เห็นสภาพบ้านเมืองทุกวันนี้ดูเหมือนดี ท่านผู้นำรัฐบาลออกมาพูดตอกย้ำซ้ำซากถึงภารกิจต่างๆ ตาม 3 ขั้นตอนของโรดแมป พยายามวาดภาพให้เห็นว่าอนาคตคือโลกสวยสันติสุขถ้าประชาชนทุกคนฟังและเชื่อน้ำคำเว้าวอนของท่านทุกค่ำคืนวันศุกร์
ท่านผู้นำบอกว่าเลิกพูดไม่ได้ เป็นการสื่อสารโดยมีเป้าหมายคือคนฟัง แน่นอนมีคนไม่ฟังท่าน และมีคนฟัง ท่านอยากให้คนฟังเอาไปเล่าขานต่อ เพื่อให้คนไม่เคยฟังท่านได้รับรู้ว่าท่านมีแผนอะไรเพื่อบ้านเมือง พวกที่เบื่อฟังท่านก็ต้องตามใจ บังคับไม่ได้
ในตำแหน่งผู้นำประเทศ ท่านบอกไม่เบื่อที่จะพูด ถึงเบื่อก็ต้องทำ เป็นภาระของท่านไม่อย่างนั้นไม่มีใครทำ ฟังดูแล้วทำให้รู้สึกว่าไม่มีอะไรเจ็บปวดกระดองใจเท่ากับพูดแล้วไม่มีใครฟัง นอกจากไม่ฟังยังมีเสียงพูดค่อนแคะต่างๆ ให้เจ็บช้ำในหัวอกอีกด้วย
ผมไม่ได้ฟังมากนัก เว้นแต่มีคนเปิดทีวีหรือวิทยุให้ฟัง แต่ละคนที่ฟังรู้สึกอย่างไรก็สุดแล้วแต่ พวกที่นิยมชมชอบท่านย่อมคล้อยตามคำพูดของท่าน ถ้ามีใครแซวท่าน ก็โกรธแทน แถมยังบอกอีกว่าถ้าไม่มีท่านแล้ว ป่านนี้บ้านเมืองคงยุ่งเหยิง ฆ่าฟันกันแล้ว
จากที่ผมเฝ้าดูอาการ และฟังเสียงวิจารณ์ต่างๆ เกี่ยวกับตัวท่านเวลาพูดจากับผู้สื่อข่าว หรือพูดกับประชาชนคืนวันศุกร์ ผมเชื่อว่าถ้าไม่ชอบท่านจริงๆ คงทนฟังไม่ได้ และถ้าจะเทียบสัดส่วนของผู้ฟังและผู้ไม่ฟัง น่าสงสัยว่าฝ่ายใดจะมากกว่ากัน
สถาบันต่างๆ ที่ถนัดทำโพล น่าจะไปประเมินสอบถามความเห็นของประชาชน ถ้ามาถามผม จะได้คำตอบไม่ต่างจากคนอื่นๆ คือ “ท่านพูดมาก” พูดได้เกือบทุกเรื่อง เนื้อหาไม่หนักแน่น แม้ไม่ถึงขั้นน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง แนวโน้มน่าจะไปทางนั้น
น้ำเสียงท่านพูดห้วนๆ แบบขวานผ่าซาก ไม่เข้าหูคน ชวนทะเลาะ เข้าขั้นว่าท่านรู้ดี คนอื่นไม่รู้ดี รู้มากเท่าท่าน ท่านจึงเปรียบเหมือนพหูสูต เป็นผู้รู้แจ้ง มีคนเถียงว่าท่านไม่ใช่พวกปากหวานก้นเปรี้ยว คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น จริงใจ ขึงขังเชื่อมั่นในตัวเองสูง
ถ้าไปถามผู้เชี่ยวชาญด้านบุคลิก การพูดในที่สาธารณะ การวางตัว ท่านสอบตก!
