ในที่สุดก็แอ่นแอ๊นท์

โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์

และแล้วการรัฐประหารก็ไม่ใช่สิ่งที่ล้าสมัยอีกรอบ เมื่อกองทัพนำโดยบิ๊กตู่ประกาศยึดอำนาจรัฐ เข้าควบคุมรักษาความสงบ กวาดเก็บแกนนำเสื้อแดงบนถนนอักษะ หมดโอกาสได้ฮึดสู้ เหมือนปลาถูกล่อเข้าบ่อแล้ววิดน้ำจนแห้ง ติดปลักโคลนดิ้นกระแด่วๆ

กองทัพได้ฟังเสียงโห่ร้องของมวลชนชาวประชาอีกรอบ รอประกาศเป็นระยะๆ รวมทั้งการห้ามออกนอกเคหะสถานตั้งแต่เวลา 4 ทุ่มจนถึงตี 5 เพื่อป้องกันไม่ให้ใครป่วนเมือง โดยเฉพาะขบวนการขี้ข้าบักเหลี่ยมซึ่งคงคิดหาทางขัดขืนด้วยกองกำลังติดอาวุธ

นี่เป็นผลของการทนฟังเสียงร่ำร้องของประชาชนคนรักชาติให้ออกมาช่วยแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเกือบตลอดระยะเวลาที่กุมตำแหน่งแม่ทัพบก จนไกล้เกษียณอายุอยู่รอมร่อ ท่านบิ๊กตู่นักคำรามตัดสินใจสวมวิญญาณนักสู้ผู้กล้าประกาศศักดาเต็มบ้อง

ประกาศยึดอำนาจด้วยการตั้งศูนย์รักษาความสงบแห่งชาติ มีผลตั้งแต่ 16.00 น. วันที่ 22 พฤษภาคม ก่อนเดินหน้าจัดการประเทศตามแผนต่อไป มีแผนแล้วหรือไม่ เดี๋ยวก็รู้ แกนนำการเมืองทุกกลุ่มที่เข้าร่วมประชุมถูกกักตัวไว้ในเซฟเฮ้าส์ แยกบางส่วนออก

ชะตากรรมของพวกฮาร์ดคอร์เสื้อแดง ขี้ข้าบักเหลี่ยมตัวแสบทั้งหลาย พวกคางคกตกวอ จะเป็นอย่างไร น่าจะเป็นประเด็นให้ติดตาม เพราะก่อนหน้านี้ทำตัวเก่งฉกาจเหลือหลาย นึกว่าจะครองอำนาจอยู่ค้ำฟ้า เหยียบหัวประชาชน โกงบ้านกินเมืองหนัก

พวก ครม. ที่ยืนยันว่าไม่ลาออก ทำตัวเป็นตะเข้ขวางคลอง ป่านนี้คงนั่งสั่น เดาไม่ถูกว่าจะเกิดอะไร พวกที่หลบหนีออกนอกประเทศไปก่อน คงโล่งใจ แต่ดูแล้วพวกตัวแสบ เช่นไอ้ปึ้ง บักเหลิม บักทารีด และหัวโจกเสื้อแดงยังอยู่ครบ รวมทั้งบักเต้น บิ๊กคางคก

หลวมตัวเข้าไปประชุม ทำท่ากร่าง จะเอาโน่นเอานี่ ตอนนี้ขอให้ชีวิตรอด เป็นอิสระก็พอแล้ว สงสัยว่าจะต้องเป็นแขกไม่น่าเชิญของศูนย์รักษาความสงบแห่งชาติอีกนานจนกว่าจะเผชิญคดีความต่างๆ ให้สมฐานะกับการเป็นขี้ข้าบักเหลี่ยมสร้างเวรกรรม

การยึดอำนาจครั้งนี้วางแผนไว้ได้เนียน เป็นขั้นตอน ประกบตัวเป้งๆ ของเสื้อแดงไว้หมด โดยเฉพาะพวกที่ติดกับอยู่ในบริเวณถนนอักษะ ไม่ทันได้กระดิกตัวไปไหน เท่ากับว่าทหารทอดแหครั้งเดียวได้ทั้งปลาตัวใหญ่ ตัวน้อย แทบไม่หลุดไปได้

เริ่มต้นชิมลางด้วยการใช้อำนาจกฎอัยการศึกควบคุมทั้งประเทศ ด้วยมาดยิ่งใหญ่กว่าใครภายไต้ฟ้าเมืองไทย ก่อนยกระดับสู่การแอ่นแอ๊นท์ ย้ำให้เห็นว่าการรัฐประหารไม่ได้เป็นความล้าสมัยเหมือนพวกโลกสวย เพ้อฝัน และขี้ข้าบักเหลี่ยมเอาไว้คุยข่ม

