xs
xsm
sm
md
lg

จำนำข้าวเจ๊ง7แสนล้าน ประจาน‘ปู’ทั่วโลก แก๊งแดงจัดม็อบต้าน‘บิ๊กตู่’

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"ประยุทธ์" จ้อที่อิตาลี ชีวิตในวันนี้เต็มไปด้วยอันตราย ครอบครัวไม่มีความสุข อยากลาออกทุกวัน แต่จำเป็นต้องเข้ามาคืนความสุขให้ประชาชน เพราะปล่อยให้รัฐบาล "ปู" ทำงานต่อไปไม่ได้แล้ว จวกยับโครงการจำนำข้าวพาชาติดิ่งเหว ขาดทุนบักโกรก 7 แสนล้าน ขืนปล่อยไว้ ไทยล้มละลายแน่ ด้านนายกฯญี่ปุ่น ยกย่องความเป็นผู้นำของ"ประยุทธ์" พร้อมเสนอขายรถไฟความเร็วสูง ขณะที่จีนสนใจโครงการรถไฟความเร็วสูงเช่นกัน ย้ำสัมพันธ์ 2 ประเทศไม่เปลี่ยน แก๊งแดงนำม็อบต้านประยุทธ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 19.00 น. วันที่ 15 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง นายสุรพิทย์ กีรติบุตร เอกอัคราชทูตไทย ณ กรุงโรม เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำแก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ โดยมีพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ เอกอัครราชทูตไทยในยุโรป ทีมประเทศไทยในสาธารณรัฐอิตาลี และนักธุรกิจไทยที่มาร่วมประชุมสภาธุรกิจเอเชีย-ยุโรป เข้าร่วม โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวตอนหนึ่ง ในงานเลี้ยงอาหารค่ำกรณีที่มีคนไทยในอิตาลีมาให้กำลังใจว่า รู้สึกชื่นใจ หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจะมีคนมาต่อต้าน ถือเป็นเรื่องดี ที่กระทรวงการต่างประเทศทำความเข้าใจได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอขอบคุณหลายภาคส่วน ที่ร่วมทำงานเดินหน้าประเทศไทย โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศ ที่ต้องทำหน้าที่ชี้แจงให้นานาประเทศเข้าใจสถานการณ์ในประเทศ การสร้างความเชื่อมั่น และความไว้วางใจ จะต้องกำหนดวิสัยทัศน์ให้ชัดเจน และขอให้ทุกคนร่วมกันทำงาน ใช้ความเป็นคนไทยแสดงให้เห็นว่าเราจริงใจ

"เมื่อเดินมาถึงวันนี้แล้ว ต้องสู้ เดินหน้าต่อไป เพราะถ้าไม่สำเร็จ ก็ไม่รู้จะอยู่ยังไง ชีวิตผมก็อันตรายเหมือนกัน ครอบครัวก็ไม่มีความสุข วันนี้ถามว่า ลูกเมียไปไหนได้บ้าง ไม่ได้กลัว แต่ก็ต้องระวัง ตั้งแต่เข้ามาผมไม่เคยกล่าวโทษ ให้ร้ายใคร แต่ถ้ามาพาดพิงมาก ก็อดไม่ได้ เพราะรักเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ผมอาจพูดจาไม่ไพเราะมากนัก ก็เป็นธรรมดาที่มีคนรัก และไม่รัก แต่ผมเชื่อว่าคนในประเทศไทยเข้าใจ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การเข้ามาเป็นรัฐบาลเพื่อขับเคลื่อนประเทศ ที่หยุดชะงักให้เดินหน้า จากการปลดล็อก ถ้าไม่ทำอะไร ประเทศถอยหลัง ติดขัด จากการก้าวเข้ามาเป็นคสช. ช่วงแรกก็หนักใจ แต่เมื่อเข้ามาแล้วก็ต้องทำงาน ใครก็ต้องการทำอะไรให้ประเทศทั้งนั้น แต่ที่ผ่านมา ติดกับดักคำว่า ประชาธิปไตย

