ASTVผู้จัดการรายวัน – จับตา! ค่าไฟปีหน้าขยับขึ้น เหตุปตท.เริ่มรับก๊าซLNGจากการ์ตา 2 ล้านตัน ในราคาที่สูงกว่าตลาดจรที่ 10 เหรียญ/ล้านบีทียู โดยยอมรับปีนี้นำเข้าLNGไม่ถึง 2 ล้านตันจากเป้าที่ตั้งไว้ 3.5 ล้านตัน เหตุศก.ไม่กระเตื้องกระทบการใช้ไฟ
นายภาณุ สุทธิรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้ปริมาณการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ไม่ถึง 2 ล้านตัน ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าไทยจะนำเข้าLNGในปีนี้รวม 3.5 ล้านตัน เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้าในช่วงครึ่งปีแรกเติบโตลดลงซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางการเมือง
อย่างไรก็ตาม ในปีหน้า คาดว่าปริมาณการนำเข้าLNG จากตลาดจรจะลดลงจากปีนี้ เนื่องจากปตท.มีสัญญาซื้อขาย LNGระยะยาว กับการ์ตาที่จะป้อนให้ไทยในปี2558 จำนวน 2 ล้านตัน โดยยอมรับว่าราคาLNG จากการ์ตาจะสูงกว่าราคาLNG จากตลาดจรที่ปัจจุบันราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 10 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯ เนื่องจากปริมาณLNG
จากการ์ตานั้นมีการทำสัญญาซื้อขายกับลูกค้าไปก่อนหน้านี้อยู่แล้ว
ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว เฟส 2 มาบตาพุด จ.ระยอง มีความสามารถในการส่งก๊าซได้อีก 5 ล้านตันต่อปี รวมเป็น 10 ล้านตันต่อปีนั้น ขณะนี้มีการว่าจ้างผู้รับเหมาแล้วจากบริษัทญี่ปุ่นและเกาหลี คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ครึ่งแรกของปี 2558 คาดว่าโครงการเฟส 2 จะแล้วเสร็จในครึ่งปีแรกของปี 2560 ใช้เงินลงทุน 400 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนโครงการก่อสร้างLNG เฟส 3 อีก 5 ล้านตันที่จะป้อนก๊าซให้กลุ่มกัลฟ์ ที่ชนะประมูลโรงไฟฟ้าไอพีพี 5,000 เมกะวัตต์นั้น คงต้องรอนโยบายจากรัฐบาล และแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า(PDP)ฉบับใหม่ เพื่อทำแผนจัดหาก๊าซธรรมชาติระยะยาวด้วยว่าจะจัดหามาจากอ่าวไทย แหล่งก๊าซฯในพม่า และนำเข้าLNGเท่าไร
แหล่งข่าวจากวงการน้ำมัน เปิดเผยว่า แผน PDP ฉบับใหม่เชื่อว่าคงลดการใช้ก๊าซฯในการผลิตไฟฟ้าลงได้ไม่มากแม้ว่ารัฐบาลจะมีนโยบายที่ลดการพึ่งพาการใช้ก๊าซฯในการผลิตไฟฟ้าก็ตาม เนื่องากการประมูลไอพีพีในครั้งที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มกัลฟ์ฯเป็นผู้ชนะประมูลทั้ง 500 เมกะวัตต์นั้นเป็นการใช้ก๊าซฯเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ทำให้มีการล็อกการใช้ก๊าซฯไปถึงปี 2565
ดังนั้นหากจะมีการส่งเสริมการใช้ถ่านหินหรือแม้แต่นิวเคลียร์ในการผลิตไฟฟ้าก็คงหลังจาก2565 ไป
นอกจากนี้ ในปีหน้าคาดว่าค่าไฟฟ้าจะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากปตท.เริ่มรับ LNG จากการ์ตาตามสัญญาซื้อขายระยะยาวที่ทำไว้เมื่อปี 2555 ในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดจรปัจจุบัน ส่งผลให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าขยับสูงขึ้นกว่าปีนี้ ที่ปริมาณการนำเข้าLNG ไม่มากและเป็นราคาตลาดจรที่ไม่แพง
