ลุ้นระทึก“กบง.”เตรียมพิจารณาแนวทางปรับโครงสร้างราคาพลังงานภาคขนส่งขึ้น ทั้ง LPG-NGV วันนี้ (30ก.ย.) โดยLPG ทยอยขึ้นให้เท่าภาคครัวเรือน และNGVจ่อขึ้น1บาทต่อกก. พร้อมหามาตรการช่วยเหลือลดผลกระทบ ด้านแท็กซี่รับหากNGVขึ้นโดยไม่มีมาตรการช่วยต้องนำไปบวกกับการขึ้นค่าโดยสาร รถบรรทุกจ่อขึ้นค่าขนส่ง ขณะที่ภาคการผลิตรับต้นทุนขึ้นก็ต้องบวกราคาสินค้าบางส่วน ด้านนายกสมาคมท่องเที่ยวอัดกฟผ.คุกคามคนกระบี่
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า วันนี้ (30 ก.ย.) จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)ที่มีนายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน เป็นประธาน โดยวาระที่สำคัญ จะเป็นเรื่องการปรับโครงสร้างราคาพลังงานให้สมดุลย์ตามนโยบายรัฐบาลด้วยการขึ้นราคาแอลพีจีขนส่งและก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์หรือ NGV รวมถึงการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของดีเซลเนื่องจากค่าการตลาดเริ่มสูงเพื่อลดภาระหนี้กองทุนฯ
“ ราคาแอลพีจีขนส่งจะทยอยปรับขึ้นแต่ยังไม่เท่ากับแอลพีจีภาคครัวเรือนและการปรับขึ้นก็จะมีมาตรการมาดูแลส่วนของผู้ที่มีรายได้น้อย”นายอารีพงศ์กล่าว
นายอารีพงศ์ยังกล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารมาตรการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนว่า ที่ประชุมอนุมัติโครงการพลังงานหมุนเวียนในส่วนของโรงไฟฟ้าชีวมวล โรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ และโรงไฟฟ้าขยะ รวม 18 โครงการ กำลังการผลิตรวม 53.06 เมกะวัตต์ และเห็นชอบการกำหนดแนวทางการรับซื้อหมุนเวียนในอนาคต โดยให้พิจารณาจากโซนนิ่ง คำนึงถึงความพร้อมสายส่งไฟฟ้าของ 3 การไฟฟ้า ก่อนที่จะมีการเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการฯ เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการสนับสนุนพลังงานหมุนเวียนต่อไป ขณะนี้ยังเหลือการพิจารณาอีก 31 โครงการ กำลังการผลิตรวม 213 เมกะวัตต์ โดยจะเสนอโครงการเข้าที่ประชุมอีกครั้งในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานกล่าวว่า ปัจจุบันแอลพีจีขนส่งอยู่ที่22.63 บาท/กก. ภาคครัวเรือน 21.38 บาทต่อกก. ภาคอุตสาหกรรม 29.33 บาท/กก. การปรับโครงสร้างจะทยอยขึ้นแอลพีจีขนส่งให้เท่าครัวเรือนหรือปรับขึ้นอีก 1.25 บาทต่อกก.ซึ่งคาดว่าจะทยอยขึ้นครั้งละ 62 สตางค์ต่อกก. ส่วน NGV คาดว่าจะปรับขึ้น1 บาท/กก.จากปัจจุบันอยู่ที่10.50 บาท/กก. ในขณะที่ต้นทุนอยู่ที่15-16 บาท/กก.
