00 ในโอกาสวันตำรวจ 13 ต.ค. ก็ถือโอกาสพูดถึงพี่น้องตำรวจกันสักหน่อย โดยเฉพาะในช่วงที่ตำรวจถูกจับจ้องด้วยสายตาจากสังคมมากที่สุดหน่วยงานหนึ่ง และต้องยอมรับความจริงกันก่อนว่าในเวลานี้ วงการตำรวจกำลังอยู่ในภาวะวิกฤติศรัทธาจนอาจเรียกได้ว่าไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อนก็ว่าได้ ส่วนสำคัญอาจเป็นเพราะเป็นยุคของข้อมูลข่าวสาร เป็นยุคสื่อสารออนไลน์ ชาวบ้านสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลถึงกันอย่างรวดเร็ว มีทั้งภาพ และเสียง มีความเห็นกันได้ถึงกันอย่างแหลมคม หลายครั้งสามารถเป็นหลักฐานประจานการทำงานของตำรวจ จนเกิดคำสั่งโยกย้ายลงโทษตามมาหลายครั้ง เป็นเครื่องการันตีถึงความล้มเหลว การทำหน้าที่โดยมิชอบ เป็นปรากฏการณ์ที่ทำลายเครดิตลงไปเรื่อย ๆ
00 แม้ว่าพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าวจะถือว่าเป็นเฉพาะบุคคล เป็นเพียงส่วนน้อย แต่ก็อย่างว่า ในเมื่ออำนาจหน้าที่ของตำรวจต้องสัมผัสเกี่ยวข้องกับชาวบ้านก็ยิ่งตกเป็นเป้า ถูกจับตามองอยู่ตลอดเวลา และด้วยลักษณะอย่างที่เป็นอยู่ ทำให้ตำรวจทำงานยาก และไม่มีความความเชื่อถือจากสังคม ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็กรณีฆาตรกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษสองคนที่เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ฯ ถึงแม้ว่าผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมมาได้ จะเป็นตัวจริง ไม่ใช่แพะ สามารถพิสูจน์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ตามขั้นตอน แต่สาเหตุเพราะภาพลักษณ์ที่เป็นลบมาอย่างต่อเนื่อง การทำงานหลายครั้งไม่ถูกต้อง ใช้อำนาจโดยมิชอบ จึงทำให้เกิดความระแวง และคราวนี้เมื่อไปเกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีสื่อต่างชาติยักษ์ใหญ่มาติดตามความเคลื่อนไหว มีการเสาะหาข้อมูลคู่ขนานกันไป ก็ยิ่งทำให้ตำรวจต้องถูกกดดันอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และที่น่าสนใจก็คือ "ไม่ได้รับความเชื่อถือ"
00 หากปล่อยไว้แบบนี้โดยไม่ได้รับความแก้ไขก็จะยิ่งลำบาก จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือของบ้านเมืองไปด้วย อย่างไรก็ดี ด้วยบรรยากาศที่เป็นอยู่ ผู้บริหารระดับสูงของตำรวจก็ตระหนักเรื่องเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างดี โดยเฉพาะ ผบ.ตร. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถึงกับประกาศว่า ตำรวจต้องอดทนเพื่อให้ประชาชนมอบความรักให้ได้ แต่การจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีได้ ตำรวจก็ต้องปรับปรุงวิธีการทำงานอย่างจริงจัง ต้องมีสำนึกรับใช้ประชาชน เลิกรับใช้การเมือง เลิกรีดไถ ซึ่งอย่างหลังนี่แหละ พูดง่ายแต่ทำยาก !!
00 สถานการณ์ไฟใต้กลับมาร้อนระอุอีกครั้ง ด้วยสัญญลักษณ์การ "เผาโรงเรียน" อีกครั้ง ล่าสุดกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้ก่อเหตุเผาโรงเรียนในจังหวัดปัตตานีพร้อมกัน 6 แห่ง หลังจากห่างหายไปนานพอสมควร เจตนาทางหนึ่งอาจต้องการตบหน้าฝ่ายอำนาจรัฐ ฝ่ายความมั่นคง เป็นการเกิดเหตุหลังจากรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ.คนใหม่ เพิ่งยกขบวนลงไปมอบนโยบาย กำชับการทำงานให้รัดกุมมากกว่าเดิม โดยพล.อ.ประวิตร ได้ย้ำว่า "สถานการณ์โดยรวมดีขึ้น" แต่เมื่อคล้อยหลังเพียงชั่วข้ามคืน ก็เกิดเหตุแบบนี้ขึ้น มาจนได้
00 แม้ว่าจะอยู่ในช่วงการรายงานตัวของสปช. แต่ในบรรยากาศแบบนี้ก็ยังมีการแสดงความเห็นกันออกมา ต่อพิมพ์เขียวปฏิรูป จากสมาชิก สปช.หลายคน แม้ว่ายังไม่เป็นเนื้อเป็นหนัง แต่ก็ถือว่าพอได้เห็นโรดแมปการปฏิรูปออกมาให้เห็นจางๆ บ้างแล้ว อย่างน้อยก็จะได้เห็นการปฏิรูปตำรวจต้องเกิดขึ้นแน่ การปฏิรูประบบการเมือง การเข้าสู่อำนาจของนักการเมือง การตรวจสอบการทุจริตของนักการเมือง และข้าราชการ จะต้องเข้มงวด และเป็นวาระสำคัญที่สุด และให้รอการเข้ามานั่งเก้าอี้ ประธาน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ที่ก่อนหน้านี้ เขาชี้ช่องให้จับตาการยกร่างตามโรดแมป บัญญัติ 10 ประการของ รธน.ฉบับชั่วคราว ม. 35 เป้าหมายก็คือ สกัดนักการเมืองทุจริต เคยถูกเพิกถอนสิทธิการเมือง ถ้าเป็นแบบนี้ เราก็จะได้เห็นพวกบ้านเลขที่ 111-109 ถูกโละทิ้งออกไปทั้งหมด รอดูว่าจะเป็นจริงหรือเปล่า แล้วจะมีรายการป่วนตามมาอีกมั๊ย !!