การพูดให้คนฟังได้หมายความว่ามีแต่คนนิยมชมชอบท่าน จึงยอมฟัง เพื่อดูว่าเนื้อหาสาระมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหน มีมธุรสวาจารื่นหูมั้ย ให้เกียรติคนฟัง หรือเห็นผู้ฟังเป็นวัวควาย เป็นคนปัญญาอ่อนต้องการอบรมบ่มสอน รับการติวเข้มหนักๆ หรือไม่
ท่านผู้นำเป็นทหาร กว่าจะไต่เต้าจากทหารชั้นผู้น้อยขึ้นมาถึงจุดสูงสุดของอาชีพ ในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ท่านต้องเป็นผู้ฟังผู้บังคับบัญชามาโดยตลอด เป็นทหารมีวินัย ห้ามเถียงหัวหน้า แทบไม่มีโอกาสแสดงความคิดเห็นของตัวเองด้วยซ้ำ
หลายครั้ง ท่านตะคอกดุด่าผู้สื่อข่าว ข่มประชาชน ทำให้คนหมั่นไส้ นานๆ ไปเกิดความรู้สึกเบื่อขี้หน้า ได้ยินเสียงครั้งใดต้องเปลี่ยนช่องทีวีไปหารายการอื่นๆ ที่สนุก
เคยบอกท่านแล้วว่า คนนอกกองทัพ ไม่ว่าจะเป็นผู้สื่อข่าวหรือผู้ชมรายการคืนวันศุกร์ เขาไม่ใช่ทหารลูกแถว หรือไอ้เณรที่ท่านจะพูดเสียงดุดันเหมือนจ่าครูฝึก มีเยอะที่เปรยดังๆ ว่าการที่แสดงออกด้วยท่าทีเช่นนั้นเพราะท่านอาจมีปัญหาด้านความฉลาด
ไม่เชื่อลองถามพรรคพวก หรือคนในครอบครัวดูก็แล้วกันว่ามีใครชื่นชอบรายการของท่านหรือไม่ มีใครที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยให้วันศุกร์มาถึงเร็วๆ ล้างหูรอฟังการชี้แนะเส้นทางชีวิต การบอกเล่าว่าท่านประสบความสำเร็จในการบริหารบ้านเมืองอย่างไรบ้าง
วันไหนท่านอารมณ์ดี ท่านเอาเทปรายการคืนวันศุกร์มาเปิดให้คนในบ้านฟัง ดูว่าจะมีคนตั้งใจฟังอย่างจริงจังหรือไม่ ท่านชอบน้ำเสียง ลีลา ท่าทาง ภาษากายของท่านมั้ย หรือเอาไปให้บรรดากูรู ปรมาจารย์วิจารณ์เพื่อการแก้ไขปรับปรุงให้ดูดีกว่าที่เป็นอยู่
ท่านรู้หรือไม่ว่าผู้นำคนดังๆ ของสหรัฐฯ และอังกฤษ ต้องมีคนมาฝึกสอน การพูด การออกลีลาท่าทางติวอย่างหนัก ฝึกถาม ตอบคำถามของสื่อ การสัมภาษณ์ เพื่อให้ดูดี น่าศรัทธา เชื่อถือ ชนะใจคนพบเห็น ไม่ใช่นึกว่าเป็นผู้นำทหาร จะใช้ลีลาเข้มอย่างเดียว
ท่านต้องเข้าคอร์สฝึกอบรม เป็นสิ่งจำเป็น ถ้าอยากอยู่ได้ดี อยู่ได้ยาว มีคนชื่นชอบ ...ท่านศึกษาลีลาผู้นำประเทศในอดีตและปัจจุบันดูก็ได้ มีใครที่พูดจาไม่เข้าหูคน กระด้าง พูดมาก ชวนทะเลาะหรือไม่ อาจยกเว้นคุณสมัคร สุนทรเวช แต่ก็สิ้นชีวิตไปแล้ว
