โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
หลังจากเผชิญกับสภาวะลุ่มๆ ดอนๆ มาหลายปี ผู้ถือหุ้นทะเลาะเบาะแว้ง แตกแยกเป็นก๊กเป็นเหล่า ต่างมุ่งหาผลประโยชน์ กอบโกยแบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา บริษัทสารขัณฑ์ จำกัด เพิ่งเปลี่ยนแปลงคณะผู้บริหารโดยการยึดกุมอำนาจแบบเป็นปฏิปักษ์ หรือฝรั่งเรียกว่า hostile takeover นั่นเอง
กลุ่มผู้บริหารชุดใหม่มีพลังมากเกินกว่ากลุ่มใดจะต้าน ฉีกบริคณฑ์สนธิฉบับปี 2550 ทิ้งถังขยะ ประกาศว่าจะเข้ามาจัดการระเบียบ วางกฎเกณฑ์ใหม่ ภายไต้ความคุ้มครองของ รปภ. เข้มงวด พนักงาน ผู้ถือหุ้นถูกคุมเข้มห้ามโวย
ห้ามจัดกลุ่มซุบซิบ ชุมนุม ประท้วงคณะผู้บริหารใหม่ จะชอบขี้หน้าหรือไม่ก็ตาม เพราะประธานบริษัทคนใหม่ประกาศว่าผู้ถือหุ้นทุกรายต้องเข้าสู่สภาวะปรองดองสมานฉันท์ ลืมความหลัง ห้ามพูดถึงอดีต ฟื้นฝอยหาตะเข็บ
ต้องให้ความไว้วางใจซีอีโอคนใหม่เต็มที่ จะนำพาบริษัทให้เข้าสู่สังคมการแข่งขันยุคดิจิตัล เพื่อพร้อมอยู่ร่วมกับประชาคมเออีซี จะมีคนหลากหลายเชื้อชาติเข้ามาแสวงหาโอกาสธุรกิจ โกยความมั่งคั่งทรัพย์สินบริษัทตามใจชอบ
ชาวสารขัณฑ์จมอยู่ในห้วงทุกข์สุขสลับกันไป คณะผู้บริหารเปลี่ยนหน้ากันเข้ามาตามความเห็นชอบของผู้ถือหุ้นซึ่งใช้วิธีเลือกตั้งในคูหา กาเบอร์ แต่ผู้บริหารไม่สามารถป้องกันการซื้อสิทธิขายเสียงของผู้ถือหุ้นหิวเงิน มักง่ายได้
บางครั้งเกิดความขัดแย้งรุนแรง ผู้ถือหุ้นแบ่งเป็นก๊วนก๊ก ชุมนุมขับไล่ผู้บริหารที่ฝ่ายตัวเองไม่ชอบ กลุ่มนิยมความรุนแรงใช้อาวุธสงครามไล่ฆ่าฟันโดยมี รปภ. ชุดสีกากีเป็นตัวช่วยอย่างเปิดเผย ใส่ร้ายป้ายสีอย่างไร้ยางอาย
ยุควิกฤตของบริษัทเริ่มเมื่อมิสเตอร์เหลี่ยม นักธุรกิจอินเตอร์ผู้มั่งคั่งจากกิจการผูกขาดสัมปทานค้าคลื่นอากาศเข้ามากุมอำนาจหลังจากใช้เวลา 10 ปี เอาเปรียบผู้บริโภคสร้างขุมทรัพย์หลายหมื่นล้านบาท ทำเอาบริษัทเกือบเจ๊ง