อย่างไรก็ตามปัจจุบันกลุ่มรถโดยสาร เช่น รถตู้สาธารณะ รถแท็กซี่จะได้ส่วนลดสำหรับผู้ลงทะเบียนซื้อก๊าซได้ในอัตรา 8.50 บาท/กก.ซึ่งมาตรการช่วยเหลืออาจจะให้กลุ่มนี้ใช้แนวทางเดิมแต่รายละเอียดคงจะต้องหารือกัน
แท็กซี่-รถบรรทุกจ่อขึ้นค่าบริการ
นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากการหารือกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีซึ่งเชิญหน่วยงานกระทรวงคมนาคมและผู้ประกอบการขนส่งหารือสรุปว่าทางคมนาคมจะให้มีการปรับขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่เฉลี่ยจากปัจจุบัน 10% ภายในเดือนพ.ย.ซึ่งประเด็นการขึ้นยังไม่เกี่ยวข้องกับการปรับขึ้นแอลพีจีและNGVของกระทรวงพลังงานโดยจะต้องรอนโยบายสว่นนี้แล้วนำมาคำนวณเพิ่มหากกรณีปรับขึ้นแล้วไม่มีมาตรการใดๆ ช่วยเหลือ
“ หลักการที่หารือเป็นโครงสร้างต้นทุนเดิมที่เรามีปัญหาที่เพิ่มขึ้นโดยหลักคือไม่ได้ขึ้นมิเตอร์แต่ขึ้นค่าระยะทางที่รถติดเพื่อป้องกันไม่ให้แท็กซี่ปฏิเสธค่าโดยสารเฉลี่ยจะขึ้น 10% เช่นเคยจ่าย 100 บาทก็จะจ่ายเพิ่มเป็น 110 บาท แต่หากNGV ขึ้นแล้วไม่มีมาตรการดูแลก็คงจะต้องไปบวกในส่วนนี้เพิ่มอีก ส่วนLPG ขนส่งในแท็กซี่มีเพียง 1 หมื่นคันก็ถือว่าไม่กระทบมากเท่า NGV ”
นายขวัญชัย ติยะวานิช นายกสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน กล่าวว่า ทางผู้ประกอบการรถบรรทุกกำลังรอการตัดสินใจจากรัฐบาลว่าจะขึ้นราคา NGV หรือไม่อย่างไร โดยหากปรับขึ้นจริงทางผู้ประกอบการฯก็คงจะต้องพิจารณาปรับขึ้นค่าขนส่งเพราะทางผู้ประกอบการฯเองก็คงไม่มีทางเลือกอื่น
“ที่ผ่านมาก็หารือกับกระทรวงพลังงานมาต่อเนื่องอยู่แล้วโดยหากปรับขึ้น 1 บาทต่อกก.ก็กระทบไม่มากนักแต่หากเป็น 2 บาทต่อกก.ก็จะกระทบให้ค่าขนส่งขึ้น 5% โดยขณะนี้รถบรรทุกใช้ NGV เฉลี่ย 20% ขณะที่เหลือส่วนใหญ่ใช้ดีเซล “นายขวัญชัยกล่าว
แหล่งข่าวจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า คงจะต้องติดตามถึงราคาพลังงานภาพรวมว่าที่สุดแล้วราคาพลังงานภาคขนส่งรัฐบาลจะปรับขึ้นตัวใดบ้างในสิ้นปีนี้เพราะหากมีการขึ้นภาษีสรรพสามิตดีเซลด้วยภายในสิ้นปีนี้เมื่อรวมกับ NGV ก็จะมีผลกระทบต่อค่าขนส่งพอสมควรซึ่งสิ่งเหล่านี้จะไปสะท้อนยังราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคให้ปรับขึ้นได้กรณีที่ผู้ประกอบการไม่สามารถแบกรับภาระได้แล้วจริงๆ แม้ว่าตลาดในประเทศการบริโภคจะชะลอตัวการปรับขึ้นราคาสินค้าจะเป็นทางเลือกสุดท้ายที่เอกชนจะดำเนินการก็ตาม
นายกฯท่องเที่ยวอัดกฟผ.คุกคามคนกระบี่