นายภาณุ สุทธิรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้ปริมาณการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ไม่ถึง 2 ล้านตัน ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าไทยจะนำเข้าLNGในปีนี้รวม 3.5 ล้านตัน เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้าในช่วงครึ่งปีแรกเติบโตลดลงซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยทางการเมือง
อย่างไรก็ตาม ในปีหน้า คาดว่าปริมาณการนำเข้าLNG จากตลาดจรจะลดลงจากปีนี้ เนื่องจากปตท.มีสัญญาซื้อขาย LNGระยะยาว กับการ์ตาที่จะป้อนให้ไทยในปี2558 จำนวน 2 ล้านตัน โดยยอมรับว่าราคาLNG จากการ์ตาจะสูงกว่าราคาLNG จากตลาดจรที่ปัจจุบันราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 10 เหรียญสหรัฐ/ล้านบีทียู ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯ เนื่องจากปริมาณLNG
จากการ์ตานั้นมีการทำสัญญาซื้อขายกับลูกค้าไปก่อนหน้านี้อยู่แล้ว
ส่วนความคืบหน้าการก่อสร้างสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว เฟส 2 มาบตาพุด จ.ระยอง มีความสามารถในการส่งก๊าซได้อีก 5 ล้านตันต่อปี รวมเป็น 10 ล้านตันต่อปีนั้น ขณะนี้มีการว่าจ้างผู้รับเหมาแล้วจากบริษัทญี่ปุ่นและเกาหลี คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ครึ่งแรกของปี 2558 คาดว่าโครงการเฟส 2 จะแล้วเสร็จในครึ่งปีแรกของปี 2560 ใช้เงินลงทุน 400 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนโครงการก่อสร้างLNG เฟส 3 อีก 5 ล้านตันที่จะป้อนก๊าซให้กลุ่มกัลฟ์ ที่ชนะประมูลโรงไฟฟ้าไอพีพี 5,000 เมกะวัตต์นั้น คงต้องรอนโยบายจากรัฐบาล และแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า(PDP)ฉบับใหม่ เพื่อทำแผนจัดหาก๊าซธรรมชาติระยะยาวด้วยว่าจะจัดหามาจากอ่าวไทย แหล่งก๊าซฯในพม่า และนำเข้าLNGเท่าไร
แหล่งข่าวจากวงการน้ำมัน เปิดเผยว่า แผน PDP ฉบับใหม่เชื่อว่าคงลดการใช้ก๊าซฯในการผลิตไฟฟ้าลงได้ไม่มากแม้ว่ารัฐบาลจะมีนโยบายที่ลดการพึ่งพาการใช้ก๊าซฯในการผลิตไฟฟ้าก็ตาม เนื่องากการประมูลไอพีพีในครั้งที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มกัลฟ์ฯเป็นผู้ชนะประมูลทั้ง 500 เมกะวัตต์นั้นเป็นการใช้ก๊าซฯเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ทำให้มีการล็อกการใช้ก๊าซฯไปถึงปี 2565
ดังนั้นหากจะมีการส่งเสริมการใช้ถ่านหินหรือแม้แต่นิวเคลียร์ในการผลิตไฟฟ้าก็คงหลังจาก2565 ไป
นอกจากนี้ ในปีหน้าคาดว่าค่าไฟฟ้าจะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากปตท.เริ่มรับ LNG จากการ์ตาตามสัญญาซื้อขายระยะยาวที่ทำไว้เมื่อปี 2555 ในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดจรปัจจุบัน ส่งผลให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าขยับสูงขึ้นกว่าปีนี้ ที่ปริมาณการนำเข้าLNG ไม่มากและเป็นราคาตลาดจรที่ไม่แพง