มิสเตอร์เหลี่ยมเป็นนักธุรกิจการเมืองโดยแท้ สายเลือดมาจากการค้าในภาคเหนือ ช่วงแรกล้มลุกคลุกคลานมีหนี้สินล้นพ้นตัว พกเช็คเด้งเป็นปึก ทั้งของลูกค้าและของตัวเอง เป็นแรงกดดันทำให้มิสเตอร์เหลี่ยมมุ่งรวยอย่างเดียว
ยุคมิสเตอร์เหลี่ยมและตัวแทน บ้านเมืองแทบลุกเป็นไฟ เพราะมิสเตอร์เหลี่ยมใช้อำนาจบริหาร และอำนาจเงินสร้างเครือข่ายหวังสืบทอดอำนาจอยู่ยาวนานถึง 20 ปี แต่โชคชะตาของบริษัทสารขัณฑ์ไม่เลวร้ายเกินไปนัก
มีผู้ถือหุ้นรวมตัวขับไล่โดย รปภ. ชุดเขียวเข้าร่วมด้วยและ รปภ.ชุดสีกากีไม่มีพลังขัดขวาง ทำให้มิสเตอร์เหลี่ยมต้องยอมพ้นจากอำนาจไปด้วยความช้ำใจ แต่บริษัทสูญเสียทรัพย์สินไปหลายแสนล้านบาท โดยเฉพาะในยุคมาดามปู้ ซึ่งตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน จำใจต้องยอมให้ รปภ. ชุดเขียวยึดอำนาจด้วย
ตัดตอนมาถึงยุคปัจจุบัน ซีอีโอคนใหม่เป็นหัวหน้า รปภ. ชุดเขียว มาดกร้าวแกร่ง เข้ม ส่งเสียงคำรามสะท้านบริษัท ผู้ถือหุ้นทุกกลุ่มยอมจำใจศิโรราบ ให้ท่านซีอีโอจัดการฟื้นฟูบริษัทอย่างเต็มที่ ไม่ยอมเสี่ยงอันตรายจากการขัดใจ
ช่วงแรก ผู้ถือหุ้นกลุ่มมองโลกสวย และกลุ่มบอบซ้ำจากการชุมนุมขับไล่ คณะผู้บริหารนำโดยมาดามปู้ เชื่อมั่นว่าซีอีโอคนใหม่เป็นผู้อาสากอบกู้กิจการของบริษัท ประกาศลั่นว่าจะไม่ยอมให้หน้าไหนเข้ามาโกงกินบริษัทอีกต่อไป
จากนั้นซีอีโอประกาศแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาชุดแรก ทำเอาผู้ถือหุ้นแทบชักตาตั้ง ร้องไอ้ย่าพวกอั๊วหนีจระเข้ปะเสือนี่หว่า มีกลุ่มเสือหิวจากดินแดนตะวันออกด้วย ท่าทางหิวโซ กระเหี้ยนกระหือรือ เมื่อเห็นอาหารโอชะรออยู่
กลุ่มเสือหิวแดนตะวันออกและพวกร่วมเสี่ยงภัยในการยึดกิจการบริษัทสารขัณฑ์ วางท่าน่าเลื่อมใส ทำเอาชาวบ้านเคลิ้ม เว้นแต่พวกรู้ทันแสดงออกถึงความไม่เชื่อน้ำหน้า เห็นมาหลายยุคแล้วว่ากลุ่มรักชาติล้วนน้ำลายไหลยืด
และเชื่อด้วยว่า “ความรักชาติมักเป็นข้ออ้างสุดท้ายของคนโกง” เสมอ!