นายธีรพจน์ กษิรวัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเกาะลันตา อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ และตัวแทนกลุ่มคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน กำลังการผลิต 800 เมกะวัต ใอ.เหนือคลอง จ.กระบี่ กล่าวว่า ตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นเพื่อทบทวนร่างรายงานการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) ครั้งที่ 3 (ค.3) โครงการท่าเทียบเรือบ้านคลองรั้ว อ.เหนือคลอง ที่ศาลาประชาคมอ.เหนือคลองเมื่อวันที่ 28 กันยายน ชี้ให้เห็นว่ากฟผ.ไม่จริงใจกับชาวกระบี่ เพราะพบว่าขนคนจากนอกพื้นที่เข้ร่วมเวทีจำนวนมาก
"การเคลื่อนไหวต่อต้านไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินของสมาคม ก็เพื่อรักษาธรรมชาติให้ไว้กับจังหวัด และแสดงออกให้กฟผ.เห็นว่า หากมีโรงไฟฟ้าถ่านหินขึ้น จะส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวแน่นอน ซึ่งไม่ใช่แต่เฉพาะจ.กระบี่ แต่จะกระทบทั้งฝั่งทะเลอันดามัน เนื่องจากนักท่องเที่ยวเดินทางเชื่อมโยงกันด้วย โดยที่ผ่านมากฟผ.ไม่เคยได้ศึกษาผลทบต่อการท่องเที่ยวแม้แต่ครั้งเดียว ดังนั้นการเคลื่อนไหวของสมาคมก็เพื่อไม่ให้กฟผ.เอาไปอ้างได้ว่า ภาคการท่องเที่ยวไม่คัดค้าน"
นายธีรพจน์ กล่าวว่า เมื่อมีโรงไฟฟ้าถ่านหินเกิดขึ้น จะส่งผลกระทบเหมือนโรงไฟฟ้าแม่เมาะ จ.ลำปาง ชาวบ้านต้องฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเอง บางรายผ่านมาเกือบ 10 ปีคดีก็ยังไม่สิ้นสุด หากกระบี่มีโรงไฟฟ้าถ่านหินแล้วเกิดปัญหาเหมือนแม่เมาะ เชื่อว่ากฟผ.ก็จะไม่รับผิดชอบเช่นกัน หากว่ากฟผ.จริงใจ ก็จะต้องทำบันทึกข้อตกลงกับชาวกระบี่หรือผู้ที่มีส่วนส่วนเสีย ว่ากฟผ.จะชดเชยหรือเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกกรณี หากทำได้ก็เชื่อว่าความขัดแย้งคงไม่เกิดขึ้น ที่สำคัญกฟผ.ต้องกล้าเปิดเผยความจริง เพราะที่ผ่านมามีการบิดเบือนข้อมูลตลอด
"ภาพที่กฟผ.สนธิกำลังทหาร ตำรวจ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนรวมหลายร้อยนายมาคุมเวที เหมือนเป็นการคุกคามประชาชน การกระทำลักษณะของกฟผ.เพียงเพื่อให้สามารถทำเวทีได้เท่านั้น ไม่สนใจว่าต้องใช้วิธีใด และภาพลักษณ์ที่ตามมา โชคดีที่ทหารให้กลุ่มคัดค้านได้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่ปากทางเข้าเวที โดยขับไล่หรือใช้ความรุนแรง จึงอยากจะให้ภาพที่เกิดขึ้นสะท้อนไปยังรัฐบาล ให้ระงับโครงการการก่อสร้างโรงไฟฟ้าไว้ก่อน จนกว่ากฟผ.จะยอมรับข้อเสนอของประชาชนที่คัดค้าน และเปิดเผยความจริงทั้งหมด".