00 แม้ว่าพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าวจะถือว่าเป็นเฉพาะบุคคล เป็นเพียงส่วนน้อย แต่ก็อย่างว่า ในเมื่ออำนาจหน้าที่ของตำรวจต้องสัมผัสเกี่ยวข้องกับชาวบ้านก็ยิ่งตกเป็นเป้า ถูกจับตามองอยู่ตลอดเวลา และด้วยลักษณะอย่างที่เป็นอยู่ ทำให้ตำรวจทำงานยาก และไม่มีความความเชื่อถือจากสังคม ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็กรณีฆาตรกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษสองคนที่เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ฯ ถึงแม้ว่าผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมมาได้ จะเป็นตัวจริง ไม่ใช่แพะ สามารถพิสูจน์ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ตามขั้นตอน แต่สาเหตุเพราะภาพลักษณ์ที่เป็นลบมาอย่างต่อเนื่อง การทำงานหลายครั้งไม่ถูกต้อง ใช้อำนาจโดยมิชอบ จึงทำให้เกิดความระแวง และคราวนี้เมื่อไปเกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีสื่อต่างชาติยักษ์ใหญ่มาติดตามความเคลื่อนไหว มีการเสาะหาข้อมูลคู่ขนานกันไป ก็ยิ่งทำให้ตำรวจต้องถูกกดดันอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และที่น่าสนใจก็คือ "ไม่ได้รับความเชื่อถือ"
00 หากปล่อยไว้แบบนี้โดยไม่ได้รับความแก้ไขก็จะยิ่งลำบาก จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือของบ้านเมืองไปด้วย อย่างไรก็ดี ด้วยบรรยากาศที่เป็นอยู่ ผู้บริหารระดับสูงของตำรวจก็ตระหนักเรื่องเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างดี โดยเฉพาะ ผบ.ตร. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถึงกับประกาศว่า ตำรวจต้องอดทนเพื่อให้ประชาชนมอบความรักให้ได้ แต่การจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีได้ ตำรวจก็ต้องปรับปรุงวิธีการทำงานอย่างจริงจัง ต้องมีสำนึกรับใช้ประชาชน เลิกรับใช้การเมือง เลิกรีดไถ ซึ่งอย่างหลังนี่แหละ พูดง่ายแต่ทำยาก !!
00 สถานการณ์ไฟใต้กลับมาร้อนระอุอีกครั้ง ด้วยสัญญลักษณ์การ "เผาโรงเรียน" อีกครั้ง ล่าสุดกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้ก่อเหตุเผาโรงเรียนในจังหวัดปัตตานีพร้อมกัน 6 แห่ง หลังจากห่างหายไปนานพอสมควร เจตนาทางหนึ่งอาจต้องการตบหน้าฝ่ายอำนาจรัฐ ฝ่ายความมั่นคง เป็นการเกิดเหตุหลังจากรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ.คนใหม่ เพิ่งยกขบวนลงไปมอบนโยบาย กำชับการทำงานให้รัดกุมมากกว่าเดิม โดยพล.อ.ประวิตร ได้ย้ำว่า "สถานการณ์โดยรวมดีขึ้น" แต่เมื่อคล้อยหลังเพียงชั่วข้ามคืน ก็เกิดเหตุแบบนี้ขึ้น มาจนได้
00 แม้ว่าจะอยู่ในช่วงการรายงานตัวของสปช. แต่ในบรรยากาศแบบนี้ก็ยังมีการแสดงความเห็นกันออกมา ต่อพิมพ์เขียวปฏิรูป จากสมาชิก สปช.หลายคน แม้ว่ายังไม่เป็นเนื้อเป็นหนัง แต่ก็ถือว่าพอได้เห็นโรดแมปการปฏิรูปออกมาให้เห็นจางๆ บ้างแล้ว อย่างน้อยก็จะได้เห็นการปฏิรูปตำรวจต้องเกิดขึ้นแน่ การปฏิรูประบบการเมือง การเข้าสู่อำนาจของนักการเมือง การตรวจสอบการทุจริตของนักการเมือง และข้าราชการ จะต้องเข้มงวด และเป็นวาระสำคัญที่สุด และให้รอการเข้ามานั่งเก้าอี้ ประธาน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ที่ก่อนหน้านี้ เขาชี้ช่องให้จับตาการยกร่างตามโรดแมป บัญญัติ 10 ประการของ รธน.ฉบับชั่วคราว ม. 35 เป้าหมายก็คือ สกัดนักการเมืองทุจริต เคยถูกเพิกถอนสิทธิการเมือง ถ้าเป็นแบบนี้ เราก็จะได้เห็นพวกบ้านเลขที่ 111-109 ถูกโละทิ้งออกไปทั้งหมด รอดูว่าจะเป็นจริงหรือเปล่า แล้วจะมีรายการป่วนตามมาอีกมั๊ย !!