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในด้านต่างๆ ขณะนี้ว่า ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหลายคณะ เพื่อเข้าไปศึกษา และต้องมีผลงานให้เห็น ที่สำคัญต้องลดความเหลื่อมล้ำของคนในสังคม โดยเฉพาะเรื่องที่ดินทำกิน ตลอด 5 เดือนที่ผ่านมาได้เร่งแก้ปัญหาเต็มที่ ซึ่งหลายประเทศเข้าใจ และยังคงเข้ามาสานต่อด้านการค้าการลงทุน ทำให้รู้สึกสบายใจ ดังนั้น จึงต้องไปส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ๆ และส่งเสริมการค้าการลงทุน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะกรรมการร่วมรัฐและเอกชน (กรอ.)ต้องร่วมมือกัน เอสเอ็มอี ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ต้องเกิดขึ้น และเชื่อมโยงกัน และต้องส่งเสริมการจ้างงานไทย ใช้ของไทย รัฐบาลพร้อมให้ความช่วยเหลือภาคเอกชน ขณะเดียวกัน ต้องเชื่อมโยงกับประเทศต่างๆ พร้อมวางยุทธศาสตร์การทำงานให้ครอบคลุมทุกด้าน

"รัฐบาลจะเตรียมงบประมาณรองรับการดำเนินการ โดยรัฐบาลเดินหน้าด้วยแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง และจะไม่ปล่อยให้มีการทุจริตคอร์รัปชันเกิดขึ้น และพร้อมให้โอกาสทุกฝ่ายในการต่อสู้คดี" นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงปัญหาด้านความมั่นคงว่า ยังจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษควบคุมสถานการณ์ ลดความขัดแย้ง และเดินหน้าสู่การปฏิรูปประเทศให้สัมฤทธิ์ผลใน 1 ปี หากไม่จบ รัฐบาลใหม่ต้องรับไปดำเนินการ พร้อมย้ำว่าไม่ต้องการอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เกินกว่ากรอบเวลาที่วางไว้

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการเข้าสู่อำนาจว่า ไม่ได้ยึดอำนาจรัฐบาล แต่สถานการณ์สุกงอม รัฐบาลชั่วคราวทำงานไม่ได้แล้ว ทหารมีมีหน้าที่ดูแลแผ่นดิน รักษาสถาบันชาติ พระมหากษัตริย์ ถ้าสิ่งเหล่านี้ไม่ถูกละเมิด ทหารก็อยู่เฉยๆ ที่ผ่านมาได้พูดกับนายกรัฐมนตรีหลายครั้ง เตือนทุกเรื่อง แต่ด้วยวิถีทางการเมือง ก็ช่วยไม่ได้ และว่าสิ่งที่ทำวันนี้ ทำเพื่อไม่ให้เกิดการปฏิวัติอีกในอนาคต ต้องเอาประเทศชาติเดินหน้าไปให้ได้

"ผมพร้อมจะลาออก อยากจะลาออกทุกวัน แต่เห็นประชาชนเดือดร้อน ทนไม่ได้ และไม่ได้อยากอยู่เกินแม้แต่วันเดียว ทุกวันนี้ ผมสู้รบทุกวัน ในบ้านกลับมาก็ทะเลาะกับเมีย เมียถามว่า ทำไมอันนี้ไม่ทำ ผมบอกทำแล้ว บางเรื่องทำไม่ไหว ก็หงุดหงิด สรุปว่าผมไม่มีความสุข ทุกคนไม่มีความสุข ผมจึงต้องคืนความสุขให้ประชาชน และได้รับความทุกข์ไง" พล.อ.ประะยุทธ กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง การเข้าร่วมประชุมผู้นำอาเซมว่า จะใช้เวทีอาเซม สะท้อนแนวคิดการรวมกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อให้ตลาดยุโรปเห็นคุณค่า เพราะสินค้าการเกษตร โดยเฉพาะข้าว เป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญ ประชาคมโลกจะมีศักยภาพเพียงพอในการดูแลทรัพยากรมนุษย์ในอนาคตหรือไม่ จึงต้องเตรียมแหล่งอาหารโลกให้เพียงพอ ซึ่งประเทศอาเซียน จะสามารถทำเรื่องเหล่านี้ได้

ขณะเดียวกัน ก็ต้องเตรียมขายสินค้า เช่น ข้าว ปาล์มน้ำมัน ให้ได้มาก โดยเริ่มต้นด้วยการรวมตัวในกลุ่มประเทศอาเซียนก่อน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เช่น ช่วยกันวิจัยข้าว เพิ่มมูลค่า ขายของให้มีราคา เช่น ขายข้าวสำหรับคนเป็นเบาหวาน และข้าวที่รับประทานแล้วทำให้อ่อนวัย