ช่วงท่านทำรัฐประหารสำเร็จมีคนชื่นชอบท่านมาก หวังว่าท่านจะแก้ปัญหาบ้านเมืองตามประกาศหลายฉบับและเจตนารมณ์ เมื่อท่านแสดงตัวว่าจะเป็นผู้นำรัฐบาล หลายคนเริ่มคิดหนัก เขามองว่าท่านทำรัฐประหารเพื่อตัวเองและพวกพ้อง
จากวันนั้นมาถึงบัดนี้ สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นไปตามแบบที่ผู้คนสงสัย คำมั่นหลายอย่างไม่เป็นดังที่ว่า คนแวดล้อมใกล้ชิดท่านมีพฤติกรรมไม่ซื่อ ไม่น่าไว้ใจ มีเสียงร่ำลือต่างๆ กรณีการทุจริต การแสวงหาผลประโยชน์ ท่านเองคงรู้ดี เพียงแต่ไม่อยากทำอะไร
ท่านคงหวั่นไม่น้อยว่าแนวโน้มของพฤติกรรมด้านลบ จะทำให้รัฐบาลมีปัญหาด้านความมั่นคง พันธกิจต่างๆ ไม่เกิดขึ้นตามคำประกาศ ท่านไม่สามารถอธิบายได้ แต่เลือกใช้คำอ้อนวอน คำพูดปรามย้ำหลายครั้งว่าท่านต้องใช้กฎอัยการศึกค้ำฐานอำนาจ
ท่านเพิ่งนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีได้เพียง 1 เดือน คงรู้สึกว่าหลายอย่างเริ่มมีปัญหา โดยเฉพาะความศรัทธาเชื่อมั่นของประชาชน ความนิยมของรัฐบาลตกต่ำอย่างรวดเร็ว เพราะความไม่น่าไว้ใจจากพฤติกรรมของคนในคณะรัฐมนตรี การเล่นพรรคเล่นพวก
เริ่มมีคนสงสัยว่ารัฐบาลของท่านจะอยู่รอดได้นานแค่ไหน ถ้าไร้กฎอัยการศึก! ผลงานด้านดีไม่ปรากฏชัด ขณะที่เสียงร่ำลือเกี่ยวกับการคอร์รัปชัน การเกี๊ยเซียะกับกลุ่มอำนาจเก่ามีมากขึ้น ถ้าท่านไม่รู้เรื่องเหล่านี้ หรือรู้แล้วไม่ทำอะไร ท่านเจอวิกฤตแน่
ท่านผู้นำบอกว่าเลิกพูดไม่ได้ เป็นการสื่อสารโดยมีเป้าหมายคือคนฟัง แน่นอนมีคนไม่ฟังท่าน และมีคนฟัง ท่านอยากให้คนฟังเอาไปเล่าขานต่อ เพื่อให้คนไม่เคยฟังท่านได้รับรู้ว่าท่านมีแผนอะไรเพื่อบ้านเมือง พวกที่เบื่อฟังท่านก็ต้องตามใจ บังคับไม่ได้
ในตำแหน่งผู้นำประเทศ ท่านบอกไม่เบื่อที่จะพูด ถึงเบื่อก็ต้องทำ เป็นภาระของท่านไม่อย่างนั้นไม่มีใครทำ ฟังดูแล้วทำให้รู้สึกว่าไม่มีอะไรเจ็บปวดกระดองใจเท่ากับพูดแล้วไม่มีใครฟัง นอกจากไม่ฟังยังมีเสียงพูดค่อนแคะต่างๆ ให้เจ็บช้ำในหัวอกอีกด้วย
ผมไม่ได้ฟังมากนัก เว้นแต่มีคนเปิดทีวีหรือวิทยุให้ฟัง แต่ละคนที่ฟังรู้สึกอย่างไรก็สุดแล้วแต่ พวกที่นิยมชมชอบท่านย่อมคล้อยตามคำพูดของท่าน ถ้ามีใครแซวท่าน ก็โกรธแทน แถมยังบอกอีกว่าถ้าไม่มีท่านแล้ว ป่านนี้บ้านเมืองคงยุ่งเหยิง ฆ่าฟันกันแล้ว
