต.ค.2557 นั้น น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้ชี้แจงหลักเกณฑ์การยื่นซองประมูลให้กับผู้ที่สนใจ ทั้งผู้ส่งออก โรงสี และผู้ประกอบการค้าข้าว โดยยืนยันว่า ข้าวที่นำมาเปิดระบายรอบนี้ มีเพียงข้าวขาว 5% และปลายข้าวขาวเอวัณเลิศ ซึ่งจะไม่กระทบต่อราคาข้าวเปลือกในตลาด