" ข้าวในโครงการรับจำนำข้าว ไม่สามารถขายได้ เนื่องจากจะขาดทุน เพราะถ้าขายข้าว 20 ล้านตัน จะขาดทุน 4 -7 แสนล้านบาท หากปล่อยไปอีก 3 ปี อาจทำให้ประเทศล้มละลายได้ แต่รัฐบาลก็ไม่สามารถเลิกโครงการนี้ จึงต้องช่วยเหลือต่อไป " นายกรัฐมนตรี กล่าว

**นายกฯญี่ปุ่น ชม "ประยุทธ์"

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันที่ 16 ต.ค. เวลา 08.50 น. ตามเวลาท้องถิ่น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เข้าหารือทวิภาคีกับ นายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้แสดงความยินดีในโอกาสที่ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ารับตำแหน่ง และพร้อมเสริมสร้างความสัมพันธ์กับประเทศไทยในทุกระดับ ทั้งการบริหารจัดการน้ำ ที่ทราบว่าไทยให้ความสำคัญกับสภาพแสดล้อม การลงทุน และขอให้ทำอย่างโปร่งใส ต่อเนื่อง ?ทั้งนี้ยังระบุว่าชอบรับประทานอาหารไทย เช่น ต้มยำกุ้ง

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระบุและหวังว่าจะมีโอกาสให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีไทย หากเดินทางเยือนญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังกล่าว ยกย่องความพยายามในการปฏิรูปฯ ของไทย และยกย่องความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรีไทย เนื่องจากเห็นว่า การปฏิรูปเป็นเรื่องท้าทาย และขอให้ปฏิรูปและสร้างความปรองดองให้สำเร็จ และเป็นประชาธิปไตยโดยเร็ว และต้องรับฟังเสียงประชาคมโลกไปพร้อมกันด้วย

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมีความเข้าใจ และไม่มีเจตนากดดันประเทศไทย เรื่องการเมือง

** ญี่ปุ่นเสนอขายรถไฟความเร็วสูง

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ยังกล่าวยกย่องความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรีไทยอีกครั้ง ที่พยายามแก้ปัญาของประเทศได้อย่างรวดเร็ว พร้อมระบุว่า จะส่งผู้เชี่ยวชาญวิจัยและพัฒนา ผ่านช่องทางการทูต และขอให้ใช้เทคโนโลยี เรื่องรถไฟฟ้าความเร็วสูง ที่มีความปลอดภัยสูงของญี่ปุ่นมาไทย พร้อมหวังว่าจะได้รับความร่วมมือด้านความมั่นคง

ขณะที่พล.อ.ประยุทธ ได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่เปิดโอกาสให้เข้าหารือ และแสดงความยินดี โดยกล่าวว่า ที่ผ่านมา ไทย-ญี่ปุ่น มีความสัมพันธ์ยาวนานทุกระดับ เป็นเวลา 127 ปีแล้ว และมีความร่วมมือที่ดีเสมอมา และขณะนี้ไทยกำลังเดินหน้าปฏิรูปประเทศ และหวังให้ทัดเทียมญี่ปุ่น พร้อมขอเป็นส่วนหนึ่งของญี่ปุ่นที่จะเดินหน้าลงทุนในภูมิภาคอาเซียน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยของไทย โดยระบุว่า ไม่ต้องกังวลเพราะขณะนี้ไทยอยู่ในช่วงโรดแมป ระยะที่ 2 และพร้อมรับคำแนะนำจากประเทศต่างๆ ขณะเดียวกันไทยจะเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ เร่งการค้าการลงทุน พัฒนาระบบสาธารณูปโภค และที่สำคัญจะเร่งเดินหน้าเรื่องการลงทุนกับญี่ปุ่น ทั้งเรื่องของระบบราง ดาวเทียม การบริหารจัดการน้ำ พร้อมชื่นชมนักลงทุนญี่ปุ่นที่ไม่ทอดทิ้งไทยในช่วงที่ลำบาก

