ASTVผู้จัดการรายวัน – “กันตนา” เตรียมเผยโฉมโปรเจคต์ "กันตนา มูฟวี่ มอลล์" นำร่องกลางปีนี้ที่อีสาน เผยเก็บค่าตั๋วหนังเฉลี่ย 30 บาทต่อที่ คาดครึ่งปีหลังนี้เห็นแน่ไม่ต่ำกว่า 200-250 แห่ง เปิดตัวพันธมิตรร้านค้าหลายราย ร่วมเจาะสนามขุมทรัพย์ครั้งใหม่ คาดเงินลงทุนอาจถึง 1,250 ล้านบาท แต่ล่าสุดกันตนาสั่งชะลอเหตุรายได้หลักฟิล์มแล็บรายได้ลด ยันแค่ละชอความเร็ว
กันตนา บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ของไทยที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิต ภาพยนตร์และละครมาหลายสิบปี ล่าสุดในปี2556ที่ผ่านมา กันตนาได้ประกาศศักดาอีกครั้ง ด้วยโปรเจกต์ "กันตนา มูฟวี่ มอลล์” รวมมูลค่าสูงถึง 1,000 ล้านบาท จำนวน 1,000 สาขาในไทย เป็นโปรเจ็กต์ครั้งสำคัญ ที่จะทำให้ กันตนา
ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในธุรกิจภาพยนตร์ในระดับเอเชียและของโลกที่มีธุรกิจภาพยนตร์ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ
นายจาฤก กัลย์จาฤก ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวไว้ว่า โครงการ กันตนา มูฟวี่ มอลล์ โดยได้จัดตั้งให้ บริษัท เอเชีย ซีนีม่า เน็ตเวิร์ค จำกัด หรือ ACN เป็นผู้ดูแล ภายใต้วัตถุประสงค์หลักเพื่อต้องการลดความเหลื่อมล้ำในการรับชมภาพยนตร์ ระหว่างชุมชนเมืองและต่างจังหวัด สร้างวัฒนธรรมการรรับชมภาพยนตร์ของไทยให้กลับมาอีกครั้ง
ที่สำคัญเพื่อช่วยอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้กลับมาเติบโตได้ และเป็นโมเดลทางธุรกิจที่จะทำให้กันตนามีธุรกิจเกี่ยวกับภาพยนตร์ครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ โดยโครงการกันตนา มูฟวี่ มอลล์ ต่อสาขาจะลงทุน 1-1.3 ล้านบาท เป็นการลงทุนร่วมกันระหว่างกันตนาและผู้ประกอบการท้องถิ่น แบบ 50% เท่าๆกัน และตั้งเป้าคุ้มทุนใน 2-3 ปีวางรูปแบบโครงการเป็นคอมมูนิตี้เซ็นเตอร์ ด้วยแนวคิด โรงภาพยนตร์ชุมชน ‘One Frame, One Culture' บนพื้นที่ขนาด 300 ตารางวาขึ้นไป ที่ประกอบด้วย 1.โรงภาพยนตร์กันตนาซีนีเพล็กซ์ ขนาดไม่เกิน 50 ที่นั่ง ราคาตั๋วหนังอยู่ที่ 30บาทต่อที่นั่ง และพื้นที่ที่เหลือจะประกอบด้วยร้านค้าพันธมิตร ราว 10-15 ราย
ล่าสุดสำหรับความคืบหน้าของโครงการดังกล่าว ในช่วงไตรมาสหนึ่งที่ผ่านมาทางกันตนาได้มีการจัดโรดโชว์ สัมมนา และเยี่ยมชมโครงการต้นแบบ กันตนา มูฟวี่ ทาวน์ อยู่หลายครั้ง โดยแต่ละครั้งมีพันธมิตรร้านค้าที่สนใจและมองเห็นโอกาสในการสร้างรายได้ไป กับโครงการนี้หลายรายแล้ว เช่น 7-11, i-cha, Cinemora, Kimju, Aircraft Coffee, Ramen Boy, Mango IT เป็นต้น
