ชาวสุโขทัยหอบข้อมูลแฉถูก จนท.2 หน่วยงานรัฐตบทรัพย์ไร่ละ 3 พันบาทอ้างเคลียร์ให้ทำกินในป่าได้ สุดท้ายถูกจับดำเนินคดี แถม "คนรัฐชุดดำ" ตระเวนเก็บดะทั้งส่วยเลื่อยยนต์-กระบะคอกสูง "ผบ.กกล.รส.จทบ.พิษณุโลก" นำกำลังบุกตรวจป่าศรีสัชฯ ผงะ! พบนายทุนถางป่าร่วม 300 ไร่จนเป็นเขาหัวโล้น แถมสร้างบ้านหรูบนยอดเขาใช้เสาไม้สักทอง 30 ต้น
วานนี้ (24 ก.ย.) ชาวบ้านในพื้นที่ อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย ได้นำข้อมูลสำคัญเข้าเปิดเผยต่อสื่อมวลชนกรณีถูกเจ้าหน้าที่รัฐจับกุมในข้อหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติและอยู่ระหว่างการต่อสู้คดีในชั้นศาลว่า ถูกเจ้าหน้าที่บางคนจากหน่วยงานรัฐ 2 แห่งหลอกเอาเงินไปโดยอ้างว่า "ถ้าใครเข้าไปทำกินในพื้นที่ป่าสงวนต้องจ่ายไร่ละ 3,000 บาท แล้วไม่ต้องกลัวจะถูกจับดำเนินคดี เพราะสามารถเคลียร์ได้" แต่หลังจาก กอ.รมน.จังหวัดสุโขทัย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองท้องถิ่นเข้ามาตรวจสอบพื้นที่บุกรุก ชาวบ้านทั้งหมดกลับถูกจับกุมดำเนินคดี โดยไม่มีใครเคลียร์ได้ตามที่กล่าวอ้าง
ชาวบ้านรายหนึ่ง กล่าวว่า ที่มาร้องเรียนครั้งนี้เพราะอยากให้สังคมรับรู้ปัญหาการบุกรุกป่าสุโขทัยว่ามีมานานแล้ว โดยคนรัฐชุดดำ จะมีทีมวิ่งเก็บส่วยรายวัน เช่น เลื่อยยนต์วันละ 500 บาท ส่วนรถกระบะคอกสูงที่ขนไม้สักจากบ้านแม่มอก อ.เถิน จ.ลำปาง เข้ามายัง จ.สุโขทัยต้องจ่ายคันละ 3,000 บาท พร้อมเคลียร์เส้นทางให้วิ่งได้อย่างสะดวก สำหรับการลักลอบตัดไม้มีค่าในพื้นที่ภูเขาสูงจะใช้คนแบกหามลงมา ถ้าถูกจับกุมโดยหน่วยอื่น "คนเป็นนาย" จะมาเคลียร์ให้ อ้างว่าคนละเขตกัน ถ้าใครไม่จ่ายก็จะถูกจับและยึดของกลางเพื่อเอาไปขายต่อ
ส่วนกรณีการบุกรุกที่ดินเพื่อออก ส.ป.ก.4-01 จะมีการแอบอ้างมติ ครม.30 เม.ย.2550 เพื่อหลอกเอาเงินชาวบ้าน อ้างว่าจะช่วยให้คนบุกรุกป่าได้สิทธิในที่สุด โดยข้ออ้างมีสิทธิในพืชผลอาสินที่ได้ปลูกสร้างไว้ จนกว่าจะพิสูจน์สิทธิได้ หรือเมื่อคดีถึงที่สุด สภาพป่าสมบูรณ์ก็เสียไปแล้ว กลายเป็นป่าหมดสภาพอยู่ดี ยังไงก็ได้ ส.ป.ก.