ผู้ถือหุ้นพยายามทำใจ หวังอยู่ว่าเสือหิวกลุ่มใหม่น่าจะมีความละอาย เห็นตัวอย่างความหายนะจากความโลภ กินคำโต กินบ้าง แต่อย่าให้บริษัทเจ๊ง มีเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นบ้างก็ยังดี ที่ยอมเพราะไม่รู้ว่าจะสู้รบตบมือได้อย่างไร
ซีอีโอและคณะกรรมการบริหารได้ย้ำพูดให้ผู้ถือหุ้นว่ามีแผน 3 ขั้นตอนสำหรับฟื้นฟูบริษัท คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 1 ปี ก่อนเปิดทางให้ผู้ถือหุ้นเลือกคณะผู้บริหารชุดใหม่ ช่วงแรก ซีอีโอบริหารบริษัทด้วยความคึกคัก เชื่อมั่นสุดๆ
พอย่างเข้าเดือนที่ 2 เท่านั้น เสือหิวจากแดนตะวันออกเริ่มออกลายชัด เพราะไม่ยอมจัดการเอาผิดคณะผู้บริหารชุดก่อน รวมทั้งปล่อยให้มิสเตอร์เหลี่ยมมีเสรีภาพเต็มร้อย ไม่ทวงถามหาทรัพย์สิน หรือจับตัวมาดำเนินคดี
มาดามปู้ยังเอ้อระเหย ท่องเที่ยวต่างแดนด้วยอิสระเสรี ไม่กังวลใดๆ
คำมั่นสัญญาต่างๆ จากปากของซีอีโอ เริ่มถูกมองว่าเป็นการคุยโว โม้น้ำลายแตกฟองเพื่อให้ผู้ถือหุ้นมองโลกสวย ขณะที่แต่งตั้งพรรคพวกให้นั่งในตำแหน่งต่างๆ เพื่อรับผลประโยชน์ สร้างฐานอำนาจการบริหารอย่างต่อเนื่อง
ปัญหาหลักยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยผู้ถือหุ้นได้ฟังแต่คำชักชวนให้ปรองดอง ไม่แยกแยะผิดถูก กลุ่มตัวร้ายในผู้ถือหุ้นยุคมิสเตอร์เหลี่ยมได้แปรสภาพเป็นคลื่นไต้น้ำ ก่อกวนงานของบริษัท ผู้ถือหุ้นคนดีเริ่มไม่ไว้วางใจซีอีโอ
ดูสภาพแล้วซีอีโอคล้ายหมดลูกเล่น เสียงดังฟังชัดน่าเกรงขามเป็นเพียงการกลบเกลื่อนอาการปากกล้าขาสั่น มีเพียงกฎเหล็กคุ้มครองได้อีกระยะหนึ่ง ผู้ถือหุ้นเริ่มเบื่อหน่ายคำสัญญาลมๆ แล้งๆ ราคาตั๋วเสี่ยงโชคยังขายเกินราคา
ล่าสุด ผู้ถือหุ้นเริ่มคิดว่าจะทนอยู่กับความน่าเบื่อได้อีกนานหรือไม่...
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์
หลังจากเผชิญกับสภาวะลุ่มๆ ดอนๆ มาหลายปี ผู้ถือหุ้นทะเลาะเบาะแว้ง แตกแยกเป็นก๊กเป็นเหล่า ต่างมุ่งหาผลประโยชน์ กอบโกยแบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา บริษัทสารขัณฑ์ จำกัด เพิ่งเปลี่ยนแปลงคณะผู้บริหารโดยการยึดกุมอำนาจแบบเป็นปฏิปักษ์ หรือฝรั่งเรียกว่า hostile takeover นั่นเอง
กลุ่มผู้บริหารชุดใหม่มีพลังมากเกินกว่ากลุ่มใดจะต้าน ฉีกบริคณฑ์สนธิฉบับปี 2550 ทิ้งถังขยะ ประกาศว่าจะเข้ามาจัดการระเบียบ วางกฎเกณฑ์ใหม่ ภายไต้ความคุ้มครองของ รปภ. เข้มงวด พนักงาน ผู้ถือหุ้นถูกคุมเข้มห้ามโวย
ห้ามจัดกลุ่มซุบซิบ ชุมนุม ประท้วงคณะผู้บริหารใหม่ จะชอบขี้หน้าหรือไม่ก็ตาม เพราะประธานบริษัทคนใหม่ประกาศว่าผู้ถือหุ้นทุกรายต้องเข้าสู่สภาวะปรองดองสมานฉันท์ ลืมความหลัง ห้ามพูดถึงอดีต ฟื้นฝอยหาตะเข็บ
ต้องให้ความไว้วางใจซีอีโอคนใหม่เต็มที่ จะนำพาบริษัทให้เข้าสู่สังคมการแข่งขันยุคดิจิตัล เพื่อพร้อมอยู่ร่วมกับประชาคมเออีซี จะมีคนหลากหลายเชื้อชาติเข้ามาแสวงหาโอกาสธุรกิจ โกยความมั่งคั่งทรัพย์สินบริษัทตามใจชอบ