จากปฏิบัติการสายฟ้าแลบเช้ามืดวันที่ 20 บิ๊กตู่สั่งทหารนักรบกระจายกำลังเข้าควบคุมพื้นที่สำคัญในเมืองหลวง ปราศจากการขัดขืนจากกลุ่มพลังใด สร้างความประหลาดใจให้ทุกฝ่ายแม้ได้คาดการณ์ไว้แล้วว่าปรากฎการณ์แอ่นแอ๊นท์ต้องเกิดไม่ช้าก็เร็ว แต่ไม่คิดว่าเร็วขนาดนี้ มีเพียงพวกนกรู้จมูกมดไม่กี่ตัวในรัฐบาลที่ได้กลิ่น

รู้ก็จริง แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะรัฐบาลแม่นางปูโพรกเน่าในเหลือแต่กระดอง เนื้อปูเน่าโดนศาลรัฐธรรมนูญแคะทิ้งไปก่อนหน้านี้หลังจากส่งกลิ่นเน่าเหม็นคลุ้งมานาน 2 ปี 9 เดือน 2 วันทำเอาชาวบ้านเกือบสติแตกทั้งแผ่นดิน เศรษฐกิจเกือบล่มจมชาวนาหลายแสนคนนั่งรอเงินจำนำข้าว หลายรายต้องฆ่าตัวตาย แต่รัฐบาลยังอึดด้านทนชะมัดยาด

ปปช. เงื้อง่าราคาแพงด้วยลีลาท่าเยอะ ตัดสินใจเปิดต่อมความกล้า ชี้มูลแม่นางปูโพรกว่ามีพฤติกรรมทุจริต ทำให้นางต้องกลับบ้านไปบี้สิวแก่ มีเวลาทำสปาฟื้นฟูรูปโฉม แต่ยังเหลือกระดองไว้เป็นอุปสรรคการแก้ปัญหาทางการเมือง หลังจากกลุ่มไม่เอาระบอบทักษิณชุมนุมยาวนานกว่า 6 เดือน ไร้ทางออก เสี่ยงต่อการบาดเจ็บล้มตาย

ปปช. ยังไม่สรุปว่าจะจัดการอย่างไรในประเด็นคดีอาญา เพียงแต่บอกว่าจะสอบสวนหลักฐานจนกว่าจะสิ้นกระแสความ แต่ชาวบ้านกลัวว่าจะหมดอายุความมากกว่า เพราะได้เห็นลวดลายหลายเรื่องที่ทำให้มหาโจรรอดคุกอย่างน่าอัศจรรย์

เมื่อประกาศกฎอัยการศึก ย่อมเป็นภาระอันใหญ่หลวงของบิ๊กตู่ หาทางออกให้บ้านเมือง ประเด็นสำคัญคือ ทำอย่างไรที่จะกำจัดกระดองปูให้พ้นทาง จะได้มีนายกฯ คนใหม่ โดยให้วุฒิสภาลงคะแนนจัดหาผู้นำรัฐบาลเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไป

แต่ทุกอย่างที่หวังไว้ไม่ง่าย แม้ช่วงแรกๆ จะส่งเสียงล้งเล้งตามแบบที่ตัวเองถนัด นอกจากส่งทหารไปจัดการแหล่งซุกซ่อนอาวุธและควบคุมตัวขาใหญ่เสื้อแดงตัวซ่าตามต่างจังหวัด ยังเรียกผู้เกี่ยวข้องเช่นนักการเมือง แกนนำผู้ชุมนุม กกต. ไปฟังข้อเรียกร้อง

ฟังแล้วแต่ละกลุ่มก็ว่าไปตามที่ตัวเองเรียกร้อง หาทางออกไม่ได้ ต้องตะล่อมดูซิว่าใครเสียงแข็ง ยึดมั่นในความต้องการของตัวเอง และใครเห็นแก่ชาติบ้านเมือง

กระดองปูนำโดยบุรุษผมขาวมาดนุ่มยืนยันหนักแน่นว่า “ไม่ลาออกเด็ดขาด” อ้างว่าผิดกฎหมาย ออกมาลายนี้คงบอกว่าชาตินี้คงตายไม่ได้เช่นกัน ต่อให้โลกแตก ก็ออกไม่ได้ ความรักชาติแน่นหัวอก เมื่อลวดลายเช่นนี้ย่อมมียาแก้โรคดื้อด้านได้ชะงัด