ชาวบ้านรายเดิมเผยอีกว่า ล่าสุดมีการส่งคืนผืนป่าที่ถูกบุกรุกแล้วนับหมื่นไร่ แต่ก็ยังมีนายทุนมาขอซื้อสิทธิครอบครองต่อจากชาวบ้านอีก เชื่อว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พ้นอำนาจเมื่อไหร่ การบุกรุกป่าสุโขทัยก็จะกลับมาเหมือนเดิม คือ ชาวบ้านถูกจับถูกยึดที่คืน แต่กลุ่มนายทุนกับคนของรัฐบางคนก็ยังคงเข้าไปครอบครองที่ดิน ปลูกยางพารา และปาล์มน้ำมันอยู่
โดยเฉพาะบริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำแม่กองค่าย อ.บ้านด่านลานหอย รวมทั้งในป่าแม่พันลำ-ป่าแม่มอก ติดต่อเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าถ้ำเจ้าราม และที่บ้านแม่ทุเลาใน อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย ซึ่งมีการเข้าจับกุมเมื่อปลายปี 56 แต่ปัจจุบันพบว่ายังคงมีการปลูกปาล์มน้ำมัน เพื่อหวังผลจากนโยบายของกรมป่าไม้ ที่ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ร่วมกับกรมป่าไม้ เก็บเกี่ยวผลผลิตยางพารากับปาล์มน้ำมันที่ปลูก 2 ปีขึ้นไป ไม่ต้องทำลาย แต่รอให้โตจะได้เก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งในความเป็นจริง อปท.ก็ไม่กล้าเก็บเกี่ยวผลผลิต เพราะกลัวอำนาจของนายทุนที่เป็นเจ้าของสวน ในที่สุดป่าก็เป็นของนายทุนอยู่ดี
วันเดียวกัน พล.ต.ผดุง ยิ่งไพบูลย์สุข ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จังหวัดทหารบกพิษณุโลก พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ป่าไม้ และฝ่ายปกครอง ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าหมู่ 8 ต.บ้านแก่ง อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย หลังจากได้รับแจ้งว่ามีการบุกรุกทำสวนยางพารา และปลูกบ้านหรูไว้บนยอดเขา
จากการตรวจสอบพื้นที่ 3 แปลง พบพื้นที่ป่าเกือบ 300 ไร่ถูกตัดโค่นจนเตียนโล่งกลายเป็นภูเขาหัวโล้น มีการปลูกยางพารา ไม้ผล และบ้านบนเนินเขาหลายหลัง ส่วนบ้านหลังที่อยู่บนยอดเขากำลังก่อสร้าง ราคาหลายล้านบาท เสาบ้านเป็นไม้สักทองทั้งต้น 30 ต้น และมีเสาไม้ประดู่ด้วย แต่เจ้าของบ้านไหวตัวทันหลบหนีไปก่อนแล้ว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบพื้นที่ป่าโดยละเอียดอีกครั้ง และจะติดตามจับกุมผู้บุกรุกมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ใครเกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบทั้งหมด ตามนโยบายทวงคืนผืนป่าของรัฐบาลชุดปัจจุบัน
วานนี้ (24 ก.ย.) ชาวบ้านในพื้นที่ อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย ได้นำข้อมูลสำคัญเข้าเปิดเผยต่อสื่อมวลชนกรณีถูกเจ้าหน้าที่รัฐจับกุมในข้อหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติและอยู่ระหว่างการต่อสู้คดีในชั้นศาลว่า ถูกเจ้าหน้าที่บางคนจากหน่วยงานรัฐ 2 แห่งหลอกเอาเงินไปโดยอ้างว่า "ถ้าใครเข้าไปทำกินในพื้นที่ป่าสงวนต้องจ่ายไร่ละ 3,000 บาท แล้วไม่ต้องกลัวจะถูกจับดำเนินคดี เพราะสามารถเคลียร์ได้" แต่หลังจาก กอ.รมน.จังหวัดสุโขทัย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองท้องถิ่นเข้ามาตรวจสอบพื้นที่บุกรุก ชาวบ้านทั้งหมดกลับถูกจับกุมดำเนินคดี โดยไม่มีใครเคลียร์ได้ตามที่กล่าวอ้าง
ชาวบ้านรายหนึ่ง กล่าวว่า ที่มาร้องเรียนครั้งนี้เพราะอยากให้สังคมรับรู้ปัญหาการบุกรุกป่าสุโขทัยว่ามีมานานแล้ว โดยคนรัฐชุดดำ จะมีทีมวิ่งเก็บส่วยรายวัน เช่น เลื่อยยนต์วันละ 500 บาท ส่วนรถกระบะคอกสูงที่ขนไม้สักจากบ้านแม่มอก อ.เถิน จ.ลำปาง เข้ามายัง จ.สุโขทัยต้องจ่ายคันละ 3,000 บาท พร้อมเคลียร์เส้นทางให้วิ่งได้อย่างสะดวก สำหรับการลักลอบตัดไม้มีค่าในพื้นที่ภูเขาสูงจะใช้คนแบกหามลงมา ถ้าถูกจับกุมโดยหน่วยอื่น "คนเป็นนาย" จะมาเคลียร์ให้ อ้างว่าคนละเขตกัน ถ้าใครไม่จ่ายก็จะถูกจับและยึดของกลางเพื่อเอาไปขายต่อ
ส่วนกรณีการบุกรุกที่ดินเพื่อออก ส.ป.ก.4-01 จะมีการแอบอ้างมติ ครม.30 เม.ย.2550 เพื่อหลอกเอาเงินชาวบ้าน อ้างว่าจะช่วยให้คนบุกรุกป่าได้สิทธิในที่สุด โดยข้ออ้างมีสิทธิในพืชผลอาสินที่ได้ปลูกสร้างไว้ จนกว่าจะพิสูจน์สิทธิได้ หรือเมื่อคดีถึงที่สุด สภาพป่าสมบูรณ์ก็เสียไปแล้ว กลายเป็นป่าหมดสภาพอยู่ดี ยังไงก็ได้ ส.ป.ก.