รายงานข่าวจากสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าเมื่อเร็วนี้ทางสหพันธ์ได้ลงนามร่วมกับ บมจ.ปตท.เรื่องการขยับขึ้นราคาเอ็นจีวี โดยสหพันธ์เสนอให้ปรับขึ้น 1 บาท/กก.ทุก6 เดือน จากที่ปัจจุบันนี้ราคาขายอยู่ที่ 10.50 บาท/กก. และต้นทุนก๊าซอยู่ที่ 15-16 บาท/กก. และ ปตท.จะต้องขยายการสร้างปั๊มเอ็นจีวีให้ครอบคลุมเส้นทางขนส่งที่สำคัญ 4 ปั๊มหลักได้แก่ แก่งคอย จ.สระบุรีขาขึ้น, นครสวรรค์ ขาล่อง,ขอนแก่นทั้งขาขึ้นและล่อง โดยให้ต่อท่อจากแหล่งก๊าซน้ำพอง ซึ่งสหพันธ์ให้การรับรองว่าหากขยับขึ้นราคาและ ทำตามข้อเสนอนี้ กลุ่มรถบรรทุกจะไม่มาชุมนุมปิดล้อมกระทรวงพลังงานเหมือนการขยับขึ้นราคาเอ็นจีวีปี2555
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า วันนี้ (30 ก.ย.) จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)ที่มีนายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน เป็นประธาน โดยวาระที่สำคัญ จะเป็นเรื่องการปรับโครงสร้างราคาพลังงานให้สมดุลย์ตามนโยบายรัฐบาลด้วยการขึ้นราคาแอลพีจีขนส่งและก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์หรือ NGV รวมถึงการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของดีเซลเนื่องจากค่าการตลาดเริ่มสูงเพื่อลดภาระหนี้กองทุนฯ
“ ราคาแอลพีจีขนส่งจะทยอยปรับขึ้นแต่ยังไม่เท่ากับแอลพีจีภาคครัวเรือนและการปรับขึ้นก็จะมีมาตรการมาดูแลส่วนของผู้ที่มีรายได้น้อย”นายอารีพงศ์กล่าว
นายอารีพงศ์ยังกล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารมาตรการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนว่า ที่ประชุมอนุมัติโครงการพลังงานหมุนเวียนในส่วนของโรงไฟฟ้าชีวมวล โรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ และโรงไฟฟ้าขยะ รวม 18 โครงการ กำลังการผลิตรวม 53.06 เมกะวัตต์ และเห็นชอบการกำหนดแนวทางการรับซื้อหมุนเวียนในอนาคต โดยให้พิจารณาจากโซนนิ่ง คำนึงถึงความพร้อมสายส่งไฟฟ้าของ 3 การไฟฟ้า ก่อนที่จะมีการเสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการฯ เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการสนับสนุนพลังงานหมุนเวียนต่อไป ขณะนี้ยังเหลือการพิจารณาอีก 31 โครงการ กำลังการผลิตรวม 213 เมกะวัตต์ โดยจะเสนอโครงการเข้าที่ประชุมอีกครั้งในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานกล่าวว่า ปัจจุบันแอลพีจีขนส่งอยู่ที่22.63 บาท/กก. ภาคครัวเรือน 21.38 บาทต่อกก. ภาคอุตสาหกรรม 29.33 บาท/กก. การปรับโครงสร้างจะทยอยขึ้นแอลพีจีขนส่งให้เท่าครัวเรือนหรือปรับขึ้นอีก 1.25 บาทต่อกก.ซึ่งคาดว่าจะทยอยขึ้นครั้งละ 62 สตางค์ต่อกก. ส่วน NGV คาดว่าจะปรับขึ้น1 บาท/กก.จากปัจจุบันอยู่ที่10.50 บาท/กก. ในขณะที่ต้นทุนอยู่ที่15-16 บาท/กก.