ชาวสารขัณฑ์จมอยู่ในห้วงทุกข์สุขสลับกันไป คณะผู้บริหารเปลี่ยนหน้ากันเข้ามาตามความเห็นชอบของผู้ถือหุ้นซึ่งใช้วิธีเลือกตั้งในคูหา กาเบอร์ แต่ผู้บริหารไม่สามารถป้องกันการซื้อสิทธิขายเสียงของผู้ถือหุ้นหิวเงิน มักง่ายได้
บางครั้งเกิดความขัดแย้งรุนแรง ผู้ถือหุ้นแบ่งเป็นก๊วนก๊ก ชุมนุมขับไล่ผู้บริหารที่ฝ่ายตัวเองไม่ชอบ กลุ่มนิยมความรุนแรงใช้อาวุธสงครามไล่ฆ่าฟันโดยมี รปภ. ชุดสีกากีเป็นตัวช่วยอย่างเปิดเผย ใส่ร้ายป้ายสีอย่างไร้ยางอาย
ยุควิกฤตของบริษัทเริ่มเมื่อมิสเตอร์เหลี่ยม นักธุรกิจอินเตอร์ผู้มั่งคั่งจากกิจการผูกขาดสัมปทานค้าคลื่นอากาศเข้ามากุมอำนาจหลังจากใช้เวลา 10 ปี เอาเปรียบผู้บริโภคสร้างขุมทรัพย์หลายหมื่นล้านบาท ทำเอาบริษัทเกือบเจ๊ง
มิสเตอร์เหลี่ยมเป็นนักธุรกิจการเมืองโดยแท้ สายเลือดมาจากการค้าในภาคเหนือ ช่วงแรกล้มลุกคลุกคลานมีหนี้สินล้นพ้นตัว พกเช็คเด้งเป็นปึก ทั้งของลูกค้าและของตัวเอง เป็นแรงกดดันทำให้มิสเตอร์เหลี่ยมมุ่งรวยอย่างเดียว
ยุคมิสเตอร์เหลี่ยมและตัวแทน บ้านเมืองแทบลุกเป็นไฟ เพราะมิสเตอร์เหลี่ยมใช้อำนาจบริหาร และอำนาจเงินสร้างเครือข่ายหวังสืบทอดอำนาจอยู่ยาวนานถึง 20 ปี แต่โชคชะตาของบริษัทสารขัณฑ์ไม่เลวร้ายเกินไปนัก
มีผู้ถือหุ้นรวมตัวขับไล่โดย รปภ. ชุดเขียวเข้าร่วมด้วยและ รปภ.ชุดสีกากีไม่มีพลังขัดขวาง ทำให้มิสเตอร์เหลี่ยมต้องยอมพ้นจากอำนาจไปด้วยความช้ำใจ แต่บริษัทสูญเสียทรัพย์สินไปหลายแสนล้านบาท โดยเฉพาะในยุคมาดามปู้ ซึ่งตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน จำใจต้องยอมให้ รปภ. ชุดเขียวยึดอำนาจด้วย
ตัดตอนมาถึงยุคปัจจุบัน ซีอีโอคนใหม่เป็นหัวหน้า รปภ. ชุดเขียว มาดกร้าวแกร่ง เข้ม ส่งเสียงคำรามสะท้านบริษัท ผู้ถือหุ้นทุกกลุ่มยอมจำใจศิโรราบ ให้ท่านซีอีโอจัดการฟื้นฟูบริษัทอย่างเต็มที่ ไม่ยอมเสี่ยงอันตรายจากการขัดใจ
ช่วงแรก ผู้ถือหุ้นกลุ่มมองโลกสวย และกลุ่มบอบซ้ำจากการชุมนุมขับไล่ คณะผู้บริหารนำโดยมาดามปู้ เชื่อมั่นว่าซีอีโอคนใหม่เป็นผู้อาสากอบกู้กิจการของบริษัท ประกาศลั่นว่าจะไม่ยอมให้หน้าไหนเข้ามาโกงกินบริษัทอีกต่อไป
จากนั้นซีอีโอประกาศแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาชุดแรก ทำเอาผู้ถือหุ้นแทบชักตาตั้ง ร้องไอ้ย่าพวกอั๊วหนีจระเข้ปะเสือนี่หว่า มีกลุ่มเสือหิวจากดินแดนตะวันออกด้วย ท่าทางหิวโซ กระเหี้ยนกระหือรือ เมื่อเห็นอาหารโอชะรออยู่
กลุ่มเสือหิวแดนตะวันออกและพวกร่วมเสี่ยงภัยในการยึดกิจการบริษัทสารขัณฑ์ วางท่าน่าเลื่อมใส ทำเอาชาวบ้านเคลิ้ม เว้นแต่พวกรู้ทันแสดงออกถึงความไม่เชื่อน้ำหน้า เห็นมาหลายยุคแล้วว่ากลุ่มรักชาติล้วนน้ำลายไหลยืด
และเชื่อด้วยว่า “ความรักชาติมักเป็นข้ออ้างสุดท้ายของคนโกง” เสมอ!