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะพิจารณากรณีเดินทางเยือนญี่ปุ่นในเวลาที่เหมาะสม ทั้งนี้รัฐบาลไทยพร้อมรับคำแนะนำจากญี่ปุ่นและเวทีนานาชาติ พร้อมขอให้ญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนด้านเทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนาแปรรูป สินค้าให้มีนวัตกรรม โดยนายกรัฐมนตรีของไทย บอกว่าจะรีบตั้งคณะกรรมการพิจารณาโดยเร็ว ทั้งเรื่องความร่วมมือด้านพลังงาน จะปรับปรุงกระบวนการดำเนินธุรกิจ แบบวันสต็อบเซอร์วิส เพื่อลดขั้นตอน และกำลังปรับบีโอไอให้เหมาะสมเข้ากับแต่ละประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ได้ไปหารือกับเมียนมาร์ เรื่องโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย และยินดีมากที่ญี่ปุ่นพร้อมลงทุนกับไทย และต้องการให้ญี่ปุ่น มามีบทบาทในโครงการนี้ เพราะมีความสำคัญกับอาเซียน และระบุยังพร้อมให้ร่วมมือด้านความมั่นคง และจะเร่งรัดผ่อนปรนเงื่อนไขการนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นด้วย

** จีนจะช่วยซื้อข้าว-ยางพารา

ต่อมาเวลา 11.00 น. นายกรัฐมนตรี ได้หารือทวิภาคีกับ นายหลี่ เค่อ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายกรัฐมนตรีจีน ย้ำว่า มิตรภาพความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง แม้สถานการณ์จะเปลี่ยนไป ถือเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือที่ดีต่อกัน และพร้อมจะร่วมพัฒนาความร่วมมือต่างๆ ต่อไป และขอเป็นกำลังใจให้นายกรัฐมนตรี ในการทำงาน พร้อมยืนยันว่า จีนยินดีต้อนรับนายกรัฐมนตรีของไทย หากเดินทางเยือน และพร้อมให้การสนับสนุนสินค้าทางการเกษตร ทั้งข้าว และยางพารา ขณะเดียวกัน จีนสนใจเข้ามาดำเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูง

ด้านพล.อ.ประยุทธ ขอบคุณจีนที่เข้าใจไทยว่าไทยต้องการความเข้มเข็งและเท่าเทียม และเชื่อมั่นในรัฐบาลไทย จีนถือเป็นมิตรประเทศที่ดีเสมอมาจึงต้องการพัฒนาความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศให้ดีขึ้น เน้นพัฒนาความสัมพันธ์ทุกด้าน และขอให้จีนสนับสนุนเรื่องข้าว เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ จะได้นำเงินไปลงทุนด้านอื่นๆ

นายกฯยังชี้แจงว่า รัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการเรื่องโครงการบริหารจัดการน้ำ และรถไฟความเร็วสูง พร้อมขอให้จีนอย่ากังวลว่าจะยกเลิกโครงการต่างๆ เพราะเพียงแค่ทบทวนบางโครงการ และขอบคุณที่จะช่วยสนับสนุนผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของไทย

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้หารือกับนายกรัฐมนตรีจีนว่า จะทำอย่างไรให้อาเซียนเป็นแหล่งอาหารโลกอีกด้วย

*** แนวร่วมแดงนำม็อบต้านประยุทธ์ที่อิตาลี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนัก อาทิ สำนักข่าวเอพี และเอเอฟพี เป็นต้น ได้รายงานข่าวว่า ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ อยู่ระหว่างการร่วมประชุมผู้นำกลุ่มเอเชีย-ยุโรป (อาเซม) ครั้งที่ 10 ที่นครมิลาน ประเทศอิตาลี ปรากฏว่า ได้มีชาวไทย และชาวต่างประเทศจำนวนหลายร้อยคน ซึ่งนำโดย นางจรรยา ยิ้มประเสริฐ อดีตนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิแรงงาน และเป็นแนวร่วมกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งเคยถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรียกรายงานตัว มารวมตัวชุมนุมประท้วง พล.อ.ประยุทธ์ โดยผู้ชุมนุมประกอบด้วยกลุ่มเคลื่อนไหวด้านประชาธิปไตยและประชาชนทั่วไป ซึ่งมีทั้งชาวอิตาลี และคนไทย มายืนชูป้ายและภาพข้อความประท้วง รวมทั้งมีชาวต่างประเทศชูป้ายประท้วง เพื่อเรียกร้องในกรณีของ นายฟาบิโอ โปเลงกี ช่างภาพชาวอิตาลี ที่ถูกกระสุนยิงเสียชีวิตช่วงสลายการชุมนุมเมื่อเดือน พ.ค. 2553

สำหรับนางจรรยา เป็นหนึ่งในผู้ที่ขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่เรียกรายงานตัวเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยยังคงอาศัยอยู่ในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย อีกทั้งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น