xs
xsm
sm
md
lg

‘สมหมาย’รับ กระทรวงคลังโกงรายวัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รัฐมนตรีคลังเปรียบคอร์รัปชันในไทยเหมือนโรคเบาหวานขั้นร้ายแรงไม่ตายแต่ทรมาน สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและประชาชน ยอมรับกระทรวงคลังมีทุจริตเกิดขึ้นรายวัน โดยเฉพาะกรมภาษี เตรียมเปิดฮอตไลน์รับร้องเรียน อนาคตจะต้องวางระบบคัดเลือกบริษัทที่ได้งานรัฐ อย่างน้อยต้องได้ตราประทับปลอดทุจริตโกง พร้อมหนุนให้เอกชนเป็นแนวร่วม CAC ต้านคอร์รัปชัน กรมบัญชีกลางเด้งรับ เปิดระบบ e-Market และ e-Bidding เริ่ม 1 พ.ย.

แนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (CAC) จัดงานสัมมนาประจำปีในหัวข้อ "บทบาทความร่วมมือภาครัฐ-เอกชนในการต่อสู้คอร์รัปชัน" โดยมีผู้บริหารภาครัฐและเอกชนแสดงปาฐกถาและร่วมเสวนา ที่โรงแรมพลาซ่าแอทธินี โดยนายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลชุดนี้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก และหยิบยกไว้เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของแนวนโยบายรัฐบาลที่แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้รัฐมนตรีทุกกระทรวงต้องรับไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติด้วยการทำเป็น Action Plan เพื่อวางแนวทางและมาตรการในการป้องกันและปราบปราม

"ปัญหาคอร์รัปชั่นในประเทศไทยไม่ถือว่าเป็นมะเร็งร้าย เพราะยังไม่ตาย แต่เปรียบเหมือนเป็นโรคเบาหวานขั้นร้ายแรงที่สร้างความทรมาน และก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากต่อเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้การดำเนินโครงการต่างๆ เป็นไปด้วยความล่าช้า และสร้างผลกระทบมาถึงประชาชน" นายสมหมายกล่าวและเสนอแนวทาง 2 ประการ เพื่อช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว คือ 1.จะต้องมีการปรับปรุงกระบวนการ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเรื่องทุจริต จะต้องมีการยกเครื่องใหม่ เพราะมองว่าองค์กรจะเป็นตัวสำคัญในการร่วมมือกับภาคเอกชน เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในเรื่องนี้ได้ และ 2.จะต้องมีการปรับปรุงระเบียบ และกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างธรรมาภิบาล เพื่อปิดโอกาสไม่ให้นักการเมืองเข้ามาใช้อำนาจในทางที่มิชอบ

ในเรื่องการตรวจสอบและกำกับดูแลหน่วยงานรัฐวิสาหกิจโดยอำนาจของซุปเปอร์บอร์ดที่เพิ่งตั้งขึ้นมาโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นั้น ในอนาคตควรจะต้องมีการออกกฎหมายมากำกับดูแล เพื่อรองรับอำนาจของซุปเปอร์บอร์ดให้มีความยั่งยืน ไม่ใช่พอเปลี่ยนรัฐบาลใหม่แล้วก็จะถูกยกเลิกไป โดยคาดว่าภายในเวลา 1 ปีน่าจะมีการยกร่างกฎหมายดังกล่าวได้ทัน

นายสมหมายยอมรับว่า ภายกระทรวงการคลังเองก็มีเรื่องทุจริตเกิดขึ้นเป็นรายวัน โดยเฉพาะในกรมที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษี ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังมีแผนที่จะเปิดโทรศัพท์สายด่วน (Hotline) เพื่อเปิดรับการร้องเรียนในเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการหารือของระดับนโยบาย

"ในกระทรวงการคลังมีหนังสือร้องเรียนต่างๆ เข้ามา แล้วถ้าเปิด Hotline คงจะมาเยอะมาก คงจะเปิดแน่นอน ตอนนี้ให้เวลาอีกเดือนกว่าๆ คงต้องพยายามเต็มที่ ตอนนี้ผมเน้นไปยังอธิบดี เพราะเรื่องนี้ระดับปลัด ระดับรัฐมนตรีคงไม่รู้ลึกๆ แต่อธิบดีเขารู้ ผมจะสนับสนุนเรื่องการแก้ระบบเพื่อป้องกันการคอร์รัปชั่น แต่ภาคปฏิบัติคงต้องมอบให้ระดับอธิบดีเรื่องนี้ถ้านายกรัฐมนตรีซีเรียส พวกเขาจะไม่ซีเรียสไม่ได้" รมว.คลัง กล่าว

