พรรคของ “บิ๊กป้อม”?

ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ถ้าจะมีใครสักคนที่ต้องยกมือคารวะในยุคนี้ พ.ศ.นี้ ในเรื่องของ “ความยิ่งใหญ่” ก็เห็นทีจะหนีไม่พ้นบุรุษชาติทหารที่ชื่อ “บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มิใช่ “บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)

ดังนั้น จงอย่าแปลกใจที่เวลานี้มีกระแสข่าวหนาหูเข้ามาให้ได้ยินเกี่ยวกับการตั้ง “พรรคการเมือง”

ทว่า ไม่ใช่การสืบทอดอำนาจของ คสช. โดยเฉพาะหัวหน้า คสช.ที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หากแต่คือการตั้งพรรคการเมืองหลังหมดเวลาของ พล.อ.ประยุทธ์และมีการประกาศเลือกตั้งใหม่

ถามว่า พล.อ.ประวิตรมีความคิดที่จะตั้งพรรคการเมืองเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่

ตอบว่า ไม่ทราบได้

ถามว่า ผิดหรือไม่ที่ พล.อ.ประวิตรคิดจะตั้งพรรคการเมือง

ตอบว่า ไม่ผิด เพราะนั่นเป็นไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข

และถ้าจะต่อจิ๊กซอว์แห่งอำนาจก็ต้องไปตรวจสอบรายชื่อของ “สปช.” และ “สนช.” ว่า สามารถโยงใยไปเชื่อมสัมพันธ์กับใครได้บ้าง

คนแรกที่มิอาจเอ่ยถึงได้เลยก็คือ “นายชัย ชิดชอบ” ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจาก คสช.ให้เป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติด้านการเมือง

หลายคนอาจเห็นว่า “ปู่ชัย” ผ่านร้อนผ่านหนาวทางการเมืองมามาก สมควรที่จะใช้ประสบการณ์มาช่วยในการทำให้การเมืองไทยดีขึ้นกว่าที่แล้วๆ มา

แต่นั่นน่าจะมิใช่เหตุผลที่แท้จริง

ต้องไม่ลืมว่า “ชัย ชิดชอบ” คือพ่อของ “นายเนวิน ชิดชอบ” ผู้มากบารมีแห่งพรรคภูมิใจไทยที่มี “เสี่ยหนู-นายอนุทิน ชาญวีรกูล” เป็นหัวหน้าพรรค และเชื่อมต่อไปยัง “นายวิชัย รักศรีอักษร” ซึ่งเปลี่ยนมาใช้นามสกุลใหม่ว่า “ศรีรัตนประภา” เจ้าของคิงพาวเวอร์ และเจ้าของสโมสรสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้แห่งพรีเมียร์ลีก ประเทศอังกฤษ ผู้ร่ำรวยด้วยทรัพย์ศฤงคารอีกต่างหาก และแนบแน่นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเสี่ยเน-เสี่ยหนู

ตามต่อด้วย “นางพรรณี จารุสมบัติ” อดีตสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งเป็นน้องสาวของ “นายพินิจ จารุสมบัติ” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และรองนายกรัฐมนตรี อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และปัจจุบันเป็นแกนนำพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน

ขณะที่แขนขาทางการเมืองของ พล.อ.ประวิตรไม่ได้มีแค่พรรคภูมิใจไทยเท่านั้น หากยังเชื่อมโยงไปถึงตัวละครทางการเมืองที่เคยโดดเด่นในอดีตจนได้รับการคาดหมายว่ามีสิทธิที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของไทยอย่าง “นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ” ผู้มีบารมีแห่งพรรคชาติพัฒนาด้วย

อย่างไรก็ตาม ถ้าหากจะตั้งพรรคจริง ปัญหาใหญ่ในเส้นทางการเมืองของ พล.อ.ประวิตรที่ไม่อาจมองข้ามได้ก็คือ “พรรคประชาธิปัตย์” และ “หลวงลุงกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ” เพราะต้องไม่ลืมว่า ฐานคะแนนเสียงของ พรรคการเมืองที่จะเกิดขึ้นใหม่หลังยุค พล.อ.ประยุทธ์เป็นฐานคะแนนเสียงเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีมวลชนทับซ้อนกันอยู่คือ มวลชนของ กปปส.

ดังนั้น จงอย่าแปลกใจที่ในรายชื่อของสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติด้านพลังงานที่ปรากฏชื่อ “นายอลงกรณ์ พลบุตร” อดีต ส.ส.จังหวัดเพชรบุรีและอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้รับคัดเลือกเข้าไปเป็น สปช.ด้วย ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอะไร เพราะในระยะหลังความสัมพันธ์ของนายอลงกรณ์กับพรรคประชาธิปัตย์และนายอภิสิทธิ์เริ่มมีระยะห่างระหว่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ

แต่จะอย่างไรก็ตาม สุดท้ายคงต้องเฝ้าจับตามองกันต่อไปว่า สมมติฐานและจิ๊กซอว์ที่เริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างนั้นจะกลายเป็นความจริงหรือไม่ และเป็นไปในรูปลักษณ์ใด

ไปที่เรื่องอื่นๆ กันบ้าง เริ่มจาก นายนพดล ผิวเกลี้ยง ผู้จัดการทั่วไปสายพัฒนาองค์กร บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) รับรางวัลสุดยอดส้วมแห่งปี 2557 ของกรุงเทพมหานคร ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานส้วมสาธารณะระดับประเทศ HAS ส้วมดี มีมาตรฐาน ถึง 4 สาขาด้วยกัน ได้แก่ โฮมโปร สาขาเอกมัย-รามอินทรา, สาขาพระราม2, สาขาเพชรเกษม และสาขารามคำแหง โดยมี พญ.วันทนีย์ วัฒนะ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร เป็นผู้มอบ ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร

