00 นับว่าน่าหนักใจสำหรับการทำงานของตำรวจทั้งในตอนนี้และในวันหน้า เพราะหากไม่มีการปรับปรุงวิธีคิด และวิธีปฏิบัติกันเสียใหม่ ต้องปรับตัวกันอย่างขนานใหญ่ เพราะถ้าไม่ทำรับรองว่า ตำรวจจะอยู่ลำบาก เลวร้ายถึงขึ้นถูกรังเกียจจากประชาชน สังเกตหรือไม่ว่า หลังจาก "โชเชียลเน็ตเวิร์ก" เข้ามามีบทบาท ทำให้การทำงานของตำรวจเริ่มมีปัญหาทันที ซึ่งรวมไปถึงข้าราชการหน่วยงานอื่นด้วย มีการเปิดโปงหลักฐาน แฉพฤติกรรมมิชอบออกมาให้เห็นมากขึ้น การแสดงความคิดเห็นของชาวบ้านตามโลกโซเชียล ล้วนเผ็ดร้อน แหลมคม แม้ว่าบางครั้งจะมีเรื่องอคติเจือปนอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่ล้วนตรงใจ และสร้างอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งแม้ว่าจะไม่อาจสรุปว่า แต่ละเรื่องที่โพสต์เข้ามาจะเป็นเรื่องจริงได้ทั้งหมด แต่มันก็สะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติในทางลบต่อเจ้าหน้าที่ ที่พรั่งพรูออกมา
00 ทัศนคติดังกล่าวที่สะท้อนออกมา ส่วนสำคัญเป็นเพราะ"ความตื่นตัว" ของชาวบ้านที่พวกเขารู้สึก และเริ่มเข้าใจแล้วว่าแท้จริงแล้ว "เขาเป็นนายตำรวจ" ไม่ใช่ตำรวจเป็นนายชาวบ้าน ซึ่งความคิดแบบนี้เริ่มมีมากขึ้น และแสดงออกมาผ่านทางการแสดงความคิดเห็นในโลกออนไลน์ และที่สำคัญเป็นคนกลุ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ผ่านทางการใช้โทรศัพท์มือถือ ทุกอย่างรากฏเป็นหลักฐานหมด และแชร์ส่งต่อกันอย่างแพร่หลาย จนสร้างแรงสั่นสะเทือน ซึ่งจะว่าไปแล้วตำรวจก็เริ่มรู้สึกถึงบรรยากาศแบบนี้แล้ว ถึงได้มีคำพูดของ ผบ.ตร. คนใหม่ คือ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่ประกาศต่อหน้าลูกน้องว่า "ต่อไปนี้จะทำให้ประชาชนรักตำรวจให้ได้" ถือว่าเป็นคำพูดที่ดี แต่สำคัญก็คือ "ต้องกระทำ" อย่างจริงจังด้วย เพราะทุกอย่างต้องผ่านการพิสูจน์ด้วยการปฏิบัติให้เห็น ตัวอย่างที่สะท้อนกลับมาให้ต้องได้คิด คือกรณีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวอังกฤษที่เกาะเต่า แม้ตำรวจจะจับผู้ต้องหาได้แล้ว มีการยืนยันพยานหลักฐานได้ชัดเจนแค่ไหนก็ตาม แต่ยังมีชาวบ้านจำนวนมากยังไม่เชื่อ ยังเชื่อว่า "จับแพะ" นั่นก็แสดงให่เห็นว่า พฤติกรรมที่สั่งสมมาในอดีตทำลายเครดิต ซึ่งจะพูดไปแล้วคนที่เป็น "แพะ" ก็น่าจะเป็น พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นั่นแหละ
00 ล่าสุดยังเกิดกรณีจ่ายสินบนนำจับให้กับตำรวจ รายละ 1 หมื่นบาท หากสามารถ "ล่อซื้อ" ชาวบ้านที่ทำผิดกฎจราจรแล้วจ่ายสินบนให้เจ้าหน้าที่ โดยใช้วิธีถ่ายคลิปจากกล้องที่ซ่อนอยู่ทั่วร่างกายของตำรวจ เข้าใจว่าเป็นความคิดของ รอง ผบช.น. ฝ่ายจราจร พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ ที่เป็นต้นคิด และจ่ายเงินสินบนดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่ไปสองรายแล้ว ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากชาวบ้าน และสื่อตามมาอย่างรุนแรง เพราะเชื่อว่าเป็นการ
สร้างความหวาดระแวงต่อกัน ที่สำคัญที่สุดก็คือ "ตำรวจไม่รู้จักหน้าที่" หลายคนก่นด่าถึงกับระบุว่า "เพี้ยน" ไปเลยก็มี และต่อมา ผบ.ตร. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กลับเห็นดีเห็นงาม เพียงแต่แก้เกี้ยวว่า ต่อไปจะจ่ายให้กับประชาชนด้วย หากสามารถมีหลักฐานว่า ตำรวจรับสินบน ซึ่งมันจะไปกันใหญ่ ทั้งที่มันไม่ได้ซับซ้อนอะไร ขอเพียงแค่ตำรวจเคร่งครัดต่อการใช้กม. ใครผิดก็จับไม่ไว้หน้า ปฏิบัติให้คงเส้นคงวา อย่าเลือกปฏิบัติ ไม่ใช่วันนี้ปล่อย แต่แล้วจู่ๆ ก็มาเข้มงวด และที่ต้องสำเหนียกให้หนักก็คือ ตำรวจอย่าทำผิดเสียเอง !!