อย่างไรก็ตามปัจจุบันกลุ่มรถโดยสาร เช่น รถตู้สาธารณะ รถแท็กซี่จะได้ส่วนลดสำหรับผู้ลงทะเบียนซื้อก๊าซได้ในอัตรา 8.50 บาท/กก.ซึ่งมาตรการช่วยเหลืออาจจะให้กลุ่มนี้ใช้แนวทางเดิมแต่รายละเอียดคงจะต้องหารือกัน
แท็กซี่-รถบรรทุกจ่อขึ้นค่าบริการ
นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากการหารือกับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีซึ่งเชิญหน่วยงานกระทรวงคมนาคมและผู้ประกอบการขนส่งหารือสรุปว่าทางคมนาคมจะให้มีการปรับขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่เฉลี่ยจากปัจจุบัน 10% ภายในเดือนพ.ย.ซึ่งประเด็นการขึ้นยังไม่เกี่ยวข้องกับการปรับขึ้นแอลพีจีและNGVของกระทรวงพลังงานโดยจะต้องรอนโยบายสว่นนี้แล้วนำมาคำนวณเพิ่มหากกรณีปรับขึ้นแล้วไม่มีมาตรการใดๆ ช่วยเหลือ
“ หลักการที่หารือเป็นโครงสร้างต้นทุนเดิมที่เรามีปัญหาที่เพิ่มขึ้นโดยหลักคือไม่ได้ขึ้นมิเตอร์แต่ขึ้นค่าระยะทางที่รถติดเพื่อป้องกันไม่ให้แท็กซี่ปฏิเสธค่าโดยสารเฉลี่ยจะขึ้น 10% เช่นเคยจ่าย 100 บาทก็จะจ่ายเพิ่มเป็น 110 บาท แต่หากNGV ขึ้นแล้วไม่มีมาตรการดูแลก็คงจะต้องไปบวกในส่วนนี้เพิ่มอีก ส่วนLPG ขนส่งในแท็กซี่มีเพียง 1 หมื่นคันก็ถือว่าไม่กระทบมากเท่า NGV ”
นายขวัญชัย ติยะวานิช นายกสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน กล่าวว่า ทางผู้ประกอบการรถบรรทุกกำลังรอการตัดสินใจจากรัฐบาลว่าจะขึ้นราคา NGV หรือไม่อย่างไร โดยหากปรับขึ้นจริงทางผู้ประกอบการฯก็คงจะต้องพิจารณาปรับขึ้นค่าขนส่งเพราะทางผู้ประกอบการฯเองก็คงไม่มีทางเลือกอื่น
“ที่ผ่านมาก็หารือกับกระทรวงพลังงานมาต่อเนื่องอยู่แล้วโดยหากปรับขึ้น 1 บาทต่อกก.ก็กระทบไม่มากนักแต่หากเป็น 2 บาทต่อกก.ก็จะกระทบให้ค่าขนส่งขึ้น 5% โดยขณะนี้รถบรรทุกใช้ NGV เฉลี่ย 20% ขณะที่เหลือส่วนใหญ่ใช้ดีเซล “นายขวัญชัยกล่าว
แหล่งข่าวจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า คงจะต้องติดตามถึงราคาพลังงานภาพรวมว่าที่สุดแล้วราคาพลังงานภาคขนส่งรัฐบาลจะปรับขึ้นตัวใดบ้างในสิ้นปีนี้เพราะหากมีการขึ้นภาษีสรรพสามิตดีเซลด้วยภายในสิ้นปีนี้เมื่อรวมกับ NGV ก็จะมีผลกระทบต่อค่าขนส่งพอสมควรซึ่งสิ่งเหล่านี้จะไปสะท้อนยังราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคให้ปรับขึ้นได้กรณีที่ผู้ประกอบการไม่สามารถแบกรับภาระได้แล้วจริงๆ แม้ว่าตลาดในประเทศการบริโภคจะชะลอตัวการปรับขึ้นราคาสินค้าจะเป็นทางเลือกสุดท้ายที่เอกชนจะดำเนินการก็ตาม
นายกฯท่องเที่ยวอัดกฟผ.คุกคามคนกระบี่
นายธีรพจน์ กษิรวัฒน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเกาะลันตา อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ และตัวแทนกลุ่มคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน กำลังการผลิต 800 เมกะวัต ใอ.เหนือคลอง จ.กระบี่ กล่าวว่า ตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นเพื่อทบทวนร่างรายงานการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) ครั้งที่ 3 (ค.3) โครงการท่าเทียบเรือบ้านคลองรั้ว อ.เหนือคลอง ที่ศาลาประชาคมอ.เหนือคลองเมื่อวันที่ 28 กันยายน ชี้ให้เห็นว่ากฟผ.ไม่จริงใจกับชาวกระบี่ เพราะพบว่าขนคนจากนอกพื้นที่เข้ร่วมเวทีจำนวนมาก