ชาวบ้านรายเดิมเผยอีกว่า ล่าสุดมีการส่งคืนผืนป่าที่ถูกบุกรุกแล้วนับหมื่นไร่ แต่ก็ยังมีนายทุนมาขอซื้อสิทธิครอบครองต่อจากชาวบ้านอีก เชื่อว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พ้นอำนาจเมื่อไหร่ การบุกรุกป่าสุโขทัยก็จะกลับมาเหมือนเดิม คือ ชาวบ้านถูกจับถูกยึดที่คืน แต่กลุ่มนายทุนกับคนของรัฐบางคนก็ยังคงเข้าไปครอบครองที่ดิน ปลูกยางพารา และปาล์มน้ำมันอยู่
โดยเฉพาะบริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำแม่กองค่าย อ.บ้านด่านลานหอย รวมทั้งในป่าแม่พันลำ-ป่าแม่มอก ติดต่อเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าถ้ำเจ้าราม และที่บ้านแม่ทุเลาใน อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย ซึ่งมีการเข้าจับกุมเมื่อปลายปี 56 แต่ปัจจุบันพบว่ายังคงมีการปลูกปาล์มน้ำมัน เพื่อหวังผลจากนโยบายของกรมป่าไม้ ที่ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ร่วมกับกรมป่าไม้ เก็บเกี่ยวผลผลิตยางพารากับปาล์มน้ำมันที่ปลูก 2 ปีขึ้นไป ไม่ต้องทำลาย แต่รอให้โตจะได้เก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งในความเป็นจริง อปท.ก็ไม่กล้าเก็บเกี่ยวผลผลิต เพราะกลัวอำนาจของนายทุนที่เป็นเจ้าของสวน ในที่สุดป่าก็เป็นของนายทุนอยู่ดี
วันเดียวกัน พล.ต.ผดุง ยิ่งไพบูลย์สุข ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จังหวัดทหารบกพิษณุโลก พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ป่าไม้ และฝ่ายปกครอง ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าหมู่ 8 ต.บ้านแก่ง อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย หลังจากได้รับแจ้งว่ามีการบุกรุกทำสวนยางพารา และปลูกบ้านหรูไว้บนยอดเขา
จากการตรวจสอบพื้นที่ 3 แปลง พบพื้นที่ป่าเกือบ 300 ไร่ถูกตัดโค่นจนเตียนโล่งกลายเป็นภูเขาหัวโล้น มีการปลูกยางพารา ไม้ผล และบ้านบนเนินเขาหลายหลัง ส่วนบ้านหลังที่อยู่บนยอดเขากำลังก่อสร้าง ราคาหลายล้านบาท เสาบ้านเป็นไม้สักทองทั้งต้น 30 ต้น และมีเสาไม้ประดู่ด้วย แต่เจ้าของบ้านไหวตัวทันหลบหนีไปก่อนแล้ว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบพื้นที่ป่าโดยละเอียดอีกครั้ง และจะติดตามจับกุมผู้บุกรุกมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ใครเกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบทั้งหมด ตามนโยบายทวงคืนผืนป่าของรัฐบาลชุดปัจจุบัน