ด้านหอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน ชวนรื่นเริงบันเทิงศิลป์ เต็มอิ่มกับ “หมอลำ”แบบครบรส ในนิทรรศการ “แคนล่อง คะนองลำ” (Joyful Khaen, Joyful Dance)ซึ่งนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ “หมอลำ” หนึ่งในอัตลักษณ์อันทรงคุณค่าทางวัฒนธรรมของอีสาน จัดแสดงระหว่างวันที่18 ตุลาคม 2557 - 31 มีนาคม 2558 ณ หอศิลป์ บ้านจิม ทอมป์สัน

ตามตามต่อด้วย บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) โดย นายณัฐวุฒิ ตรีวิศวเวทย์ ผู้จัดการสำนักกรรมการผู้จัดการใหญ่และเลขานุการบริษัท นำทีมคณะนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆเข้าเยี่ยมชมและศึกษาดูงานโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย สัญญาที่ 2 ช่วงสนามไชย - ท่าพระ ดำเนินการก่อสร้างโดยบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน)พร้อมเข้ารับฟังบรรยายสรุปความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการฯ เมื่อเร็วๆนี้

และปิดท้ายกับ ธรรมรัตน์ โชควัฒนา (กลาง) กรรมการผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท ไอ.ซี.ซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และกรรมการ บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) มอบเงินบริจาคจาก “โครงการวาโก้โบว์ชมพู...สู้มะเร็งเต้านม” จำนวน 1,000,000 บาท แด่มูลนิธิสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เพื่อกิจกรรมต้านภัยมะเร็งเต้านมและแมมโมแกรมการกุศลแด่ผู้ด้อยโอกาส ในเดือนต้านภัยมะเร็งเต้านมสากล โดยมี นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ (ที่ 3 จากขวา) ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เป็นผู้รับมอบ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ และผู้บริหารจากผลิตภัณฑ์วาโก้ร่วมเป็นเกียรติ ณ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ

พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ...
ลุงอ้วน
managerweekend@yahoo.com

คอลัมน์// หนังสือน่าอ่าน

ออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน

ท่ามกลางการแข่งขันที่สูงขึ้นทุกวัน เงินขั้นต่ำต่อวัน 300 บาทรวมถึงเงินเดือน 15,000 บาทดูจะเป็นภาวะที่คิดไม่ตกว่าชีวิตของมนุษย์เงินเดือนจะมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนอกเสียจากจะมีแค่ “สมาร์ทโฟน” ที่นิยมซื้อกัน

เพราะหลายคนหวังมากกว่านั้น

มนุษย์เงินเดือนที่วาดฝันปรารถนาจะมีบ้าน มีรถ แต่ขัดสนเงินไม่พอใช้ ใกล้สิ้นเดือนทีก็เหมือนสิ้นใจ ก็ได้แต่ปล่อยให้ความฝันหลุดลอยไปอย่างน่าเสียดาย

หนังสือออมจากน้อยเป็นร้อยล้าน เขียนโดย กิติชัย เตชะงามเลิศ เป็นหนังสือที่แทบไม่น่าเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อว่า รายได้เดือนละ 15,000บาท ก็สามารถเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมสุดหรูย่านสุขุมวิทมูลค่ากว่า 1ล้านบาทได้

ผู้เขียนยังได้เผยเคล็ดลับที่อ่านแล้วต้องทึ่ง เพราะสามารถทำได้จริงๆ อีกทั้งความฝันของมนุษย์เงินเดือนที่ออมเงินเพียงเดือนละหลักพันก็เป็นเศรษฐี 100 ล้านก่อนอายุ 50 ปีได้ พร้อมทั้งยังสอนการลงทุนอันชาญฉลาดรวยอย่างมั่นคงด้วยหุ้น และอสังหาริมทรัพย์ เช่นซื้อบ้านหรือคอนโดเพื่อขาย เก็งกำไร หรือปล่อยเช่า หรือจะเป็นการออมด้วยการลงทุนในหุ้น ออมด้วยประกันชีวิต ออมพร้อมการลงทุนที่ผู้เขียนแนะนำให้นำเงินออมไปซื้อกองทุนรวม ตราสารหนี้ระยะสั้น ที่มันให้ผลตอบแทนมากกว่าฝากเงินธนาคาร วิธีแนะนำการผ่อนบ้านที่เป็นการออมเงินอีกวิธีหนึ่ง รวมถึงควรซื้อบ้านที่ไหนดีก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

นอกจากนั้น หนังสือเล่มนี้ยังมีตารางวิธีการออม และวิธีการคำนวณการลงทุนที่ละเอียดยิบ และที่สำคัญผู้เขียนยังเป็นนักลงทุนมืออาชีพ และเป็นเจ้าของผลงาน Bestseller จาก1ล้านเป็น 500 ผมทำอย่างไร? น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

อยากเป็นมหาเศรษฐีสไตล์นักลงทุนสองขา อ่านหนังสือเล่มนี้จบ คุณก็สามารถรวยได้จากการออมเฉกเช่นเดียวกับผู้เขียน

ว่าแล้วก็ลองหาซื้ออ่านกันดู รับรองว่าเป็นหนังสือดีอีกหนึ่งเล่มที่อยากแนะนำ

แสงเพ็ง