อังกฤษคาใจแพะ เรียกทูตไทยพบ งง!ประยุทธ์สั่งคัดนักท่องเที่ยว

ASTVผู้จัดการรายวัน - รมช.ต่างประเทศอังกฤษเรียกอัครราชทูตไทยเข้าพบ ระบุรัฐบาลกังวลต่อการสืบสวนคดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยว ย้ำต้องโปรงใส ยุติธรรม ขอทราบความคืบหน้าเป็นระยะ "ประยุทธ์" ป้อง อ้างแค่ขอให้ชี้แจงเหตุจับคนร้ายได้เร็ว สั่ง รมว.คัดนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณ ผบ.ตร.เข้าพบ "ทูตพม่า-อังกฤษ" ไขข้อข้องใจ ด้านอัยการจังหวัดนำตัว 3 พม่าขึ้นศาลสืบพยานล่วงหน้า ระบุป้องกันหลบหนี ขณะทนายผู้ต้องหาขอเลื่อนแต่ศาลยกคำร้อง

จากเหตุคนร้ายลงมือสังหารโหด นายเดวิด มิลเลอร์ และ น.ส.ฮันนาห์ วิทเธอริดจ์ นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ อายุ 24 ปีทั้งสองคน บริเวณชายหาดทรายรี เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เหตุเกิดกลางดึกวันที่ 15 กันยายนตำรวจสามารถจับกุม 2 แรงงานพม่า จากรัฐยะไข่ คือ นายเวพิว หรือ นายวิน อายุ 21 ปี และ นายซอลิน หรือ โซเรน อายุ 21 ปี ซึ่งรับรับสารภาพ โดยพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ยืนยันว่าเป็นคนร้ายตัวตัวจริง 100% ขณะที่นายธวัชชัย เสียงแจ้ง อธิบดีอัยการภาค 8 ในฐานะหัวหน้าคณะอัยการพิจารณาสำนวนคดี ระบุว่าจะสามารถสั่งฟ้องได้ในสัปดาห์นี้นั้น

วานนี้ (14 ต.ค.) เอเอฟพีรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ แถลงว่า นายฮิวโก สไวร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เรียกตัวนายณัฐวัฒน์ กฤษณามระ อัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน ปฏิบัติราชการแทนเอกอัครราชทูต เข้าพบและย้ำว่าอังกฤษมีความกังวลต่อการสืบสวนคดีของเจ้าหน้าที่ของไทย โดยย้ำว่าต้องสืบสวนอย่างโปรงใส ยุติธรรม และพร้อมส่งเจ้าหน้าที่มาช่วย นอกจากนี้ยังจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลอังกฤษ และครอบครัวของผู้เสียชีวิต จะได้รับข้อมูลความคืบหน้าของคดีเป็นระยะ

เอเอฟพีรายงานด้วยว่า การสืบสวนสอบสวนของตำรวจไทยถูกวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย โดยเฉพาะสื่อมวลชนของอังกฤษว่าไม่เหมาะสม หลังมีข่าวผู้ต้องสงสัยถูกทรมานให้รับสารภาพ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว อย่างไรก็ตามคดีนี้สร้างความเสียหายครั้งใหญ่กับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทย หลังเกิดการชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ปลายปี 2556 และจบลงด้วยการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557

ด้าน พล.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมตำรวจเจ้าของคดี เข้าพบพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อชี้แจงคดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยว ต่อนายอู อ่อง เต็ง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ประจำประเทศไทย และ นายมาร์ค เคนท์ เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ส่วนใหญ่เป็นการซักถามเรื่องข้อสงสัยทางคดีและในโซเชียล มีเดีย

ข่าวแจ้งว่า พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษาผบ.ตร. กล่าวภายหลังว่า พูดคุยเพียงรายละเอียดของคดี ไม่ลงลึกถึงความพึงพอใจ ขณะที่ พล.ต.อ.สมยศไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า นายฮิวโก สไวร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ได้เรียกตัวนายณัฐวัฒน์ไปเข้าพบ แต่เป็นการขอความร่วมมือให้ไปชี้แจง ซึ่งเขาไม่ติดใจอะไร เพียงแต่ขอเวลาทำใจ เพราะจับผู้ต้องหาได้เร็ว จากเดิมที่ดูแล้วไม่น่าจับได้ เมื่อเจ้าหน้าที่อธิบายขั้นตอนเขาก็รับได้ และหากทางอังกฤษจะขอมีส่วนร่วมในตรวจสอบก็มาได้ แต่อะไรที่เป็นเรื่องของเราก็ต้องเป็นเรื่องของเรา ต้องไม่ลืมว่าสมัยก่อนเขารบกันมาเยอะแล้วเรื่องสิทธิเสรีภาพนอกอาณาเขต ดังนั้นจะมาก็มาได้ ถามได้ พร้อมอธิบายทุกอย่าง