"การเคลื่อนไหวต่อต้านไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินของสมาคม ก็เพื่อรักษาธรรมชาติให้ไว้กับจังหวัด และแสดงออกให้กฟผ.เห็นว่า หากมีโรงไฟฟ้าถ่านหินขึ้น จะส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวแน่นอน ซึ่งไม่ใช่แต่เฉพาะจ.กระบี่ แต่จะกระทบทั้งฝั่งทะเลอันดามัน เนื่องจากนักท่องเที่ยวเดินทางเชื่อมโยงกันด้วย โดยที่ผ่านมากฟผ.ไม่เคยได้ศึกษาผลทบต่อการท่องเที่ยวแม้แต่ครั้งเดียว ดังนั้นการเคลื่อนไหวของสมาคมก็เพื่อไม่ให้กฟผ.เอาไปอ้างได้ว่า ภาคการท่องเที่ยวไม่คัดค้าน"
นายธีรพจน์ กล่าวว่า เมื่อมีโรงไฟฟ้าถ่านหินเกิดขึ้น จะส่งผลกระทบเหมือนโรงไฟฟ้าแม่เมาะ จ.ลำปาง ชาวบ้านต้องฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเอง บางรายผ่านมาเกือบ 10 ปีคดีก็ยังไม่สิ้นสุด หากกระบี่มีโรงไฟฟ้าถ่านหินแล้วเกิดปัญหาเหมือนแม่เมาะ เชื่อว่ากฟผ.ก็จะไม่รับผิดชอบเช่นกัน หากว่ากฟผ.จริงใจ ก็จะต้องทำบันทึกข้อตกลงกับชาวกระบี่หรือผู้ที่มีส่วนส่วนเสีย ว่ากฟผ.จะชดเชยหรือเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกกรณี หากทำได้ก็เชื่อว่าความขัดแย้งคงไม่เกิดขึ้น ที่สำคัญกฟผ.ต้องกล้าเปิดเผยความจริง เพราะที่ผ่านมามีการบิดเบือนข้อมูลตลอด
"ภาพที่กฟผ.สนธิกำลังทหาร ตำรวจ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนรวมหลายร้อยนายมาคุมเวที เหมือนเป็นการคุกคามประชาชน การกระทำลักษณะของกฟผ.เพียงเพื่อให้สามารถทำเวทีได้เท่านั้น ไม่สนใจว่าต้องใช้วิธีใด และภาพลักษณ์ที่ตามมา โชคดีที่ทหารให้กลุ่มคัดค้านได้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่ปากทางเข้าเวที โดยขับไล่หรือใช้ความรุนแรง จึงอยากจะให้ภาพที่เกิดขึ้นสะท้อนไปยังรัฐบาล ให้ระงับโครงการการก่อสร้างโรงไฟฟ้าไว้ก่อน จนกว่ากฟผ.จะยอมรับข้อเสนอของประชาชนที่คัดค้าน และเปิดเผยความจริงทั้งหมด".
รายงานข่าวจากสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าเมื่อเร็วนี้ทางสหพันธ์ได้ลงนามร่วมกับ บมจ.ปตท.เรื่องการขยับขึ้นราคาเอ็นจีวี โดยสหพันธ์เสนอให้ปรับขึ้น 1 บาท/กก.ทุก6 เดือน จากที่ปัจจุบันนี้ราคาขายอยู่ที่ 10.50 บาท/กก. และต้นทุนก๊าซอยู่ที่ 15-16 บาท/กก. และ ปตท.จะต้องขยายการสร้างปั๊มเอ็นจีวีให้ครอบคลุมเส้นทางขนส่งที่สำคัญ 4 ปั๊มหลักได้แก่ แก่งคอย จ.สระบุรีขาขึ้น, นครสวรรค์ ขาล่อง,ขอนแก่นทั้งขาขึ้นและล่อง โดยให้ต่อท่อจากแหล่งก๊าซน้ำพอง ซึ่งสหพันธ์ให้การรับรองว่าหากขยับขึ้นราคาและ ทำตามข้อเสนอนี้ กลุ่มรถบรรทุกจะไม่มาชุมนุมปิดล้อมกระทรวงพลังงานเหมือนการขยับขึ้นราคาเอ็นจีวีปี2555