จากที่ผมเฝ้าดูอาการ และฟังเสียงวิจารณ์ต่างๆ เกี่ยวกับตัวท่านเวลาพูดจากับผู้สื่อข่าว หรือพูดกับประชาชนคืนวันศุกร์ ผมเชื่อว่าถ้าไม่ชอบท่านจริงๆ คงทนฟังไม่ได้ และถ้าจะเทียบสัดส่วนของผู้ฟังและผู้ไม่ฟัง น่าสงสัยว่าฝ่ายใดจะมากกว่ากัน
สถาบันต่างๆ ที่ถนัดทำโพล น่าจะไปประเมินสอบถามความเห็นของประชาชน ถ้ามาถามผม จะได้คำตอบไม่ต่างจากคนอื่นๆ คือ “ท่านพูดมาก” พูดได้เกือบทุกเรื่อง เนื้อหาไม่หนักแน่น แม้ไม่ถึงขั้นน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง แนวโน้มน่าจะไปทางนั้น
น้ำเสียงท่านพูดห้วนๆ แบบขวานผ่าซาก ไม่เข้าหูคน ชวนทะเลาะ เข้าขั้นว่าท่านรู้ดี คนอื่นไม่รู้ดี รู้มากเท่าท่าน ท่านจึงเปรียบเหมือนพหูสูต เป็นผู้รู้แจ้ง มีคนเถียงว่าท่านไม่ใช่พวกปากหวานก้นเปรี้ยว คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น จริงใจ ขึงขังเชื่อมั่นในตัวเองสูง
ถ้าไปถามผู้เชี่ยวชาญด้านบุคลิก การพูดในที่สาธารณะ การวางตัว ท่านสอบตก!
การพูดให้คนฟังได้หมายความว่ามีแต่คนนิยมชมชอบท่าน จึงยอมฟัง เพื่อดูว่าเนื้อหาสาระมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหน มีมธุรสวาจารื่นหูมั้ย ให้เกียรติคนฟัง หรือเห็นผู้ฟังเป็นวัวควาย เป็นคนปัญญาอ่อนต้องการอบรมบ่มสอน รับการติวเข้มหนักๆ หรือไม่
ท่านผู้นำเป็นทหาร กว่าจะไต่เต้าจากทหารชั้นผู้น้อยขึ้นมาถึงจุดสูงสุดของอาชีพ ในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ท่านต้องเป็นผู้ฟังผู้บังคับบัญชามาโดยตลอด เป็นทหารมีวินัย ห้ามเถียงหัวหน้า แทบไม่มีโอกาสแสดงความคิดเห็นของตัวเองด้วยซ้ำ
หลายครั้ง ท่านตะคอกดุด่าผู้สื่อข่าว ข่มประชาชน ทำให้คนหมั่นไส้ นานๆ ไปเกิดความรู้สึกเบื่อขี้หน้า ได้ยินเสียงครั้งใดต้องเปลี่ยนช่องทีวีไปหารายการอื่นๆ ที่สนุก
เคยบอกท่านแล้วว่า คนนอกกองทัพ ไม่ว่าจะเป็นผู้สื่อข่าวหรือผู้ชมรายการคืนวันศุกร์ เขาไม่ใช่ทหารลูกแถว หรือไอ้เณรที่ท่านจะพูดเสียงดุดันเหมือนจ่าครูฝึก มีเยอะที่เปรยดังๆ ว่าการที่แสดงออกด้วยท่าทีเช่นนั้นเพราะท่านอาจมีปัญหาด้านความฉลาด
ไม่เชื่อลองถามพรรคพวก หรือคนในครอบครัวดูก็แล้วกันว่ามีใครชื่นชอบรายการของท่านหรือไม่ มีใครที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยให้วันศุกร์มาถึงเร็วๆ ล้างหูรอฟังการชี้แนะเส้นทางชีวิต การบอกเล่าว่าท่านประสบความสำเร็จในการบริหารบ้านเมืองอย่างไรบ้าง