"ทางอังกฤษฟังจากสื่อไทยแล้วไม่น่าจับได้ แต่ตำรวจกลับจับได้เขาจึงแปลกใจ นี่แหละที่สื่อนำเสนอทำให้เขาไม่ไว้ใจ เพราะเขาเปิดโซเซียลมีเดียติดตามคดี ผมไปพม่าก็ไม่เห็นเขาจะพูดอะไรมากมาย เรื่องคำว่าขอความเป็นธรรมถือเป็นเรื่องปกติที่เขาต้องฝากดูแล ไม่ได้หมายความว่าไม่ไว้ใจกระบวนการของไทย"

ผู้สื่อข่าวถามว่ามาตรการติดกล้องวงจรเพิ่มบนเกาะเต่า ว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า เป็นช่องทางป้องปรามและเป็นหลักฐาน วันหน้าถ้าจับผู้ก่อเหตุไม่ได้ จะถูกกล่าวหาว่าไม่มีกล้องอีก ส่วนมาตรการอื่นได้สั่งการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงมหาดไทย ควบคุมดูแลนักท่องเที่ยวช่วงฟลุ มูน ปาร์ตี้ ให้อยู่ในกรอบกฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องเวลาและยาเสพติดด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง

และจากนี้ไปจะให้กระทรวงการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คัดนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพด้วย ไม่ใช่เอาจำนวนเป็นตัววัด ต้องเอาคุณภาพเป็นตัววัดด้วย ส่วนที่เป็นรายได้น้อยก็มาได้ไม่ได้ห้าม ยิ่งมามากยิ่งดี แต่จะทำอย่างไรถ้ามามากเกินไป แต่สถานที่เสื่อมโทรม เราต้องมองทุกมิติ ทั้งความมั่นคงและความเจริญ เราต้องปรับปรุงคุณภาพนักท่องเที่ยว แต่ทำอย่างไรจะไม่ให้เสียรายได้ของรัฐ และต้องสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการในเรื่องการคืนภาษี

"เราจำเป็นต้องควบคุมให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่ได้หมายความว่าจำกัดนักท่องเที่ยว ผมต้องการให้คนมาเที่ยวเยอะ แต่ถ้าพื้นที่ไหนมีเยอะแล้วให้บริการได้ไม่เพียงพอเขาจะมาด่าเรา ซึ่งบางแห่งจะไปจำกัดก็ยาก เช่น กรุงเทพมหานคร เขาก็อยากมาเที่ยววัดพระแก้ว เพราะเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทย"

เวลา 10.00 น. วันเดียวกัน คณะอัยการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และตำรวจชุดคลี่คลายคดี นำโดยพล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ รองผบช.ภ. 8 นำตัวพยานซึ่งเป็นแรงงานพม่า 3 คนมายังศาลจังหวัดเกาะสมุย เพื่อสืบพยานล่วงหน้าก่อนส่งฟ้องศาล โดยนำตัวนายเวพิว และนายลิน ผู้ต้องหามาร่วมรับฟังการสืบพยานด้วย ซึ่งช่วงเช้ามีการสืบพยาน 1 ปาก คือนาย เมา ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้ต้องหาที่นั่งเล่นกีตาร์ด้วยกันที่ริมชายหาดทรายรีก่อนเกิดเหตุ

ด้านนายแอนดี้ ฮอล นักสิทธิมนุษยชนชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้ประสานจัดหาทนายความให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน กล่าวว่า ทีมทนายจะเสนอต่อศาลขอเลื่อนการสืบพยานล่วงหน้าออกไปก่อน 1 สัปดาห์ เนื่องจากเพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทนายจำเลย แลเพิ่งมีโอกาสได้คุยกับผู้ต้องหาเมื่อวานนี้ (13 ต.ค.) ทางทีมทนายเอง ซึ่งจำเป็นต้องหาข้อมูลให้มากว่านี้ จึงจะขอให้สืบพยานล่วงหน้าอีกครั้ง

ล่าสุด ศาลยกคำร้องทนายจำเลย โดยอัยการระบุว่าตำรวจมีพยานที่เป็นแรงงาน จำเป็นต้องสืบพยานล่วงหน้า เพื่อป้องกันกรณีพยานหลบหนี หรือไม่มาเบิกความในภายหลัง ทั้งนี้ เวลา 13.30 น. จะสืบพยานต่ออีก 2 ปากเพื่อประกอบกับสำนวนคดีต่อไป

นายธวัชชัย เสียงแจ้ง อธิบดีอัยการภาค 8 กล่าวว่า พนักงานสอบสวนยังไม่ส่งประเด็นวัตถุพยานสำคัญอีก 1 ชิ้นกลับมาให้อัยการ จึงยังไม่สามารถสรุปสำนวนได้ ต้องรอวัตถุพยานนี้ก่อน ส่วนการสืบพยานล่วงหน้า เนื่องจากพยานเป็นคนต่างประเทศ หากใช้ขั้นตอนปกติอาจต้องใช้เวลาหลายเดือน ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นพยานอาจเดินทางกลับประเทศ หรือตามตัวได้ยากแล้ว.