ทั้งนี้พันธมิตรร้านค้าที่เข้าร่วมกับโครงการกันตนา มูฟวี่ มอลล์ รายหนึ่ง เปิดเผยว่า โปรเจกต์กันตนา มูฟวี่ มอลล์ มีความน่าสนใจและเป็นโอกาสในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะการเข้ามารุกตลาดต่างจังหวัด อย่างในภาคอีสาน ที่เป็นประตูสู่อีกหลายประเทศหลังเปิดเออีซี ซึ่งการเปิดให้บริการนั้น จะเริ่มได้ในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป เน้นภาคอีสานก่อนถึงสิ้นปีน่าจะเปิดได้ 200-250 สาขา
นายสแตนลีย์ ยู ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โอชายะ จำกัด เจ้าของแฟรนไชน์ร้านชา “โอชายะ” หนึ่งในพันธมิตรที่เข้าร่วมโครงการ กันตนา มูฟวี่ มอลล์ กล่าวว่า บริษัทได้จับมือกับกันตนา เข้าร่วมเป็นพันธมิตรร้านอาหารที่จะเปิดให้บริการภายในโครงการกันตนา มูฟวี่ มอลล์ ที่จะได้เห็นโครงการแรกภายในกลางปีนี้ โดยทางบริษัทได้สร้างแบรนด์ใหม่ขึ้นมา 2 แบรนด์ คือ ซาโอจำหน่ายขนมจีบ-ซาลาเปา ราคา 12-15 บาทและ ราเมนบอย จำหน่ายราเมน ราคา 60-70 บาท ถึงสิ้นปีมองว่าจะเปิดได้ 250 สาขา หรือรวมแล้วจะมีร้านของทางโอชายะรวม 500 สาขา ภายในงบลงทุน 100 ล้านบาท หรือแต่ละร้านลงทุนราว 200,000-300,000 บาท
เช่นเดียวกับทาง 'กิมจู' ร้านอาหารสไตล์เกาหลี ที่สนใจเข้าร่วมกับทางกันตนา มูฟวี่ มอลล์ หวังเปิดตลาดต่างจังหวัดอีกราย โดยนายวิเชียร อุดมศาสตร์พร กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิมจูฟูดส์ จำกัด หนึ่งในพันธมิตร กล่าวว่า กิมจูได้พัฒนาแบรนด์ใหม่ขึ้นมา คือ "ชิกเก่นทัก บาย กิมจู” ลักษณะเป็นร้านไก่ทอดสไตล์เกาหลี ราคา 12บาทขึ้นไป
เบื้องต้นจะเปิดให้บริการภายในโครงการกันตนา มูฟวี่ มอลล์ ในรูปแบบคีออส ลงทุนอยู่ในหลักแสนบาทต่อสาขา พื้นที่ขนาด 9 ตารางเมตร จำนวน 250 สาขาในภาคอีสาน จากเป้าหมายทั้งหมดที่ต้องการเปิดไปพร้อมกับโครงการนี้ที่ 500 สาขาอีกทั้งยังมีแผนเตรียมเปิดให้บริการนอกเหนือจากโครงการดังกล่าวด้วย ในรูปแบบร้านฟาสต์ฟู้ดทั่วไป ลงทุนสาขาละ 5 ล้านบาทด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากแผนการของโครงการกันตนา มูฟวี่ มอลล์ ที่จะเกิดขึ้นนี้ คาดการณ์ได้ว่า แต่ละสาขา หากประกอบด้วย โรงภาพยนตร์ 1โรง ลงทุน 1-1.5 ล้านบาท และพันธมิตรร้านค้า 10 ร้านต่อสาขา พื้นที่ไม่เกิน 10 ตารางเมตรต่อสาขา ลงทุน 2.5 แสนบาทต่อสาขา จะส่งผลให้โครงการกันตนา มูฟวี่ มอลล์ ต่อสาขา มีมูลค่าการลงทุนที่ 4-5 ล้านบาท
หากปีนี้จะมีกันตนา มูฟวี่ มอลล์ เกิดขึ้น 250 สาขาแล้ว คาดว่าจะมีเม็ดเงินการลงทุนสะพัดกว่าสูงถึง 1,250 ล้านบาทได้ โดยแต่ละสาขานั้นคาดว่าจะคุ้มทุนภายใน 2-3 ปี ในส่วนเฉพาะการลงทุนของกันตนาเองนั้นเชื่อว่าจะคุ้มทุนได้ราว 4-5 ปี เพราะมีการลงทุนด้านเน็ตเวิร์คการฉายหนังเข้ามาด้วย
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดนายจาฤก ได้กล่าวว่า บริษัทฯต้องชะลอการขยายตัวของโรงหนังชุมชนออกไป เป็นการทยอยสร้างปีนี้ 100 แห่ง จากเดิมตั้งไว้ที่ 500 แห่งในปีนี้ เพราะบริษัทฯสูญเสียรายได้รวมประมาณ 1,000 ล้านบาท หรือรายได้ลดลง 30% อันเนื่องมาจากว่า หนังระบบดิจิตอลเป็นที่นิยม ทำให้ธุรกิจหลักเดิมที่เป็นแล็ปฟิล์มได้รับผลกระทบด้วย จึงขาดเงินทุนในการลงทุนซึ่งปัจจุบันได้สร้างเสร็จแล้ว 40-50 แห่ง และเตรียมเปิดบริการในเดือนพฤศจิกายนนี้