00 วกมาที่สถานการณ์ชายแดนใต้กันบ้าง นาทีนี้ถ้าฟังจากน้ำเสียงของ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ออกตัวแล้วว่า เขาดูแลเฉพาะภาพรวม พร้อมกับโบ้ยไปที่ ผบ.ทบ. พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ก็ว่ากันไป แต่ในสายตาของชาวบ้านที่เฝ้ามองอยู่กลับเห็นว่า ต้องรับผิดชอบร่วมกัน และต้องทำงานกันเป็นทีมอย่างที่พูดจริงๆ
00 ส่วนเรื่องการเจรจาสันติสุขชายแดนใต้ ทำท่าจะสะดุด ยังไม่กำหนดเวลาในการพูดคุยได้ เพราะดูจากท่าทีของฝ่ายมาเลย์ ในฐานะผู้อำนวยความสะดวก และประสานงานยังตั้งแง่ในเรื่องของหัวหน้าเจรจาของฝ่ายไทย ต้องเป็นพลเรือน ไม่ใช่ทหาร ซึ่งก็น่าจะเป็นเลขาฯสมช. ไม่ใช่ฝ่ายทหารที่ฝ่ายไทยต้องการให้ พล.อ.อักษรา เกิดผล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก เป็นหัวหน้าคณะ กลายเป็นว่าต้องหันมาเริ่มเจรจากับฝ่ายมาเลย์เสียก่อน ล่าสุด มีการตั้ง ถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาฯสมช. มาเป็นที่ปรึกษารองนายกฯ และรมว.กลาโหม เสียก่อน ซึ่งเชื่อว่าจะต้องอยู่ร่วมทีมเจรจาแน่นอน !!
00 ทัศนคติดังกล่าวที่สะท้อนออกมา ส่วนสำคัญเป็นเพราะ"ความตื่นตัว" ของชาวบ้านที่พวกเขารู้สึก และเริ่มเข้าใจแล้วว่าแท้จริงแล้ว "เขาเป็นนายตำรวจ" ไม่ใช่ตำรวจเป็นนายชาวบ้าน ซึ่งความคิดแบบนี้เริ่มมีมากขึ้น และแสดงออกมาผ่านทางการแสดงความคิดเห็นในโลกออนไลน์ และที่สำคัญเป็นคนกลุ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ผ่านทางการใช้โทรศัพท์มือถือ ทุกอย่างรากฏเป็นหลักฐานหมด และแชร์ส่งต่อกันอย่างแพร่หลาย จนสร้างแรงสั่นสะเทือน ซึ่งจะว่าไปแล้วตำรวจก็เริ่มรู้สึกถึงบรรยากาศแบบนี้แล้ว ถึงได้มีคำพูดของ ผบ.ตร. คนใหม่ คือ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่ประกาศต่อหน้าลูกน้องว่า "ต่อไปนี้จะทำให้ประชาชนรักตำรวจให้ได้" ถือว่าเป็นคำพูดที่ดี แต่สำคัญก็คือ "ต้องกระทำ" อย่างจริงจังด้วย เพราะทุกอย่างต้องผ่านการพิสูจน์ด้วยการปฏิบัติให้เห็น ตัวอย่างที่สะท้อนกลับมาให้ต้องได้คิด คือกรณีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวอังกฤษที่เกาะเต่า แม้ตำรวจจะจับผู้ต้องหาได้แล้ว มีการยืนยันพยานหลักฐานได้ชัดเจนแค่ไหนก็ตาม แต่ยังมีชาวบ้านจำนวนมากยังไม่เชื่อ ยังเชื่อว่า "จับแพะ" นั่นก็แสดงให่เห็นว่า พฤติกรรมที่สั่งสมมาในอดีตทำลายเครดิต ซึ่งจะพูดไปแล้วคนที่เป็น "แพะ" ก็น่าจะเป็น พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นั่นแหละ