วันไหนท่านอารมณ์ดี ท่านเอาเทปรายการคืนวันศุกร์มาเปิดให้คนในบ้านฟัง ดูว่าจะมีคนตั้งใจฟังอย่างจริงจังหรือไม่ ท่านชอบน้ำเสียง ลีลา ท่าทาง ภาษากายของท่านมั้ย หรือเอาไปให้บรรดากูรู ปรมาจารย์วิจารณ์เพื่อการแก้ไขปรับปรุงให้ดูดีกว่าที่เป็นอยู่
ท่านรู้หรือไม่ว่าผู้นำคนดังๆ ของสหรัฐฯ และอังกฤษ ต้องมีคนมาฝึกสอน การพูด การออกลีลาท่าทางติวอย่างหนัก ฝึกถาม ตอบคำถามของสื่อ การสัมภาษณ์ เพื่อให้ดูดี น่าศรัทธา เชื่อถือ ชนะใจคนพบเห็น ไม่ใช่นึกว่าเป็นผู้นำทหาร จะใช้ลีลาเข้มอย่างเดียว
ท่านต้องเข้าคอร์สฝึกอบรม เป็นสิ่งจำเป็น ถ้าอยากอยู่ได้ดี อยู่ได้ยาว มีคนชื่นชอบ ...ท่านศึกษาลีลาผู้นำประเทศในอดีตและปัจจุบันดูก็ได้ มีใครที่พูดจาไม่เข้าหูคน กระด้าง พูดมาก ชวนทะเลาะหรือไม่ อาจยกเว้นคุณสมัคร สุนทรเวช แต่ก็สิ้นชีวิตไปแล้ว
ช่วงท่านทำรัฐประหารสำเร็จมีคนชื่นชอบท่านมาก หวังว่าท่านจะแก้ปัญหาบ้านเมืองตามประกาศหลายฉบับและเจตนารมณ์ เมื่อท่านแสดงตัวว่าจะเป็นผู้นำรัฐบาล หลายคนเริ่มคิดหนัก เขามองว่าท่านทำรัฐประหารเพื่อตัวเองและพวกพ้อง
จากวันนั้นมาถึงบัดนี้ สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นไปตามแบบที่ผู้คนสงสัย คำมั่นหลายอย่างไม่เป็นดังที่ว่า คนแวดล้อมใกล้ชิดท่านมีพฤติกรรมไม่ซื่อ ไม่น่าไว้ใจ มีเสียงร่ำลือต่างๆ กรณีการทุจริต การแสวงหาผลประโยชน์ ท่านเองคงรู้ดี เพียงแต่ไม่อยากทำอะไร
ท่านคงหวั่นไม่น้อยว่าแนวโน้มของพฤติกรรมด้านลบ จะทำให้รัฐบาลมีปัญหาด้านความมั่นคง พันธกิจต่างๆ ไม่เกิดขึ้นตามคำประกาศ ท่านไม่สามารถอธิบายได้ แต่เลือกใช้คำอ้อนวอน คำพูดปรามย้ำหลายครั้งว่าท่านต้องใช้กฎอัยการศึกค้ำฐานอำนาจ
ท่านเพิ่งนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีได้เพียง 1 เดือน คงรู้สึกว่าหลายอย่างเริ่มมีปัญหา โดยเฉพาะความศรัทธาเชื่อมั่นของประชาชน ความนิยมของรัฐบาลตกต่ำอย่างรวดเร็ว เพราะความไม่น่าไว้ใจจากพฤติกรรมของคนในคณะรัฐมนตรี การเล่นพรรคเล่นพวก
เริ่มมีคนสงสัยว่ารัฐบาลของท่านจะอยู่รอดได้นานแค่ไหน ถ้าไร้กฎอัยการศึก! ผลงานด้านดีไม่ปรากฏชัด ขณะที่เสียงร่ำลือเกี่ยวกับการคอร์รัปชัน การเกี๊ยเซียะกับกลุ่มอำนาจเก่ามีมากขึ้น ถ้าท่านไม่รู้เรื่องเหล่านี้ หรือรู้แล้วไม่ทำอะไร ท่านเจอวิกฤตแน่