กันตนา บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ของไทยที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิต ภาพยนตร์และละครมาหลายสิบปี ล่าสุดในปี2556ที่ผ่านมา กันตนาได้ประกาศศักดาอีกครั้ง ด้วยโปรเจกต์ "กันตนา มูฟวี่ มอลล์” รวมมูลค่าสูงถึง 1,000 ล้านบาท จำนวน 1,000 สาขาในไทย เป็นโปรเจ็กต์ครั้งสำคัญ ที่จะทำให้ กันตนา
ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในธุรกิจภาพยนตร์ในระดับเอเชียและของโลกที่มีธุรกิจภาพยนตร์ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ
นายจาฤก กัลย์จาฤก ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวไว้ว่า โครงการ กันตนา มูฟวี่ มอลล์ โดยได้จัดตั้งให้ บริษัท เอเชีย ซีนีม่า เน็ตเวิร์ค จำกัด หรือ ACN เป็นผู้ดูแล ภายใต้วัตถุประสงค์หลักเพื่อต้องการลดความเหลื่อมล้ำในการรับชมภาพยนตร์ ระหว่างชุมชนเมืองและต่างจังหวัด สร้างวัฒนธรรมการรรับชมภาพยนตร์ของไทยให้กลับมาอีกครั้ง
ที่สำคัญเพื่อช่วยอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้กลับมาเติบโตได้ และเป็นโมเดลทางธุรกิจที่จะทำให้กันตนามีธุรกิจเกี่ยวกับภาพยนตร์ครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ โดยโครงการกันตนา มูฟวี่ มอลล์ ต่อสาขาจะลงทุน 1-1.3 ล้านบาท เป็นการลงทุนร่วมกันระหว่างกันตนาและผู้ประกอบการท้องถิ่น แบบ 50% เท่าๆกัน และตั้งเป้าคุ้มทุนใน 2-3 ปีวางรูปแบบโครงการเป็นคอมมูนิตี้เซ็นเตอร์ ด้วยแนวคิด โรงภาพยนตร์ชุมชน ‘One Frame, One Culture' บนพื้นที่ขนาด 300 ตารางวาขึ้นไป ที่ประกอบด้วย 1.โรงภาพยนตร์กันตนาซีนีเพล็กซ์ ขนาดไม่เกิน 50 ที่นั่ง ราคาตั๋วหนังอยู่ที่ 30บาทต่อที่นั่ง และพื้นที่ที่เหลือจะประกอบด้วยร้านค้าพันธมิตร ราว 10-15 ราย
ล่าสุดสำหรับความคืบหน้าของโครงการดังกล่าว ในช่วงไตรมาสหนึ่งที่ผ่านมาทางกันตนาได้มีการจัดโรดโชว์ สัมมนา และเยี่ยมชมโครงการต้นแบบ กันตนา มูฟวี่ ทาวน์ อยู่หลายครั้ง โดยแต่ละครั้งมีพันธมิตรร้านค้าที่สนใจและมองเห็นโอกาสในการสร้างรายได้ไป กับโครงการนี้หลายรายแล้ว เช่น 7-11, i-cha, Cinemora, Kimju, Aircraft Coffee, Ramen Boy, Mango IT เป็นต้น
ทั้งนี้พันธมิตรร้านค้าที่เข้าร่วมกับโครงการกันตนา มูฟวี่ มอลล์ รายหนึ่ง เปิดเผยว่า โปรเจกต์กันตนา มูฟวี่ มอลล์ มีความน่าสนใจและเป็นโอกาสในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะการเข้ามารุกตลาดต่างจังหวัด อย่างในภาคอีสาน ที่เป็นประตูสู่อีกหลายประเทศหลังเปิดเออีซี ซึ่งการเปิดให้บริการนั้น จะเริ่มได้ในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป เน้นภาคอีสานก่อนถึงสิ้นปีน่าจะเปิดได้ 200-250 สาขา