00 ล่าสุดยังเกิดกรณีจ่ายสินบนนำจับให้กับตำรวจ รายละ 1 หมื่นบาท หากสามารถ "ล่อซื้อ" ชาวบ้านที่ทำผิดกฎจราจรแล้วจ่ายสินบนให้เจ้าหน้าที่ โดยใช้วิธีถ่ายคลิปจากกล้องที่ซ่อนอยู่ทั่วร่างกายของตำรวจ เข้าใจว่าเป็นความคิดของ รอง ผบช.น. ฝ่ายจราจร พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ ที่เป็นต้นคิด และจ่ายเงินสินบนดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่ไปสองรายแล้ว ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากชาวบ้าน และสื่อตามมาอย่างรุนแรง เพราะเชื่อว่าเป็นการ
สร้างความหวาดระแวงต่อกัน ที่สำคัญที่สุดก็คือ "ตำรวจไม่รู้จักหน้าที่" หลายคนก่นด่าถึงกับระบุว่า "เพี้ยน" ไปเลยก็มี และต่อมา ผบ.ตร. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กลับเห็นดีเห็นงาม เพียงแต่แก้เกี้ยวว่า ต่อไปจะจ่ายให้กับประชาชนด้วย หากสามารถมีหลักฐานว่า ตำรวจรับสินบน ซึ่งมันจะไปกันใหญ่ ทั้งที่มันไม่ได้ซับซ้อนอะไร ขอเพียงแค่ตำรวจเคร่งครัดต่อการใช้กม. ใครผิดก็จับไม่ไว้หน้า ปฏิบัติให้คงเส้นคงวา อย่าเลือกปฏิบัติ ไม่ใช่วันนี้ปล่อย แต่แล้วจู่ๆ ก็มาเข้มงวด และที่ต้องสำเหนียกให้หนักก็คือ ตำรวจอย่าทำผิดเสียเอง !!
00 วกมาที่สถานการณ์ชายแดนใต้กันบ้าง นาทีนี้ถ้าฟังจากน้ำเสียงของ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ออกตัวแล้วว่า เขาดูแลเฉพาะภาพรวม พร้อมกับโบ้ยไปที่ ผบ.ทบ. พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ก็ว่ากันไป แต่ในสายตาของชาวบ้านที่เฝ้ามองอยู่กลับเห็นว่า ต้องรับผิดชอบร่วมกัน และต้องทำงานกันเป็นทีมอย่างที่พูดจริงๆ
00 ส่วนเรื่องการเจรจาสันติสุขชายแดนใต้ ทำท่าจะสะดุด ยังไม่กำหนดเวลาในการพูดคุยได้ เพราะดูจากท่าทีของฝ่ายมาเลย์ ในฐานะผู้อำนวยความสะดวก และประสานงานยังตั้งแง่ในเรื่องของหัวหน้าเจรจาของฝ่ายไทย ต้องเป็นพลเรือน ไม่ใช่ทหาร ซึ่งก็น่าจะเป็นเลขาฯสมช. ไม่ใช่ฝ่ายทหารที่ฝ่ายไทยต้องการให้ พล.อ.อักษรา เกิดผล ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก เป็นหัวหน้าคณะ กลายเป็นว่าต้องหันมาเริ่มเจรจากับฝ่ายมาเลย์เสียก่อน ล่าสุด มีการตั้ง ถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาฯสมช. มาเป็นที่ปรึกษารองนายกฯ และรมว.กลาโหม เสียก่อน ซึ่งเชื่อว่าจะต้องอยู่ร่วมทีมเจรจาแน่นอน !!