นั่นคือการตัดสินใจแอ่นแอ๊นท์นั่นเอง ซึ่งการประชุมเพื่อการเจรจากับทุกกลุ่มเป็นเพียงพิธีกรรมประกอบหลักการและเหตุผลเพื่อแอ่นแอ๊นท์ ให้สังคมเห็นว่าพวกนักการเมือง เอาแต่ได้ เรียกร้องเพื่อผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม ไม่เห็นแก่บ้านเมือง

น่าจะรู้ว่าการประกาศกฎอัยการศึกครั้งนี้มีความพิสดารและเข้มข้นด้วยคำสั่งห้ามตำรวจเมืองถืออาวุธสงคราม ป้องกันไม่ให้ปืนลั่นโดยไม่จำเป็น ดูสภาพแล้วไม่ต่างจากการรัฐประหาร เพียงแต่ไม่มียานพาหนะบางอย่างเช่นรถถัง มาวิ่งให้เห็นเท่านั้น

วันที่ 2 ของการประชุมหาทางออก บิ๊กตู่มามาดนุ่มกว่าเดิม กล่าวคำขออภัยในความไม่สะดวก ทำเอาชาวบ้านสงสัยว่าผลสุดท้ายของลำไม้ไผ่จะเป็นบ้องกัญชาหรือไม่ ซ้ำรอยรุ่นพี่ “บิ๊กบังเละ” ผู้ล้มเหลวเป๋ว สร้างปรากฎการณ์หน่อมแน้มเยี่ยวไม่สุด

เป็นลับลวงพรางชัดๆ บิ๊กตู่ผู้กล้าให้ทุกฝ่ายแสดงจุดยืนแบบเอาแต่ใจให้เห็นชัด จากนั้นคำรามว่าผมตามใจใครไม่ได้ ผมต้องรับผิดชอบ ขออภัยในความไม่สะดวกอีกรอบ ยกระดับให้เป็นแอ่นแอ๊นท์เต็มบ้องให้สะเด็ดน้ำเพื่อปิดเกม

จากนี้ไปต้องรอดูปฏิกิริยาของพวกชาติมหาอำนาจซึ่งมองว่าไทยเป็นลูกไล่ จะคว่ำบาตร ไม่คบหาสมาคม วันก่อนสหภาพยุโรป สหรัฐ ยูเอ็น ส่งเสียงเตือนแนวเสือกว่าอย่ารัฐประหาร ให้เลือกตั้ง ไอ้กันกำหนดวันที่ 3 สิงหาคมไว้ซะด้วย นึกว่าเราเป็นขี้ข้ามัน

ต้องให้รัฐบาลไทยคณะใหม่ประกาศ “กูไม่กลัวมึง อยากคว่ำบาตรก็เชิญ ไม่ชอบใจ ไสหัวออกไปจากแผ่นดินไทย” รวมทั้งพวกบริษัทน้ำมัน และพวกสูบทรัพยากรธรรมชาติด้วย ขอให้แน่เหมือนหมากินขี้ก็แล้วกัน

นอกจากสหรัฐ ยุโรปตะวันตก ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฝรั่งขาว และญี่ปุ่น เราขอดูว่าใครเข้าใจประเทศไทย เช่นรัสเซีย จีน อินเดีย อาเซียน และกลุ่มประเทศอื่นๆ เป็นการทดสอบว่าใครเป็นมิตรแท้ มิตรแค่ลมปากเหมือนไอ้กันที่คุยโม้แต่จ้องฮุบสมบัติของเรา

ดูว่าบักเหลี่ยมจะกล้าประกาศตั้งรัฐบาลพลัดพราก พลัดที่อยู่หรือไม่ ถ้าครอบครัว สมาชิกตระกูลชั่วยังอยู่ จะกลายเป็นเงื่อนไขไม่ให้บักเหลี่ยมเอาโลกล้อมประเทศไทยได้

ใครจะรับรองรัฐบาลเถื่อน ตั้งโดยคนหนีคุก? ถ้ายังไม่หายซ่า ทางแก้คือยึดทรัพย์สินโคตรเหง้าของพวกตระกูลเครือข่ายบักเหลี่ยม จับยัดคุกให้หมดในฐานะภัยความมั่นคงของแผ่นดิน

คราวนี้โปรดจัดการให้สะเด็ดน้ำ อย่าตีงูให้หลังหัก!!