นายสแตนลีย์ ยู ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โอชายะ จำกัด เจ้าของแฟรนไชน์ร้านชา “โอชายะ” หนึ่งในพันธมิตรที่เข้าร่วมโครงการ กันตนา มูฟวี่ มอลล์ กล่าวว่า บริษัทได้จับมือกับกันตนา เข้าร่วมเป็นพันธมิตรร้านอาหารที่จะเปิดให้บริการภายในโครงการกันตนา มูฟวี่ มอลล์ ที่จะได้เห็นโครงการแรกภายในกลางปีนี้ โดยทางบริษัทได้สร้างแบรนด์ใหม่ขึ้นมา 2 แบรนด์ คือ ซาโอจำหน่ายขนมจีบ-ซาลาเปา ราคา 12-15 บาทและ ราเมนบอย จำหน่ายราเมน ราคา 60-70 บาท ถึงสิ้นปีมองว่าจะเปิดได้ 250 สาขา หรือรวมแล้วจะมีร้านของทางโอชายะรวม 500 สาขา ภายในงบลงทุน 100 ล้านบาท หรือแต่ละร้านลงทุนราว 200,000-300,000 บาท
เช่นเดียวกับทาง 'กิมจู' ร้านอาหารสไตล์เกาหลี ที่สนใจเข้าร่วมกับทางกันตนา มูฟวี่ มอลล์ หวังเปิดตลาดต่างจังหวัดอีกราย โดยนายวิเชียร อุดมศาสตร์พร กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิมจูฟูดส์ จำกัด หนึ่งในพันธมิตร กล่าวว่า กิมจูได้พัฒนาแบรนด์ใหม่ขึ้นมา คือ "ชิกเก่นทัก บาย กิมจู” ลักษณะเป็นร้านไก่ทอดสไตล์เกาหลี ราคา 12บาทขึ้นไป
เบื้องต้นจะเปิดให้บริการภายในโครงการกันตนา มูฟวี่ มอลล์ ในรูปแบบคีออส ลงทุนอยู่ในหลักแสนบาทต่อสาขา พื้นที่ขนาด 9 ตารางเมตร จำนวน 250 สาขาในภาคอีสาน จากเป้าหมายทั้งหมดที่ต้องการเปิดไปพร้อมกับโครงการนี้ที่ 500 สาขาอีกทั้งยังมีแผนเตรียมเปิดให้บริการนอกเหนือจากโครงการดังกล่าวด้วย ในรูปแบบร้านฟาสต์ฟู้ดทั่วไป ลงทุนสาขาละ 5 ล้านบาทด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากแผนการของโครงการกันตนา มูฟวี่ มอลล์ ที่จะเกิดขึ้นนี้ คาดการณ์ได้ว่า แต่ละสาขา หากประกอบด้วย โรงภาพยนตร์ 1โรง ลงทุน 1-1.5 ล้านบาท และพันธมิตรร้านค้า 10 ร้านต่อสาขา พื้นที่ไม่เกิน 10 ตารางเมตรต่อสาขา ลงทุน 2.5 แสนบาทต่อสาขา จะส่งผลให้โครงการกันตนา มูฟวี่ มอลล์ ต่อสาขา มีมูลค่าการลงทุนที่ 4-5 ล้านบาท
หากปีนี้จะมีกันตนา มูฟวี่ มอลล์ เกิดขึ้น 250 สาขาแล้ว คาดว่าจะมีเม็ดเงินการลงทุนสะพัดกว่าสูงถึง 1,250 ล้านบาทได้ โดยแต่ละสาขานั้นคาดว่าจะคุ้มทุนภายใน 2-3 ปี ในส่วนเฉพาะการลงทุนของกันตนาเองนั้นเชื่อว่าจะคุ้มทุนได้ราว 4-5 ปี เพราะมีการลงทุนด้านเน็ตเวิร์คการฉายหนังเข้ามาด้วย
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดนายจาฤก ได้กล่าวว่า บริษัทฯต้องชะลอการขยายตัวของโรงหนังชุมชนออกไป เป็นการทยอยสร้างปีนี้ 100 แห่ง จากเดิมตั้งไว้ที่ 500 แห่งในปีนี้ เพราะบริษัทฯสูญเสียรายได้รวมประมาณ 1,000 ล้านบาท หรือรายได้ลดลง 30% อันเนื่องมาจากว่า หนังระบบดิจิตอลเป็นที่นิยม ทำให้ธุรกิจหลักเดิมที่เป็นแล็ปฟิล์มได้รับผลกระทบด้วย จึงขาดเงินทุนในการลงทุนซึ่งปัจจุบันได้สร้างเสร็จแล้ว 40-50 แห่ง และเตรียมเปิดบริการในเดือนพฤศจิกายนนี้