นายสมหมายยังเชิญชวนให้บริษัทเอกชนในประเทศไทยที่มีธรรมาภิบาลที่ดีเข้ามาเป็นแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (Collective Action Coalition Against Corruption) หรือ CAC ให้มากขึ้น โดยปัจจุบันมีบริษัทเอกชนของไทยที่ผ่านการรับรองจาก CAC แล้ว 78 บริษัท และมีนโยบายและแนวปฏิบัติป้องกันการทุจริตภายในองค์กรครบถ้วนตามเกณฑ์ที่ CAC กำหนดจำนวน 31 บริษัท ซึ่งถือว่าน่าชื่นชมที่บริษัทในประเทศไทยได้นำนโยบายต่อต้านการโกงไปปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม

ในอนาคตอาจจะมีการพิจารณาเพิ่มเติมเงื่อนไขสำหรับบริษัทเอกชนที่จะเข้าประมูลโครงการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐว่าถ้าเป็นบริษัทที่ผ่านการกลั่นกรองเรื่องการต่อต้านทุจริตมาแล้ว ก็จะช่วยทำให้มีโอกาสที่จะได้รับการพิจารณาให้เข้าร่วมประมูลงานมากขึ้น ในฐานะภาครัฐจะพยายามสนับสนุน โดยระยะยาว รัฐบาลนอกจากสนับสนุนแล้วยังอาจจะมีการวางเงื่อนไขสำหรับการเข้าประมูลโครงการของภาครัฐว่า ถ้าบริษัทเหล่านี้จะมาประมูลงานของรัฐ ต้องดูข้อมูลให้ลึก ถ้าเป็นบริษัทที่ผ่านการกลั่นกรองเรื่องต่อต้านทุจริตมาแล้ว การจะผ่านเข้าไปประมูลงานก็จะทำได้ง่ายขึ้น

สำหรับ CAC เป็นโครงการที่บริษัทเอกชนเข้าร่วมตามความสมัครใจ โดยล่าสุด ณ สิ้นไตรมาส 3/57 มีบริษัทเอกชนที่ร่วมประกาศเจตนารมย์แล้ว 362 บริษัท เป็นบริษัทจดทะเบียน 179 บริษัท โดยมีบริษัทรายใหญ่ระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยร่วมอยู่ด้วย

***กรมบัญชีกลางเด้งรับลดโกง

นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรม/ชี้แจงการปฏิบัติงานระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วยวิธีการทางอิเล็กทอรกนิกส์ระยะที่ 3 ว่า กรมบัญชีกลางจึงได้เชิญเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของส่วนราชการและผู้ค้าภาครัฐในส่วนกลางจำนวน 400 คน เข้ารับฟังการชี้แจงเพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการจัดซื้อจัดจ้างรูปแบบใหม่ ที่เรียกว่า ระบบ e-Market และระบบ e-Bidding โดยเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างครบวงจร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดซื้อจัดจ้าง และมีเป้าหมายเพิ่มความโปร่งใส สะดวกต่อการตรวจสอบ ลดปัญหาทุจริต ลดความผิดพลาดในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ กระตุ้นให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม และลดปัญหาการฮั้วได้ในระดับหนึ่ง เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงการคลังและ คสช.

ทั้งสองระบบดังกล่าวจะเน้นให้หน่วยงานภาครัฐสามารถจัดหาพัสดุให้สอดคล้องกับรูปแบบประเภทสินค้า เงินงบประมาณที่ได้รับ และระยะเวลาที่จัดหาเพื่อให้เกิดความคุ้มค่า ในราคาที่เหมาะสมและทันเวลาที่ต้องการใช้งาน ส่วนผู้ค้าภาครัฐจะสามารถจัดซื้อจัดจ้างได้สะดวกและเท่าเทียมกัน และเป็นการพัฒนาสินค้าและบริการให้มีความเป็นมาตรฐานรวมทั้งสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้ภาคธุรกิจของประเทศไทย

“คาดว่าจะเริ่มการใช้งานในระบบนี้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2557 เป็นต้นไป โดยจะใช้กับหน่วยงานนำร่องในสังกัดกระทรวงการคลัง 9 แห่ง ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กรมธนารักษ์ กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต กรมสรรพากร กรมบัญชีกลาง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ และโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลราชวิถี และสถาบันโรคทรวงอก โดยจะใช้กับสินค้านำร่องซึ่งเป็นวัสดุสำนักงาน 5 ประเภท ได้แก่ กระดาษถ่ายเอกสาร ผงหมึก/ตลับหมึก แฟ้มเอกสาร เทปกาว ซองเอกสาร และยารักษาโรค 2 ชนิด ได้แก่ ยารักษาโรคอัลไซเมอร์และยารักษาโรคเบาหวาน" นายมนัสกล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น