ผู้ถือหุ้นพยายามทำใจ หวังอยู่ว่าเสือหิวกลุ่มใหม่น่าจะมีความละอาย เห็นตัวอย่างความหายนะจากความโลภ กินคำโต กินบ้าง แต่อย่าให้บริษัทเจ๊ง มีเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นบ้างก็ยังดี ที่ยอมเพราะไม่รู้ว่าจะสู้รบตบมือได้อย่างไร
ซีอีโอและคณะกรรมการบริหารได้ย้ำพูดให้ผู้ถือหุ้นว่ามีแผน 3 ขั้นตอนสำหรับฟื้นฟูบริษัท คาดว่าจะใช้ระยะเวลา 1 ปี ก่อนเปิดทางให้ผู้ถือหุ้นเลือกคณะผู้บริหารชุดใหม่ ช่วงแรก ซีอีโอบริหารบริษัทด้วยความคึกคัก เชื่อมั่นสุดๆ
พอย่างเข้าเดือนที่ 2 เท่านั้น เสือหิวจากแดนตะวันออกเริ่มออกลายชัด เพราะไม่ยอมจัดการเอาผิดคณะผู้บริหารชุดก่อน รวมทั้งปล่อยให้มิสเตอร์เหลี่ยมมีเสรีภาพเต็มร้อย ไม่ทวงถามหาทรัพย์สิน หรือจับตัวมาดำเนินคดี
มาดามปู้ยังเอ้อระเหย ท่องเที่ยวต่างแดนด้วยอิสระเสรี ไม่กังวลใดๆ
คำมั่นสัญญาต่างๆ จากปากของซีอีโอ เริ่มถูกมองว่าเป็นการคุยโว โม้น้ำลายแตกฟองเพื่อให้ผู้ถือหุ้นมองโลกสวย ขณะที่แต่งตั้งพรรคพวกให้นั่งในตำแหน่งต่างๆ เพื่อรับผลประโยชน์ สร้างฐานอำนาจการบริหารอย่างต่อเนื่อง
ปัญหาหลักยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยผู้ถือหุ้นได้ฟังแต่คำชักชวนให้ปรองดอง ไม่แยกแยะผิดถูก กลุ่มตัวร้ายในผู้ถือหุ้นยุคมิสเตอร์เหลี่ยมได้แปรสภาพเป็นคลื่นไต้น้ำ ก่อกวนงานของบริษัท ผู้ถือหุ้นคนดีเริ่มไม่ไว้วางใจซีอีโอ
ดูสภาพแล้วซีอีโอคล้ายหมดลูกเล่น เสียงดังฟังชัดน่าเกรงขามเป็นเพียงการกลบเกลื่อนอาการปากกล้าขาสั่น มีเพียงกฎเหล็กคุ้มครองได้อีกระยะหนึ่ง ผู้ถือหุ้นเริ่มเบื่อหน่ายคำสัญญาลมๆ แล้งๆ ราคาตั๋วเสี่ยงโชคยังขายเกินราคา
ล่าสุด ผู้ถือหุ้นเริ่มคิดว่าจะทนอยู่กับความน่าเบื่อได้อีกนานหรือไม่...