xs
xsm
sm
md
lg

ตร.เผยคดีฆ่า2นักท่องเที่ยวอังกฤษคืบ เกาะเต่าชงเก็บเงินใช้ดูแลความปลอดภัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ตำรวจเผยคดีฆ่า 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษคืบหน้าเป็นที่น่าพอใจ เผยผลดีเอ็นเอ 100 ราย ยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยง แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่เกี่ยวข้องกับคดี ชาวเกาะเต่าเสนอจัดเก็บค่าขึ้นเกาะนำเงินมาดูแลความปลอดภัย ด้าน"บิ๊กตู่" ยอมรับภาพรวมท่องเที่ยวขณะนี้ไม่ดี เผยต้องจัดเครือข่ายเฝ้าระวังดูแล เบาใจทุกประเทศไม่ได้รังเกียจ

จากเหตุคนร้ายลงมือฆ่าโหดนายเดวิด วิลเลี่ยม และน.ส.ฮันนาห์ วิคทอเรีย นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ อายุ 24 ปี ทั้งสองคน บริเวณชายหาดทรายรี เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เหตุเกิดกลางดึกวันที่ 15 ก.ย.2557 ซึ่งตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี และตำรวจภูธรภาค 8 ได้ร่วมกับสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งชุดสืบสวนจากกองปราบปราม และตำรวจนครบาล ลงไปช่วยคลี่คลายคดี

วานนี้ (1 ต.ค.) พล.ต.ต.สุวัตร แจ้งยอดสุข รักษาราชการแทนผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามคดีว่า มีความคืบหน้าไปมาก และเป็นที่น่าพอใจ ซึ่ง เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 1 ใน 7 รายมาสอบปากคำ แต่ยังไม่พบหลักฐานที่มีส่วนเชื่อมโยง จึงเตรียมค้นหาอีก 6 รายมาสอบปากคำต่อ

ด้านผลตรวจดีเอนเอรอบล่าสุด รู้ผลแล้วกว่า 100 ราย แต่ยังไม่พบความเชื่อมโยงกับดีเอนเอในร่างผู้เสียชีวิต จึงต้องเร่งตรวจอีกกว่า 200 รายที่เก็บได้ รวมทั้งเรียกกลุ่มผู้ต้องสงสัยก่อนหน้านี้มาพูดคุยซ้ำ เพื่อความแม่นยำของข้อมูลที่ได้รับ เพราะต้องคัดกรองข้อมูลที่ได้จากหลายแหล่งและหลายรอบ

สำหรับวัตถุพยาน 3 ตัวอย่างที่พบในที่เกิดเหตุ ยังหาบุคคลที่เกี่ยวข้องไม่พบ แต่บุคคลที่ตรวจดีเอนเอหรือเรียกสอบปากคำไม่พบไม่ได้หมายความว่าไม่เกี่ยวข้องกับคดี เพราะต้องนำหลักฐานหลายอย่างมาประกอบด้วย ทั้งนี้ หลังจากติดป้ายประกาศให้เงินรางวัลผู้แจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุม และแจกภาพจากกล้องวงจรปิด ก็ได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี

นายทวีศักดิ์ อินทร์พรหม นายอำเภอเกาะพะงัน ประชุมจัดทำแผนเร่งด่วนร่วมกับนายสุทธิ ศิลมัย ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายไชยยันต์ ธุระสกุล นายกเทศมนตรีตำบลเกาะเต่า นายกอบชัย เสาวลักษณ์ กำนันตำบลเกาะเต่า นายวรพันธ์ ตู้วิเชียร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 นายโกศล พงศ์ผดุงเกียรติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว และนายอนุวัฒย์ เข็มแดง ผู้จัดการการไฟฟ้าเกาะเต่า น.ส.ณัชดากรณ์ อิทร์เทพ เลขาศูนย์เรียนรู้รักษ์แบนเกาะเต่า นายวุฒิ สิทธิสุราษฎร์ อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อหามาตรการดูแลนักท่องเที่ยว

โดยที่ประชุมเสนอติดตั้งระบบโทรทัศน์วงจรปิดและไฟส่องสว่างจุดเสี่ยง 20 จุด ติดตั้งกล้องวงจรปิดออนไลน์ตรวจดูท่าเทียบเรือเกาะเต่าผ่านทางเว็บไซด์ และจัดตั้งศูนย์บริการนักท่องเที่ยว จัดเก็บค่าเหยียบเกาะจากนักท่องเที่ยว เพื่อนำรายได้มาบริหารจัดการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว โดยไม่ต้องรองบประมาณจากภาครัฐ ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบมอบให้เทศบาลตำบลเกาะเต่า ทำประชาพิจารณ์ก่อนที่จะกำหนดอัตราค่าเหยียบเกาะ

นายสุทธิ กล่าวว่า ได้กำหนดให้วันที่ 9-10 ต.ค. เป็นวันฝึกอบรมไลฟ์การ์ดหรืออาสาสมัครช่วยเหลือนักท่องเที่ยว โดยทางสำนักงานจะสนับสนุนเครื่องมือในการช่วยเหลือดูแลนักท่องเที่ยว

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ขออย่ากดดันหรือกำหนดเวลา ต้องเห็นใจตำรวจที่ทำงานด้วยความยากลำบาก ขอให้เชื่อมั่นว่า ตำรวจทุกคนที่ลงไปติดตามคดีนี้ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญ และทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และขอยืนยันว่าไม่ผู้มีอิทธิพลมาเกี่ยวข้อง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงภาพรวมการท่องเที่ยวขณะนี้ว่า ไม่ดี ซึ่งได้สั่งการไปแล้วว่านอกจากจะให้ทหาร ตำรวจดูแลแล้ว คงต้องมีเครือข่ายเฝ้าระวังเป็นเชิงป้องกันดีกว่า อย่าแก้ไขตอนเกิดเหตุ แต่ก็ยาก ถ้าสมมุติว่าการควบคุมยังไม่ค่อยดี คงต้องแก้ไข นี่คือสิ่งที่ถูกปล่อยปละละเลยมาในอดีต การขึ้นบัญชีทะเบียนแรงงานมีปัญหาหมด ซึ่งวันนี้เรามาแก้ทั้งหมดแล้ว อย่าเพิ่งปรามาสพวกเราอย่างนั้นเลย ขอร้อง

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่จะทำฐานข้อมูลนักท่องเที่ยว โดยให้นักท่องเที่ยวใส่ริสแบนด์ที่บันทึกฐานข้อมูลลงไป พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เอามาจากไหน คงพูดถึงอนาคต จะไปบังคับนักท่องเที่ยวได้อย่างไร ฐานข้อมูลที่ตนพูด หมายถึงกำหนดให้นักท่องเที่ยวเข้า-ออกถูกช่องทาง ไม่ใช่เข้า-ออกเถื่อนแบบผีพาเข้ามา ผ่านผู้ประกอบการ เพราะมีทั้งนักท่องเที่ยวทั้งใกล้และไกล โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่อยู่รอบบ้านเราที่เข้ามาผิดๆ อย่าไปรับพวกนี้ แต่จะไปฝังชิปไม่ได้ เขาจะยิ่งไม่เที่ยวในไทยใหญ่เลย เพราะเราอยากให้เขามา ซึ่งจากการประชุมของกระทรวงการต่างประเทศ ทุกประเทศไม่ได้รังเกียจเรา เพราะเราไม่ใช่เชื้อโรคร้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น