xs
xsm
sm
md
lg

“สมยศ” ชี้ ดีเอ็นเอไม่ใช่คำตอบสุดท้ายบนเกาะเต่า

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร.รับมอบแจกันดอกไม้จากผู้แทนเหล่าทัพ เข้ารับตำแหน่งผบ.ตร.
“สมยศ” ชี้ ดีเอ็นเอไม่ใช่คำตอบสุดท้าย เหตุนักท่องเที่ยวฝรั่งถูกฆ่า ระบุหากพบบุคคลต้องสงสัย และถูกกล่าวถึงก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่จะต้องเข้ามาชี้แจง ยันไม่มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลบนเกาะเต่า มีแต่ชาวบ้านในพื้นที่ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

วันนี้ (24 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. รับมอบแจกันดอกไม้จากผู้แทนปลัดกระทรวงกลาโหม, ผู้แทนกองบัญชาการกองทัพไทย, ผู้แทนกองทัพบก, ผู้แทนกองทัพเรือ และผู้แทนกองทัพอากาศเข้าแสดงความยินดีในโอกาสที่ได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในวันที่ 1 ต.ค. 2557 นี้

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ว่า ชุดคลี่คลายคดียังไม่มีการปรับเปลี่ยนประเด็นและแนวทางในการสืบสวนสอบสวน พร้อมกับส่งผู้เชี่ยวชาญด้านการสืบสวน โดยให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รักษาราชการแทนผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบก.สส.บชน.) ซึ่งมีความรู้ความสามารถในการสืบสวนสอบสวนลงไปทำงานร่วม ทีมแพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ทำงานร่วมกับตำรวจในพื้นที่ เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม จนสามารถนำไปสู่การคลี่คลายคดี

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อว่า ส่วนปัญหาของการสืบสวนสอบสวนขณะนี้คือ ข่าวลือ ข่าวปล่อยตามโซเชียลเน็ตเวิร์กที่สร้างความสับสน และทำให้ตำรวจต้องเสียเวลาไปกับการติดตามข่าวลือที่ปรากฏ ซึ่งบางข่าวไม่เป็นความจริง และจากการที่มีข่าวว่ามีหลายคนเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งบางคนที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยก็ไม่ได้อยู่ที่เกาะเต่า รวมทั้งกรณี นายฌอน แมคแอนนา เพื่อนชาวสกอตแลนด์ ของนายเดวิด มิลเลอร์ นักท่องเที่ยวชายชาวอังกฤษ ที่เสียชีวิต ที่มีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า เห็นเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ และถูกข่มขู่จากผู้มีอิทธิพล รวมถึงได้มีการโพสต์ในโซเชียลมีเดียถึงบุคคลต้องสงสัย 2 คนด้วย ซึ่งในกรณีดังกล่าว ต้องขอชี้แจงว่า เมื่อบุคคลทั้ง 2 ในภาพถูกกล่าวถึงก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่จะต้องเข้ามาชี้แจง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่ทั้ง 2 คนยังไม่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้

รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ตนขอปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวว่า มีหนึ่งในผู้ต้องสงสัยหลบหนีเข้ามาใน กทม. เนื่องจากยังไม่มีการรายงานในเรื่องนี้ แต่ก็ยังระบุไม่ได้ว่าคนร้ายยังอยู่ในพื้นที่หรือไม่ เพราะเกาะเต่าเป็นพื้นที่เปิด มีเรือโดยสารเข้า-ออก ตลอดเวลา ทั้งนี้ แนวทางการสืบสวนติดตามตัวคนร้ายตำรวจไม่ได้มุ่งไปที่ดีเอ็นเอเพียงอย่างเดียว โดยต้องตรวจสอบทั้งวัตถุพยาน และพยานแวดล้อม รวมทั้งประจักษ์พยานด้วย แต่ที่ให้ความสำคัญกับดีเอ็นเอในร่างผู้เสียชีวิต เพราะเป็นไปตามหลักการ ว่า ดีเอ็นเอของบุคคลอื่นที่พบในร่างผู้เสียชีวิต ก็ถือเป็นดีเอ็นเอของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทางคดี อย่างไรก็ตาม แนวทางการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ผลการตรวจดีเอนเอเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีหลักฐานอื่นๆ อีก เช่น จอบ ถุงข้าวสารที่นำมาปิดจอบ ถุงยางอนามัย และก้นบุหรี่ที่คาดว่าเป็นของคนร้ายที่สูบบุหรี่แล้วทิ้งไว้ ทั้งนี้ หลักฐานทั้งหมดที่ปรากฏในที่เกิดเหตุ รวมทั้งดีเอ็นเอที่มาจากคราบอสุจิบนร่างกายผู้เสียชีวิต ไม่ใช่สิ่งเดียวที่ใช้ในการสืบสวนสอบสวน เพราะฉะนั้น จึงไม่อยากให้เราพูดถึงดีเอ็นเอเพียงอย่างเดียว เพราะดีเอ็นเอไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของทั้งหมด

รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า สำหรับประเด็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เกาะเต่า ขอยืนยันว่า ไม่มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลอย่างแน่นอน เพราะหลังเกิดเหตุชาวบ้านในพื้นที่ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญกับคดีที่เกิดขึ้น และเร่งรัดให้มีการติดตามตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุด เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กดดันหรือไม่ กับการที่สื่อต่างประเทศออกมาบอกว่าทางตำรวจไทยให้สัมภาษณ์ไปกันคนละทิศทางเกี่ยวกับผลการจับกุมคนร้าย พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ตนไม่หนักใจ แต่ก็ไม่ละเลยในการเร่งรัดคดีนี้ ซึ่งตนไม่อยากจะพูดกับสื่อตรงนี้ เพราะกลัวว่าพูดไปแล้วจะไปกันคนละทิศละทาง ซึ่งตนขอแนะนำว่า หากสื่อมวลชนที่จะสอบถาม หรือสัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าในคดีนี้ ขอให้สอบถามโดยตรงที่ พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ผบช.ภ.8) และ พล.ต.ต.สุวัฒน์ เพราะเป็นผู้ที่ทำงานในพื้นที่ ซึ่งจะได้ข้อมูลมากกว่า แต่ตนจะสามารถพูดได้ในหลักการและภาพกว้างเท่านั้น โดยจะไม่ได้ลงรายละเอียด เพราะตนไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ซึ่งอาจทำให้การให้ข้อมูลคลาดเคลื่อนกันได้ แต่ก็จะได้รับรายงานความคืบหน้าอยู่ตลอด



กำลังโหลดความคิดเห็น